คุณครูให้นักเรียนเตรียมซอง หรือ ฉลาก สินค้ามาทำกิจกรรม (ไม่ควรใช้ขนาดใหญ่เกินไป) จากนั้น 1.ให้นักเรียนนำซองสินค้ามาติดไว้ที่กึ่งกลางกระดาษ 2.ให้นักเรียนเขียนข้อมูลของปัจจัยการผลิตทั้งสี่ส่วน คือ
***โดยข้อมูลทั้งสี่ส่วนต้องเขียนมาในลักษณะ mind mapping 3.ให้นักเรียนตกแต่งให้สวยงาม เพียงเท่านี้นักเรียนก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวทางปัจจัยการผลิตผ่านสินค้าจริง ๆ ในชีวิตประจำวัน ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจ ย่อมหมายถึงการบริโภค การอยู่อาศัย หรือการกินการอยู่ของประชาชนว่าอยู่ดีกินดี มีสินค้าเพียงพอแก่ความต้องการของผู้บริโภค หมายถึงว่าเศรษฐกิจดี ตรงข้าม ถ้าการกินอยู่หรือสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ย่อมหมายถึงเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้น การผลิตจึงถือเป็นปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ต้องศึกษา แบ่งเป็น 3 ข้อ ดังนี้ • ผลิตอะไร (What to Produce) จำนวนเท่าใด เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอและตรงตามความต้องการขอผู้บริโภค
และเมื่อใดผลิตสินค้าไม่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค หรือผลิตมากเกินไปย่อมทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ระบบเศรษฐกิจ (Economic System) • ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (Capitalism) เป็นระบบที่หลายประเทศนิยมกัน ได้แก่ อเมริกา ยุโรปตะวันตก
ญี่ปุ่น บางประเทศเรียกระบบนี้ว่าเสรีนิยม หรือระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ซึ่งมีลักษณะดังนี้ • ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ (Communism) บางประเทศเรียกระบบสังคมนิยมบังคับ หรือระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้ • เอกชนไม่มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของในทรัพย์สิน • ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy) ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมีอิสระเสรีภาพมากเกินไป ในขณะที่ระบบคอมมิวนิสต์ขาดเสรีภาพ ดังนั้นในหลายประเทศจึงพอใจเลือกเดินทางสายกลาง ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ซึ่งมีลักษณะดังนี้ • เอกชนมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ ในปัจจุบันระบบเศรษฐกิจแบบรัฐวางแผนกันแบบทุนนิยมร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มี ความจริงทุกประเทศในโลกต่างใช้ลักษณะระบบเศรษฐกิจแบบผสมทั้งสิ้น เพียงแต่ผสมผสานเข้มแค่ไหนที่เราเรียกกันว่า ระบบเศรษฐกิจเอียงซ้ายหรือเอียงขวา เพื่อให้เข้าใจง่าย ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม •
สินค้ามีหลากหลายชนิดให้เลือกได้ตามอำนาจซื้อและตามความพอใจของผู้บริโภค ข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
ที่มา http://reg.ksu.ac.th/teacher/sakkasam/lession2.html |