การร้อยไหมก้างปลาเป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมครับ แต่หลายท่านยังลังเล ไม่แน่ใจว่าไหมก้างปลาอันตรายไหม ต่างจากไหมแบบอื่นอย่างไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้ครับ Show
สารบัญ ร้อยไหมก้างปลาร้อยไหมละลายมีกี่แบบ เลือกใช้อย่างไร แบบไหนดีที่สุด ?อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจก่อนครับว่า ไหมละลายที่ใช้ในปัจจุบัน แบ่งได้ 2 แบบ คือ แบ่งตามลักษณะของเส้นไหม และแบ่งตามวัสดุที่ใช้ การเลือกใช้ไหมแต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละราย ซึ่งจะมีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ครับ ลักษณะของเส้นไหมที่ใช้ในวงการเสริมความงามได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นเส้นไหมแบบต่างๆ หลากหลายแบบ และบางคลินิกก็ตั้งชื่อไหมขึ้นมาใหม่เพื่อป้องกันการเปรียบเทียบราคา จึงทำให้เราเกิดความสับสนได้ครับ ในบทความนี้ หมอจะอธิบายถึงไหมแบบต่างๆ โดยแบ่งลักษณะของเส้นไหม เป็น 4 แบบ หลักๆ ดังนี้ 1. ไหมกรวย (Silhouette Soft)
2. ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)
3. ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
4. ไหมเรียบ (Mono threads)
5. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
6. ไหมตาข่าย (TessliftSoft)
ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร ?ร้อยไหมก้างปลา คือ การใช้ไหมที่เป็นลักษณะเงี่ยง (barb) หรือชื่อทางการแพทย์ว่า bidirectional barbed thread ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหม ทำให้เกิดแรงดึงบนผิวหน้ามากขึ้น แก้มจึงถูกยกกระชับเต่งตึง หน้าเรียวขึ้นครับ ด้วยความที่ไหมมีลักษณะเป็นเงี่ยงคล้ายกับก้างปลา หมอส่วนใหญ่จึงเรียกว่า ไหมก้างปลา เพื่อใช้อธิบายให้คนไข้เข้าใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชื่อเรียกที่แต่ละคลินิกตั้งขึ้นมาเองด้วยเหตุผลทางการค้า เช่น ไหมเงี่ยงกุหลาบ ไหมปิรันย่า ไหมมังกร ไหมจระเข้ ไหมปากฉลาม ไหมทับทิม ไหม double-lock ครับ ซึ่งล้วนแต่เป็นไหมเงี่ยงแบบเดียวกันครับ บทความแนะนำ ร้อยไหม คืออะไรร้อยไหมก้างปลา แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ?สิ่งสำคัญที่ควรทราบก่อนทำการร้อยไหมก้างปลาหรือไหมเงี่ยงคือ วัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมครับ ซึ่งไหมที่ปลอดภัย ต้องเป็นไหมก้างปลาแบบละลาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ PDO PLLA PCL ซึ่งวัสดุทั้ง 3 ชนิดนี้ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยในการเย็บแผล ไหมแต่ละชนิดจะแตกต่างกันที่ขนาดของเส้นไหม คุณภาพไหม ราคา รวมถึงบอกได้ว่าร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหนด้วยครับ ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone)
ไหมก้างปลา PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone)
ตัวอย่าง ไหมก้างปลา ชนิดต่าง ๆ
(คุณสมบัติของไหมชนิดต่างๆ พบว่า ไหม PLLA มีจุดเด่น คือ ความแข็ง แต่ข้อเสียคือ เปราะหักง่าย ส่วนไหม PCL มีจุดเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง) ไหมก้างปลา ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดไหมก้างปลา ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด คือ ไหมก้างปลา PCL ครับ เนื่องจากมีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะหรือขาดง่าย ซึ่งไหมก้างปลา PCL รุ่นล่าสุดได้นำ PLLA มาผสมเข้าด้วยกันในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้ไหมก้างปลา PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดและนิยมมากที่สุด ไหมก้างปลา ที่อยู่ได้นานมากที่สุดไหมก้างปลา ที่อยู่ได้นานมากที่สุด คือไหมก้างปลา PCL ครับ โดยจะมีอายุการใช้งาน 12 เดือน และจะละลายหมด 18 เดือนโดยไม่มีสารตกค้าง ไหมก้างปลา ที่สร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุดไหมก้างปลา ที่สร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุดคือ ไหมก้างปลา PCL+PLLA ครับ ไหม โดยไหมก้างปลา PCL มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง และไหม PLLA มีจุดเด่น คือ ความแข็ง ทนต่อแรงดึงได้ดี แต่มีข้อเสียคือ เปราะและขาดง่าย เมื่ออยู่ในหน้าคนที่มีการขยับตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้ไหมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนาโดยการนำจุดเด่นของไหมทั้งสองชนิดนี้มาผสมกันเป็นไหม PCL รุ่นล่าสุด เพื่อช่วยในการกระตุ้นการสร้าง Collagen และ elastin ได้ดีขึ้นครับ ไหมกุหลาบกับไหมก้างปลา แตกต่างกันอย่างไร ?(ลักษณะไหมก้างปลา PDO USP2 (บน) และไหมกุหลาบ (MINT) PDO USP2 (ล่าง)) นอกจากจะดูที่วัสดุที่ใช้ในการทำเส้นไหมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือกระบวนการผลิตครับ จากภาพจะเห็นว่า ส่วนของเส้นไหม A กับส่วนของเงี่ยงไหม B ของไหมกุหลาบ ไม่ได้หลอมมาพร้อมกัน แต่จะเชื่อมกันภายหลังตามรอยเส้นประ ส่งผลให้เมื่อไหมละลาย ไม่สามารถดึงผิวไว้ได้นานกว่าไหมก้างปลาครับ เนื่องจาก ส่วน A กับ B มักจะหลุดออกจากกันก่อน อีกทั้งในการร้อยไหมกุหลาบนั้นจำเป็นต้องใช้เข็มที่ขนาดใหญ่กว่ามาก จึงเกิดอาการบวมช้ำเยอะ และราคาแพงกว่า ไหมกุหลาบจึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบันครับ เข็มที่ใช้ในการร้อยไหม และวิธีสังเกตขนาดของเส้นไหมก้างปลาวิธีดูขนาดของเส้นไหมก้างปลาเราสามารถสังเกตได้จาก สีของเข็มที่ใช้ร้อยไหมก้างปลา ได้แก่
(เข็มที่ใช้ร้อยไหมขนาดต่างๆ จะมีหัวเข็มที่มีสีแตกต่างกัน ซึ่งบ่งบอกความเล็ก ใหญ่ของเส้นไหม) ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้กี่ปีโดยทั่วไปร้อยไหมก้างปลาจะอยู่ได้ 6-18 เดือนตามชนิดของเส้นไหมครับ บางคนที่เคยร้อยไหมมาแต่พบว่าอยู่ได้ไม่นาน ร้อยไหม 3-4 เดือนก็คลายแล้ว จึงไม่มั่นใจที่จะทำต่อ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่ออายุของไหม มีอยู่หลัก ๆ 3 ประการ ได้แก่
ตามที่ได้อธิบายแล้วครับว่าไหมแต่ละชนิด มีอายุการใช้งานแตกต่างกัน ขนาดของเส้นไหมแตกต่างกัน ทำให้อยู่ได้นานต่างกันครับ
เมื่อร้อยไหมยกกระชับหน้า จะใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงใช้เกี่ยวเนื้อคล้ายๆ ตะขอ แต่หากเนื้อเยื่อที่เกี่ยว เกิดความเสื่อมสภาพ เงี่ยงก็จะไม่สามารถเกาะอยู่ได้นานครับ เนื้อจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลายเสียอีก ดังนั้น การร้อยไหมในคนอายุเยอะผลที่ได้จะอยู้ได้สั้นลงครับ เพราะในผิวขาด elastin แต่เมื่อร้อยเพิ่มหลายๆ ครั้งจะอยู่ได้นานขึ้นเพราะการร้อยไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้าง elastin ครับ
แม้เส้นไหมจะละลายไป แต่หากเนื้อเยื่อมีการสร้างเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจนได้มาก ความกระชับก็ยังคงอยู่ได้ครับ (การร้อยไหม ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิว เกิดการสร้างเส้นใย collagen และ elastin ผิวจึงดูอ่อนเยาว์) ร้อยไหมก้างปลา กี่วันเห็นผล ?หลังร้อยไหมก้างปลา จะเห็นผลทันทีหลังทำครับ โดยหลังร้อยไหมอาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำเล็กน้อย ประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน อยากหน้าเรียวสวย ร้อยไหมก้างปลา ดีอย่างไร ?สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าร้อยไหมก้างปลาดีไหม เจ็บไหม เหมาะกับใครบ้าง ข้อเสียมีอะไรบ้าง เบื้องต้นหมอแนะนำให้ลองกัดฟันแล้วลองคลำดูก่อนครับว่า มีส่วนของกรามที่เด้งออกมาไหม ถ้าลองจับแล้วไม่มีกราม จับได้แต่แก้มนิ่มๆ และมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ก็พิจารณาร้อยไหมก้างปลาได้ครับ อาจเคยได้ยินมาว่า ร้อยไหมแล้วโหนกแก้มจะชัดขึ้น จริงไหม ทั้งนี้ ขึ้นกับลักษณะโครงหน้าของแต่ละคนครับ ถ้าคนไข้มีเนื้อแก้มเยอะ โหนกแก้มสูง และมีขมับตอบมาก การร้อยไหมก้างปลายกแก้มจะทำให้โหนกแก้มดูเด่นกว่าเดิมได้ อาจใช้วิธีอื่น ๆ ในการปรับรูปหน้าแทน เช่นการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบครับ แต่ในรายที่มีแก้มหย่อนเยอะ มีเนื้อแก้มมาก ร่วมกับมีแก้มตอบ การร้อยไหมก้างปลาจะช่วยยกกระชับแก้มที่หย่อน ทำให้แก้มเต็มขึ้น ลดแก้มตอบ โหนกแก้มดูเด่นลดลงได้ครับ เมื่อทำการร้อยไหมลงในชั้นผิว ตัวเงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะดึงผิวขึ้น จึงสามารถยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยได้ทันที เห็นผลทันทีหลังทำ และจะเข้าที่เต็มที่ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนครับ (ร้อยไหมก้างปลา รีวิวก่อนและหลังทำ เคสนี้มีแก้มที่หย่อนไม่กระชับร่วมกับแก้มตอบ หลังทำการร้อยไหม แก้มดูยกขึ้น แก้มตอบลดลง ใบหน้าเรียวสวย ดูอ่อนวัยขึ้นครับ) ร้อยไหมก้างปลาเจ็บไหม บวมกี่วันหลายท่านกลัวว่าร้อยไหมเจ็บไหม ตอบตามตรงว่า ร้อยไหมเจ็บครับ แต่จะมีการฉีดยาชาให้ก่อน ทำให้ตอนร้อยไม่รู้สึกว่าเจ็บมาก และสามารถทายาชาก่อนร้อยไหมได้ ไม่มีผลข้างเคียงครับ การร้อยไหม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน แต่หากหลังครบ 4 วันแล้วคนไข้ยังมีอาการปวดมากขึ้น บวมแดงมากขึ้น ต้องรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินและรับยากินเพิ่มเติมครับ ทั้งนี้ หากร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะลดความเสี่ยงในการบวมช้ำลงได้มากครับ ร้อยไหมก้างปลา ควรใช้ไหมกี่เส้น ?คนไข้ควรจะใช้ไหมก้างปลาข้างละกี่เส้น ควรเลือกใช้ไหมแบบไหน ก่อนทำคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินทุกเคส ตามปกติจะใช้ข้างละ 3-10 เส้น โดยพิจารณาจาก
หมอจะเป็นผู้ประเมินจำนวนเส้นไหมและชนิดของไหมที่ต้องใช้ตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสแต่สามารถใช้จำนวนเส้นที่เยอะขึ้นได้ หากคนไข้ต้องการให้อยู่ได้นานขึ้น คล้ายกับการใช้เชือกจำนวนหลายเส้นในการยกของ ย่อมแข็งแรงมั่นคงและอยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ไม่มีมิติ ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าไม่มีมิติ ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาหน้าไม่มีมิติ กรามใหญ่ มีแก้มห้อย ทำให้หน้าดูไม่กระชับ ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้ากรามใหญ่ มีแก้มห้อยย้อย ส่งผลให้หน้าไม่เรียว ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มย่อน ห้อย มีร่องแก้ม ร่องใต้ตา ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีความกังวลเรื่องร่องแก้ม ร่องมุมปาก จึงแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหมดึงแก้มควบคู่กัน สรุป ร้อยไหมก้างปลา เป็นวิธีการช่วยยกกระชับ ที่เห็นผลชัดทันทีหลังทำ และมีความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ควรเลือกร้อยไหมกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ และควรดูรีวิวจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น pantip facebook ที่คลินิกไม่สามารถเข้าไปลบโพสต์ได้ พร้อมทั้งศึกษาวิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังร้อยไหม เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำ และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สุดครับ อ้างอิง สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 23 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ ร้อยไหมก้างปลา ช่วยอะไรบ้างการร้อยไหมก้างปลา จะช่วยยกกระชับผิว นิยมทำเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แก้ไขผิวหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเส้นไหมที่ใช้จะแบ่งออกเป็นหลายชนิด แล้วแต่ลักษณะและวัสดุ ได้แก่ PDO PLLA PCL.
ร้อยไหมก้างปลากี่วันเห็นผลหลังร้อยไหมก้างปลา อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อย ประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน
ร้อยไหมก้างปลาอยู่ได้กี่เดือนร้อยไหมก้าง มีฤทธิ์ในการยกกระชับดึงใบหน้าให้เรียวตึง อยู่ได้นาน 8 เดือน – 1 ปี ซึ่งการร้อยไหมก้างทั่วไปสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากเป็นไหม Diamond จะสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 2-5 ปี ซึ่งทำให้ลดอัตราการร้อยซ้ำได้ค่ะ
ไหมคอลลาเจนกับไหมก้างปลาต่างกันยังไงไหมคอลลาเจน ใช้ไหมอะไร กี่เส้น ? ไหมคอลลาเจนทำมาจากวัสดุ pdo, plla ครับ ด้วยลักษณะของไหมที่เป็นเส้นเล็ก ในการทำต่อครั้งจึงใช้ปริมาณไหมค่อนข้างมาก ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ แต่หากใช้ไหมก้างปลาจะใช้ประมาณข้างละ 3-10 เส้น ขึ้นกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลครับ
|