3. การจัดตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการตามแผนงานไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ตามคำสั่ง กนศ. ที่ 1/2550 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2550) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนงานและเตรียมการรองรับผลกระทบที่จะ เกิดขึ้นในการดำเนินงานไปสู่การเป็น AEC โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน Show
โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุงโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง - ผลจากการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน -การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนนั้น จะเกิดผลดีทั้งต่ออาเซียนเองและต่อประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย กล่าวคือจะทำให้อาเซียนนั้นเป็นภูมิภาคที่แข็งแกร่ง และปลอดภัยจากการเอารัดเอาเปรียบของประเทศนอกภูมิภาคเพราะการรวมกลุ่มเป็นประชาคมอาเซียนทั้ง 3 เสานั้น จะช่วยให้อาเซียนมีบทบาทมากขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ อาเซียนจะมีอำนาจในการต่อรองกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในการเจรจาต่อรองในด้านเศรษฐกิจกับ นอกจากนั้นการรวมตัวและการมีความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นจะยังผลให้ประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถประสานกำลังกันรับมือความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคและจากภายนอกภูมิภาคได้ดีขึ้น กล่าวโดยย่อผลของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนก็เพื่อที่จะให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เข้มแข็งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม มีการพัฒนาอย่างสมดุลซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน ประการแรก ไทยจะ “มีหน้ามีตาและฐานะ” เด่นขึ้นประชาคมอาเซียนจะทำให้เศรษฐกิจ “ของเรา” มีมูลค่ารวมกัน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีขนาดใหญ่อันดับ 9 ของโลก ยังประโยชน์แก่คนไทยทุกคนที่จะได้ยืนอย่างสง่างาม “ยิ้มสยาม” จะคมชัดขึ้น ประการที่สอง การค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนจะคล่องและขยายตัวมากขึ้น กำแพงภาษีจะลดลงจนเกือบจะหมดไป เพราะ 10 ตลาดกลายเป็นตลาดเดียว ผู้ผลิตจะส่งสินค้าไปขายในตลาดนี้และขยับขยายธุรกิจของตนง่ายขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกมากขึ้นราคาสินค้าจะถูกลง ประการที่สาม ตลาดของเราจะใหญ่ขึ้น แทนที่จะเป็นตลาดของคน 67 ล้านคน ก็จะกลายเป็นตลาดของคน 590 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ เพราะสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยสามารถส่งออกไปยังอีกเก้าประเทศได้ราวกับส่งไปขายต่างจังหวัด ซึ่งก็จะช่วยให้เราสามารถแข่งขันกับจีนและอินเดียในการดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้น ประการที่สี่ความเป็นประชาคมจะทำให้มีการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมระหว่างกันเพื่อประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุน แต่ก็ยังผลพลอยได้ในแง่การไปมาหาสู่กัน ซึ่งก็จะช่วยให้คนในอาเซียนมีปฏิสัมพันธ์กัน รู้จักกัน และสนิทแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เป็นผลดีต่อสันติสุข ความเข้าใจอันดีและความร่วมมือกันโดยรวม นับเป็นผลทางสร้างสรรค์ในหลายมิติด้วยกัน กลุ่มประเทศที่อยู่ในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “อาเซียน” นั้นในอดีตแม้จะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกันทว่าการให้ความร่วมมือหรือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั้นยังถือว่าไม่ค่อยมีมากนัก จนกระทั่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้ยินข่าวว่าประเทศในแถบอาเซียนมีการประชุมหารือและกำหนดกันว่าจะทำการรวมตัวกันเพื่อสร้างอาณาจักรหนึ่งทางเศรษฐกิจ เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เจริญรุดหน้าเทียบเท่ากับประเทศมหาอำนาจในทวีปเอเชีย นั่นจึงทำให้เกิด Asean Economic Community หรือแปลเป็นภาษาไทยก็คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเมื่อมีการรวมตัวแล้วผลประโยชน์หรือข้อดีที่ประเทศแถบอาเซียนจะได้รับประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่าการรวมตัวเป็นปึกแผ่นของประเทศแถบอาเซียนนั้นสามารถสร้างประโยชน์ในนานาประเทศมากมาย จึงไม่แปลกใจที่การรวมตัวครั้งนี้จะมีแต่ข้อดีและสร้างประโยชน์มากมายมหาศาลแบบนี้ อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ หมายถึง, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ คือ, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ ความหมาย, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ คืออะไร หลายคนอาจจะยังมีข้อกังขาเกี่ยวคำเรียกที่ว่า "ASEAN" หรือในภาษาไทยอ่านว่า "อาเซียน" จริงๆ แล้วคำนี้มันมีความหมายว่าอะไร และมีความสำคัญอย่างไร เหตุใดเราถึงควรรู้จักกับเจ้าคำนี้เอาไว้ วันนี้ เราจะมาคลายข้อสงสัยเพื่อทำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับ "อาเซียน" มากขึ้น อาเซียน เกิดจากการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ อันได้แก่ มาเลเซีย, พม่า, กัมพูชา, ลาว, ไทย, สิงคโปร์, เวียดนาม, บรูไนดารุส-ซาลาม, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งรายนามประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งสิ้น โดยอาเซียน มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า "Association of Southeast Asian Nations" หรือ "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือกำเนิดขึ้นโดย "ปฏิญญากรุงเทพ" (Bangkok Declaration) หรือ "ปฏิญญาอาเซียน" (ASEAN Declaration) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 โดยมีสมาชิกเริ่มแรกเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และไทย มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันเอง ภายหลังจึงได้มีอีก 5 ประเทศสมาชิกเข้าร่วมเพิ่มเติม จึงทำให้ "อาเซียน" มีสมาชิกเป็น 10 ประเทศดังเช่นในปัจจุบัน ในการจัดตั้งอาเซียน ภายในปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเอาไว้ถึง 7 ข้อ อันได้แก่ ..
ข้อมูล ASEAN ที่ควรรู้นอกจากอาเซียนนั้นจะมีความน่าสนใจในแง่ของความร่วมมือกันด้านต่างๆ ของทั้ง 10 ประเทศแล้ว อาเซียน ยังมีข้อมูลอีกบางประการที่เราควรจะต้องรู้เอาไว้ เผื่อว่าคุยกับใครๆ จะได้รู้เรื่อง !
ตราสัญลักษณ์อาเซียน"สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" หรือ "อาเซียน" ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปมัดรวงข้าวสีเหลืองบนพื้นวงกลมสีแดง ล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีน้ำเงิน
สีที่ใช้ในตราสัญลักษณ์อาเซียนซึ่งนอกจากตราสัญลักษณ์ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจในความเป็นอาเซียนแล้ว สีที่ใช้ก็ยังมีส่วนที่ช่วยเสริมให้อาเซียนมีพลัง สามารถดำเนินไปได้ด้วยความอดทน และมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ธงประจำแต่ละประเทศสมาชิกในส่วนของ "ธงอาเซียน" ใช้พื้นธงเป็นสีน้ำเงิน มีตราสัญลักษณ์อาเซียนอยู่ตรงกลาง แสดงถึงความมีเสถียรภาพ สันติภาพ ความสามัคคี และพลวัตของอาเซียน ซึ่งสีที่ใช้อันประกอบไปด้วย สีน้ำเงิน สีแดง สีขาว และสีเหลือง ล้วนแต่เป็นสีหลักในธงชาติของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิ้น นอกจากนั้น "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ยังได้กำหนดให้ทุกๆ วันที่ 8 สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันอาเซียน" อีกทั้งยังมีเพลงประจำอาเซียนที่ชื่อว่า "ASEAN Way" สำหรับขับร้องในวันที่ 8 อีกด้วย แน่นอนว่าการอยู่รวมกันเป็นหมู่มากอาจทำให้เกิดปัญหาที่ยากต่อการควบคุม เช่นเดียวกันกับการที่แต่ละประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตัดสินใจเข้ามาอยู่รวมกันเพื่อจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีความต่างทั้งในด้านของพื้นที่ เชื้อชาติ ประชากร และการดำรงชีวิต ที่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนให้ดำเนินไปในแนวทางเดียวกันได้ "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" จึงได้ร่างเป็น "กฎบัตรอาเซียน" ที่เปรียบเสมือนกับรัฐธรรมนูญของอาเซียน โดยภายในได้รวบรวมเอาค่านิยม หลักการ การทำงานของอาเซียนซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญอย่างเป็นทางการบันทึกไว้ ตลอดจนขอบเขตและหน้าที่ความรับผิดชอบขององค์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน ความสัมพันธ์ อีกทั้งภารกิจที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนให้สามารถดำเนินการจนบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายไปได้ด้วยดี "กฎบัตรอาเซียน" ได้มีการลงนามรับรองจากผู้นำอาเซียนในแต่ละประเทศไปเมื่อครั้งที่มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ได้เปลี่ยนแปลงให้ "อาเซียน" กลายเป็นองค์กรที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลในฐานะที่เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล อีกทั้งยังได้มีการให้สัตยาบันกฎบัตรอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เป็นผลให้ "กฎบัตรอาเซียน" มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป สาระสำคัญของกฎบัตรอาเซียนมีด้วยกัน 13 หมวด
อาเซียนส่งผลอย่างไรต่อประเทศไทย ?เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าช่วงหลังของปี 2558 ได้มีการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือ เพื่อนบ้านของเราจะเดินทางเข้าออกประเทศไทย เพื่อเข้ามาท่องเที่ยว หรือแม้แต่เข้ามาประกอบอาชีพต่างๆ กันได้อย่างอิสระมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินทางเข้าออกไปในอีก 9 ประเทศสมาชิกก็ได้เช่นเดียวกัน ในส่วนของการประกอบอาชีพ คนไทยเองต้องหันกลับมามองที่ตัวเอง ว่าเรามีความสามารถพอที่จะพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมกับเพื่อนบ้านเราได้หรือไม่ ยิ่งในปัจจุบันนี้งานเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ความสามารถด้านภาษาที่ 2 คือ ภาษาอังกฤษ เราก็ยังไม่แข็งแรง แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะมีแต่ข้อเสีย ในด้านเศรษฐกิจเราก็ยังมีความได้เปรียบต่อเพื่อนบ้านของเรามาก มาดูกันดีกว่าว่าอาเซียนมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอย่างไรต่อประเทศไทยของเราบ้าง
รู้จักสมาชิกอาเซียนดีพอรึยัง ?เพื่อให้พวกเราได้รู้จักกับประเทศสมาชิกอีก 9 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยในด้านต่างๆ ในอาเซียน ให้มากขึ้น คราวนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ถามอะไรก็ตอบได้ ให้สมกับเป็นประชาคมเดียวกัน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ถ้าพร้อมแล้ว .. มาเริ่มกันเลยดีกว่า .. 1. ประเทศไทย (Thailand) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
2. ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
3. ประเทศกัมพูชา (Cambodia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
4. ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
5. ประเทศลาว (Laos) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
6. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
7. ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า (Myanmar) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
8. ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
9. ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
10. ประเทศเวียดนาม (Vietnam) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
หวังหว่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียน ในด้านต่างๆ ที่เล่ามา น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ที่ได้อ่าน การเปิดประชาคมอาเซียนยังเป็นแค่เพียงช่วงเวลาเริ่มต้น สิ่งเหล่านี้ไม่อยากให้คนไทยแค่เพียงจำได้ แต่อยากให้เข้าใจในเหตุผลหลายๆ อย่าง ว่าทำไมประเทศไทยถึงควรเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมอาเซียน อย่างที่กล่าวข้างต้น ถึงแม้ว่าจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป แต่เชื่อว่าคนไทยก็ยังมีศักยภาพที่จะช่วยผลักดันความสามารถของประเทศเรา ทั้งเรื่องของสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมให้ขับเคลื่อนไปทัดเทียมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ได้อย่างไม่ต้องอายเลย ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่มีความหมาย หากเราอยากปราศจากการเตรียมตัวที่ดี ให้ระลึกไว้เสมอว่าตอนนี้ความมีอิสระอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เคย ผู้คนในอาเซียนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างเสรี งานดีๆ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากเราไร้ซึ่งความสามารถ ระวังนะ ! จะถูกแย่งชิงไปเสียก่อน การรวมกันของกลุ่มอาเซียนมีประโยชน์อย่างไรกับประเทศสมาชิก1. ป้องกันความขัดแย้งและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อช่วยส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค 2. ช่วยให้มีการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมทั้งมีกลไกในการควบคุมการทำงานของภาครัฐให้มีความโปร่งใสยิ่งขึ้น 3 . ช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น
การรวมตัวของกลุ่มอาเซียนมีความสำคัญอย่างไรAEC หรือ ASEAN Economic Community ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นเป้าหมายการรวมตัวกันของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับ คู่ค้า และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจระดับโลก รวมถึงมีการยกเว้นภาษีสินค้าบางชนิดให้กับประเทศสมาชิก ส่งเสริมให้ภูมิภาคมีความเจริญมั่งคั่ง มั่นคง ประชาชนอยู่ดีกินดี
การรวมกลุ่มของอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรประชาคมอาเซียน ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เริ่มแรกเพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันนำมาซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และเมื่อการค้าระหว่างประเทศในโลกมีแนวโน้มกีดกันการค้ารุนแรงขึ้น ทำให้อาเซียนได้หันมามุ่งเน้นกระชับและขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้า ...
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนมีข้อดีอย่างไรประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะช่วยให้การทำธุรกิจและการลงทุนร่วมกันภายในอาเซียนสะดวกมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง ขณะที่การนำจุดแข็งด้านเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมาส่งเสริมซึ่งกันและกันจะทำให้ผลิตภาพ (Productivity) ของทุกประเทศสมาชิกอาเซียนดีขึ้น
|