มูลนิธิ หลวงพ่อ สำเร็จ. ศักดิ์สิทธิ์

มูลนิธิ หลวงพ่อ สำเร็จ. ศักดิ์สิทธิ์

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นวิหารคู่บ้านคู่เมืองประจำของจังหวัดสระบุรี ที่มีประชาชนที่นับถือต่างพากันมากราบไหว้บูชาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์แทบทุกจังหวัด แต่ยังไม่วายที่จะมีคนใจบาปมาลักเงินในตู้บริจาค(หรือตู้ไปรษณีย์ส่งบุญ) ต่อหน้าพระพุทธรูปหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์

มูลนิธิ หลวงพ่อ สำเร็จ. ศักดิ์สิทธิ์

มูลนิธิ หลวงพ่อ สำเร็จ. ศักดิ์สิทธิ์

นาย ไพโรจน์ ผดุงศิริพาณิชย์ เลขาของมูลนิธิหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ได้รับคลิปจากผู้หวังดีที่มาทำบุญกราบไหว้หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ และได้แอบถ่ายคลิปคนร้ายขณะที่กำลังลักเงินในตู้บริจาคไป เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 และได้ส่งมาให้ทางมูลนิธิหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 18 ธันวาคม 2562 จึงได้เปิดคลิปดู ก็ตกใจ เห็นบุคคลในคลิปเป็นคณะกรรมการอยู่ในมูลนิธิหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ที่กำลังเอาเงินออกจากตู้บริจาคและนำมาใส่ในกระแป๋งน้ำ ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2562 จึงได้เชิญคณะกรรมการ ทั้ง 15 คน มาประชุมกันที่วิหาร เพื่อหารือและให้คณะกรรมการดูคลิปดังกล่าว

มูลนิธิ หลวงพ่อ สำเร็จ. ศักดิ์สิทธิ์

ปรากฏว่า เป็นคณะกรรมการ ชื่อ นาย แดง งามสุด อายุประมาณ 70 ปี เป็นคนร้ายที่คาดว่าน่าจะนำกุญแจผี มาลักเอาเงินในตู้บริจาค แต่ขณะในการประชุม นายแดง (คนร้าย) ไม่ได้มาร่วมเข้าการประชุมด้วย น่าจะรู้ตัวการกระทำของตัวเอง หรือน่าจะหลบหนีไปแล้ว จึงได้ลงมติให้ นาย ไพโรจน์ ผดุงศิริพาณชย์ (เลขา) นำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ภูสิทธิ์ ชาญศรี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองแค จ.สระบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่ในคลิปหรือ นาย แดง งามสุด ที่มาลักเงินในตู้บริจาคไป เป็นจำนวนเงินประมาณ 30,000 บาท
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาดูที่เกิดเหตุและรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำคลิปภาพวิดีโอจากโทรศัพท์ดังกล่าวไว้ เพื่อจะเรียกผู้ต้องสงสัยในคลิปดังกล่าว มาสอบปากคำและจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

นาย ไพโรจน์ ผดุงศิริพาณิชย์ เลขาของมูลนิธิหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เล่าต่ออีกว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เราไม่รู้ แต่มารู้ตอนที่ผู้หวังดีส่งคลิปมาให้ดู เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ช่วงเย็น จากที่ดูในคลิปเห็นมีคนมาเปิดตู้บริจาคค่าน้ำไฟค่าไฟ ที่ใส่กุญแจไว้ด้านหลังของตู้ ทางคณะกรรมการมูลนิธิมีมติกันว่า การเปิดตู้บริจาคนับเงิน ต้องมีคณะกรรมการมาร่วมเป็นสักขีพยาน และตู้บริจาคหลังนี้จะเปิด 1 ครั้ง ต่อเดือน นับเงินและจะนำไปฝากธนาคาร ส่วนตู้อื่นๆจะเป็นตู้เซฟหมดแล้ว และได้ตรวจกล้องวงจรปิดในบริเวณวิหาร ตอนก่อเหตุเป็นช่วงเช้าและแม็กซ์กับกล้องวงจรปิดดังกล่าว ช่วงเช้าของวันที่ 17 ธ.ค.62 และพบว่ากล้องวงจรปิดของวิหารได้ดับไปช่วงหนึ่ง เลยมาดูภาพเห็นว่าคนร้ายได้เอาเท้าปิดเครื่องสำรองไฟฟ้าเลยทำให้ไฟฟ้าหยุดทำงานดังกล่าว โดยที่มองไม่เห็นภาพ พอเสร็จภารกิจแล้วจึงเปิดเป็นปกติ การกระทำดังกล่าวดูมีพิรุธทำให้ เราทั้งหมดได้ไปแจ้งความ ถือว่ามูลนิธิได้รับความเสียหาย กลัวว่าประชาชนจะเข้าใจผิดว่าที่ นาย แดง (คนร้าย) ที่เป็นคณะกรรมการเอาเงินบริจาคไปใช้ทำอะไรก็ไม่รู้

เมื่อสมัยก่อน นายแดง (คนร้าย) เป็นคนนับเอง ตอนหลังคณะกรรมการได้บอกว่า เพื่อความโปร่งใส เพื่อไม่ให้เป็นข้อกล่าวหาของประชาชน จึงได้มีการประชุมชนลงมติว่า ให้คณะกรรมการเปิดร่วมกันและให้นายแดง (คนร้าย)ทำการคืนกุญแจน่าจะ 2 ดอก แต่เมื่อเป็นคณะกรรมการด้วยกันก็ไม่เคยคิดอะไร ตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ก็ไม่เคยเจอนายแดง (คนร้าย) เลย ที่บ้านก็เหมือนจะไม่อยู่ที่บ้าน เพราะเป็นคนอยู่ในตลาดเหมือนกัน เขาคงรู้ตัวเพราะมีการแชร์คลิปเห็นกันทั้งตลาดแล้วว่าเป็นตัวเขา เขาก็คงต้องหลบหนีไป

ส่วนในคณะกรรมการต้องความโปร่งใส เพื่อจะตอบปัญหาประชาชนในตลาดและคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อ เพราะว่าเป็นเงินบริจาคของประชาชน ก็เป็นเงินสาธุที่มีวัตถุประสงค์จะทำบุญร่วมกับหลวงพ่อ ซึ่งมูลนิธิได้เงินมาจากประชาชนที่มาทำบุญก็จะนำไปทำบุญการกุศลต่อสาธารณะชน อย่างกว้างขวางที่ประชาชนรับรู้กันอย่างทั่วไป

ส่วนการประชุมแล้วมีมติว่า 1.เข้าแจ้งความกับบุคคลในภาพ 2.ยุติการจ่ายค่าตอบแทนที่มาเฝ้าวิหาร 3.ให้เปลี่ยนกุญแจใหม่ทันที ได้ดำเนินการครบหมดแล้ว ส่วนความปลอดภัยเรามีกลองวงจรปิดทุกจุดครบหมดแล้ว สามารถช่วยงานราชการได้ด้วย ไม่ว่าจะมีคนร้ายวิ่งหนีมาหน้าวิหารหลวงพ่อ ก็เห็นกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจน โดยปกติตั้งแต่ พ.ศ.2502 ไม่เคยมีการนอนเฝ้าวิหารเลย แต่ตอนนี้ก็เลยมาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่แจ้งผลการจับกุม และนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนหรือแจ้งข้อกล่าวหาเลย