ครู สอน ภาษา อังกฤษ ต้อง เรียน อะไร

ครู สอน ภาษา อังกฤษ ต้อง เรียน อะไร

    ถ้าอยากเป็นครู ก่อนอื่นหนูต้องเข้าใจว่าคนเรียนครูจากมหาลัยปลายแถว ที่จบมาแล้วไม่เก่ง มีจนล้นประเทศ  พวกเค้าเข้าไปเป็นใหญ่ในระบบการศึกษาไทย ก็เลยรวมตัวกันออกกฎหมายใบอนุญาตครูเพื่อกีดกันคนเก่งๆที่เรียนสายตรงไม่ให้เข้าไปแย่งอาชีพพวกเค้า


อย่าหลวมตัวไปเรียนครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์เอกการสอนภาษาอังกฤษเพื่อหวังเอาใบอนุญาตครูเป็นอันขาด เพราะ teaching English as a second language (การสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2) หรือสาขาที่มีชื่อคล้ายๆกัน เช่น teaching English as a foreign language หรือ teaching English to speakers of other languages เป็นศาสตร์เฉพาะทางซึ่งเป็นเอกเทศในตัวของมันเอง มันไม่ใช่ subset ของ ครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์แต่อย่างใด ครูสอนภาษาอังกฤษที่เก่งที่สุดในโลกส่วนใหญ่เรียนจบเอกอังกฤษกันทั้งนั้น ไม่ได้เรียนจบครู ไม่ใช่เป็นแบบที่พวกคนเรียนครูที่จบมาแล้วเป็นครูที่ไม่เก่งในเมืองไทยแหกตาชาวบ้านให้หลงเชื่อว่า "ใครไม่เรียนครูก็จะเป็นครูที่ดีไม่ได้"

แนะนำให้หนูเรียนเอกอังกฤษในมหาลัยชั้นนำ พอจบออกมาก็เป็นติวเตอร์สอนพิเศษภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นติวเตอร์ก็ไม่ต้องใช้ใบอนุญาตครู แถมยังมีโอกาสก้าวหน้าและหาเงินได้มากกว่าเป็นข้าราชการครู  ดีกว่าเสียเวลาไปสอบเอา 9 มาตรฐานวิชาชีพครูเพื่อเอาใบอนุญาตครูเพื่อไปเป็นข้าราชการครูที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ล้าสมัย และมีกฎระเบียบยุ่งยากมากๆ ต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่ยุ่งยากมากๆ

หมายเหตุ
กฎหมายใบอนุญาตครูกำหนดให้คนที่ไม่ได้เรียนครูต้องไปเรียนอีก 2 ปี (คิดว่าประมาณนั้น) เพื่อสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูเพื่อขอรับใบอนุญาตครูเพื่อมีสิทธิสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู  กฎหมายนี้ออกมาได้เพราะพวกคนเรียนครูจากมหาลัยปลายแถว ที่จบมาแล้วเป็นครูที่ไม่เก่ง ระดมพลกัน lobby ให้รัฐบาลออกกฎหมายนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนเรียนสายตรงเก่งๆเข้ามาเป็นครู แล้วแย่งอาชีพพวกเค้า

^
หนูต้องช่วยเหลือประเทศชาติ โดยการไม่สนับสนุนกระบวนการปิดกั้นไม่ให้คนเก่งๆเข้ามาเป็นครู โดยที่เราสามารถช่วยประเทศชาติโดยการเป็นติวเตอร์สอนพิเศษที่เก่งๆได้

ตอนคิดจะเป็นติวเตอร์สอนพิเศษภาษาอังกฤษนะ ถ้าหนูสมองพลิกแพลง ใช้ google ทำ survey ค้นหา textbooks กับสื่อการสอนภาษาอังกฤษดีๆจากต่างประเทศ แค่แพล็บเดียวก็ design courses คิดค้นวิธีการสอน วิธีวัดผล และอื่นๆอีกมากมายมาสอนนักเรียนได้  ดีกว่าเสียเวลาไปเรียนครูตั้ง 5 ปี แล้วจบออกมาไม่เก่งภาษาอังกฤษ เพราะมัวแต่ไปเรียนเรื่องไร้สาระที่ไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ  และดีกว่าเรียนเอกอังกฤษแล้วเสียเวลาไปสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูอีกตั้ง 2 ปี  2 ปีนี้ทำ survey ด้าน teaching English as a second language โดยใช้ google ค้นข้อมูลเอา หนูจะได้ข้อมูลที่ทำให้ตัวเองเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ดีกว่าตั้งหลายเท่า!

สวัสดีครับ ผมเป็นdek65 ตอนนี้ศึกษาชั้นม.6 ผมอยากรู้ว่าถ้าเด็กที่พูดอังกฤษไม่ได้ รู้ศัพท์แค่พื้นๆไม่ได้เก่งมาก แล้วก็พื้นฐานน้อยเนื่องจากเรียนสายวิทย์มา ผมสามารถเรียนครูอิ้งได้มั้ยครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

  • #dek65

ครู สอน ภาษา อังกฤษ ต้อง เรียน อะไร

dn-pannawit 7 ก.ค. 64 เวลา 14:47 น.

4

like

5,579

views

Facebook Twitter

รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน

ยกเลิก

โอ๊ดไม่ได้สะกดด้วยตอเต่า 10 ก.ค. 64 เวลา 08:30 น. 4

ขออนุญาตแชร์จากตนเองนะคะ

ตอนนี้เราเรียนครูอิ้งกำลังขึ้นปี2 เราพูดภาษาอังกฤษแบบเหมือนเอาคำต่อกัน ไม่มีไวยกรณ์เลย ยิ่งการเขียนนี่ยิ่งยาก มันมีความกดดันแน่นอนเพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษ


ตอนทำข้อสอบเพื่อสอบเข้ามหาลัย

เราฝึกฝนเพื่อสอบ โฟกัสเพื่อที่จะเข้ามหาลัย

ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเป้าหมายจริงๆ ของการเรียนภาษาอังกฤษ คือการนำไปใช้ ไม่ใช่เลือกคำตอบในข้อสอบ



จากที่ได้ทดลองเรียนมาตอนปี1

ถามว่าเรียนได้ไหม แน่นอนเราเรียนได้

แต่เราจะทำอะไรได้น้อยในเวลาเรียน

เช่น การอภิปราย บรรยายความรู้สึกของเรา เขียนข้อสอบ เขียนวิเคราะห์วรรณกรรมเจ๋งๆ พรีเซนต์งานทั้งหมดนี้เป็นภาษาอังกฤษ อารมณ์เหมือนเราไปเที่ยวต่างปท.

แต่เราได้ภาษาอังกฤษนิดหน่อย ก็จะมีจำกัดมันจะทำให้้เราอะไรไม่เต็มที่


ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือ ฝึกฝน

ระหว่างการฝึกฝนลองสังเกตและตั้งคำถามกับตัวเองว่า

- ฉันเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษได้อย่างไร

- ฉันเริ่มพูดได้อย่างไร เมื่อไหร่

- วิธีไหนที่ทำให้เราเริ่มได้ภาษาอังกฤษมากขึ้น

ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้จะช่วยเราในการสอนและทำความเข้าใจผู้เรียนในอนาคต เพราะเราเข้าใจแล้วว่า อะไรคืออุปสรรคหรือสิ่งที่ทำให้คนคนนึงไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ หรือจุดไหนที่จะทำให้ผู้เรียนเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษ


นี่คือข้อดีที่เราได้มาฝึกฝนภาษาอังกฤษตอนโต ในขณะเดียวกันพวกเราก็มีเป้าหมายคือ "ฉันจะช่วยเหลือให้ผู้อื่นได้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำให้พวกเขาได้ทำความรู้จักกับวัฒนธรรม เพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่ อาชีพใหม่ในโลกใบนี้ได้มากยิ่งขึ้น"


เราเชื่อว่านายทำได้และสามารถที่จะทำได้อย่างมีคุณภาพแน่นอน นายไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นี้เพียงผู้เดียว มีเพื่อนหลายคนที่ตกอยู่ในสถาการณ์นี้เช่นกันและพร้อมที่จะก้าวผ่านไปพร้อมๆกับนาย พวกเราจะสู้กับข้อจำกัดนี้ไปด้วยกันนะคะ สู้ๆค่ะ



1 1
ถูกใจ 1 ตอบกลับ 1 เมนู

  • แก้ไข
  • แจ้งลบ
  • ปักหมุด

You can do it bro! 10 ก.ค. 64 เวลา 14:18 น. 11

ตอนนี้ม.6 เหลืออีก6-7เดือนในการเตรียมสอบเข้ามหาลัยใช่ไหมคะ พี่ว่า อยากจะเป็น ก็เป็นได้ แต่น้องต้องใช้เวลา6-7เดือนนี้ตั้งใจจริงดันตัวเองขึ้นมาให้ได้ ถามว่าทำไมถึงใช้6-7เดือนนี้ ทำทีหลังไม่ได้หรอ ตอนติดเข้าไปแล้ว มันก็ได้นะ แต่ตอนนี้เวลาจำกัด เป้าหมายมันจะชัดกว่าว่าเออ เราจะต้องเก่งให้ได้ในเวลาแค่นี้ ความมุ่งมั่นมันจะล้นตอนนี้แหละ ถ้าไปรอเรียนตอนมหาลัย บางทีจบไปเราอาจจะยังไม่ดีด้วยซ้ำ ถ้าพฐ. ดีแต่ตอนนี้แล้วไปพัฒนามันจะดีมากเลยนะ ดีกับทั้งน้องเองแล้วก็ประเทศในอนาคต


อาชีพนี้สำคัญมากนะคะ ส่วนหนึ่งที่น้องยังไม่เก่งอังกฤษตอนนี้ก็เพราะครูถูกมั้ย ถ้าครูสอนดีจริง เก่งจริง น้องจะไม่พูดแบบนี้ มันเป็นบทบาทที่สำคัญมากๆ การพูดก็สำคัญนะ ขอเห็นต่างกับบางคอมเม้น ที่เด็กไทยได้แค่แกรมม่า ก็เพราะครูได้แค่แกรมม่าค่ะ น้องต้องลองคิดว่าเราอยากเป็นครูตามมาตรฐานไทยๆ ผลิตคนแบบตัวเองไปอีก20-30รุ่นหรือเปล่า พี่ว่าเราไม่ควรทำแบบนั้นนะ5555


สู้ๆนะคะ อังกฤษไม่ได้ยากขนาดนั้น ตอนป.6พี่เริ่มฟังเพลงภาษาอังกฤษ แบบที่ร้องตามเนื้อไปเลย โตมาหน่อยเริ่มดูหนังเสียงอังกฤษ อะไรแบบนี้ ช่วยการพูดการฟังมากๆ ส่วนที่เตรียมสอบ ศัพท์สำคัญมาก ท่องครูสมศรี4หน้าให้จบเลย แกรมม่ามีหนังสือทั่วไป ทำสรุป ทำโจทย์ด้วยความมุ่งมั่น ถ้ามันไม่ไหวก็หาติวเตอร์ พี่ก็เรียนรร. ไทยสายวิทย์เหมือนกัน ตอนนี้มาเรียนภาคอินเตอร์ มธแล้ว ข้อสอบที่สอบเข้าก็ SAT มาตรฐานเด็กอเมริกัน เพราะงั้นของเราข้อสอบไทยไม่เกินความสามารถแน่นอน


ขอย้ำอีกครั้งน้า เราจะเป็นแม่พิมพ์ ก็เป็นอันที่มันสวยๆหน่อยเนอะ สู้ๆค้าบ

1 1
ถูกใจ 1 ตอบกลับ 1 เมนู

  • แก้ไข
  • แจ้งลบ
  • ปักหมุด

Ponz Kunz 10 ก.ค. 64 เวลา 17:29 น. 12

พี่พูดในฐานะที่พี่เรียนครูอยู่ปี4 ม.รัฐบาลนึงนะคะ(แต่พี่ไม่ได้เรียนครูอิ๊งนะ) แต่พี่ก็พอมีประสบการณ์ทางอิ๊งมาพอสมควร

“อยากเป็นครูอิ๊งแต่พูดอิ๊งไม่ได้ รู้แค่ศัพท์พื้น ๆ เรียนได้ไหม”

-เรียนได้ แต่ยากมาก มันเหมือนกับน้องเรียนคณิตแหละ น้องรู้สูตรคำนวน แต่ถ้าน้องไม่รู้วิธีใช้น้องก็ไม่รอดใช่ม้า ภาษาก็เหมือนกันค่ะ น้องรู้แต่ศัพท์ แต่น้องไม่สามารถเอาศัพท์ไปใช้ในชีวิตจริงได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อ่ะค่ะ คือหลักสูตรที่เราเรียนกันในประเทศไทยเนี่ยก็ยอมรับว่าเอะอะก็เน้นแต่แกรมม่า ท่องศัพท์กันหัวหมุน ทั้ง ๆ ที่ส่วนที่สำคัญควรเน้นคือการสื่อสารเนอะ เอาจริงๆ นะเวลาคุยกับคนต่างชาติ ถ้าไม่ใช่ระดับการทำงานแบบทางการ เขาไม่มานั่งจับผิดการพูดแกรมม่าของเราหรอกค่ะ เขาดูแค่ว่าเราสื่อสารรู้เรื่องไหม


จำคำพี่ไว้นะ ภาษา ถ้าไม่ได้เอาไปใช้ในการสื่อสาร มันไม่มีทางมีประโยชน์ได้ค่ะ ไม่มีวันถ้าน้องไม่รู้จักฝึกการสื่อสาร พี่ไม่เคยเชื่อคำนี้จนเกิดกับพี่เอง เมื่อก่อนภาษาอังกฤษพี่งูๆ ปลาๆ แต่พอพี่มาเรียนอีพีตอนมัธยม เขาบังคับให้พี่พูดแต่อังกฤษในห้องเรียน แรกๆ พี่ก็เป็นใบ้เลยล่ะ แต่พอสักพักมันจะเริ่มพูดได้เอง เราอาศัยจากการฟังเพื่อน ฟังครูพูด สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นแต่ภาษาอังกฤษ จู่ๆ มันก็ได้อัตโนมัติอ่ะค่ะ โดยที่พี่ไม่ได้ไปนั่งท่องบทสนทนาด้วย ไม่ใช่แค่อังกฤษ ภาษาอื่น ๆ ก็เป็นเหมือนกันค่ะ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมพ่อค้าแม่ค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือคนที่เขาไปเรียนหรือทำงานตปท.ถึงพูดภาษาอื่น ๆ ได้ เพราะเขาได้ใช้ไงคะ


เพราะงั้นถ้าน้องอยากเป็นครูจริงๆ พี่ขอร้องนะ อย่าทำแบบครูรุ่นเก่าที่ยัดแต่แกรมม่าๆ ถึงพี่รู้ว่าข้อสอบเข้ามหาลัยประเทศไทยมีแต่แกรมม่าก็เถอะ แต่น้องจะแบบ เออๆ เป็นแค่ครูอิ๊ง พูดไม่ได้แต่เก่งแกรมม่าก็ได้แล้ว คือมันน่าสงสารนะพี่พูดตรงๆ พี่อยากให้น้องเป็นครูที่สามารถสอนเด็กให้พูดภาษาอังกฤษได้ ไม่ใช่แค่เด็กที่เก่งอังกฤษแต่แกรมม่าหรือโวแคปเนอะ ครูอังกฤษไม่ใช่แค่เก่งด้านใดด้านนึง แต่ควรรอบด้านทั้งฟังพูดอ่านเขียน เราอาจจะถนัดมากถนัดน้อย แต่มันไม่ใช่ว่าไม่ถนัดด้านนึงไปเลยอ่ะ น้องเข้าใจไหม555 อ่อ พี่พูดไว้เลย โดยทั่วไปถ้าเรียนมหาลัยเนี่ย น้องจะต้องเจอวิชาที่ให้เน้นพูดอังกฤษรัวๆ อยู่แล้วค่ะ อย่างพี่เนี่ยไม่ได้เอกอิ๊ง พี่ก็ต้องมีวิชาอิ๊งพื้นฐานที่เน้นการดิสคัท พรีเซ็น ดีเบท ที่เป็นภาษาอังกฤษ คือพี่แค่อยากจะบอกว่า จะเอกอิ๊งหรือไม่ น้องก็หนีการพูดไม่ได้อยู่ดีค่ะ แต่การที่น้องมี label ติดตัวว่าเอกอิ๊ง แต่ยังพูดอิ๊งไม่ได้ ไม่ใช่แค่การเรียนน้องจะลำบาก แต่จะต้องโดนตีตรากว่าคนทั่วไป ว่า-หมอนี่แหละ เอกอิ๊ง แต่พูดอิ๊งไม่ได้ เหมือนคนอยากขายอาหารตามสั่งแต่ทำอาหารไม่เป็น มันจะมีคุณภาพไหมเนี่ย แล้วนี่ยิ่งเป็นครูที่ต้องไปสอนเด็กต่อด้วย ถ้าพี่พูดแรงพี่ก็ขอโทษนะ แต่คือมันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เราที่เลือกจะยอมรับและตัดสินคนจากภายนอกก่อน ซึ่งถ้าน้องไม่อยากโดนอย่างนั้น มี2 ทางเนอะ คือ ล้มเลิกไปเลย เปลี่ยนความฝัน หรือไม่ก็สู้ต่อ คือพี่ไม่ได้โลกสวยนะ แต่ปราบใดที่น้องยังมีความพยายามขวนขวายความรู้อยู่ พี่ว่ามันก็ทันนะ ดูจากการที่น้องบอกว่าอยากเป็น พี่ขอเดาว่าน้องก็น่าจะชอบภาษาอังกฤษพอสมควรแหละ ไม่งั้นน้องคงเลือกอาชีพอื่นไปแล้ว และพี่คิดว่าน้องเรียนจนมาถึงม6 แล้ว มันไม่มีทางที่จะพูดไม่ได้ถ้าน้องไม่ได้เกเรโดดอังกฤษทุกคาบ อย่างน้อยมันก็ต้องซึมซับมาบ้างแหละ -ประโยคสื่อสารพื้นฐานเนี่ยมันก็ต้องพอได้แหละ มันไม่มีใครที่เรียนหลักสูตรขั้นพื้นฐานแล้วพูดไม่ได้เลย แต่น้องอาจจะขาดประสบการณ์ในการพูดมากกว่า ซึ่งพี่ว่าตอนนี้ยังพอมีเวลานะคะ ไม่ใช่แค่การพูด แต่รวมถึงทักษะอื่น ๆ จากนี้ไปลองใช้วิธีพี่ดู


1.เปลี่ยนทุกอย่างรอบข้างให้เป็นภาษาอังกฤษให้หมด เช่นมือถือ คอม ตั้งภาษาเป็นภาษาอังกฤษให้หมด ทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุดค่ะ

2.ถ้าเป็นสายหนังซีรี่ยส์ ลองดูมีซับไทย สักพักลองปิดซับดู แล้วดูซิว่าเราเข้าใจไหม และระหว่างดูลองฟังสำเนียง การเน้นคำไปด้วย แล้วลองพูดตาม หรือลองจดเป็นประโยคว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไร มันจะช่วยเรื่องสำเนียงและทำให้น้องเข้าใจบริบทมากขึ้น

3.ถ้าเป็นสายเกม ลองเล่นเกมเนื้อเรื่อง บางเกมก็มีเสียงพากษ์ ลองเล่นดู คำไหนไม่รู้ก็เปิดอากู๋หรือดิกแล้วจดไว้ สตรีมเมอร์หรือแคสเกมหลายคนที่เขาเก่งอังกฤษเขาก็ได้จากตรงนี้ทั้งนั้นเลยค่ะ

4. หาเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ ถ้าน้องเป็นสายเกม หรือเล่นโซเชี่ยลบ่อยๆ ลองไปหาคนต่างชาติคุยด้วยบ่อยๆ หรืออยู่โรงเรียน ถ้าเจอครูต่างชาติในโรงเรียนลองทักทายเขาบ่อย ๆ หาโอกาสคุยกับเขาดูค่ะ อย่าอายที่จะพูดผิด โดยทั่วไปคนต่างชาติเขาไม่ได้สนใจว่าเราจะพูดผิดหรือเปล่า เขาแค่อยากให้เรากล้าพูดเฉยๆ ค่ะ แต่ไงก็ตามถ้ารู้ตัวว่าผิดก็จำไว้แล้วลองปรับมาใช้ในโอกาสต่อไปนะคะ มีหลายคนที่ใช้วิธีแบบนี้แล้วก้าวกระโดดได้เร็วมาก

5.เรียนพิเศษ พี่ก็รู้แหละเรียนพิเศษมันแพง แต่ก็เป็นวิธีที่ภายในเวลาอันสั้นไม่ถึงปีที่น้องจะเข้ามหาลัยแล้วง่ายสุด ลองไปหาติวเตอร์ที่ช่วยเน้นการพูดเนอะ สมัยนี้ก็มีติวเตอร์เยอะ โดยเฉพาะพวกพี่ๆ เอกอิ๊งมหาลัยที่หาเงินไปจ่ายค่าเทอมเนี่ย 5555(อันนี้พี่ช่วยเพื่อนขายของ555)

6.หมั่นทบทวนและฝึกพูด อันนี้สำคัญที่สำคัญที่สุด ถ้า 5 ข้อข้างบนที่ทำมา น้องไม่ได้เอาไปฝึกพูดฝึกใช้ต่อ ทำแล้วจบไปอะไรแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ถ้าไม่มีเพื่อน ก็ลองคุยกับตัวเองในกระจก เหมือนคนบ้านั้นแหละ555 พี่ก็ทำ พี่ทำเป็นละครเลยล่ะ555


สุดท้ายนี้ในฐาะรุ่นพี่ครู ขอให้น้องเลือกเส้นทางด้วยตัวเอง ชีวิตเราเราเลือกเองนะคะ ไม่ใช่มาอ่านเม้นอย่างเดียวแล้วตัดสินใจ คนที่จะบอกว่าได้หรือไม่ได้คือตัวน้องเท่านั้นค่ะ ถ้ายังไงตัดสินใจแบบไหนอย่าลืมมาอัพเดทนะคะ พี่จะรอดูว่าความฝันน้องจะเป็นจริงหรือไม่ 

ครูอังกฤษเรียนสาขาอะไร

คณะครุศาสตร์ | สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ

ครูภาษาต้องเรียนคณะอะไร

สาขาวิชาการสอนภาษาไทย

จบครุศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษทํางานอะไรได้บ้าง

อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา ครูสอนภาษาอังกฤษระดับปฐมวัยศึกษา ครูระดับประถมศึกษา ครูระดับมัธยมศึกษา และครูการศึกษานอกโรงเรียน นักวิจัยทางด้านการศึกษาภาษาและการสอนภาษาอังกฤษ นักวิชาการทางด้านภาษาอังกฤษและวิธีสอนภาษาอังกฤษ นักวิชาชีพทางการศึกษาทั้งในและนอกสถานศึกษา

ครู อังกฤษ สอบ PAT อะไรบ้าง

กลุ่มคณะครุศาสตร์, ศึกษาศาสตร์ ​วิชา GAT/PATที่ต้องสอบ : GAT , PAT5 , PAT7. วิชาสามัญที่ต้องสอบ : ภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ / สังคม / วิทยาศาสตร์ หรือ ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา / คณิตศาสตร์ 1 หรือ คณิตศาสตร์ 2 แล้วแต่เกณฑ์ของมหาวิทยาลัย