หลายคนคิดว่า ต้องแปรงฟันแรงๆ จึงจะสะอาด, การแปรงฟันแบบถูไปมาถูมา จะสะอาดดี, ต้องใช้แปรงขนแข็งๆ จะทำความสะอาดได้มากกว่า เหล่านี้ก่อให้เกิดผลเสีย ต้นเหตุของอาการคอฟันสึก อาจมาจากการแปรงฟันที่ผิดวิธี ใช้แปรงขนแข็งเกินไป หรือแปรงฟันแรงๆ นอกจากนั้นยาสีฟันที่มีผงขัดมาก หรือมีลักษณะหยาบมากๆ เมื่อใช้เป็นประจำ ก็ทำให้คอฟันสึกได้ง่ายเช่นกัน เมื่อคอฟันสึกก็จะก่อให้เกิดการทำลายของชั้นเคลือบฟันไปด้วย ทำให้ชั้นเนื้อฟันมีส่วนสัมผัสกับสภาพในช่องปากมากขึ้น พบบ่อยที่บริเวณคอฟันฟันกรามน้อย เพราะเป็นตำแหน่งที่นูนออกมาสัมผัสกับแปรงสีฟันมากที่สุด ถ้าคอฟันสึกเพียงเล็กน้อยอาจไม่มีอาการ แต่ถ้าสึกมากผู้ป่วยอาจมีอาการเสียวฟันขณะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด เปรี้ยวจัด เย็นจัด หรือเสียวฟันขณะแปรงฟัน ซึ่งหากปล่อยให้ฟันสึกไปเรื่อยๆ โดยไม่รักษา ฟันจะสึกเข้าไปใกล้โพรงประสาทฟันมากขึ้นก็อาจจะทำให้เป็นอันตรายได้ เราไม่ควรละเลยกับอาการคอฟันสึก เพราะอาการสามารถลุกลามรุนแรงได้ หากพบปัญหาคอฟันสึก ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจ ประเมินอาการ และรับการรักษาง่ายๆด้วยการอุดคอฟัน ซึ่งใช้วัสดุอุดที่มีสีเหมือนฟัน คอฟันสึก (Abfraction) เป็นภาวะผิดปกติทางฟันชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้คอฟันหรือฟันส่วนที่อยู่ติดกับเหงือกเกิดการกร่อนหรือสูญเสียเนื้อฟันไปบางส่วน โดยเฉพาะผิวฟันด้านที่อยู่ติดกับกระพุ้งแก้มส่วนใหญ่แล้วภาวะคอฟันสึกมักไม่ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงใด ๆ ยกเว้นบางกรณีที่อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันขณะรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ร้อนหรือเย็นจัด คอฟันสึกเป็นภาวะที่มักพบได้ในคนที่มีอายุระหว่าง 20–70 ปี แต่จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยช่วงแรกที่มีภาวะคอฟันสึกเล็กน้อยมักจะไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภาวะคอฟันสึกอาจส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นเกี่ยวกับฟันตามมา ทั้งการสูญเสียผิวฟันและชั้นเคลือบฟัน ความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ ไปจนถึงการเกิดภาวะฟันโยกและการสูญเสียฟันได้ สาเหตุของคอฟันสึกภาวะคอฟันสึกเกิดจากการที่ฟันได้รับแรงกดหรือการขัดถูอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานาน โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย เช่น
นอกจากสาเหตุข้างต้น ในบางกรณีภาวะคอฟันสึกอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุได้เช่นกัน ภาวะคอฟันสึกรักษาได้หรือไม่โดยทั่วไป ผู้ป่วยภาวะคอฟันสึกที่ไม่รุนแรงหรือคอฟันเกิดการสึกเพียงเล็กน้อย ทันตแพทย์มักนัดผู้ป่วยมาตรวจฟันเป็นระยะ ๆ เพื่อติดตามอาการเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใด ๆ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง หรือทันตแพทย์เห็นว่าควรได้รับการรักษา ทันตแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ สาเหตุ และความเหมาะสมต่อผู้ป่วย โดยวิธีที่ทันตแพทย์อาจพิจารณาใช้ในการรักษา เช่น
นอกจากการรักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้ว ทันตแพทย์ยังอาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างร่วมด้วย เช่น หลีกเลี่ยงการแปรงฟันที่รุนแรงเกินไป เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม ใช้เจลลดอาการเสียวฟัน รวมถึงแนะนำให้ผู้ป่วยมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันเป็นระยะ ทั้งนี้ แม้วิธีการรักษาบางอย่างอาจจะช่วยบรรเทาภาวะคอฟันสึกและอาการเสียวฟันที่เกิดขึ้นได้ แต่โดยส่วนใหญ่มักไม่สามารถช่วยรักษาสภาพฟันที่เกิดการกร่อนหรือการสูญเสียเนื้อฟันบางส่วนให้กลับไปเป็นอย่างเดิมได้ การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีการป้องกันคอฟันสึกและปัญหาทางช่องปากที่ดีที่สุด เช่น การแปรงฟันให้ถูกวิธี การเลือกแปรงให้เหมาะสม การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมเพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก ๆ 6–12 เดือน และที่สำคัญควรรีบไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากพบการเกิดภาวะคอฟันสึก |