ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2564 ทุบสถิติสูงสุดทุกวันที่ผ่านมา ทะลุ 16,533 ราย ขณะที่ทุกภาคส่วนกำลังพยายามควบคุมการแพร่ระบาดกันอย่างเต็มที่ เราทุกคนก็ต้องช่วยกันรับผิดชอบสังคม อย่าทำพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อย่างน้อยก็ดูแลรักษาสุขภาพส่วนตัวให้แข็งแรงกันเข้าไว้ในสถานการณ์แบบนี้ เมนูสู้โควิดวันนี้ชวนกิน ผัก กันอีกสักครั้ง ผักมีประโยชน์มากต่อร่างกาย กระทรวงศึกษาธิการเขียนไว้ในหลักสูตรให้คุณครูพร่ำสอนมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา แต่เท่าที่สังเกตคนรอบตัวเวลาสั่งข้าวแกง ก็จะเน้น หมู ไก่ กุ้ง ทอดมัน กุนเชียง หมูยอ ร้านอาหารดังๆ ส่วนใหญ่ก็โปรโมตเมนูเนื้อสัตว์มากกว่าเมนูผัก ฝรั่ง คอส เซเลอรี่ มะม่วงเบาสุก แค่นี้ก็ทำน้ำผักปั่นสำหรับดื่มได้แล้ว เพิ่งจะมาระยะหลังๆ ที่ยุคอาหารมังสวิรัติรุ่งเรือง ตามมาด้วยวีแกน ก้าวต่อไปจนถึง raw food ซึ่งได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม ทุกวันนี้ภาครัฐยังคงต้องโปรโมตขอให้ประชาชน กินผักมากขึ้นเพื่อสุขภาพของตนเอง ยิ่งมาถึงยุคโควิด-19 ผัก-ผลไม้ ได้รับการกล่าวถึงอีกครั้ง เพราะเป็นอีกทางรอดสำคัญของการทำให้ร่างกายแข็งแรงจากการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไว้รับมือกับการติดเชื้อ อ.แววตา เอกชาวนา ผู้เขียน blog "กินดี by แวว" นักกำหนดอาหารวิชาชีพ อ.แววตา เอกชาวนา โพสต์ไว้ใน blog "กินดี by แวว" เกี่ยวกับการกินผักไว้ว่า “กินผักช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เป็นอาหารของ โพรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ ป้องกันโรค NCDs” NCDs (Non-Communicable Diseases) คือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกาย และส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เว็บไซต์ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มโรค NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด มีอยู่ 6 โรค ได้แก่ เบาหวาน หลอดเลือดสมองและหัวใจ ถุงลมโป่งพอง มะเร็ง ความดัน และ อ้วนลงพุง ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ใน 7 อันดับโรคประจำตัวปัจจัยเสี่ยงสูงเสียชีวิต หากติดโรคโควิด-19 น้ำผัก :ทางเลือกของการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อ.แววตา กล่าวด้วยว่า ทุกคนรู้ว่าผักนั้นดีและมีประโยชน์ ถ้ากินทุกวันให้ได้อย่างน้อยวันละ 250 กรัม (สองขีดครึ่ง) หรือประมาณมื้อละขีดก็ยังดี องค์การอนามัยโลกก็แนะนำให้กินผัก-ผลไม้ให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม หรือเกือบครึ่งกิโลกรัมต่อวัน แต่การจะมานั่งเคี้ยวผักวันละ 4-5 ขีดสำหรับคนบางคน โดยเฉพาะคนที่สุขภาพฟันไม่ค่อยดีแล้ว หรือผู้สูงวัย ก็อาจขาดแรงจูงใจ อ.แววตาจึงแนะนำให้นำ “ผัก” มาปั่นทำ น้ำผักปั่น ดื่มกัน น่าจะคล่องคอดีขึ้นและแก้เครียดจากโควิด วิธีทำง่ายมาก หั่นผักทุกอย่างเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปั่นรวมกัน โดยแนะนำไว้หลายสูตร ดังนี้ น้ำผักปั่น สูตรที่ 1 : สับปะรด ผักคอส เซเลอรี่ มะเขือเทศ น้ำผักปั่น สูตรที่ 1 : สับปะรด ผักคอส เซเลอรี่ มะเขือเทศ สับปะรด 250 กรัม, ผักคอส (cos salad) 70 กรัม, เซเลอรี่ 500 กรัม, มะเขือเทศ 150 กรัม
อ.แววตาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “น้ำผักปั่นสูตรนี้ช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง สูตรนี้สำหรับ 5-6 แก้ว ได้ปริมาณผักผลไม้แก้วละ 160-190 กรัม วันไหนๆ รีบ ทำสูตรนี้รับรองว่ากินผักผลไม้ได้เพียงพอ” และเพิ่มเติมเคล็ดลับเพื่อสุขภาพดีอีกว่า “เพิ่มวิตามินซีให้น้ำผัก บีบมะนาวผสมลงไปก่อนดื่มนะคะ” น้ำผักปั่น สูตรที่ 2 : ฝรั่ง คอส เซเลอรี่ มะม่วงเบาสุก น้ำผักปั่น สูตรที่ 2 : ฝรั่ง คอส เซเลอรี่ มะม่วงเบาสุก
สำหรับสูตรนี้ อ.แววตา มีคำแนะนำว่า ฝรั่ง คอส เซเลอรี่ มะม่วงเบา กับคุณสมบัติที่เนื้อสัตว์ไม่มี นั่นก็คือ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ใยอาหาร คลอโรฟิลด์ นอกจากแก้เครียดจากโควิด สูตรนี้ช่วยลดความดันโลหิต น้ำผักปั่น สูตรที่ 3 : ฝรั่ง มะเขือเทศ คอส ตำลึงหวาน น้ำผักปั่น สูตรที่ 3 : ฝรั่ง มะเขือเทศ คอส ตำลึงหวาน ผักและผลไม้ เป็นอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร และ สารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารพฤกษเคมีต่างๆ ซึ่งผักและผลไม้แต่ละชนิดจะมีปริมาณสารอาหารแตกต่างกัน จึงควรเลือกกินให้หลากหลาย และกินให้หลากสี ควบคู่กันไป เว็บไซต์ สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สารพฤกษเคมี (phytonutrients หรือ phytochemicals) เป็นสารที่พบได้ทั่วไปในพืช โดยพืชจะสังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค แมลง และให้สีสสันกับพืช โดยสารพฤกษเคมีมักพบมากตามเม็ดสีของพืช มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบ ตลอดจนมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง กินผัก-ผลไม้ เพิ่มสารพฤกษเคมีขับเคลื่อนภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย อ.แววตา ให้ข้อเตือนใจไว้ด้วยว่า “การกินคืออาวุธ โลกอยู่ยาก เพราะโรคมากขึ้น การกินผักและผลไม้ จะเพิ่มสารพฤกษเคมีในร่างกายของเราให้มีปริมาณเพียงพอทุกวัน เป็นการขับเคลื่อนภูมิคุ้มกันให้มีฤทธิ์ทำลายล้างอนุมูลอิสระ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีมากในผักและผลไม้จะไปโอบอุ้ม อนุมูลอิสระ (free radicals) ให้ลดพลังทำลายล้างร่างกายลง” พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า “อิเล็กตรอนที่เดียวดายของอนุมูลอิสระ ซึ่งชอบวิ่งไปจับเซลล์ดีทำลาย จะมีความคงที่ ไม่จุ้นจ้าน หยุดเผือก หยุดแทรกแซง โลกสงบ สยบทุกโรค ถ้าลดอนุมูลอิสระในร่างกายได้” ดีแน่แค่กินผักผลไม้ ไม่ว่าจะกินรูปแบบไหน ผักปั่นหรือผักกับข้าว หรือสลัด |