เดี๋ยวนี้การติดตั้งโปรแกรมบน Linux ทำได้ไม่ยากแล้วครับ แต่ว่าเพราะตัวระบบปฏิบัติการมันเปิดกว้างมากเกินไปหน่อย ก็เลยทำให้เรามีวิธีการติดตั้งโปรแกรมหลายช่องทางมากทีเดียว ซึ่งอาจจะทำให้เราแอบงงๆ ได้บ้าง แล้วก็ไม่ใช่ทุกโปรแกรมจะสามารถติดตั้งได้ด้วยทุกวิธีที่มีให้นะครับ บางโปรแกรมมันก็กำหนดวิธีการติดตั้งไว้ซะตายตัวเกิ๊น ฉะนั้นวันนี้เลยต้องขอมาบันทึกเกี่ยวกับการติดตั้งโปรแกรมบน Ubuntu แบบคร่าวๆ ซะหน่อย Show
วิธีการแรก: ติดตั้งผ่าน Ubuntu SoftwareUbuntu และระบบปฏิบัติการ Linux อื่นๆ อีกหลาย Distribution ก็มีความพยายามให้การติดตั้งแอปเป็นเรื่องง่ายครับ อย่าง Ubuntu เนี่ย เขาก็มี Ubuntu Software ที่ทำหน้าที่เหมือนกับ Apple Store ของระบบปฏิบัติการ macOS หรือ Windows Store บน Windows 10 คือ เปิดมันขึ้นมา ค้นหาโปรแกรมที่เราอยากจะใช้งาน คลิกติดตั้ง ใส่รหัสผ่านของ Admin เข้าไป จากนั้นก็รอ แค่นี้ก็เรียบร้อย วิธีนี้สะดวกต่อผู้ใช้งานที่สุดในโลกหล้าแล้ว ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย เราก็จะสามารถอัพเดตโปรแกรมต่างๆ ที่ได้ติดตั้งไว้แล้ว ผ่านช่องทางนี้ได้เลย เหมือนพวก App Store ของระบบปฏิบัติการต่างๆ วิธีการที่สอง: ติดตั้งผ่าน Command lineจริงๆ ต้องเรียกว่าเป็นวิธีการดั้งเดิมที่สุดเลยครับ วิธีนี้ คือการใช้คำสั่ง apt-get install (คำว่า APT ย่อมาจาก Advanced Package Tool) ซึ่งเอาไว้ติดตั้งกับระบบแพ็กเกจของ Linux ที่พัฒนามาจาก Debian ครับ ในกรณีนี้ ถ้าเรารู้ว่าตัวโปรแกรมที่เราจะติดตั้ง มีอยู่ในระบบแพ็กเก และมีชื่อว่าอะไร เราก็ใช้คำสั่ง Command line ตามนี้ในการติดตั้งโปรแกรมได้เลย
แต่ถ้าเรารู้ว่าโปรแกรมมันชื่อว่าอะไร แต่เราไม่แน่ใจว่าชื่อแพ็กเกจของมันคืออะไร เราจะใช้คำสั่งนี้ครับ แทนที่คำว่า “คำค้น” ด้วยชื่อโปรแกรมที่เราต้องการจะค้นหาครับ
สังเกตอะไรรึเปล่า? ตอนจะทำการติดตั้งโปรแกรม เราจะต้องพิมพ์ว่า sudo ก่อน แล้วค่อยตามด้วยคำสั่ง apt-get install แต่เวลาใช้คำสั่ง apt cache-search ไม่ต้องนำหน้าด้วย sudo นั่นก็เพราะว่า ตอนที่จะค้นหาชื่อแพ็กเกจ มันไม่ต้องการสิทธิ์ของ Admin แต่ตอนที่จะติดตั้งโปรแกรม เราต้องใช้สิทธิ์ของ Admin ครับ เราเลยใส่ sudo นำหน้า เพื่อจะบอกว่า ให้รันคำสั่งนี้ในฐานะ Admin ซึ่งพอรันแล้ว มันจะถามรหัสผ่าน Admin ของเราครับ ตัวอย่างการรันคำสั่ง apt cache-search หาชื่อแพ็กเกจที่มีคำว่า braveในบางกรณี โปรแกรมมันก็ติดตั้งได้แค่ผ่าน Command line ครับ แต่ว่าระบบแพ็กเกจของ Linux มันดันไม่มีโปรแกรมนี้ เพราะตัวผู้พัฒนาเขามีการทำระบบแพ็กเกจไว้ดูแลเอง เราก็จะต้องเพิ่ม Repository เข้าไปก่อน ด้วยคำสั่งด้านล่างนี่ครับ
ตรงส่วนของ ชื่อrepository เนี่ย ก็ตามแต่ว่าผู้พัฒนาเขาจะแจ้งมานะครับ และหลังจากที่เพิ่ม Repository เข้าไปแล้ว ก็ใช้คำสั่งถัดมาที่อยู่ด้านบน เพื่อทำการอัพเดตรายชื่อแพ็กเกจก่อน พออัพเดตเสร็จแล้ว ก็ค่อยใช้คำสั่งติดตั้งแอปได้ครับ วิธีการที่สาม: ดาวน์โหลดแพ็กเกจมาติดตั้งเองวิธีการนี้จะคล้ายๆ กับการติดตั้งโปรแกรมของระบบปฏิบัติการ Windows ที่ดาวน์โหลดพวกไฟล์ .exe หรือ .msi มารันผ่าน Windows Explorer เพียงแต่ว่าของ Linux เนี่ย มันจะมีความหลากหลายหน่อย (คิดซะว่าคล้ายๆ กับระบบปฏิบัติการ Android ละกัน) แต่หลักๆ มันจะแบ่งออกเป็นสองสาย คือ .rpm สำหรับ Linux ที่มาจาก Red Hat และ .deb สำหรับ Linux ที่มาจาก Debian และก็มีแบ่งเป็น 32-bit กับ 64-bit ด้วย เหมือนระบบปฏิบัติการ Windows เลย แต่มันก็ยังมีปัญหาอยู่นิดหน่อย คือ บางโปรแกรมมันดันทำแต่แพ็กเกจ .rpm มาอย่างเดียวนี่แหละ จะทำยังไง? มันก็มีวิธีครับ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จริงๆ แล้ว ตัวแพ็กเกจก็จะทำหน้าที่เหมือนพวก Zip หรือ RAR ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นๆ กันดี เพียงแต่ตัวแพ็กเกจมันจะช่วยให้ตัวติดตั้งรู้ว่าควรจะเอาไฟล์ภายในแพ็กเกจไปไว้ที่ตรงไหน ก็เท่านั้นเอง … เอ้า! ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แพ็กเกจสำหรับติดตั้งแอป WPS Office for Linux ที่ดาวน์โหลดมานี่เป็น RPM เวลาเรา Double click เพื่อเปิดไฟล์ Ubuntu ก็จะใช้ Archive Manager เป็นตัวเปิด แล้วถ้าเราคลิกเข้าไปดูไฟล์ข้างใน ก็จะเห็นว่ามันประกอบไปด้วยไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ แบบนี้ ฉะนั้น ถ้าเราอยากจะติดตั้งแอป เราก็แค่ต้องแปลงแพ็กเกจจาก RPM มาเป็น DEB ก่อน ซึ่งสามารถทำได้ด้วย Command line แต่เราต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มอีกตัวก่อน นั่นก็คือ Alien ซึ่งทำได้โดยการเปิด Terminal ขึ้นมา ด้วยการกดปุ่ม Super + S (ปุ่ม Super บนคีย์บอร์ดที่รองรับ Windows ก็คือปุ่ม Windows Key นั่นเอง) แล้วค้นหา Terminal จากนั้นก็พิมพ์คำสั่งนี้เข้าไปเลย
นคือการรันคำสั่ง apt-get ในระดับ Root เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรมชื่อ alien เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว เราก็สามารถใช้คำสั่ง Alien นี้แหละ แปลงแพ็กเกจ RPM ไปเป็น DEB โดยพิมพ์คำสั่งแบบนี้
แทนที่ ชื่อไฟล์.rpm ด้วยชื่อแพ็กเกจ RPM ที่เราต้องการจะแปลงนั่นแหละ จากนั้นก็ใส่รหัสผ่านของ Root แล้วรอ แต่ถ้าเราต้องการที่จะแปลงไฟล์เป็น DEB เสร็จแล้ว ทำการติดตั้งเลย เราก็ใช้คำสั่งนี้แทน
แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว … แต่จากที่ผมลองทำดูมานะ มันเสียเวลาในการแปลงนานมาก ทางที่ดี เลือกแพ็กเกจเป็น DEB ไปเลยสำหรับ Ubuntu จะปวดหัวน้อยที่สุด สำหรับมือใหม่หัดใช้ Linux นี่ก็สามวิธีพื้นฐานสำหรับการติดตั้งโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Linux ครับ จริงๆ ยังมีวิธีอื่นๆ อีกนะ แต่ไว้ค่อยเอามาเขียนให้อ่านกันทีหลังครับ โพสต์อื่นๆ ที่อาจสนใจการติดตั้งโปรแกรม Ubuntu จำเป็นต้องโหลดไฟล์ใดถูกต้องที่สุดหาแผ่น DVD เปล่าหรือแฟลชไดรฟ์. จะติดตั้ง Ubuntu Linux ในคอมได้ ต้องสร้างไฟล์ติดตั้งก่อน โดยเซฟไฟล์ ISO ของ Ubuntu ลงแผ่นหรือแฟลชไดรฟ์ก่อน ถ้าจะใช้แผ่น DVD แผ่นมาตรฐานขนาด 4.5 GB ก็เหลือเฟือ ถ้าใช้แฟลชไดรฟ์ ต้องจุได้อย่างหน่อย 2 GB.
หากต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมใน Ubuntu ต้องใช้คำสั่งใดจริงๆ ต้องเรียกว่าเป็นวิธีการดั้งเดิมที่สุดเลยครับ วิธีนี้ คือการใช้คำสั่ง apt-get install (คำว่า APT ย่อมาจาก Advanced Package Tool) ซึ่งเอาไว้ติดตั้งกับระบบแพ็กเกจของ Linux ที่พัฒนามาจาก Debian ครับ ในกรณีนี้ ถ้าเรารู้ว่าตัวโปรแกรมที่เราจะติดตั้ง มีอยู่ในระบบแพ็กเก และมีชื่อว่าอะไร เราก็ใช้คำสั่ง Command line ตามนี้ ...
ลง Ubuntu ยังไงติดตั้ง Ubuntu Desktop 20.04. นำ USB Drive ที่มี Ubuntu Desktop ไป Boot ที่โน้ตบุ๊ค. หน้าต่างแรก จะมีคำถามให้เลือก เลือก Install Ubuntu.. ค่า Keyboard layout ใช้ค่า default คือ English.. จะเลือกติดตั้งแบบ Minimal installation.. เครื่องนี้พร้อมให้ล้างฮาร์ดดิสก์ได้ ก็จะเลือก Erase disk and install Ubuntu.. ข้อใดบอกความหมายของระบบปฏิบัติการได้ถูกต้องที่สุดระบบปฏิบัติการ เป็นโปรแกรมที่ทำงานเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้เครื่องและฮาร์ดแวร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้ใช้ระบบสามารถปฏิบัติงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยจะเอื้ออำนวยการพัฒนาและการใช้โปรแกรมต่างๆ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|