ร้อย ไหม คอ ล ลา เจน ดี ไหม

พอพูดถึงการร้อยไหม หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว หลายคนฟังชื่อแล้วดูน่ากลัว ร้อยๆ ดูน่าจะเจ็บมาก แต่จริงๆ มันคือการสอดเข็มที่มีไหมอยู่ด้านใน ไม่เหมือนการร้อยแบบร้อยพวงมาลัย หรือ ทำด้นถอยหลังอะไรอย่างนั้นนะคะ

สาว ๆ ที่กำลังหาข้อมูลเรื่องร้อยไหม ต้องมาทางนี้เลย เพราะวันนี้เราจะมาสัมภาษณ์คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหมกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนเราจะร้อยไหมให้หน้าเรียวยกกระชับกัน ไปฟังกันเลย เรื่องการเตรียมตัว การร้อยไหมไม่จำเป็นต้องลางาน หรือลาพักร้อนก็ได้ สามารถทำแล้วออกไปใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติ ควรงดอาหารเสริมบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่ายก่อนทำ 7 วัน เช่น วิตามินอี

ร้อยไหม เพื่อยกหน้าสิ่งที่สำคัญมีอยู่สองส่วนหลักๆ คือ

1. ตัวไหม
2. เทคนิคการร้อยของแพทย์

ซึ่งเวลาที่หมอ แนะนำคนไข้ จะแนะนำแบบนี้ และนี่คือสิ่งที่แพทย์รู้และคนไข้อยากรู้ค่ะ

 ร้อยไหมแบบไหนที่คุณหมอแนะนำ

ปัจจุบันนี้มีไหมแบบใหม่ที่เรียกว่าไหมเงี่ยงกุหลาบ เป็นไหมยกกระชับ ที่มีเงี่ยงขนาดใหญ่พันรอบตัวไหม ส่งผลให้ยกกระชับกว่าไหมรุ่นก่อน ๆ และขนาดไหมเป็นขนาดใหญ่ขึ้น จึงทำให้ยึดเกาะผิวได้ดีขึ้น โดยตัวไหมผลิตจาก Polydioxanone จึงสลายได้เองและไม่ทำให้เป็นพังผืด โดยไหมจะละลายภายใน 4-6 เดือน แต่ผลของการสร้างคอลลาเจนจะมีอายุ 1-3 ปี แล้วแต่บุคคล

 วัสดุของไหมหลักๆที่ใช้ร้อยไหม มีกี่ชนิด

Non Resorbable Thread คือ ไม่ละลาย เช่น ไหม Aptos หรือ ไหมทองคำ (ซึ่งหมอขอห้ามทำ ไหมทองคำเลยนะคะ เพราะว่า จะไม่สามารถเข้าเครื่อง MRI ได้ค่ะ หน้าเราสามารถแพง และสวยเพราะอย่างอื่นได้อีกเยอะค่ะ)

Resorbable Thread เช่น ไหม PDO polydioxanone , PLLA (poly L lactic acid) และ PCL poly caprolactone ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็จะมีชื่อเรียกตามท้องตลาด แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ไหมก้างปลา ไหมกุหลาบ ไหมล็อค ไหม360 ไหมชื่อแนวสัตว์ เช่น จระเข้ ไหมปิรันย่า ไหมปลาฉลาม หรือ จะมาแนว เพชร7 สีมณี 7 แสง ไหมทับทิม ไหมอเมทิสไพลิน บลาๆ นี่ก็ไม่พ้น กลุ่ม Resorbable Thread ทั้งนั้นนะคะ คือสามารถละลายได้นั่นเองค่ะ

ควรเลือก Resorbable thread เพราะสลายหมด ปลอดภัย กว่าค่ะ

 ร้อยไหมหน้าแน่น ร้อยไหมหน้ายก ต่างกันอย่างไร & ร้อยไหมกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร

ปกตินอกเหนือจากละลายและไม่ละลายแล้ว หมอแบ่งไหมอีกประเภท คือ

1. Smooth barb คือ ไหมเส้นเรียบไม่มีเหงี่ยงเกี่ยวผิว มีทั้ง 1 อัน มีเส้นเดียว (Monofilament ) และ 1 อันมีไหมอยู่ด้านในหลายเส้น (Multifilament) ไหมพวกนี้มีหน้าที่ในการเพิ่มผิวทำให้ผิวแน่นขึ้น เช่น ไหมเติมเต็มต่างๆ เป็นต้น ไม่ได้ช่วยเรื่องยกกระชับแต่อย่างใด และการอยู่นานขึ้นกับวัสดุของไหม ซึ่งปัจจุบันไหมที่อยู่นานสุด อยู่ได้ 2 ปีค่ะ ไม่มีไหม 5 ปีนะคะ
2. ไหมที่มีเหงี่ยงเกี่ยวผิว อันนี้เอาไว้เพื่อยกกระชับค่ะ โดยทั่วไปจะร้อยไม่เกิน 10-20 เส้นต่อหน้าและคอค่ะ ดังนั้นเมื่อร้อยน้อยก็เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวน้อยตามไปด้วยค่ะ

เพราะฉะนั้น ไหมหน้าแน่น ก็คือไหมที่ไม่มีเหงี่ยง อาศัยการร้อยหลายๆเส้นเพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนบริเวณนั้น หรือบางคลินิกเรียกไหมคอลลาเจนค่ะ ส่วนไหมหน้ายก ก็คือไหมที่มีเหงี่ยงเกี่ยวผิวนั่นเองค่ะ

 ร้อยไหมอยู่ได้นานเท่าไร

สำหรับการร้อยไหมเงี่ยงกุหลาบจะให้ผลลัพธ์ประมาณ 1-2 ปี

 ไหมชนิดไหนอยู่นานสุด

ชนิดของวัสดุ ที่ใช้มีผลมาก โดยเฉพาะ การอยากให้ยกนานๆ

PDO จะมีอายุของไหมประมาณ 6-8 เดือนค่ะ

PLLA 12-18 เดือน

PCL  18-24 เดือน

PACL (Italy Thread) 18-24 เดือน

แต่เราอย่าลืมว่า การยกของไหมขึ้นอยู่กับเหงี่ยงที่เกี่ยวผิว เพราะฉะนั้นการที่ไหมจะดึงยกได้นานแค่ไหน ขึ้นกับเหงี่ยงว่าละลายไปเร็วมากน้อยแค่ไหนด้วย เพราะฉะนั้นถ้าไหมเบอร์ใหญ่แต่ตรงที่เกี่ยวผิวเกี่ยวได้ไม่ดี ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเองค่ะ

 ร้อยไหมชนิดไหนยกดีที่สุด

การยกของไหม

การเปรียบเทียบ Tensile Strength คือ ความสามารถของไหมในการยกนั่นเองค่ะ จากรูป ไหม PLA-CL ยกดีสุดค่ะ

 ชนิดของไหมที่ The Clover Clinic ใช้ในการร้อยไหม

 การยกกระชับของไหม ขึ้นกับอะไรบ้าง

• ขึ้นอยู่กับขนาดของไหมค่ะ ยิ่งขนาดใหญ่ ยิ่งยกดี
• ขึ้นอยู่กับเหงี่ยงค่ะ ปัจจุบันมีเหงี่ยงหลักๆ ใหญ่ๆ อยู่สองแบบ คือ เหงี่ยงแบบที่ใช้ เครื่องเลเซอร์ ตัดเส้นให้เป็นบาก เป็นแบบนี้นะคะ และ เหงี่ยงแบบที่เป็น ใช้เครื่องปั้มเหงี่ยงเป็นแบบหล่อ เป็นแบบนี้ค่ะ >>>

เพราะฉะนั้นเหงี่ยงแบบหล่อจะมีความแข็งแรงคงทนของตัวเหงี่ยงมากกว่า จึงยึดอยู่กับผิวได้นานกว่า แต่จะยกดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับนอกจากความคงทนของเหงี่ยง แล้วการออกแบบตัวเหงี่ยงให้เกี่ยวผิวให้ได้ดี ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญค่ะ

• ลักษณะของทิศทางของเหงี่ยง ทิศทางเดียว หรือ สองทิศทาง หันเข้าหากัน หรือ ออกจากกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลทำให้การดึง ดึงได้ดีขึ้น จุดพิเศษของ Italy thread lift คือ เหงี่ยงถูกออกแบบ ให้ทิศทางเข้าหากัน ทำให้เกิดแรงดึงมากขึ้นเมื่อเกิดการขยับใบหน้า

 ร้อยไหมเจ็บหรือไม่

โดยปกติการร้อยไหมเงี่ยงกุหลาบ ก่อนทำคุณหมอจะทำการแปะยาชาให้ก่อนทำ ทำให้รู้สึกตึง ๆ ระหว่างทำบ้าง แต่ไม่เจ็บเท่าไหร่ค่ะ

 ร้อยไหมเหมาะกับใคร

การร้อยไหมเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังจะลดลง คือผิวหน้าส่วนใหญ่จะมากองอยู่ที่ขอบกราม บริเวณเหนียง นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนไข้ที่มีแก้มค่อนข้างเยอะ แก้มบริเวณปากหรือใต้โหนกเยอะ การร้อยไหมจะช่วยเก็บกระเปาะแก้มได้ค่อนข้างดี

 ร้อยไหม ไม่เหมาะกับใคร

• อันดับหนึ่ง หมอว่าคนที่กลัวเข็มไม่เหมาะกับการร้อยไหมแน่นอนค่ะ แต่หลายๆคนกลัวเข็มเหมือนกัน แต่กลัวไม่สวยมากกว่า ก็มาร้อยไหมนะคะ ^^
• ข้อห้ามอื่นๆก็อย่างเช่น คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลได้ไม่ดี เนื่องจากการร้อยไหม โดยเฉพาะการร้อยสานกันหลายๆสิบเส้นจะมีรูเปิด อาจจะทำให้แผลหายยากขึ้นได้
• อีกโรค คือ เรื่องของความดันโลหิตสูง ถ้ายังควบคุมความดันได้ไม่ดี ความเจ็บหรือความตื่นเต้น อาจทำให้ความดันเพิ่มสูงขึ้นได้ค่ะ
• นอกเหนือจากนี้ก็ภาวะที่คนไข้จะต้องกินยาละลายลิ่มเลือดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ASA หรืออาหารเสริม บางประเภท เช่น วิตามินอี แป๊ะก๋วย กระเทียม ต่างๆเหล่านี้ อาจจะทำให้เกิดการเขียวช้ำที่ง่ายและนานกว่าคนอื่นๆ ได้ค่ะ
• เรื่องสุดท้าย ที่เป็นข้อห้ามคือ ห้ามร้อยไหมในขณะตั้งครรภ์ค่ะ รอคลอดเสร็จแล้วค่อยสวยปลอดภัยทั้งคุณแม่คุณลูกค่ะ

 ไม่อยากร้อยไหมทำอย่างอื่นได้หรือไม่

ไม่อยากร้อยไหมก็สามารถทำอย่างอื่นได้นะคะ แต่ความขอบหน้าคม ไม่ชัดเจนเท่าการร้อยไหมซึ่งมีเหงี่ยงเกี่ยวชั้นผิวขึ้นไปเลยแล้วยกขึ้นค่ะ แต่การสร้างคอลลาเจนสำหรับผิว การทำเครื่อง เช่น เทอ์มาจ หรือ อัลเทอร่า มีผลงานวิจัยว่าสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่มากกว่ามากค่ะ

 ผลลัพธ์และระยะเวลาการพักฟื้นและการดูแลตัวเองหลังร้อยไหมเสร็จ

การร้อยไหมจะเห็นผลชัดเจนที่สุดอยู่ที่ 1 เดือนแรก การพักฟื้นอาจจะมีการบวมบ้างเล็กน้อย การดูแลอาจจะต้องระวังแค่เรื่องของความร้อน หรือการกระทบกระแทกเท่านั้นเอง

สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณคุณหมอจัง พญ.จุฑากร ศักดิ์สัมฤทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการปรับรูปหน้าจาก The Clover Clinic ซึ่งบอกเลยว่ามาร้อยไหมและฉีดไลโปในวันนี้คุณหมอมือเบามากทำแล้วไม่เจ็บเลยค่ะ

บรรยากาศภายในคลินิกสาขาเซ็นทรัลบางนา

คุณหมอกำลังวิเคราะห์ การฉีดมากน้อย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลไปนะคะ

 ก่อนร้อยไหม Sale บอกว่าร้อยไหมอยู่ได้ 5 ปี จริงหรือไม่

สำหรับหลายคนอาจจะเคยได้ยินไหมอยู่ได้ 5 ปีไม่มีนะคะ เพราะชนิดของไหมในโลกนี้ในปัจจุบันที่เอามาร้อยกับผิวและเป็นไหมละลาย ยังไม่มีตัวไหนอยู่ได้ 5 ปีเลยค่ะ

 เคยร้อยไหมมาเมื่อ 5 ปีก่อนเจ็บมากเขียวช้ำ เป็นอาทิตย์ ครั้งนี้จะเป็นหรือไม่

ไหมละลายที่เดอะโคลเวอร์ใช้ เป็นเข็มปลายทู่ทั้งหมดแล้วนะคะ เพราะฉะนั้น อาการเขียวช้ำบวม จะลดน้อยลงกว่าแต่ก่อนมากค่ะ อีกทั้งไหมสมัยก่อนที่เข้ามาเริ่มแรกเป็นไหมเส้นเล็ก เข็มแหลมที่ร้อยทีหลายสิบจนหลักร้อยเส้น เพราะฉะนั้น โอกาสเกิดการช้ำจะสูงมากค่ะ

ไหมรุ่นแรก มีมาตั้งแต่ตอนปี 2014 โดยคุณหมอที่ The Clover เป็นคุณหมอกลุ่มแรกที่ได้เรียนค่ะ

 ร้อยไหมร่วมกับ Lipo ได้ไหม

การร้อยไหมร่วมกับการฉีด Lipo จะช่วยให้หน้าดูเรียวกระชับยิ่งขึ้น เพราะการร้อยไหมอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ไขมันที่หน้าลดลงได้ ดังนั้นการทำให้หน้ายกกระชับ เรียวได้รูป จึงควรทำร่วมกับการฉีด Lipo เพื่อเป็นการสลายไขมันไปในตัว

 Lipo ตัวไหนที่คุณหมอแนะนำให้ฉีดร่วมกับร้อยไหม

• Lipo V เป็นแค่การฉีดไหมเข้าชั้นไขมันซึ่งมีขนาดเล็กมากแทบไม่เจ็บตัวเลย เจ็บน้อยกว่าการกดสิวอีก ดังนั้น Lipo V จึงเจ็บน้อยกว่าการร้อยไหมก้างปลา ไหมเงี่ยงกุหลาบ หรือไหมแบบอื่น ๆ แต่ความสามารถในการยกผิว ไหมเงี่ยงจะมีความสามารถมากกว่า ดังนั้น Lipo V จึงเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับและลดไขมันด้วย แบบไม่อยากเจ็บตัวและไม่อยากบวม
• Lipo Tight สลายไขมัน พร้อมยกกระชับ เห็นผลหลังทำทันที ส่วนประกอบหลัก ๆ เป็นน้ำและสมุนไพรจากประเทศเกาหลี ไม่บวมหลังฉีด ไม่เจ็บเวลาเดินยา ไม่ต้องผสมน้ำเกลือ หรือยาชา

 การดูแลก่อนทำร้อยไหม

งดวิตามินหรือยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน วิตามินอี แป๊ะก๋วย เป็นต้น อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ก่อนทำค่ะ หากมีประวัติแพ้ยา เช่น ยาชาชนิดฉีด หรือ ยาแก้อักเสบ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการทุกครั้งนะคะ

ไหมคอลลาเจน เหมาะกับใคร

ร้อยไหมหน้ากี่วันเห็นผล

ร้อยไหมหน้า เหมาะกับใคร

ร้อยไหมยกกระชับใบหน้าดีไหม