สาเหตุของน้ำเข้าเครื่องยนต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เพราะเกิดได้ทั้งหน้าร้อน หน้าฝน น้ำเข้าเครื่องยนต์ ทำยังไง Show น้ำเข้าเครื่องยนต์ ทำยังไงหากน้ำเข้าเครื่องช่วงที่จอดรถทิ้งไว้คงไม่มีปัญหาแต่ถ้าน้ำเข้าเครื่องขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงจอดหรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำๆ ผลเสียหายจะเกิดขึ้นแน่นอน สาเหตุหลักที่น้ำเข้าเครื่องยนต์มาจาก 2 ประการ ประกอบด้วย น้ำเข้าเครื่องยนต์ จากการรั่วภายในน้ำเข้าเครื่องยนต์ จากการรั่วภายใน เกิดขึ้นขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดจาก 2 ประการ ประการแรกคือประเก็นฝาสูบที่ทำหน้าที่ปิดทางน้ำหล่อเย็นที่ไหลเวียนบนช่องท่อในเครื่องยนต์ ขาด หรือแตก ทำให้น้ำไหลเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ ประการที่สองคือ ฝาสูบเครื่องยนต์โก่ง ทำให้มีช่องว่างให้น้ำเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ได้ น้ำเข้าเครื่องยนต์ จากภายนอกน้ำเข้าเครื่องยนต์ จากภายนอก เกิดจากการขับรถลุยน้ำท่วม น้ำจะเข้าผ่านท่อดูดอากาศไอดี เข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เครื่องดับ เมื่อทราบสาเหตุของน้ำเข้าเครื่องยนต์แล้ว ให้แก้ไขให้ตรงจุด โดยถ่ายน้ำมันเครื่องออกแล้วเติมน้ำมันเครื่องใหม่ หากไม่แน่ใจให้นำรถเข้าอู่ซ่อมเพื่อเช็กให้ชัวร์ จะได้ไม่เสียเงินซ้ำซ้อน [RE: ขับรถลุยน้ำ น้ำเข้ารถดับ ซ่อมเท่าไหร่] รถอะไร ระบบไฟฟ้าจะถูกคิดถึงก่อน น้ำเข้ากล่องฟิวส์ ก็ดับได้ น้ำแข่ไดชาร์ทเครื่องก็ดับได้ หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน "ในแต่ละระดับราคานั้นไม่รวมค่าแรงทำสี และค่าอะไหล่ ซึ่งจะดำเนินการจัดเปลี่ยนเฉพาะที่เสียหายไม่สามารถซ่อมได้เท่านั้น ซึ่งราคานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะรถที่มีประกันภัยเท่านั้น แต่จะใช้กับลูกค้าทั่วไปที่ไม่มีประกันภัยได้อีกด้วย เพื่อเป็นราคาอ้างอิงที่สามารถประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถได้ เป็นการสร้างมาตรฐานราคาในการซ่อมรถ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เอาประกันภัยและประชาชนในการนำรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมเข้าซ่อมแซมต่อไป" เชื่อว่าหลายๆ คน ถ้าเจอเหตุการณ์น้ำท่วมรถต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแน่ เพราะไม่รู้ว่าจะประเมินราคาอย่างไร จะปรึกษาอู่ก็กลัวโดนฟันหนัก จะเรียกประกันมาเคลมก็ไม่รู้ว่าราคาซ่อมจะเกินรึเปล่า จะเอาอย่างไรดีล่ะทีนี้… ไม่ต้องตกใจและเป็นกังวลไปเพราะ คปภ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ออกแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมไว้แล้ว เพื่อให้เจ้าของรถใช้เป็นบรรทัดฐานในการเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย รวมถึงให้เจ้าของรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมแต่ไม่ทำประกันใช้เป็นราคากลางในการซ่อม และป้องกันไม่ให้อู่ซ่อมรถยนต์เรียกค่าซ่อมเกินจริง โดยแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ Aน้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท มีรายการที่ต้องดำเนินการ 15 รายการ เช่น ตรวจสอบแบตเตอรี่ (ถอดขั้ว/ตรวจสอบน้ำกลั่น/ไฟ-ชาร์ท) ทำความสะอาดตัวรถ ล้าง-อัด-ฉีด ขัดสี ถอดเบาะนั่ง หน้า-หลัง ถอดคอนโซลกลาง (คันเกียร์) ถอดพรมในเก๋ง-ซักล้าง-ตาก-อบแห้ง ถอดคันเร่ง (รถที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์) ถอดลูกยางอุดรูพื้นรถและทำความสะอาด ล้างทำความสะอาดห้องเครื่อง-เป่าแห้ง ตรวจสอบทำความสะอาดระบบเบรก 4 ล้อ/ผ้าเบรก ทำความสะอาดสายไฟ-ปลั๊กไฟด้วยน้ำยาเคมีภัณฑ์ ตรวจสอบชุดท่อพักไอเสีย (แคทธาเรติค) ระดับ Bน้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000 -20,000 บาท มีรายการที่ต้องดำเนินการ 26 รายการ โดยเพิ่มเติมจาก 15 รายการในระดับ A คือ การถ่ายน้ำมันเครื่อง-เกียร์-เฟืองท้าย กรองน้ำมันเครื่อง-กรองอากาศ-กรองเบนซิน-กรองโซล่า ตรวจระบบจุดระเบิด หัวเทียน จานจ่าย หัวฉีด ตรวจสอบชุดเพลาขับ ถอดทำความสะอาดแผงประตูทั้ง 4 บาน ตรวจชุดสวิทซ์สตาร์ท-กล่องควบคุมไฟ- กล่องฟิวส์ ถอดทำความสะอาดไล่ความชื้นระบบเข็มขัดนิรภัย ถอดทำความสะอาดชุดมอเตอร์ยกกระจกไฟฟ้า ตรวจสอบทำความสะอาดเบาะ ถอดทำความสะอาด (ไดร์สตาร์ทและไดร์ชาร์จ) เพื่อไล่ความชื้น ระดับ Cน้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท มีรายการที่ต้องดำเนินการ 39 รายการ โดยเพิ่มเติมจาก ระดับ A และ B คือ ตรวจสอบชุดอีโมไรท์เซอร์/ระบบ GPS (ที่ติดมากับรุ่นรถ) ตรวจสอบไล่น้ำออกจากเครื่องยนต์ ท่อไอดี ห้องเผาไหม้ ตรวจสอบลูกปืนไดชาร์ท ลูกรอก ตรวจสอบทำความสะอาดระบบไฟส่องสว่าง (ไฟหน้า-ท้าย-เลี้ยว) ตรวจเช็คระบบขับเลี้ยวไฟฟ้า ถอดตรวจเช็คตู้แอร์ มอเตอร์ โบวเวอร์ เซ็นเซอร์ ถอดหน้าปัดเรือนไมล์ เกจ์ ถอดตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและสายไฟขั้วต่างๆ ตรวจเช็คระบบเครื่องเสียง-วิทยุ-แอมป์-ลำโพง ตรวจเช็คระบบเบรก (ABS) ตรวจชุดหม้อลมเบรก/ แม่ปั้มบน-ล่าง ตรวจสอบลูกปืนล้อ-ลูกหมาก-ลูกยางต่างๆ ผ้าหลังคา/แมกกะไลท์ ระดับ Dน้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป มีรายการที่ต้องดำเนินการ 40 รายการ โดยเพิ่มเติมจาก ระดับ A – C มา 1 รายการ คือ ทำสี (กรณีสีรถได้รับความเสียหาย) ซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทผู้รับประกันภัยอาจพิจารณาคืนทุนประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยก็ได้ ระดับ Eรถยนต์จมน้ำทั้งคัน ซึ่งในกรณีนี้บริษัทผู้รับประกันภัยจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้รับประกันภัยสถานเดียว อย่างไรก็ตาม จากความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่จะได้รับความคุ้มครองกรณีภัยจากน้ำท่วม ต้องเป็นกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 หรือ ประเภท 3 หรือประเภท 2+ หรือ 3+ ที่ซื้อความคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ (ภัยน้ำท่วม) เพิ่มเติม ก็จะได้รับความคุ้มครองเช่นกัน สำหรับประชาชนซึ่งรถยนต์ที่เสียหายไม่ได้ทำประกันหรือประกันภัยไม่ครอบคลุมก็สามารถใช้แนวปฎิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ข้างต้น ในการป้องกันมิให้อู่ซ่อมรถยนต์เรียกค่าซ่อมเกินความเป็นจริง น้ำเข้ารถซ่อมกี่บาทระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป
น้ำเข้าเครื่อง พัง ไหมถ้าน้ำเข้าเครื่องในกรณีที่จอดรถทิ้งไว้ก็คงไม่มีปัญหาอะไรนัก แต่ถ้าน้ำเข้าเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงจอดนิ่งหรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำๆ ผลเสียหายเยอะ น้ำเข้าเครื่องในขณะที่ติดเครื่อง หรือใช้งานตามปกติ มีด้วยกันสองสาเหตุ สาเหตุแรกสุดก็คือการรั่วภายใน ไม่ว่าจะเป็นปะเก็นฝาสูบ ผุกร่อน รั่วแตกร้าว หรือ ...
น้ำเข้าเครื่องยนต์ต้องทำไงน้ำเข้าเครื่องยนต์ จากภายนอก เกิดจากการขับรถลุยน้ำท่วม น้ำจะเข้าผ่านท่อดูดอากาศไอดี เข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เครื่องดับ เมื่อทราบสาเหตุของน้ำเข้าเครื่องยนต์แล้ว ให้แก้ไขให้ตรงจุด โดยถ่ายน้ำมันเครื่องออกแล้วเติมน้ำมันเครื่องใหม่ หากไม่แน่ใจให้นำรถเข้าอู่ซ่อมเพื่อเช็กให้ชัวร์ จะได้ไม่เสียเงินซ้ำซ้อน
รถน้ำท่วม ซ่อมแล้วเหมือนเดิมไหมข้อควรปฏิบัติเบื้องต้น เมื่อรถโดนน้ำท่วม
รถจมน้ำส่วนใหญ่ หลังจากแก้ไขปัญหาจากที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด อาจไม่สามารถกลับมาทำงานปกติเหมือนเดิมได้ เมื่อทำการตรวจดูรถเบื้องต้นแล้ว ควรรีบแจ้งประกันให้มีการนำส่งรถเข้าสู่การดูแลของช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่างๆ เพิ่มเติมนะครับ
|