การแบ่งปันข้อมูล มี ข้อดี อย่างไร

ถึงชีวิตไม่อัพเดตใน 24 ชั่วโมงเจ็ดวันหรือแม้แต่ในรอบเดือน สถานการณ์รอบตัวเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาอย่างเช่นตอนนี้ก็มี Covid 19 แต่ธุรกิจมีเวลาถึงหนึ่งเดือนในการประมวลผลคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล แต่ธุรกิจไม่ควรใช้สิ่งนี้เป็นแนวทางปฏิบัติ ไม่มีลูกค้าคนไหนต้องการได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าสำหรับการซื้อครั้งเดียวที่พวกเขาทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและความเสียหายทางอารมณ์จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อาจไม่เกี่ยวข้องเนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิตเช่นการสูญเสียการบาดเจ็บ จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของธุรกิจเสมอไป เมื่อสถานการณ์ของลูกค้าเปลี่ยนไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ความคิดแรกคืออย่าติดต่อกับแบรนด์ที่พวกเขาซื้อ นี่คือเหตุผลที่ธุรกิจต้องหาวิธีใหม่ ๆ ในการดึงดูดลูกค้า ในการแข่งขันกับแบรนด์นวัตกรรมเช่น Amazon ที่ครองอำนาจอย่างต่อเนื่องนักการตลาดควรใช้ประโยชน์จากการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการสนทนาและแสดงให้เห็นว่าความตั้งใจที่ดีที่สุดของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญ

การเชื่อมต่อข้อมูลด้วย AI

ก่อนอื่นธุรกิจต้องมีบ้านของตัวเองโดยการนำAIมาใช้เป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน หากลูกค้าให้ข้อมูลอัพเดตแล้วและธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดได้แบรนด์ต่าง ๆ ก็ไม่มีข้อแก้ตัวที่จะทำผิดพลาด ขณะนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อมต่อตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถแจ้งกับแบรนด์เกี่ยวกับความต้องการของเขาได้ตลอดเวลา หากข้อมูลนี้ถูกสอดแทรกระหว่างฝ่ายบริการลูกค้าฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายธุรกิจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะละเลยบริบทของลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าไม่ต้องการซึ่งเป็นการละเมิดความไว้วางใจของพวกเขา แบรนด์ควรดูแลพฤติกรรมการแบ่งปันข้อมูลและปรับแต่งข้อมูลให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งข้อความว่าธุรกิจของคุณให้ความสำคัญกับการผลักดันการขายมากกว่าการสนับสนุนสวัสดิการของลูกค้าข้อมูลลูกค้าทั้งหมดที่ บริษัท เก็บไว้จะต้องเชื่อมต่อกัน ด้วย AI ธุรกิจต่าง ๆ จะได้รับมุมมองทั้งหมดของบัญชีลูกค้าแต่ละรายซึ่งสมาชิกในทีมทุกคนสามารถใช้งานได้ในแผนกใดก็ได้ ด้วยวิธีนี้ลูกค้าจะได้สัมผัสกับแบรนด์เพียงเวอร์ชั่นเดียวกับการมีส่วนร่วมในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับบอทบริการลูกค้าทีมขายหรือการรับเนื้อหาทางการตลาดเฉพาะบุคคล

แบรนด์มีแนวทางความคิดที่หลากหลายมากขึ้น

แบรนด์สามารถบรรเทาภาระบางอย่างในชีวิตประจำวันได้โดยใช้แนวทางเชิงรุกในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ด้วย AI และการทำงานอัตโนมัติของกระบวนการหุ่นยนต์หรือบอทรวมกันไม่ว่าบัญชีรายชื่อลูกค้าจะมีขนาดใหญ่เพียงใดทีมการตลาดสามารถติดตามความต้องการของลูกค้าคาดการณ์การดำเนินการที่ดีที่สุดถัดไปเมื่อสถานการณ์พัฒนาขึ้นและแจ้งเตือนทีมที่เกี่ยวข้องในแบบเรียลไทม์เพื่อดำเนินการ ตัวอย่างเช่นใช้สถานการณ์ที่ลูกค้าอ้างสิทธิ์ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์โดยใช้ สมาร์ทโฟนบนเครือข่ายสาธารณะ ในระบบ AI แบบเรียลไทม์สามารถระบุสาเหตุของการอ้างสิทธิ์แนะนำชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทนหรืออู่ซ่อมรถที่เหมาะสมในพื้นที่และบอท RPA จะส่งข้อความไปยังลูกค้าพร้อมคำแนะนำ ด้วยวิธีนี้แบรนด์สามารถมีบทบาทเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือลูกค้าได้ผ่านสถานการณ์ทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น

แบรนด์สามารถออกแบบโดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก

ธุรกิจต้องจำไว้ว่าเป้าหมายสูงสุดคือการให้บริการลูกค้า เมื่อคำนึงถึงความรู้สึกดังกล่าวเราควรมองหาวิธีที่จะรวมเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางเข้ากับกระบวนการที่มุ่งเน้นลูกค้า ในบริบทของอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลายซึ่งลูกค้าใช้ในการตรวจสอบวัดผลและจัดการข้อมูล - ไม่ต้องพูดถึงการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นผ่าน WiFi6 และ 5G - มีโอกาสที่แท้จริงสำหรับทีมการตลาดในการออกแบบประสบการณ์เกี่ยวกับข้อมูลแบบเรียลไทม์ของลูกค้า - ความสามารถในการแบ่งปัน

ด้วยซอฟต์แวร์รหัสต่ำทีมการตลาดสามารถตอบสนองต่อนวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วเช่นตัวติดตามการออกกำลังกายที่วัดกิจกรรมของหัวใจหรือมาตรวัดอัจฉริยะที่บันทึกการใช้พลังงาน รหัสต่ำช่วยให้พวกเขาทำสิ่งนี้ได้โดยมอบอำนาจในการสร้างแอปและไมโครไซต์เฉพาะทางไว้ในมือของนักการตลาด ด้วยความสามารถในการหลีกเลี่ยงทีมไอทีพวกเขาสามารถออกแบบแอพที่มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและประหยัดเวลาอันมีค่าเมื่อต้องส่งการอ่านมิเตอร์หรือวางแผนคลาสออกกำลังกายออนไลน์ครั้งต่อไป หนึ่งปีของการปิด - เปิดและปิดอาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถเข้าร่วมได้แม้จะมาจากแบรนด์โปรดของพวกเขาก็ตาม ด้วยความไม่แน่นอนในเรื่องการจ้างงานรายได้ที่ลดลงและไม่มีอะไรให้รอลูกค้าบางรายระมัดระวังการซื้อมากขึ้น ดังนั้นจึงตกอยู่กับธุรกิจของตัวเองที่จะแสดงให้เห็นว่าเรามีเจตนาที่ดี ความสามารถในการตอบสนองทันทีต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ของลูกค้าและการนำเสนอโซลูชั่นที่สะดวกช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขาปลอดภัยกับแบรนด์ที่เชื่อถือได้ การใช้ประโยชน์จากการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์เป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในการมอบคำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นด้วยความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นในทุกขั้นตอนแบบเรียลไทม์

ข้อมูลใหม่ ๆ ออกมาทุกวันดังนั้นการทำให้ธุรกิจมีโอกาสใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเรียลไทม์อยู่เสมอ นี่เป็นวิกฤตที่ บริษัท ไม่ควรเพิกเฉยเพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมของตนซึ่งจะคงอยู่ได้นานหลังจากที่ผลกระทบลดลง สรุปได้ว่าการทำการตลาดแบบเรียลไทม์ที่ถูกต้องสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ในที่สุดในสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่

เทคโนโลยีในปัจจุบัน เปิดโอกาสให้ทุกคนมีพื้นที่ในการสื่อสาร และแบ่งปันข้อมูลได้มากขึ้น แต่การสื่อสารที่ดีนั้น ผู้ส่งสารควรมีความเข้าใจในรูปแบบการสื่อสาร รวมทั้งเทคนิคที่จะนำมาใช้ในการสร้างสื่อในรูปแบบต่าง ๆ จากสารที่ต้องการ เพื่อให้ผู้รับได้รับสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และรวดเร็ว ในการสื่อสารนั้นผู้ส่งสารควรจะต้องรู้และเข้าใจองค์ประกอบและรูปแบบพื้นฐานในการสื่อสาร สามารถสร้างสารที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น การเขียนบล็อก อินโฟกราฟิก วิดีโอ และแฟ้มผลงาน

1. องค์ประกอบและรูปแบบพื้นฐานในการสื่อสาร


ในปี พ.ศ. 2492 คล็อด แชนนอน (Claude Shannon) และ วาร์เรน วีฟเวอร์ (Warren Weaver) ได้นำเสนอรูปแบบการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย ผู้ส่ง ช่องทาง และผู้รับ เพื่ออธิบายรูปแบบการสื่อสาร ด้วยโทรศัพท์และวิทยุสื่อสาร และในปี พ.ศ. 2503 เดวิด เบอร์โล (David Berlo) ได้ขยายรูปแบบและองค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารโดยเพิ่ม สาร เข้าไปในองค์ประกอบหลักด้วย ดังรูป

การแบ่งปันข้อมูล มี ข้อดี อย่างไร
ที่มา https://com20249.files.wordpress.com/2017/06/comm.jpg

รูปแบบการสื่อสารนี้ เป็นพื้นฐานในการศึกษาด้านการสื่อสารในปัจจุบัน
องค์ประกอบของการสื่อสาร

  1. ผู้ส่ง ในที่นี้คือผู้ที่มีสารหรือเนื้อหาข้อมูล และมีความต้องการที่จะส่งสารไปยังผู้รับโดยผู้ส่งจะต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ของการส่งสารและความสามารถในการรับสารของผู้รับ เพื่อนำมาพิจารณาเลือกรูปแบบและช่องทางในการสื่อสาร
  2. สาร เป็นข้อมูลหรือสิ่งที่ผู้ส่งต้องการให้ผู้รับได้รับรู้โดยสารนั้นอาจมีได้หลายรูปแบบ เช่น เสียงพูด ข้อความ หรือภาพ เพื่อให้ผู้รับเข้าใจได้รวดเร็วและชัดเจนมากขึ้น
  3. ช่องทาง เป็นวิธีการในการส่งสารจากผู้ส่งไปยังผู้รับ เช่น การใช้โทรศัพท์ การสื่อสารผ่านสื่อสังคม หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับผู้รับโดยตรง โดยแต่ละช่องทางจะส่งสารให้ผู้รับผ่านประสาทสัมผัส ทั้ง 5 ในลักษณะและปริมาณที่ต่างกัน ดังนั้นจะต้องจัดเตรียมสารให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม
  4. ผู้รับ มีหน้าที่แปลความหมายของสารที่ผู้ส่งนำเสนอ ซึ่งความสามารถในการแปลจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การศึกษา วุฒิภาวะ พื้นฐานทางสังคม ความเชื่อ หรือแม้กระทั่งความสนใจในสารที่ได้รับ การแบ่งปันข้อมูล เป็นกระบวนการที่เริ่มจากผู้ส่งสาร ซึ่งมีหน้าที่จัดตรียมสารให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับช่องทางการสื่อสาร ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการแปลความหมายสารของผู้รับ

2. เทคนิคและวิธีการแบ่งปันข้อมูล

การที่จะแบ่งปันข้อมูลได้นั้นผู้ส่งจะต้องจัดเตรียมสารให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับช่องทางและผู้รับ ช่องทางในการสื่อสารแบ่งได้เป็น

  1. การสื่อสารโดยตรง (direct communication) เช่น การพูดคุยต่อหน้าหรือทางโทรศัพท์ การรายงานหน้าห้อง เป็นช่องทางที่ผู้ส่งสามารถสังเกตและรับรู้ปฏิกิริยาของผู้รับได้โดยตรง
  2. สื่อมวลชน (mass media) เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เป็นสื่อที่เน้นการสื่อสารทางเดียว แต่สามารถกระจายสารไปยังคนหมู่มากได้
  3. สื่อสังคม (social media) เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือเว็บบอร์ด โดยสื่อสังคมจะเป็นช่องทางสื่อสารที่มีการโต้ตอบค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ส่งมีโอกาสอธิบายเพิ่มเติม หรือแก้ไขปรับปรุงรูปแบบสารได้อย่างเหมาะสม
    ในแต่ละช่องทางการสื่อสารนั้นผู้ส่งสามารถจัดเตรียมข้อมูลให้เหมาะสมได้หลายรูปแบบ ตัวอย่างและกระบวนการในการสร้างรูปแบบของสาร ได้แก่ การเขียนบล็อก และการทำแฟ้มผลงาน เพื่อที่จะเป็นพื้นฐานแนวคิดในการเตรียมสารในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป

3. ข้อควรระวังในการแบ่งปันข้อมูล

การแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวบางเรื่องสู่สาธารณะ เช่น การกินข้าวกับครอบครัว การท่องเที่ยว จะเป็นการสร้างตัวตนดิจิทัล และเป็นการแบ่งปันข้อมูลสู่ชุมชนดิจิทัล ซึ่งเราต้องระวังที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวจนอาจกลับมาเป็นอันตรายได้ ก่อนแบ่งปันข้อมูลใด ๆ ควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้

ไม่มีความลับในสังคมออนไลน์

แม้ในขณะที่แบ่งปันข้อมูล เราเข้าใจว่า เป็นการแบ่งปันข้อมูลในเฉพาะกลุ่มเพื่อน หรือกลุ่มที่คิดว่าไว้ใจได้แต่ข้อมูลดิจิทัลนั้น เป็นข้อมูลที่ทำซ้ำได้ง่าย คนในกลุ่มที่เราแบ่งปันอาจคัดลอกข้อมูลนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมทั้ง อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลสาธารณะ

ข้อมูลบางชนิดไม่ควรเปิดเผย

ข้อมูลด้านสุขภาพ ด้านการเงิน หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นข้อมูลที่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของตนเอง หรือของผู้อื่นก็ตาม เพราะเป็นข้อมูลที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ได้

ข้อมูลบางชนิดอาจถูกนำมาใช้หลอกลวง

ข้อมูลบางชนิดอาจดูไม่น่าจะเป็นอันตรายในการแบ่งปัน เช่น วันเกิด ตำแหน่งหน้าที่การงาน การศึกษา ชื่อเพื่อน หรือแม้กระทั่งสีที่ชอบ แต่ผู้ไม่ประสงค์ดี อาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำ การฟิชชิง (phishing) เพื่อหลอกลวงเอาข้อมูลสำคัญของเราได้ เช่น เราอาจจะได้รับอีเมลปลอมจากธนาคารที่ระบุตำแหน่งหน้าที่การงานของเราได้ถูกต้อง ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นอีเมลจากธนาคารจริงและให้ข้อมูลที่สำคัญไป

การรักษาข้อมูลที่ได้รับการปกป้องตามกฎหมาย

ข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์หรือข้อมูลส่วนตัว เช่น ผลงานเพลง ประวัติคนไข้ หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นข้อมูลที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย หากนำไปเผยแพร่ อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูล และผู้แบ่งปันอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย

การแบ่งปันข้อมูลในปัจจุบันมีข้อดีอย่างไร

– สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้ – เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยน ความรู้หรือตั้งคำถามในเรื่องต่างๆ เพื่อให้บุคคลอื่นที่สนใจหรือมีคำตอบได้ช่วยกันตอบ – ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น สะดวกและรวดเร็ว

การแบ่งปันข้อมูลหมายถึงข้อใด

การนำาเสนอและแบ่งปันข้อมูล คือ การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศเพื่อให้คนทั่วไปหรือ บุคคลเป้าหมายให้รับทราบข้อมูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศที่ต้องการนำาเสนอ การนำาเสนอข้อมูลที่ดีควรมีเทคนิค วิธีการและรูปแบบการนำาเสนอที่ทำาให้ผู้รับข้อมูลเกิดความสนใจและเข้าใจข้อมูลนั้นได้ตรงกับจุดประสงค์ ของผู้นำาเสนอ นอกจากการนำาเสนอที่ดีแล้ว ...

การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลส่งผลดีอย่างไร

สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่ สนใจร่วมกันได้ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับ คนอื่น สะดวกและรวดเร็ว ช่วยสร้างผลงานและรายได้ให้แก่ผู้ใช้งาน เกิดการจ้างงานรูปแบบใหม่ขึ้น เป็นสื่อในการน าเสนอผลงานของตนเอง เช่น งานเขียน รูปภาพ วิดีโอต่าง ๆ เพื่อให้ ผู้อื่นได้เข้ามาชมและแสดงความคิดเห็น

การแบ่งปันข้อมูลควรระวังเรื่องอะไร

ข้อควรระวังในการแบ่งปันข้อมูล 1.ไม่มีความลับในสังคมออนไลน์ 2.ข้อมูลบางชนิดไม่ควรเปิดเผย 3.ข้อมูลบางชนิดอาจถูกนำมาใช้หลอกลวง 4.การรักาาข้อมูลที่ได้รับการปกป้องตามกฎหมาย