ลักษณะโดยทั่วไปของบรรจุภัณฑ์มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง

ประเภทของบรรจุภัณฑ์ พลาสติก สามารถแบ่งได้หลายวิธีตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ดังนี้

  1. แบ่งตามวิธีการบรรจุและวิธีการขนถ่าย
  2. แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้
  3. แบ่งตามความคงรูป
  4. แบ่งตามวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ใช้

แบ่งตามวิธีบรรจุและวิธีการขนถ่าย สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ

1. บรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วย (Individual Package) คือ บรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอยู่กับผลิตภัณฑ์ชั้นแรก เป็นสิ่งที่บรรจุผลิตภัณฑ์เอาไว้เฉพาะหน่วย โดยมีวัตถุประสงค์ขั้นแรกคือ เพิ่มคุณค่าในเชิงพาณิชย์ (To Increase Commercial Value) เช่น การกำหนดให้มีลักษณะพิเศษเฉพาะหรือทำให้มีรูปร่างที่เหมาะแก่การจับถือ และอำนวยความสะดวกต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ภายใน พร้อมทั้งทำหน้าที่ให้ความปกป้องแก่ผลิตภัณฑ์โดยตรงอีกด้วย

ลักษณะโดยทั่วไปของบรรจุภัณฑ์มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง

2. บรรจุภัณฑ์ชั้นใน (Inner Package) คือ บรรจุภัณฑ์ที่อยู่ถัดออกมาเป็นชั้นที่สอง มีหน้าที่รวบรวมบรรจุภัณฑ์ขั้นแรกเข้าไว้ด้วยกันเป็นชุด ในการจำหน่ายรวมตั้งแต่ 2 – 24 ชิ้นขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์ขั้นแรก คือ การป้องกันรักษาผลิตภัณฑ์จากน้ำ ความชื้น ความร้อน แสง แรงกระทบกระเทือน และอกนวยความสะดวกแก่การขายปลีกย่อย เป็นต้น ตัวอย่างของบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ ได้แก่ กล่องกระดาษแข็งที่บรรจุเครื่องดื่มจำนวน 1 โหล ,สบู่ 1 โหล เป็นต้น

ลักษณะโดยทั่วไปของบรรจุภัณฑ์มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง

3. บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกสุด (Out Package) คือ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นหน่วยรวมขนาดใหญ่ที่ใช้ในการขนส่ง โดยปกติแล้วผู้ซื้อจะไม่ได้เห็นบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มากนัก เนื่องจากทำหน้าที่ป้องกันผลิตภัณฑ์ในระหว่างการขนส่งเท่านั้น ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ ได้แก่ หีบ ไม้ ลัง กล่องกระดาษขนาดใหญ่ที่บรรจุสินค้าไว้ภายใน ภายนอกจะบอกเพียงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขนส่งเท่านั้น เช่น รหัสสินค้า (Code) เลขที่ (Number) ตราสินค้า สถานที่ส่ง เป็นต้น

ลักษณะโดยทั่วไปของบรรจุภัณฑ์มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง

แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้

บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีก (Consumer Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อไปใช้ไป อาจมีชั้นเดียวหรือหลายชั้นก็ได้ ซึ่งอาจเป็น Primary Package หรือ Secondary Package ก็ได้ บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง (Shopping หรือ Transportation Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้รองรับหรือห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์ขั้นทุติยภูมิ ทำหน้าที่รวบรวมเอาบรรจุภัณฑ์ขายปลีกเข้าด้วยกัน ให้เป็นหน่วยใหญ่ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเก็บรักษา และการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกที่ใช้บรรจุยาสีฟัน กล่องละ 3 โหล

แบ่งบรรจุภัณฑ์ตามความคงรูป

  • บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงแข็งตัว (Rigid Forms) ได้แก่ เครื่องแก้ว (Glass Ware) เซรามิคส์ (Ceramic) พลาสติกจำพวก Thermosettingขวดพลาสติก ส่วนมากเป็นพลาสติกฉีด เครื่องปั้นดินเผา ไม้ และโลหะ มีคุณสมบัติแข็งแกร่งทนทานเอื้ออำนวยต่อการใช้งาน และป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี
  • บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงกึ่งแข็งตัว (Semirigid Forms) ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกอ่อน กระดาษแข็งและอลูมิเนียมบาง คุณสมบัติทั้งด้านราคา น้ำหนักและการป้องกันผลิตภัณฑ์จะอยู่ในระดับปานกลาง
  • บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงยืดหยุ่น (Flexible Forms) ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุอ่อนตัว มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ได้รับความนิยมสูงมากเนื่องจากมีราคาถูก ( หากใช้ในปริมาณมากและระยะเวลานาน ) น้ำหนักน้อย มีรูปแบบและโครงสร้างมากมาย

ลักษณะที่ดีของบรรจุภัณฑ์มีกี่ข้อ

ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดี ควรมี 9 สิ่งสำคัญนี้อยู่บนผลิตภัณฑ์ !!!.
1. ตราสินค้า หรือแบรนด์สินค้า ... .
2. ชื่อสินค้า ... .
3. เครื่องหมายการค้าต่างๆ ... .
4. รายละเอียดต่างๆ ของสินค้า ... .
5. รูปภาพและส่วนประกอบของสินค้า ... .
6. ขนาดและการบรรจุของสินค้า ... .
7. ข้อมูลโภชนาการต่างๆ ของสินค้าของเรา ... .
8. ข้อระวังในการบริโภค.

บรรจุภัณฑ์มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าอย่างไร

บรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้ ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม โดดเด่น และน่าสนใจ นอกจากเป็นการดึงดูดความสนใจของลูกค้าแล้ว ยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า แต่ในขั้นตอน ...

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะอย่างไร

บรรจุภัณฑ์ที่ดี นอกจากควรจะมีรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามน่าใช้แล้ว ยังต้องมีฟังก์ชันที่ใช้งานด้วย ถ้ามัวแต่สวยอย่างเดียวแต่ใช้ยาก ก็เป็นการยากที่จะดึงดูดลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อมาใช้ หรือกลับมาใช้ต่อ ดังนั้นบรรจุภัณฑ์จะต้องออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายต่อการใช้ เช่น การเปิด-ปิด การจัดเก็บ การหยิบจับขณะใช้งาน เป็นต้น

การบรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง

Packaging หมายถึง การนำเอาวัสดุ เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ไม้ ประกอบเป็นภาชนะหุ้มห่อสินค้า เพื่อประโยชน์ในการใช้สอยมีความแข็งแรง สวยงาม ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง สร้างภาพพจน์ที่ดี มีภาษาในการติดต่อสื่อสาร และทำให้เกิดผลความพึงพอใจจากผู้ซื้อสินค้า