มาร์เวล สตูดิโอส์ (Marvel Studios) ไม่ได้แค่ทำให้หนังซูเปอร์ฮีโรจากหนังสือการ์ตูนเป็นหนังทำเงิน แต่ยังพาไปไกลกว่านั้น ในแง่ของการเล่าเรื่อง เพราะจากหนังที่สร้างกันมาแล้ว 26 เรื่อง หนังแต่ละเรื่องของตัวละครแต่ละราย เกิดขึ้นในจักรวาลเดียวกัน ตัวละครมีความสัมพันธ์ มีเหตุการณ์ สถานที่เกิดเหตุสืบเนื่องกัน ซึ่งอาจทำให้สับสน หรือมึน ๆ ว่าเรื่องราวต่อเนื่องกันยังไง หรือเรียงลำดับกันแบบไหน แต่นั่นยังยุ่งไม่พอ เพราะในปี 2012 มาร์เวล สตูดิโอส์ ก็ปล่อยหนัง The Avengers ที่เอาตัวละครทั้งหลายมาอยู่ในเรื่องเดียวกัน แล้วหลังจากนี้พวกเขายังแยกไปมีหนังของตัวเองอีก แม้เรื่องของแต่ละคนจะมีโทนเฉพาะ แต่ก็มีความเกี่ยวโยงกัน ที่ทำให้ความเป็นมาในภาพรวม ซับซ้อนและสับสนในคราวเดียวกัน จนหลาย ๆ คนคงสงสัยว่า เรื่องราวของหนังซูเปอร์ฮีโรมาร์เวล ที่เรียกว่า จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) นั้น เริ่มต้นและสานต่อกันตรงไหน? อย่างไร? และถ้าจะดูแบบให้เรื่องราวต่อเนื่องกัน ควรจะเริ่มจากเรื่องอะไร? และเดินหน้าแบบไหน? หนังใหญ่ฉายโรงหนังใหญ่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล จะแบ่งเป็นเฟส ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงเฟส 4 เรียบร้อยแล้ว โดยมีหนังรวม 26 เรื่อง (รวม Eternals)
เป็นวิธีการชมที่ง่ายที่สุด เพราะไม่ว่าหนังจะมาก่อนหรือหลัง ก็ต้องมีสิ่งที่เชื่อมกับหนังก่อนหน้า และสายป่านให้เกาะต่อไปยังหนังที่ตามมา ในเฟสแรก ที่เป็นการเปิดจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลด้วย เริ่มต้นที่ Iron Man (2 พฤษภาคม 2008), The Incredible Hulk (13 มิถุนายน 2008), Iron Man 2 (7 พฤษภาคม 2010), Thor (6 พฤษภาคม 2011), Captain America: The First Avenger (22 กรกฎาคม 2011), Marvels The Avengers (4 พฤษภาคม 2012) Iron Man หนังเรื่องแรกในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่ออกฉายในปี 2008เฟสสอง เริ่มจาก Iron Man 3 (3 พฤษภาคม 2013), Thor: The Dark World (8 พฤศจิกายน 2013), Captain America: The Winter Soldier (4 เมษายน 2014), Guardians of the Galaxy (1 สิงหาคม 2014), Avengers: Age of Ultron (1 พฤษภาคม 2015) และ Ant-Man (17 กรกฎาคม2015) เฟสที่สาม ซึ่งมีหนังเยอะที่สุดในตอนนี้ ประเดิมกันที่ Captain America: Civil War (6 พฤษภาคม2016), Doctor Strange (4 พฤศจิกายน 2016), Guardians of the Galaxy, Vol. 2 (5 พฤษภาคม 2017), Spider-Man: Homecoming (7 กรกฎาคม2017), Thor: Ragnarok (3 พฤศจิกายน 2017), Black Panther (16 กุมภาพันธ์ 2018), Avengers: Infinity War (27 เมษายน 2018), Ant-Man and the Wasp (6 กรกฎาคม 2018), Captain Marvel (8 มีนาคม 2019), Avengers: Endgame (26 เมษายน 2019) และ Spider-Man: Far from Home (2 กรกฎาคม2019) ส่วนเฟสล่าสุด (เฟสสี่) สตาร์ตด้วย Black Widow (9 กรกฎาคม 2021), Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (3 กันยายน 2021), Eternals (5 พฤศจิกายน 2021) แล้วก็เป็น Spider-Man: No Way Home (17 ธันวาคม 2021), Doctor Strange in the Multiverse of Madness (25 มีนาคม 2022), Thor: Love and Thunder (6 พฤษภาคม 2022), Black Panther: Wakanda Forever (8 กรกฎาคม 2022), The Marvels หรือ Captain Marvel 2 (11 พฤศจิกายน 2022), Ant-Man and the Wasp: Quantumania (17 กรกฎาคม 2023) และ Guardians of the Galaxy Vol. 3 (5 พฤษภาคม 2023) นี่คือการชมแบบง่ายที่สุด ไม่ยุ่งยาก แต่อย่าลืมว่า ห้ามชมแค่ตัวหนัง เพราะฉากหลังเครดิตตอนท้ายก็มีความสำคัญ เพราะหลาย ๆ ครั้งจุดเชื่อมโยงมันอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ
เป็นการเล่นท่ายากมากขึ้น ด้วยการชมตามลำดับเหตุการณ์ ที่จะเรียงลำดับแตกต่างจากแบบแรก และหนังเรื่องแรกจะไม่ใช่ Iron Man แต่เป็น Captain America: The First Avenger ที่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในปี 1943 - 1945 เมื่อเครื่องบินของสตีฟ โรเจอร์สตก และเขาถูกแช่แข็งอยู่นานร่วมครึ่งศตวรรษ เรื่องที่ 2 คือ Captain Marvel เครื่องบินของแครอล เดนเวอร์สประสบอุบัติเหตุในปี 1989 เธอถูกพวกครีนำไปดูแล แล้วกลับมาโลกในปี 1995 ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปีนี้ Captain America: The First Avenger จะเป็นหนังเรื่องแรกในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล หากเรียงตามลำดับเวลาของเรื่องเรื่องที่ 3 ถึงจะเป็น Iron Man ที่ตัวหนังแม้จะออกฉายในปี 2008 แต่เหตุการณ์ในเรื่อง จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นในปี 2010 เรื่องที่ 4 คือ Iron Man 2 ที่เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2011 ต่อด้วย The Incredible Hulk ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลัง Iron Man ไม่นานและทับซ้อนกับ Iron Man 2 จากนั้นก็เป็นการเปิดตัวธอร์ ใน Thor หนังเรื่องที่ 6 ซึ่งเป็นเวลาช่วงเดียวกับ Iron Man 2 คือปี 2011 แถมมีเรื่องย้อนหลังเป็นศตวรรษใส่เข้ามาด้วย ทางมาร์เวลบอกว่า หนัง The Incredible Hulk, Iron Man 2 และ Thor จะอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ดูเรื่องไหนก่อนก็ได้ Marvel s The Avengers หนังรวมดาวเรื่องแรกในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลการรวมตัวครั้งแรกเกิดขึ้นในหนังเรื่องที่ 7 The Avengers บรรดาซูเปอร์ฮีโรต้องรับมือโลกิในปี 2012 ซึ่งส่งผลให้โทนี สตาร์กมีอาการทางจิตตามมาใน Iron Man 3 ส่วน Thor: The Dark World เป็นเหตุการณ์ในปี 2013 และ Captain America: The Winter Soldier ที่แสดงถึงจุดเริ่มต้นความขัดแย้งของหน่วยชีลด์ในปี 2014 ที่ตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์ใน The Avengers เป็นหนังเรื่องที่ 10 ตัวละครกลุ่มใหม่ Guardians of the Galaxy ที่ก่อร่างสร้างตัวออกผจญภัยในปี 2014 ปีเดียวกับ The Winter Soldier แต่เป็นไปในห้วงอวกาศ ถูกแนะนำตัวในหนังเรื่องที่ 10 และสานต่อทันควันด้วยภาค 2 Guardians of the Galaxy Vol. 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังภาคแรกไม่กี่เดือน การรวมพลหนที่ 2 Avengers: Age of Ultron เป็นหนังเรื่องที่ 13 เราได้เห็นเหล่าซูเปอร์ฮีโรแตกคอกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องที่เป็นปี 2015 โดยขณะที่อเวนเจอร์สต้องรับมืออัลทรอน สก็อตต์ แลงก็กลายเป็นมนุษย์มดใน Ant-Man ผลพวงจาก The Winter Soldier และ Age of Utron มาถึงจุดแตกหักในปี 2016 กับ Captain America: Civil War หนังเรื่องที่ 15 ที่มีฉากย้อนถึงเรื่องการเสียชีวิตของพ่อโทนี สตาร์ก ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่าง The First Avenger กับ Iron Man ด้วย Marvel s What If…? แอนิเมชัน ที่เรื่องราวเกิดขึ้นคนละไทม์ไลน์กับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลปี 2016 เป็นปีที่ยุ่งมากของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล เพราะหนังเรื่องที่ 16 Black Widow ซึ่งนาทาชา โรมานอฟ ต้องหนีการตามล่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นใน Civil War หนังเรื่อง 17 Spider-Man: Homecoming ที่ต่อตรงจาก Civil War เช่นกัน รวมทั้งหนังเรื่อง 18 Black Panther ซึ่งว่าด้วยการแย่งชิงบัลลังก์วากันด้า ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้ ขณะที่หนังเรื่อง 19 Doctor Strange ก็กินเวลาในปี 2016 – 2017 ส่วน Thor: Ragnarok ที่มีสีสันฉูดฉาดมากขึ้นคือเรื่องที่ 20 ซึ่งเหตุการณ์เกิดหลังสิ่งที่เป็นไปใน Doctor Strange ที่มีฉากธอร์มาหาหมอแปลก เพื่อแกะรอยพ่ออีกด้วย Ant-Man and the Wasp หนังมนุษย์มดเรื่องที่ 2 เป็นหนังเรื่องที่ 21 แต่ถึงจะออกฉายหลัง Avengers: Infinity War เหตุการณ์ในเรื่องกลับเกิดขึ้นในปี 2018 ก่อนธานอสมาโลก โดยหนังจบลงที่การดีดนิ้วของตัวร้ายรายนี้ และมีฉากย้อนเวลาไปถึงยุค 80s ด้วย Inhumans ซีรีส์มาร์เวลสร้าง ที่จอดแค่ปีแรก โดยตอนไพล็อตมาลงโรงไอแม็กซ์บ้านเราด้วยเรื่องที่ 22 เป็น Avengers: Infinity War ซึ่งความเป็นไปกินเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 48 ชั่วโมงในปี 2018 ตามด้วย Avengers: Endgame ที่เริ่มจากเหตุการณ์หลังธานอสดีดนิ้วในปี 2018 ไม่นาน แต่เรื่องส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในปี 2023 แต่ก็มีย้อนเวลาไปมาในปี 1970, 2012, 2013 และ 2014 Spider-Man: Far from Home หนังเรื่องที่ 24 ว่าด้วยชีวิตปีเตอร์ ปาร์เกอร์ หลัง Endgame 8 เดือน ส่วน Eternals ที่มีฉากตัวละครพูดถึงการดีดนิ้วของบรูซ แบนเนอร์ นั่นหมายความว่า เรื่องราวเกิดหลัง Endgame และน่าจะเป็นช่วงเดียวกับ Far from Home คือหน้าร้อนของปี 2024ขณะที่ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings แม้จะเปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ร้อยปีก่อน แล้วโดดมาปี 1996 แต่เวลาส่วนใหญ่ในเรื่องจะเป็นพฤศจิกายน 2024 ทำให้กลายเป็นหนังเรื่องที่ 26 จากการเรียงตามลำดับเหตุการณ์ ที่หากจะสรุปง่าย ๆ สำหรับการเรียงตามเวลาก็คงเป็นไปตามนี้
ซีรีส์โทรทัศน์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ไม่ได้มีแค่เรื่องราวในโรงใหญ่ ยังมีงานซีรีส์โทรทัศน์ ที่ทั้งเป็นผลงานของมาร์เวล สตูดิโอส์เอง และงานที่ขายสิทธิ์ให้กับเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งบางเรื่องก็เข้ามาโยงใยกับเหตุการณ์ในหนังใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะงานที่สร้างและปล่อยให้ชมทางดิสนีย์พลัส ที่ก่อนจะจับไปรวมกับหนังใหญ่ มาดูการเรียงลำดับของซีรีส์โทรทัศน์ในดิสนีย์พลัสกันก่อนดีกว่า
เช่นเดียวกับหนังลงโรง นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุด ซีรีส์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลทางดิสนีย์พลัส จะเริ่มต้นกันจาก WandaVision (15 มกราคม 2021), The Falcon & The Winter Soldier (19 มีนาคม 2021), Loki (11 มิถุนายน 2021), Marvel s What If…? (11 สิงหาคม 2021) และ Hawkeye (24 พฤศจิกายน 2021)
แม้ซีรีส์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลทางดิสนีย์พลัส จะเป็นเหตุการณ์หลังจาก Avengers: Endgame แต่เมื่อมีการเล่นกับการเดินทางข้ามเวลา และมิติที่หลากหลาย ทำให้การจัดเรียงเรื่องราวตามลำดับเวลาในเรื่องมีความซับซ้อนเช่นกัน เริ่มจาก Loki ที่เล่นกับเรื่องเส้นเวลาอย่างหนัก แม้เรื่องเกิดขึ้นหลังสิ่งที่เป็นไปใน Endgame แต่การที่หยิบเอาตัวโลกิต่างไทม์ไลน์มาเล่น ก็ทำให้เรื่องราวแตกต่างไป กลายเป็นตัวละครในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่อยู่ในอีกโลก ในอีกมิติหนึ่ง ไม่ต่างไปจาก Marvel s What If…? ที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในอีกไทม์ไลน์ ที่ไม่ใช่ไทม์ไลน์ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล WandaVision ซีรีส์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่คว้ารางวัลเอ็มมีมาครองถึง 3 รางวัลสำหรับ WandaVision ถึงจะมีหลายช่วงเวลา แต่เรื่องไทม์ไลน์ชัดเจนว่าเป็นปี 2023 หลังเหตุการณ์ใน Endgame แค่เดือนเดียว ซึ่งจะมาก่อน Spider-Man: Far From Home ที่เป็นเรื่องหลัง Endgame ผ่านไปแล้ว 8 เดือน ส่วน The Falcon and The Winter Soldier ในภาพรวมเป็นเหตุการณ์ในปี 2023 ซึ่งผู้กำกับคารี สค็อกแลนด์ บอกว่า เรื่องราวในซีรีส์เกิดขึ้น 6 เดือนหลัง Endgame หนังโรงและซีรีส์ทางดิสนีย์พลัสความซับซ้อน และยุ่งยากจะเพิ่มมากขึ้น สำหรับการติดตามเรื่องราวที่เป็นไปในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล เมื่อจับเอาหนังโรงและซีรีส์ทางดิสนีย์พลัสมาเชื่อมเข้าด้วยกัน แล้วจัดเรียงลำดับตามเวลาในเรื่อง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็น
ในอนาคตเมื่อหนังโรง อย่าง Spider-Man: No Way Home, Doctor Strange in the Multiverse of Madness, Thor: Love and Thunder, Black Panther: Wakanda Forever, The Marvels, Guardians of the Galaxy Vol. 3, Ant-Man and the Wasp: Quantumania รวมถึง Blade กับ Fantastic Four ตลอดจนซีรีส์โทรทัศน์ Hawkeye, Ms Marvel, She-Hulk, Moon Knight, Secret Invasion, Ironheart, Armor Wars และ Wakanda Series ปล่อยออกมา ก็คงต้องมีการเรียงลำดับกันอีก ที่น่าจะซับซ้อนและยุ่งเหยิงมากขึ้นแน่นอน แต่ก่อนจะถึงวันนั้น จำกันได้ไหมว่า ก่อนจะมีดิสนีย์พลัส เคยมีซีรีส์มาร์เวลที่เน็ตฟลิกซ์สร้าง รวมถึงซีรีส์ชุด Agent Carter กับ Agents of SHIELD แถมด้วยหนังสั้นแทรกในดีวีดีหรือบลู-เรย์ จะต้องชมกันยังไงหากจับทุกอย่างมามัดรวมเรียงตามลำดับเวลาของเรื่อง โดยไม่ต้องไปสนว่า เรื่องโน้นนี้นั้นจะหาชมกันได้ที่ไหน เพราะตอนนี้ซีรีส์มาร์เวลในเน็ตฟลิกซ์ก็ถูกถอดไปแล้ว และแผ่นหนังมาร์เวลก็ไม่ได้มีการปั้มขายใหม่ เพื่อให้หาซื้อง่าย ๆ แต่อย่างใด Agents of SHIELD ซีรีส์ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่มักจะถูกมองข้ามแต่ถ้าหาชมได้ และคิดจะชม สะสางสมองให้พร้อม และเตรียมเวลาชีวิตให้ดี เพราะนี่คือภารกิจชีวิตเลยทีเดียว
ที่มา: SOURCE 1 / SOURCE 2 / SOURCE 3 / SOURCE 4 / SOURCE 5 |