เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือได้เยอะๆ เป็นทักษะที่เจ้าของธุรกิจ และคนที่อยากประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมี มันคือการลงทุนราคาถูกที่อาจนำมาซึ่งผลตอบแทนมากมายไม่มีสิ้นสุด ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอาจทำงานมามากกว่า 20 ปี เพียงเพื่อทำการวิจัยอะไรบางอย่าง บางคนก็ทุ่มทั้งชีวิตให้กับการหาคำตอบของคำถามเพียงคำถามเดียว แล้วกลั่นออกมาเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม

และนี่ก็คือเหตุผลว่า ทำไมการอ่านหนังสือถึงช่วยให้คุณฉลาดขึ้น ก้าวหน้าขึ้น และสุขภาพดีขึ้น แถมดีกว่าการอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอสิกส์ (E-book)

1. หนังสือเป็นแหล่งช่วยพัฒนาความเข้าใจและความจำ

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีงานวิจัยมากมายที่เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียระหว่างการอ่านหนังสือเป็นเล่มกับการอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ ชี้ว่า “การอ่านจากหน้าจอส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลักษณะการอ่านแบบอ่านคร่าวๆ หาเฉพาะคีย์เวิร์ด และอ่านแค่เพียงรอบเดียวเท่านั้น” เป็นผลทำให้ความเข้าใจในตัวเนื้อหาลดน้อยลงและได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนเท่าที่ควร

การอ่านเนื้อหาจากหนังสือต่างหาก ที่ให้ผลดีกับคุณที่สุด งานวิจัย ชี้ว่า “การอ่านหนังสือเป็นเล่มจะส่งผลให้เนื้อหาที่อ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำได้ดีกว่าอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” หากคุณอยากทำความเข้าใจและได้รับข้อมูลความรู้แบบมากที่สุด คุณก็ควรหาอ่านหนังสือแบบเป็นเล่มๆ

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

2. การอ่านหนังสือช่วยในเรื่องสุขภาพตาและการนอนหลับ

อีกหนึ่งข้อดีของการอ่านหนังสือเป็นเล่ม แทนที่จะอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ มันดีต่อสุขภาพของคุณ งานวิจัย จากฮาร์วาร์ด พบว่า “แสงสีฟ้า (blue light) ที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้”

แสงสีฟ้าเป็นแสงที่จะไปยับยั้งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งส่งผลต่อนาฬิกาชีวิตและจะเพิ่มความตื่นตัวให้ตัวคุณในช่วงเวลาที่คุณไม่ควรตื่นตัว นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า “การได้รับแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ก็ตามก่อนนอนเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากอิทธิพลของมันจะมาทำลายระบบการหลับและการตื่นของร่างกาย ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการพักผ่อนของคุณอย่างถาวรเลย”

กลับมาสู่โลกความเป็นจริงกันเถอะ เราควรรู้จัก “พักวาง” อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ บ้างในแต่ละวัน และการอ่านหนังสือจริงๆสักเล่ม อาจช่วยให้คุณละออกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รอบตัวคุณได้บ้าง

3. การอ่านหนังสือให้ความรู้สึกถึงความคืบหน้า

ลองคิดถึงครั้งสุดท้ายที่คุณอ่านหนังสือสำคัญๆ สักเล่มดูสิ คุณจำได้ไหมว่า คุณรู้สึกภูมิใจแค่ไหนตอนที่คุณกำลังพลิกหน้าสุดท้ายของเล่ม?

ข้อดีทางจิตวิทยาข้อหนึ่งจากการอ่านหนังสือก็คือ การที่เรา รู้สึกคืบหน้า และภูมิใจในขณะที่กำลังเปลี่ยนหน้านั่นเอง คุณจะเห็นหนังสือฝั่งซ้ายค่อยๆหนาขึ้น ในขณะที่ฝั่งขวาก็เริ่มบางลง คุณจะรู้สึกว่าคุณมีความคืบหน้า ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกดีมากๆ เพราะมันคือประสบการณ์และการผจญภัยอย่างหนึ่ง

มันไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกภาคภูมิใจเท่านั้น แต่หนังสือจะเป็นเหมือนตัวแทน การเดินทางของสติปัญญา ของคุณ ที่คุณสามารถตั้งไว้ที่ออฟฟิศหรือบ้านเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณสนใจอะไร สิ่งที่เราวางไว้บนชั้นหนังสือหรือโต๊ะหนังสือคือสิ่งที่แสดงถึงลักษณะนิสัยของเรา เราพูดถึงมัน เรามองดูมัน  เราอ้างถึงมัน มันทำให้ผู้คนรู้จักเข้าใจเรามากขึ้น และในหลายๆ ครั้ง ก็เป็นหัวข้อในการเริ่มบทสนทนาที่ดีทีเดียว

Source : Entrepreneur

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            จริง ๆ แล้วหนังสือก็เปรียบเสมือนปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตเรา เพราะถือเป็นอาหารสมองที่จะช่วยบำรุงความรู้ และประเทืองปัญญาให้เราได้เป็นอย่างดี แต่พอได้เห็นสถิติการอ่านหนังสือของคนไทยแล้วก็ต้องถอนหายใจดังเฮ้อ ก็ตัวเลขสถิติที่ออกมามันช่างน้อยแสนน้อยเสียจนน่าใจหาย วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเสนอ 10 ข้อดีของการอ่านมาให้ได้รู้กัน เผื่อจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยอยากอ่านหนังสือกันมากขึ้นค่ะ

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
1.กระตุ้นการทำงานของสมอง

            สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องการการออกกำลัง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอ และจากการวิจัยทางการแพทย์ก็พบว่า การอ่านหนังสืออยู่เสมอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และกระตุ้นกระบวนการคิด ทำให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ และโรคความจำเสื่อม เพราะการใช้สมองคิดตามสิ่งที่อ่าน จะทำให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอดนั่นเอง

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
2.ลดความเครียด

            ไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของสมอง แต่การอ่านหนังสือยังมีข้อดีที่น่าสนใจอย่างช่วยลดความเครียดได้ด้วย โดยนักจิตวิทยาได้แนะนำว่า การอ่านหนังสือนิยาย หรือหนังสือที่เราชอบในช่วงเวลาที่มีความเครียดจากงาน หรือสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวัน จะทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายไปได้ เพราะเมื่อเรามีสมาธิในการอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ เราก็จะลืมเลือนเรื่องที่กำลังกังวล หรือเรื่องที่กำลังเครียดอยู่โดยอัตโนมัติ เผลอ ๆ ข้อคิด หรือมุมมองดี ๆ ที่ได้จากหนังสือ ก็อาจจะช่วยให้เรื่องที่กำลังเครียดอยู่กลายเป็นเรื่องสิว ๆ ไปเลยก็ได้

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
3.ให้ความรู้

            แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือ เราก็จะได้ความรู้ หรือข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมา และไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เสมอไป หนังสือนิยายรักหวานแหว หรือหนังสือการ์ตูน ก็สามารถให้อะไรกับเราได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้ความบันเทิงกับเราล่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหนังสือประเภทไหน ก็หยิบมาอ่านเถอะค่ะ รับรองว่ายังไงก็ได้ประโยชน์แน่นอน

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
4.ได้สำนวนภาษา

            หากลองสังเกตดี ๆ จะรู้ว่า การอ่านหนังสือนั้นช่วยให้เราได้เรียนรู้สำนวนภาษา คำศัพท์ วิธีการพูดอย่างสละสลวย นุ่มนวล ยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศ หรือหนังสือแปล เราก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ และสำนวนใหม่ ๆ ไม่รู้จักจบสิ้น ไม่เชื่อลองสังเกตสำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียนของคนที่ชอบอ่านหนังสือดูก็ได้ แล้วจะได้เห็นความแตกต่าง ว่าเขาสามารถพูดจา และเขียนหนังสือได้อย่างไม่สะดุด อ่านก็ลื่นตา ฟังก็ลื่นหู เห็นได้ชัดว่ายิ่งอ่าน ก็ยิ่งได้ประโยชน์ดี ๆ ต่อตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อเลยเนอะ

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
5.ช่วยกระตุ้นความจำ

            เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมอง สมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมอง ที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูล และเรียกใช้ได้อย่างทันทีเมื่อจำเป็น ดังนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือมาก สมองก็จะได้ทำงาน เก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลใหม่ เพื่อให้เราสามารถจำอะไรได้ดีขึ้น เราจึงสามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างดี ไม่มีลืม

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
6.บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์

            ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำ หรือมีปมที่ต้องคิดตาม สมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้น ๆ และหาทางออกด้วยตัวเอง เช่นกันกับเวลาที่ได้ดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน เราก็จะพยายามคลำหาคำตอบอยู่ในใจไปพร้อม ๆ กับเนื้อเรื่อง ซึ่งก็จะทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ของเราได้ทำงาน บริหารตัวเองอยู่ตลอด เรียกได้ว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนยิ่งได้ลับสมองให้เฉียบแหลมยังไงยังงั้นเลยล่ะ

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
7.ฝึกสมาธิ

            หากอยากได้สมาธิ หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกาย ก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิ แล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะเวลาที่เราเพ่งความสนใจไปยังหนังสือ ก็จะได้เพ่งสมาธิและสมองไปด้วย ทำให้เรามีสมาธิทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ถึงขนาดที่ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่า ให้อ่านหนังสือก่อนทำงาน หรือเรียนสัก 15-20 นาที เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสมองและร่างกายให้พร้อมทำงาน และเรียนหนังสือเลยทีเดียว

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
8.พัฒนาทักษะการเขียน

            เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคน แม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตาม จะต้องมีนักเขียนในดวงใจ ที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียน และสำนวนของเขาเหลือเกิน ซึ่งสิ่งนี้และที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะทางด้านการเขียนให้เรา และยิ่งถ้าได้อ่านบ่อย ๆ ก็จะได้ทั้งคำศัพท์และสำนวนภาษาที่เขาใช้เขียนหนังสือกัน ไม่แน่ว่าสักวันคุณก็อาจจะได้เป็นนักเขียนฝีมือดีคนหนึ่งเลยก็ได้นะ

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
9.ให้ความสงบ

            ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า นอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้ว การอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วย โดยหากอ่านหนังสือแนวปรัชญาหรือหนังสือที่ให้แนวคิด จะช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ หรือถ้าอ่านหนังสือประเภทฮาวทู (self-help books) ก็จะช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติ และบางทีก็สามารถช่วยชี้ทางสว่างให้ปัญหาที่มืดแปดด้านได้ด้วย

             

เราได้อะไรจากการอ่านหนังสือ
10.ให้ความบันเทิง

            ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่ จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ไอเดียดี ๆ ทักษะภาษา หรือแม้แต่หนังสือภาพการ์ตูนที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลย ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้น หากวัน ๆ หนึ่งคุณไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไร ก็ลองหาหนังสือที่คิดว่าน่าสนใจ หรือเริ่มอ่านข้อความบนถุงกระดาษ หรือบนฉลากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันก่อนก็ได้ค่ะ

            อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าทุกคนพอจะรู้ประโยชน์และข้อดีของการอ่านหนังสือกันอยู่แล้ว แต่ที่ติดกันอยู่นี่ก็คงเป็นความขี้เกียจ หรือบางคนก็มีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำ แต่นับจากนี้ต่อไป อยากให้ลองอ่านหนังสือกันให้มากขึ้น แล้วคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเองอย่างคาดไม่ถึง อะไรที่ไม่เคยได้รู้ก็ได้รู้ สถานที่ไม่เคยได้ไปก็จะได้เห็น มาเปิดโลกกว้างไปกับหนังสือดีกว่านะคะ