ขอลดดอกเบี้ยบ้านต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

ท่านสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์เพื่อขอใช้บริการเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารไทยพาณิชย์ได้โดย คลิกดาวน์โหลดที่นี่

เมื่อท่านกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว กรุณาจัดส่งแบบฟอร์ม พร้อมเอกสารประกอบต่าง ๆ (ตามที่ระบุในแบบฟอร์ม) มาที่อีเมล : [email protected] โดยแบบฟอร์มดังกล่าวสามารถใช้กับคำขอใช้บริการดังนี้

  • ขอสำเนาโฉนด, สำเนาสัญญาเงินกู้, หนังสือรับรองยอดหนี้, Statement, หนังสืออนุญาตรังวัด
  • ขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระเงิน/ขอเปลี่ยนแปลงวันชำระเงิน
  • ขอเปลี่ยนแปลงบริษัทประกัน
  • ขอปิดบัญชียอดหนี้เป็นศูนย์ (ไถ่ถอนหลักประกัน)
  • ขอปิดบัญชีเพื่อขายต่อหลักประกัน
  • ขอปิดบัญชีเพื่อ Refinance ไปสถาบันการเงินอื่น
  • ขอเปลี่ยนแปลงผู้กู้
  • ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขอปรับลดอัตราการผ่อนชำระ

กรณีท่านไม่สะดวกส่งแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ทางอีเมล ท่านสามารถส่งแบบฟอร์มและเอกสารประกอบต่างๆ ให้ธนาคารผ่านช่องทางเหล่านี้

มนุษย์เงินเดือนหลายคนมักได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์” อยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยไม่เข้าใจว่าคืออะไร และหากฟันธงว่าเป็นวิธีการที่ทำให้ได้ดอกเบี้ยบ้านถูกลงได้หรือไม่ ความสงสัยเหล่านี้จะหายไป เมื่อได้รู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่ารีไฟแนนซ์ รวมถึงวิธีการจัดการรีไฟแนนซ์บ้านอย่างเป็นระบบ

รีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึง การขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ โดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง และช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลงและผ่อนบ้านให้หมดเร็วไวยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เรากู้เงินซื้อบ้านหลังละ 3 ล้าน พอผ่อนไปได้ 1-2 ปีแรกดอกเบี้ยจะถูกอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเกิดปัญหาดอกเบี้ยลอยตัวแพงขึ้น ทำให้เราผ่อนไม่ทัน ซึ่งทางออกก็ คือ “การรีไฟแนนซ์บ้าน” กับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ ซึ่งจะมีเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดีกว่าเดิม ด้วยการผ่อนต่อเดือนถูกลง ยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานขึ้น

*ข้อควรจำ โดยเราจะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ต่อเมื่อหมดสัญญากับธนาคารแห่งแรกที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านไว้ไปแล้ว ซึ่งมักจะกำหนดให้สัญญามีอายุ 3 ปี


รีไฟแนนซ์บ้านต้องรอให้ครบ 3 ปีจริงหรือไม่?

โดยปกติแล้ว สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนควรพิจารณาก่อนทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ คือ สัญญาที่ทำการขอกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิมนั้นต้องหมดอายุลงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดอยู่ที่ 3 ปี แต่กรณีที่ผู้กู้ต้องการขอรีไฟแนนซ์บ้านก่อนหมดอายุสัญญาสามารถทำได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนดและถูกระบุไว้ในสัญญา ดังนั้นทางที่ดีควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขของสัญญาการกู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน 

รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี

เชื่อหรือไม่ว่าคำถามรีไฟแนนซ์ที่ไหนดี? ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน เพราะนอกจากจะต้องพิจารณารายละเอียดของสินเชื่อบ้านใหม่แล้ว ยังต้องคำนวณเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารเป็นสำคัญ

ดังนั้นก่อนอื่นมนุษย์เงินเดือน ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปัจจัยของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณซื้อบ้าน ความสบายใจต่อบริการ ไปจนถึงดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านที่ดีคือนอกจากจะต้องมีดอกเบี้ยบ้านในอัตราที่ต่ำแล้ว ยังต้องพิจารณาโปรโมชัน และความสะดวกในการติดต่อทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ด้วย ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีหลักเกณฑ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องแตกต่างกันออกไป ดังตารางด้านล่างนี้

ธนาคารดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกวงเงินอนุมัติสูงสุดเงื่อนไขกรุงศรีรีไฟแนนซ์2.75%95%หลักประกัน สำหรับที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไปสินเชื่อบ้านสุขสันต์ ธอส.MRR -1.00%
(กรณีลูกค้าสวัสดิการ) MRR -0.50%
(กรณีลูกค้ารายย่อย) วงเงินกู้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดหลักประกัน สำหรับที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปกสิกรไทย รีไฟแนนซ์ SupersaveMRR-1.50%100%สำหรับสัญญาที่ 1 และราคาที่อยู่อาศัยน้อยกว่า 10 ล้านบาท

หมายเหตุ: รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไรบ้าง

ในการรีไฟแนนซ์บ้านที่แท้จริงแล้วมนุษย์เงินเดือนต้องให้ความสำคัญกับสองสิ่งหลักที่ส่งผลโดยนั่นคือ “ดอกเบี้ย” และ “ระยะเวลาการผ่อน”

ตัวแปรสำคัญสำหรับการกู้ ไม่ว่าจะเป็นการกู้อะไรก็ตาม โดยดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์นั้นจำเป็นจะต้องต่ำกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ ให้มนุษย์เงินเดือนสามารถผ่อนบ้านของตัวเองได้อย่างราบรื่น

อีกประเด็นสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการรีไฟแนนซ์บ้านในบางครั้งจะส่งผลให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบดอกเบี้ย จากดอกเบี้ยแบบ MRR (Minimum Retail Rate) หรือดอกเบี้ยลอยตัว มีการเปลี่ยนแปลงได้ มาเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถจ่ายเงินได้ในอัตราที่น้อยลงกว่าเดิมในระยะยาว เพราะดอกเบี้ยประเภทนี้จะไม่ได้รับผลกระทบหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ภายในประเทศ

ระยะเวลาการผ่อน

เรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะระบบรีไฟแนนซ์จะเข้ามาช่วยจะทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถยืดเวลาการผ่อนชำระหนี้เดิมออกไปได้นานขึ้น พร้อมทั้งทำให้ค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนถูกลง ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถควบคุมการใช้เงินได้

สำหรับคนที่ต้องการคำนวณสินเชื่อของตัวเองก่อน หรือดำเนินการคำนวณล่วงหน้าว่าเราต้องผ่อนกับธนาคารไหนแบบไหนดี ซึ่งสามารถใช้เครื่องคำนวณเงินกู้ของแสนสิริโดยตรงได้เลย ซึ่งจะรองรับธนาคารต่างๆ มากมาย ตอบสนองทุกรูปแบบสินเชื่อบ้าน

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์บ้าน

1. เอกสารประจำตัวบุคคล

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส (ถ้ามี)

2. เอกสารทางการเงิน

สำหรับบุคคลที่มีรายได้ประจำ (มีเงินเดือน)

  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • หนังสือรับรองการทำงาน
  • สำเนารับรองการหักภาษี (50 ทวิ)

สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว

  • สำเนารับรองการจดทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
  • สำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ.30

3. เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน

  • สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน
  • สำเนาสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด.13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
  • สำเนาสัญญากู้จากธนาคารเดิม
  • สำเนาสัญญาจำนองที่ดิน
  • สำเนาใบเสร็จแสดงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบ้าน

*กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือมีการเปลี่ยนชื่อสกุล ต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น เอกสารประจำตัวบุคคลและใบเปลี่ยนชื่อเตรียมมาเช่นกัน และสำหรับใครที่กู้ซื้อบ้านครั้งแรกสามารถอ่านรายละเอียดเอกสารเพิ่มเติมได้ที่ กู้บ้านผ่านฉลุย เมื่อเตรียมเอกสารกู้บ้านพร้อม

วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นสามารถทำได้ง่ายมากเพราะมีรายได้ประจำ หากเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้วสามารถขอดำเนินการได้เลย โดยวิธีการรีไฟแนนซ์บ้านมีเพียงสั้นๆ 5 ข้อเท่านั้น คือ

  1. ตรวจสอบสัญญาเดิม

    ทั้งรายละเอียดสัญญา เงินผ่อนที่เหลือ อัตราส่วนดอกเบี้ยและระยะเวลาเพื่อทำให้เรามั่นใจว่าการรีไฟแนนซ์ในครั้งนี้จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแน่นอน
  2. เลือกธนาคารใหม่

     โดยอ้างอิงจากปัจจัยหลักสองข้อคือดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อน หากคำนวณดูแล้วมีความคุ้มค่ามากกว่าจริง ให้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เลย
  3. เตรียมเอกสาร

     รายชื่อเอกสารสามารถอ้างอิงได้จากการเตรียมเอกสารการรีไฟแนนซ์ข้างต้น
  4. ยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่ต้องการ

     ซึ่งหากเอกสารมีความพร้อม การดำเนินการทั้งหมดจะดำเนินการได้ในเวลาไม่นาน
  5. ทำสัญญา

     โดยไม่ลืมที่จะดูรายละเอียดสัญญาใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สนใจอยากมีบ้านและคอนโด โดยไม่ต้องรอให้มีการรีไฟแนนซ์ สามารถจบปรึกษาปัญหาด้านการเงินได้ที่ Sansiri Home Financial Planner หรือพบกับข้อเสนอพิเศษที่ทำให้สามารถควบคุมการเงินในยามเศรษฐกิจเช่นนี้ได้ด้วย แสนสิริมีโปรโมชันดีๆ อย่าง โปรโมชันบ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่ มากมายที่ร่วมรายการ รีบคว้า ก่อนจะพลาดโอกาส!

ลดดอกเบี้ย ธอส ใช้เอกสารอะไรบ้าง

การขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคาร ธอส..
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน.
สำเนาทะเบียนบ้าน.
สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน.
Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (ปั๊มโลโก้ธนาคาร และมีลายเซ็นพนักงานกำกับ).
หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ.
สำเนาใบเปลี่ยน ชื่อ – สกุล (ถ้ามี).
สำเนาทะเบียนสมรส, บัตรประชาชนคู่สมรส, ทะเบียนบ้านคู่สมรส (ถ้ามี).

ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธอส ได้กี่ปี

ลูกค้ารายย่อยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระได้ หลังจากผ่อนชำระครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยต้องมีประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมออย่างน้อย 24 เดือน และไม่อยู่ระหว่างประนอมหนี้ ลูกค้าสวัสดิการ สามารถขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยได้หลังจากครบกำหนดการใช้ดอกเบี้ยปีที่ 2.

Retention บ้าน ธอส ใช้เอกสารอะไรบ้าง

2.1 เตรียมเอกสารในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน.
หลักฐานการเป็นเจ้าของบ้าน เช่น สำเนาใบคำขอเลขหมายบ้าน เป็นต้น.
สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน.
สำเนาโฉนดที่ดิน / น.ส.3ก. / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า.
ใบเสร็จประวัติการผ่อนชำระย้อนหลัง 12 เดือน.
สำเนาสัญญากู้เงิน / สัญญาจำนอง.

ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธอส ทำได้กี่ครั้ง

1. Retention ได้ดอก 4.25% สมมุติ ทำ retention 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ปี 2. Refinance 2 ครั้ง เข้า กรุงไทย แบบไม่ฟรีจดจำนอง ครั้งถัดไปรีเข้าที่อื่น