มอเตอร์เกียร์ (Gear Motor) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง โดยอาศัยหลักการทำงานจากมอเตอร์ในการแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อทำให้วัตถุเคลื่อนที่ และมีฟันเฟืองหรือเกียร์ทำหน้าที่ลดรอบความเร็วหรือทดรอบ และเพิ่มแรงบิดเพื่อให้สามารถขับงานได้ตามที่ต้องการ ปัจจุบันมอเตอร์เกียร์มีขนาดและรูปแบบที่หลากหลาย นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อควบคุมงานเครื่องจักรอุตสาหกรรม อาทิ งานสายพานลำเลียง งานผสมวัตถุดิบ งานรอกเครน งานยก งานกวน งานปั่น ตีน้ำ เป็นต้น Show
Compact Gear motorเป็นมอเตอร์เกียร์ (Gear Motor) ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานเครื่องจักรขนาดเล็ก และงานขับสายพานลำเลียง ทางบริษัทนิวแอนด์ไฮด์ จำกัด มีจำหน่ายหลากหลายแบรนด์ เช่น ORIENTAL, WSS เป็นต้น และทางเรายินดีให้คำปรึกษางานด้านมอเตอร์เกียร์ทุกชนิด สินค้าแนะนำจากแบรนด์ Oriental (Oriental Motor Gear)โอเรียนทัลมอเตอร์เกียร์ และ หัวเกียร์ทดรอบ เหมาะสำหรับงานเครื่องจักรขนาดเล็ก มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ได้มาตรฐาน UL, CSA และ EN และเครื่องหมาย CE มีขนาดตั้งแต่ 1 วัตต์ (1/750 แรงม้า) ถึง 2.2 กิโลวัตต์ (3 แรงม้า) และมีอัตราทดรอบ 1/3 ถึง 1/1,200 ORIENTALMOTOR Head Gear - KII series and Head Gear JL/JH
ORIENTALMOTOR Head Gear - BLE2 Gearhead JB and JV
ORIENTALMOTOR Head Gear - GN-KF Parallel Shaft Gearheads
ORIENTALMOTOR Head Gear - Right-Angle Gearheads
สินค้าแนะนำจากแบรนด์ WSS (WSS Motor Gear)WSS Micro Gear Motor ดับบริวเอสเอสไมโครเกียร์มอเตอร์พร้อมชุดปรับรอบเหมาะสำหรับงานเครื่องจักรขนาดเล็ก และงานสายพานลำเลียงมาตรฐานจากประเทศไต้หวัน มีขนาดตั้งแต่ 6 วัตต์ ถึง 250 วัตต์ และมีอัตราทดรอบ 1/3 ถึง 1/200 เป็นชิ้นส่วนเครื่องกลมีรูปร่างเป็นจานแบนรูปวงกลม ตรงขอบมีลักษณะเป็นแฉก เรียกว่าฟันเฟือง ซึ่งสามารถนำไปประกบกับเฟืองอีกตัวหนึ่ง เมื่อเฟืองตัวแรกหมุน เฟืองตัวที่สองจะหมุนในทิศทางตรงกันข้าม เกิดเป็นระบบส่งกำลังขึ้น โดยความเร็วรอบของเฟืองที่สองจะขึ้นกับอัตราส่วนจำนวนฟันเฟืองของตัวแรกเทียบกับตัวที่สอง ซึ่งอัตราส่วนนี้สามารถปรับให้เกิดเป็นความได้เปรียบเชิงกลได้
เฟืองมีกี่ประเภท?เราสามารถแบ่งเฟืองที่ใช้ในอุตสาหกรรมนั้น ได้เป็น 8 ประเภท ดังนี้ 1. เฟืองเกลียวสกรู (Spiral Gears)นิยมใช้ในระบบเฟืองส่งกำลังของรถยนต์หรือเครื่องจักรที่ต้องการเปลี่ยนมุมในการส่งกำลัง เป็นเฟืองเกลียวที่ใช้ส่งกำลังระหว่างเพลาที่ทำมุมกัน 90 องศา การใช้งานเฟืองชนิดนี้ส่วนมากจะใช้ในการเปลี่ยนทิศทางในการส่งกำลังของเพลา เฟืองเกลียวสกรูจะถูกนำไปใช้กับชุดเฟืองที่มีการทดรอบมาก การสึกหรอจะเกิดขึ้นค่อนข้างมากเนื่องจากลักษณะการเคลื่อนที่ส่งกำลังของเฟืองจะมีลักษณะในการลื่นไถล (Sliding Contact) ระหว่างผิวของฟันเฟืองคู่ที่ใช้ส่งกำลัง ไม่เหมาะที่จะใช้กับระบบส่งกำลังที่มีกำลังมาก ๆ 2. เฟืองตัวหนอน (Worm Gears)เฟืองตัวหนอนประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วนคือ ล้อตัวหนอน (Worm Wheel) และตัวเฟือง (Worm Gear) เป็นเฟืองที่มีการทำงานแบบ Self-locking คือ ทำงานในรูปแบบการหมุน แนวเพลาขับและเพลาตามของเฟืองตัวหนอนจะทำมุมกันที่มุมฉาก 90 องศา เฟืองตัวหนอนทำงานเสียงเงียบและมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นน้อย
3. เฟืองดอกจอก (Bevel Gears)มักถูกนำไปใช้งานในยานพาหนะทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น ยานยนต์โดยเฉพาะในระบบส่งกำลังและขับเคลื่อน รถแทรกเตอร์ ใช้ในระบบเฟืองส่งกำลังของเรือ เป็นต้น ลักษณะของเฟืองดอกจอกจะมีรูปทรงคล้ายกับกรวย เป็นเฟืองสองตัวที่ขบกัน ใช้สำหรับส่งกำลังจากเพลาหนึ่งไปยังอีกเพลาหนึ่ง มุมระหว่างเพลาทำมุมกันที่ 90 องศา
4. เฟืองเฉียง (Helical Gears)มีลักษณะคล้ายเฟืองตรง แต่ลักษณะแนวของฟันเฟืองจะไม่ขนานกับเพลาแต่จะทำมุมเฉียง โดยอาจะเอียงไปด้านซ้ายหรือด้านขวาขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานหรือการออกแบบของผู้ผลิต ในการใช้งานเฟืองเฉียงจะใช้เป็นคู่ ฟันเฟืองหนึ่งจะเอียงไปทางซ้ายและอีกฟันเฟืองหนึ่งจะเอียงไปทางขวาในมุมที่เท่ากัน จุดเด่นของเฟืองเฉียงคือสามารถรับ Load ได้มากกว่าเฟืองตรงที่มีขนาดเท่ากัน การที่ฟันเฟืองมีลักษณะเอียงจึงทำให้ความยาวของฟันเฟืองยาวกว่าและพื้นที่หน้าสัมผัสของฟันมีมากกว่าเฟืองตรง เสียงในขณะทำงานของเฟืองเฉียงจะเงียบกว่าเฟืองตรง เนื่องจากการขบกันของเฟืองจะกระทำอย่างนิ่มนวลกว่า เพราะมุมที่เฉียงของฟันเฟืองทำให้เกิดการเหลื่อม (Overlap) กันของฟันเฟืองขณะหมุน
5. เฟืองเฉียงก้างปลา (Herringbone Gears)เฟืองก้างปลาถูกพัฒนามาจากเฟืองเฉียง มีลักษณะของฟันเฟืองที่เฉียงเข้าหากันในมุมที่เท่ากัน ทำให้ช่วยลดแรงรุน (Trust) ด้านข้างขณะทำงานได้ซึ่งแรงรุนจะมีค่าเท่ากับศูนย์ เฟืองก้างปลาขณะทำงานจะมีเสียงเงียบ สามารถรับ Load ได้มากกว่าเฟืองตรง ขณะทำงานเกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่าเฟืองตรง ข้อดีของเฟืองชนิดก้างปลาคือ เฟืองจะเลื่อนออกจากกันไม่ได้ 6. เฟืองวงแหวน (Internal Gears)จะมีลักษณะคล้ายเฟืองตรงคือมีลักษณะเป็นวงกลมแต่ฟันเฟืองจะอยู่ด้านในของวงกลม มีเฟืองคู่กันขนาดเล็กกว่าขบกันอยู่ด้านใน โดยปกติของเฟืองวงแหวนแล้วเฟืองตัวเล็ก (Pinion Gear) ที่อยู่ด้านในจะทำหน้าที่เป็นตัวขับ เช่น เป็นเฟืองสำหรับปั๊มน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ โดยที่เฟืองตัวเล็กที่อยู่ภายในเป็นตัวขับส่วนตัวใหญ่จะหมุนในลักษณะการเยื้องศูนย์เพื่อดูดน้ำมันเครื่องส่งไปใช้งาน 7. เฟืองสะพาน (Rack Gears)ในหนึ่งชุดของเฟืองสะพานจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นเฟืองขับลักษณะเป็นวงกลม และ ส่วนที่เป็นเฟืองสะพานมีลักษณะเป็นแท่งยาวตรง โดยฟันเฟืองทั้ง 2 ส่วนวางขบกันอยู่ การทำงานของเฟืองสะพานคือ จะใช้ในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ จากการเคลื่อนที่แบบหมุนหรือเชิงมุมให้เป็นการเคลื่อนที่แบบเส้นตรงหรือแบบกลับไปกลับมา เฟืองสะพานถูกนำไปใช้งานในการส่งถ่ายกำลังในเครื่องจักรกล การส่งถ่ายกำลังในระบบบังคับเลี้ยวของรถยนต์ ใช้กับเครื่องพิมพ์หรือเครื่อง Plot ขนาดใหญ่ หรือใช้ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ใช้ในเครื่องกลึงยันศูนย์ที่ช่วยให้แท่นเลื่อนเคลื่อนที่ ซ้าย-ขวา หรือใช้ในเครื่องเจาะเพื่อเคลื่อนเพลาเครื่องเจาะให้ขึ้น-ลงได้นั่นเอง
8. เฟืองตรง (Spur Gears)เป็นเฟืองที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากสามารถหาซื้อได้ง่าย มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงและง่ายในการประกอบ ไม่มีแรงรุน (Trust) ที่เกิดขึ้นในแนวแกน (No Axial Force) ในขณะที่ทำงาน และหน้ากว้างของเฟืองตรงสามารถเพิ่มได้เพื่อให้เกิดผิวสัมผัสที่มากขึ้น จะช่วยลดการสึกหรอให้น้อยลงได้ เฟืองตรงเป็นเฟืองที่มีโครงสร้างง่ายไม่สลับซับซ้อน มีลักษณะเฉพาะคือฟันของเฟืองจะเป็นแนวขนานไปกับรูเพลา มักถูกนำมาใช้ในระบบส่งกำลัง
🤔 วิธีการผลิตเฟืองเป็นแบบไหนกัน?การผลิตเฟืองมีกรรมวิธีในการผลิตที่หลากหลายรูปแบบ เช่น การปั๊มขึ้นรูป การทำโมลด์พลาสติก การหล่อ การตัดเลเซอร์และการแปรรูปด้วยเครื่องจักร เป็นต้น ซึ่งการที่ผู้ผลิตจะผลิตเฟืองเพื่อใช้ในด้านอุตสาหกรรมจำเป็นต้องคำนึงถึงชนิดของเฟือง จำนวนที่ผลิตและต้นทุนที่ใช้ในการผลิตเฟือง เพื่อให้เกิดการใช้งานที่คุ้มค่าและประหยัดมากที่สุด
องค์ประกอบนการเลือกวัสดุเพื่อผลิตเฟืองมีดังนี้
|