หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

กุมภาพันธ์ 1, 2016

การประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุและเศษวัสดุ

วัสดุ หมายถึง วัตถุที่นำมาใช้ในงานต่างๆ ซึ่งมีระยะการใช้งานไม่มากนัก เช่น กระดาษ ดินสอ
เศษวัสดุ หมายถึง เศษวัตถุที่เหลือจากการใช้ เช่น กระป๋องน้ำอัดลม แกนกระดาษชำระ หลอดกาแฟ
วัสดุในท้องถิ่น หมายถึง วัตถุตามธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น เช่น ผักตบชวา ใบตาล กระบอกไม้ไผ่
การประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุและเศษวัสดุเป็นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในด้านการออกแบบฝึกฝนให้เรารู้จักวางแผนการทำงาน มีความอดทนต่องานที่ทำ สามารถแก้ปัญหาจากการปฏิบัติงานและปลูกฝังให้รู้จักการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ การประดิษฐ์สิ่งของมีทั้งของเล่น ของใช้ และของประดับตกแต่ง
การฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับงานประดิษฐ์ การประดิษฐ์ของใช้ ของประดับตกแต่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า และมีเอกลักษณ์เฉพาะของผู้ประดิษฐ์แต่ละคน โดยเลือกใช้วัสดุต่างๆกัน เช่น เศษวัสดุเศษวัสดุเหลือใช้ วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น สามารถนำมาประดิษฐ์ให้เป็นผลงาน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างความภาคภูมิใจ มีความสนุกสนาน อีกทั้งเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือ สามารถนำไปประกอบอาชีพเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง
การประดิษฐ์ของใช้ ของใช้เป็นสิ่งของที่นำมาช่วยในการทำงาน โดยใช้งานได้มากน้อยแตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถทำขึ้นใช้ได้เอง เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ตนเองและครอบครัว ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงาน หรือผู้อื่นที่พบเห็นก็ชื่นชมในผลงานเราด้วย
ในการประดิษฐ์ของใช้ ผู้ประดิษฐ์ควรยึดหลักการดังนี้
1.สำรวจความต้องการของตนเองว่าประดิษฐ์ชิ้นงานอะไร
2.ศึกษาหลักการและวิธีการประดิษฐ์ของชิ้นงานที่ต้องการประดิษฐ์
3.สำรวจว่าชิ้นงานที่สนใจ และต้องการประดิษฐ์มีความจำเป็นและสำคัญที่จะนำมาใช้ในบ้านของนักเรียนได้คุ้มค่าและเป็นประโยชน์
4.การประดิษฐ์ชิ้นงานแต่ละชิ้นควรหาแนวทาง และวิธีการทำให้ชิ้นงานนั้นมีความคงทนในการใช้งาน
5.ความปลอดภัยในการประดิษฐ์ชิ้นงาน นักเรียนต้องรู้จักวิธีการป้องกันตนเองในขณะทำงาน

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

Share this:

  • Twitter
  • Facebook

Like this:

ถูกใจ กำลังโหลด...

Related

1. ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

2. ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย
2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2.3 ความเพลิดเพลิน
2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ
2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม
2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ
2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
2.8 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว
2.9 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ประโยชน์ของ งานประดิษฐ์

1. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2. มีความภูมิใจในผลงานของตน

3. มีรายได้จากผลงาน

4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ

5. เป็นการฝึกให้รู้จักสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ลักษณะของงานประดิษฐ์

1. งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานที่บุคคลสร้างขึ้นมาจากความคิดของตนเองโดยอาศัยการเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว นำมาดัดแปลง หรือเรียนรู้จากตำรา เช่น การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ การประดิษฐ์ดอกไม้

2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในครอบครัวหรือในท้องถิ่น หรือทำขึ้นเพื่อใช้งานหรือเทศกาลเฉพาะอย่าง เช่น มาลัย บายศรี งานแกะสลัก

ประเภทของงานประดิษฐ์

งานประดิษฐ์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้

1. ประเภทใช้เป็นของเล่น เป็นของเล่นที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวทำให้ลูกหลานเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น งานปั้นดินเป็นสัตว์ สิ่งของ งานจักสานใบลานเป็นโมบาย งานพับกระดาษ

2. ประเภทของใช้ ทำขึ้นเพื่อเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การสานกระบุง ตะกร้า การทำเครื่องใช้จากดินเผา จากผ้าและเศษวัสดุ

3. ประเภทงานตกแต่ง ใช้ตกแต่งสถานที่ บ้านเรือนให้สวยงาม เช่น งานแกะสลักไม้ การทำกรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์

4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น การทำกระทงลอย ทำพานพุ่ม มาลัย บายศรี

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์

การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการประดิษฐ์ชิ้นงานต้องเลือกให้เหมาะสมจึงจะได้งานออกมามีคุณภาพ สวยงาม รวมทั้งต้องดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตลอดเวลา และสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้

 

 

 

 

 

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

ของใช้และของตกแต่งบ้าน เป็นสิ่งที่เราสามารถประดิษฐ์ขึ้นใช้ได้ โดยเลือกวัสดุที่หาง่ายหรือของเหลือใช้
เช่น กล่องใส่ขนม กระป๋อง กระดาษที่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับตนเองและครอบครัวได้


4.1 การประดิษฐ์กระป๋องใส่ของ
กระป๋องใส่ของ เป็นกระป๋องประดิษฐ์สำหรับวางเพื่อประดับตกแต่งบ้าน และสามารถใส่อุปกรณ์หรือของจุกจิกได้ เหมาะสำหรับวางในตู้ ห้องรับแขก ชั้นวางของที่ต้องการความสวยงาม ทำมาจากกระป๋องขนมและถุงกระดาษ
ที่ไม่ใช้แล้ว สามารถใส่ของได้ ทนทาน สวยงาม
1) วัสดุอุปกรณ์
1. กระป๋องเหลือใช้และกระดาษ
2. กาวลาเทกซ์
3. ยาขัดรองเท้าและแปรงขัด
4. กระป๋องหรือชามอ่าง
2. วิธีทำ
1. ฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ ทากาวแล้วนำมาปิดบนกระป๋องให้ทั่ว
2. ทิ้งไว้ให้กาวแห้งและขัดด้วยยาขัดรองเท้า
3. นำกระดาษฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำให้พองและยุ่ย
4. ซ้อนเยื่อกระดาษขึ้นจากน้ำผสมกาวลาเทกซ์ให้เข้ากัน
5. นำกระดาษที่ทากาววางบนกระป๋อง แต่งลวดลายตามต้องการ
6. เมื่อกาวแห้งขัดด้วยยาขัดรองเท้าด้วยแปรงขัดบริเวณที่แต่งลวดลาย




หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

 

  ความหมายของงานประดิษฐ์ หมายถึง งานที่เกิดจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์สร้างหรือประดิษฐ์ขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย หรือเพื่อความสวยงาม หรือประดับตกแต่งหรือเพื่อประโยชน์ใช้สอย


ความเป็นมาของงานประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนา ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงแบบ ผลงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในแต่ละบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอย งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา

หลักการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ให้ประดิษฐ์ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนต้องมีความพึงพอใจ ในการทำงาน โดยยึดหลักการดังนี้
1. หมั่นศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการในชุมชนการโรงเรียน จากตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ที่สนใจ
2. ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการวิเคราะห์ ด้วยตนเองหรือศึกษาจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ หรือจากสื่อต่าง ๆ เช่น วารสาร หนังสือ เป็นต้น
3. ทดลองการปฏิบัติการประดิษฐ์ ผู้เรียนต้องศึกษาค้นคว้าและทดลองปฏิบัติตามแนวคิดที่ได้สร้างสรรค์ไว้ และมีการปรับปรุงแก้ไข ข้อบกพร่องจนสำเร็จเป็นชิ้นงานประดิษฐ์ที่พึงพอใจง

 

 

 

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

 


 

 

 

วัสดุอุปกรณ์สำหรับงานประดิษฐ์ นอกจากจะมีชุดคิทให้ทดลองแล้วยังมีสบู่ดิบใส ขวดแบบและขนาดต่างๆให้เลือกโดยไม่ต้องออกไปนอกบ้านให้เหนื่อย...อ่านต่อ โมเดลกระดาษ ถ้าเราพูดถึงงานกระดาษหลายคนคงรู้จักดี มีอะไรหลายอย่างในเรื่องงานกระดาษที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนะธรรมของไทยเช่น ว่าวกระดาษ หรือโคมกระดาษที่ใช้ในพิธีต่างๆ
การทำชิ้นงานจากเรซิ่น เรซิ่นหรือโพลีเอสเตอร์เรซิ่นเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง ปกติจะอยู่ในรูปของเหลวข้นเหนียวเหมือนน้ำมันเครื่อง มีกลิ่นฉุน เรซิ่นสามารถหล่อเป็นรูปต่างๆได้
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ การรับทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์เป็นอาชีพที่น่าสนใจอาชีพหนึ่งเนื่องจากลงทุนค่อนข้างน้อยเรียนรู้วิธีการทำง่าย ตลาดกว้าง สามารถทำได้ทั้งแบบเต็มตัว

การทำโดเค็ม สูตรพร้อมวิธีทำโดเค็มหรือโดที่เรามีไว้สำหรับใช้ทำแบบจำลองต่างๆ สามารถทำเก็บไว้ใช้เองที่บ้านไม่ต้องไปซื้อแพงๆ ...อ่านต่อ


กรอบรูปแบบที่3 มีผู้ขอมาทางจดหมายค่ะ ดูน่าสนใจดีก็เลยทำเป็นบทความไว้ให้หวังว่าคงชอบนะคะ


การทำเทียนเจล งานศิลปะอีกอย่างหนึ่งค่ะที่ทำได้เหมือนของจริงมากไม่ว่าจะทำเป็นลักษณะใดเช่น เครื่องดื่ม ขวดโหลที่มีปลาสวยงามแหวกว่ายอยู่ภายใน ไอศกรีมเย็นฉ่ำน่ารับ ประทาน เปเปอร์มา


เช่ เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว ... อ่านต่อ
ข้าวสาลี ไม่ใช่ข้าวสาลีจริงๆนะคะแต่เป็นข้าวสาลีที่ทำจากโดเค็ม ไว้สำหรับแต่งห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร จะทำเป็นแบบแขวน ติดแม่เหล็กก็สุดแล้วแต่ ...อ่านต่อ

 

 

 

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง





1. ตุ๊กตาที่ใช้ในพิธีกรรม ตุ๊กตาประเภทนี้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรม ต่าง ๆ เช่น ตุ๊กตาศาลพระภูมิ เป็นตุ๊กตาคนรับใ ช้ชายหญิง และช้างม้าตุ๊กตาชะนีสีเหลืองใช้ในพิธีทอดผ้าป่า เป็นต้น
2. ตุ๊กตาสำหรับเด็กเล่น ตุ๊กตาประเภทนี้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้เด็กเล่นมักทำอย่างง่ายๆ จากวัสดุที่หาได้ใกล้ๆ ตัว
3. ตุ๊กตาฝีมือ ตุ๊กตาประเภทนี้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแสดงฝีมือทางศิลปะให้เด็กและผู้ชมได้ชมความงามอันประณีตละเอียดอ่ อน ผู้ประดิษฐ์ตุ๊กตาประเภทนี้นับว่าเป็นศิลปินที่ควรแก่การยกย่อง ตุ๊กตาฝีมือที่มีชื่อเสียงและมีคุณค่าทาศิลปวัฒนธรรม มีหลายลักษณะด้วยกัน ดังนี้


หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง



หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง

หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง


หลักการประดิษฐ์ของใช้มีอะไรบ้าง






ของใช้และของตกแต่งบ้าน เป็นสิ่งที่เราสามารถประดิษฐ์ขึ้นใช้ได้ โดยเลือกวัสดุที่หาง่ายหรือของเหลือใช้
เช่น กล่องใส่ขนม กระป๋อง กระดาษที่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับตนเองและครอบครัวได้


4.1 การประดิษฐ์กระป๋องใส่ของ
กระป๋องใส่ของ เป็นกระป๋องประดิษฐ์สำหรับวางเพื่อประดับตกแต่งบ้าน และสามารถใส่อุปกรณ์หรือของจุกจิกได้ เหมาะสำหรับวางในตู้ ห้องรับแขก ชั้นวางของที่ต้องการความสวยงาม ทำมาจากกระป๋องขนมและถุงกระดาษ
ที่ไม่ใช้แล้ว สามารถใส่ของได้ ทนทาน สวยงาม
1) วัสดุอุปกรณ์
1. กระป๋องเหลือใช้และกระดาษ
2. กาวลาเทกซ์
3. ยาขัดรองเท้าและแปรงขัด
4. กระป๋องหรือชามอ่าง
2. วิธีทำ
1. ฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ ทากาวแล้วนำมาปิดบนกระป๋องให้ทั่ว
2. ทิ้งไว้ให้กาวแห้งและขัดด้วยยาขัดรองเท้า
3. นำกระดาษฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำให้พองและยุ่ย
4. ซ้อนเยื่อกระดาษขึ้นจากน้ำผสมกาวลาเทกซ์ให้เข้ากัน
5. นำกระดาษที่ทากาววางบนกระป๋อง แต่งลวดลายตามต้องการ
6. เมื่อกาวแห้งขัดด้วยยาขัดรองเท้าด้วยแปรงขัดบริเวณที่แต่งลวดลาย

4.2 การประดิษฐ์ที่แขวนเข็มขัด
ที่แขวนเข็มขัดเป็นงานประดิษฐ์จากเศษไม้ เป็นชิ้นงานที่สามารถทำได้ง่าย ใช้แขวนผนังขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดี เช่น ใช้แขวนเข็มขัด แขวนสร้อย คอ หรือสิ่งอื่นๆเมื่อประดิษฐ์เสร็จแล้วถ้าต้องการให้สวยงาม อาจจะขัดเงาด้วยการพ่นแลดเกอร์ หรือใช้สติ๊กเกอร์ที่เป็นลวดลายต่างๆ ปิดทับ เพื่อความสวยงาน
1) วัสดุอุปกรณ์
1. เศษไม้กระดาน
2. เลื่อย
3. กระดาษทราย
4. ตะปู
5. ห่วงหรือตะขอสำหรับแขวน
2) วิธีทำ
1. ตัดไม้กระดาน เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดตามต้องการ
2. ขัดไม้ให้เรียบด้วยกระดาษทราย
3. วัดระยะตำแหน่งที่ต้องการเจาะและทำเครื่องหมายตำแหน่งที่ต้องการเจาะโดยเจาะด้านบน 2 ตำแหน่ง ด้านล่างตามตำแหน่งที่ต้องการแขวน
4. ใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเพื่อเป็นแนวนำตามตำแหน่งที่ได้ทำเครื่องหมายไว้
5. ขันห่วงตะขอแขวนให้แน่น
4.3 การประดิษฐ์ภาพประดับผนัง
ภาพแขวนผนัง สามารถทำได้จากวัสดุหลายชนิดขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ภาพแขวนผนังที่ประดิษฐ์ จากกระดาษแข็งสามารถทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ขณะทำจะต้องรู้จักออกแบบในขณะทากาว ถ้าภาพเปื้อนกาวเลอะเทอะ จะทำให้ภาพไม่สวยงาม
1) วัสดุอุปกรณ์
1. กระดาษและดินสอสำหรับใช้ออกแบบ
2. ผ้ากำมะหยี่สีดำ สำหรับทำพื้นกรอบขนาดตามต้องการ
3. กรรไกรตัดกระดาษ
4. กากเพชรสีเงิน สีทอง สีฟ้า หรือสีอื่นๆตามต้องการ
5. กระดาษเทาขาว ขนาดประมาณกว้าง 5 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว
6. ดิ้นทอง สำหรับทำกิ่งไม้ 2 เมตร
7. เชือกสีทอง หรือเชือกฝ้าย 2 เมตร
8. กาว
9. กรอบรูปขนาดตามต้องการ
10. เลื่อมสีทองและลูกปัดสีทองสำหรับทำเกสรประมาณ 30 อัน
2) วิธีทำ
1.ออกแบบภาพเป็นลวดลายแจกันใส่ดอกไม้ด้วยดินสอลงบนกระดาษ
2. ตัดชิ้นส่วนที่เป็นแจกัน 9 ชิ้น
3. ตัดกระดาษแข็งเป็นกลีบดอกไม้ ตามรูปแบบที่ได้ ออกแบบไว้
4 .นำแจกันทากาวให้ทั่วโรยด้วยกากเพชรสีทอง และนำกลีบดอกไม้ที่ตัดไว้ทากาวและโรยกากเพชรหลากสีตามต้องการ ทิ้งไว้ให้แห้ง
5.แจกันมาแต่งลวดลายโดยใช้เชือกสีทองทากาว ติดบริเวณขอบที่ต้องการตกแต่ง
6. ตกแต่งประดับภาพตามรูปแบบที่ได้ออกแบบไว้ ลงบนผ้าสักหลาด โดยใช้ดิ้นทองทากาวทำเป็นก้านดอก ใช้เสื่อมและปัดทากาวแต่งเกสร
7. ทิ้งจนกาวแห้ง
8. นำผ้าที่ตกแต่งแล้วใส่กรอบแขวนเพื่อตกแต่งผนังให้สวยงาม
5. สรุป
ในการตกแต่งบ้านให้สะอาด สวยงามและน่าอยู่จะต้องคำนึงถึงหลักการต่างๆ เช่น หลักความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความประหยัด เป็นต้น นอกจากนี้ในการจัดตกแต่งห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องน้ำและบริเวณอื่นๆของบ้าน ควรคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยในการทำกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่อย่างมีความสุข


การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งมีหลักการที่ควรคำนึงถึงอย่างไร

สิ่งที่ควรคํานึงถึงในการประดิษฐ์ของเล่น ของใช้ และของประดับตกแต่ง มีดังต่อไปนี้ 1.ความมีประโยชน์สิ่งที่คิดประดิษฐ์นั้น ต้องสามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ 2.ความสามารถในการประดิษฐ์ สิ่งของที่จะประดิษฐ์ขึ้นนั้นจะต้องไม่ยากเกิน ความสามารถของผู้ประดิษฐ์ หรือจะต้องสามารถประดิษฐ์ได้ด้วยตนเอง 3.ความประหยัดสิ่งของที่จะ ...

งานประดิษฐ์ประเภทของใช้มีอะไรบ้าง

1.งานประดิษฐ์ประเภทของเล่น.
2.งานประดิษฐ์ประเภทของใช้.
3.งานประดิษฐ์ประเภทของประดับตกแต่ง.
4.งานประดิษฐ์ประเภทเครื่องนุ่งห่ม.
5.งานประดิษฐ์ประเภทของใช้ในงานพิธี.

งานประดิษฐ์ของใช้มีความสำคัญอย่างไร

1. งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของไทย 2. งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา 3. งานประดิษฐ์ช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ 4. งานประดิษฐ์ช่วยให้การทำงานของสมองและประสาทสัมผัสประสานสัมพันธ์กัน 5. ใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ของเล่น ของขวัญที่ระลึก 6. รู้จักใช้ ...

ขั้นตอนการประดิษฐ์ชิ้นงานมีกี่ข้อ อะไรบ้าง

ทั้งหมด 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1.กาหนดความต้องการ 2.รวบรวมข้อมูล 3.เลือกวิธีการ 4.ออกแบบและปฏิบัติ5. ทดสอบ 6.การปรับปรุง 7.ประเมินผล 4. เก็บรักษาถูกวิธีเพื่อความคงรูปสวยงาม แนวทาง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ