ทํา content youtube อะไร ดี

เมื่อคิดจะทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร  YouTube ถือเป็นตัวเลือกที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เพราะเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่เติบโตไวที่สุด และมีผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน และถ้าอยากให้ช่อง YouTube ของคุณมียอดผู้ติดตามและยอดคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ลองสำรวจดูว่าได้ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้แล้วหรือยัง

 

1.ทำคอนเทนต์ให้ความรู้วัยทำงาน

จากผลสำรวจพบว่า เหตุผลหลักที่ทำให้คนกด Subscribe ช่อง YouTube มากที่สุด เป็นเพราะช่องนั้นมีคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ตรงกับอาชีพการงานของพวกเขานั่นเอง ซึ่งถ้ากลุ่มเป้าหมายคือคนวัยทำงาน การทำคอนเทนต์ในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มยอด Subscribe ให้แก่ช่องที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักได้เป็นอย่างดี

 

2.คอนเทนต์ตรงกับงานอดิเรกที่คนดูชอบ

หากช่องของแบรนด์คุณไม่ตอบโจทย์ข้อแรก ลองพลิกแพลงว่าจะทำคอนเทนต์ให้เกี่ยวข้องกับงานอดิเรกของผู้ชมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ก็อาจจะทำคอนเทนต์ DIY เสื้อผ้าเก่าให้ดูเหมือนชุดใหม่ด้วยลูกเล่นใหม่ ๆ เป็นต้น ซึ่งหากทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้เต็มที่แบบไม่มีกั๊ก ก็จะยิ่งได้ใจคนดู และเพิ่มโอกาสในการกดติดตามช่องของคุณได้มากขึ้น

 

3.ทำคลิปที่น่าสนใจ สื่อสารสองทาง

หลายคนเลือกเข้ามาดูคลิปต่าง ๆ ในยูทูบ เพื่อความบันเทิง คลายความตึงเครียดจาการทำงานหากคุณต้องการทำคลิปที่สร้างความบันเทิง ก็ต้องรู้ว่าคนดูของคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร เพื่อทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจและดึงดูดใจได้มากพอ รวมถึงทำให้คนดูอยากมีส่วนร่วมเข้ามากดไลก์ หรือเขียนข้อความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยให้มีคนมากด Subscribe ช่องของคุณมากขึ้น

 

4.รู้ใจคนดู

“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ยังเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอยู่เสมอ การรู้ใจผู้ชมว่าชอบอะไรและอยากดูอะไร เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการทำให้ช่อง YouTube ของคุณได้รับความนิยมมากขึ้น และเพิ่มยอดติดตามให้มากขึ้น จึงต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายที่อยากดึงมาเป็นลูกค้า เพื่อทำคอนเทนต์ให้โดนใจ รวมถึงต้องเช็กฟีดแบ็กด้วยว่า คลิปแบบใดที่ได้ผลตอบรับดี  เพื่อจะได้นำมาใช้กับคลิปอื่น ๆ

 

5.นำบทความที่ได้รับความนิยมมาทำคลิป

หากบทความใดของคุณที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียได้รับความสนใจ ให้ลองนำบทความนั้นมาปรับเปลี่ยนเป็นคลิปวิดีโอเพื่อลงในช่อง YouTube ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะเนื้อหานั้นมีคุณภาพและคนต้องการดูอยู่แล้ว แค่เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอใหม่ในรูปแบบของวิดีโอ

 

6.อย่าลืมทำ SEO เป็นอันขาด

ถ้าพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์ ก็ต้องพูดถึง SEO เพื่อให้คนดูเห็นคลิปวิดีโอที่คุณโพสต์ใน YouTube จึงต้องให้ความสำคัญกับการใส่คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ดให้ครอบคลุม ทั้งชื่อคลิป และคำอธิบายใต้คลิป รวมถึงวิดีโอของคุณก็ต้องมีคำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นอยู่ในคลิปด้วย

 

7.ใช้เครื่องมือหาคำค้นหาที่เหมาะสม

คีย์เวิร์ดที่ดีเปรียบเสมือนช้างเผือกในป่าใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่จะมีชุดคำในหัวไม่มากนัก

เคล็ดลับคือใช้เครื่องมือในการค้นหาคีย์เวิร์ด เพื่อหาคำที่มีคนค้นหาจำนวนมาก แต่มีการแข่งขันต่ำหรือมีคนใช้ไม่มากนัก เพื่อนำคีย์เวิร์ดนั้นมาใช้กับคอนเทนต์ของคุณ

 

8.ดึงให้คนดูคลิปได้ตลอดรอดฝั่ง

Watch Time หรือระยะเวลาที่คนดูคลิปคือสิ่งที่ YouTube ให้ความสำคัญมากที่สุดในการจัดอันดับคลิป ยิ่งดูคลิปนาน ก็ทำให้อัลกอริธึมของ YouTube เข้าใจว่าเป็นคลิปคุณภาพดี  และควรสำรวจฟีดแบ็กของผู้ชมกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วยว่าเหมาะกับวิดีโอสั้นหรือยาวมากกว่ากัน เพื่อจะได้กำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม และดึงให้คนดูเนื้อหาจนกระทั่งจบคลิป ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จในการทำ YouTube ให้ประสบความสำเร็จ

บทความแรกที่ผมเขียนเรื่อง Youtube Strategy 101 ให้การตลาดวันละตอน โดยจะเป็นเกี่ยวกับการอ่านดาต้าหน้าบ้าน (ก่อนทำคลิป) และหลังบ้าน (หลังทำคลิป) ของ Youtube หรือ Youtube Studio นั่นเอง รวมถึงดาต้าอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำคลิป 

ผมคงไม่ต้องเกริ่นถึงยูทูปให้มากความแล้วว่ายูทูปคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ แล้วหากเราทำคอนเทนต์เป็นวิดีโอออกมาแล้ว Publish ขึ้นยูทูป เราควรคิดอะไร ทำอะไรก่อนหลัง เพื่อทำให้คอนเทนต์วิดีโอที่เราทำออกมานั้นไปถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดีที่สุด 

ก่อนทำวีดีโอคอนเทนต์ควรคิดเรื่องอะไร 

1.คิดชื่อคลิปก่อนทำคลิป  

หลายคนบอกคุณจะบ้าเหรอ ตั้งชื่อคลิปก่อนทำคลิป 

จริงๆแล้วคือมันเป็นเบสิกของ Youtube Strategy 101 เลยครับในการดูดาต้าก่อนทำคลิปหล่ะครับว่าควรทำคอนเทนต์อะไร แบบไหน อยู่ในกระแสหรือไม่ คีย์เวิร์ดที่เราเอามาตั้งชื่อคลิป มีคนค้นหรือไม่ ง่ายๆ คือสำรวจตลาดก่อนว่าคีย์เวิร์ดที่คุณจะทำ หรือคลิปที่คุณจะทำ ชื่อที่จะตั้ง มันมีคนค้นหรือไม่ 

อย่าลืมว่า Behavior คนดู Youtube อันดับ 1 คือค้นจากชื่อคลิป เมื่อคนเจอคลิป และกดดูคลิป (ดูจบเพราะวีดีโอดี) ก็จะเกิด Engagement กดไลก์ กดแชร์ ซึ่งจะส่งผลให้คลิปคุณติด Suggested Videos หลังจากนั้นวิวมันก็จะไหลมามาเทมา

เห็นไหมครับว่าการตั้งชื่อคลิปนั้นส่งผลแค่ไหน 

ทีนี้เราจะหาว่าควรเอาอะไรมาตั้งชื่อ ควรเล่นคอนเทนต์อะไรเพื่อให้คนดูคนเห็นและไวรัล หากคุณเป็นสายคอนเทนต์ หรือสายจับกระแส สิ่งที่ช่วยคุณได้คือ Google Trends, Search Trends ครับ ทั้งในส่วนของ Google Search Trends, Youtube Explore, Social Monitoring (Wisesight, Mandala) เลย แล้วดูได้ในแต่ละหมวดว่าคุณอยากทำคอนเทนต์แนวไหน ควรตั้งชื่ออะไรซึ่งจะแบ่งออกเป็นหมวด 

  • Trending (Now,Music,Gaming,Movies)
  • Music 
  • Gaming
  • News
  • Sports 

ได้หลักการแล้วก็ตั้งชื่อ อย่าลืมว่าวิธีการอ่านชื่อคลิปของระบบ จะอ่านจากซ้ายไปขวาของชื่อคลิป ฉะนั้นพยายามใส่คีย์เวิร์ดที่คนค้นหาเยอะๆ ไว้ลำดับแรกๆ นะครับ เพราะชื่อคลิปนันจะใส่ได้ไม่เกิน 100 คำ เท่านั้น

2.การทำคลิป 

หลังจากได้ชื่อคลิป หรือได้คอนเซปต์ในการทำคลิปแล้วเข้ามาสู่ขั้นตอนของการทำคลิปเสียที ทีนี้ก็แล้วแต่ว่า Message หรือข้อความที่คุณต้องการส่งออกไปให้กลุ่มเป้าหมายคืออะไร 

ส่วนความสนุกของคลิป ความน่าดูของคลิป จะส่งผลอย่างยิ่งต่อรายได้ของคุณ เพราะเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่คนดูคลิปคุณแล้วดูไม่จบ ออกก่อนจบ หรือกดปิดไป อันนี้จะส่งผลต่อยอดวิวและยอดรายได้ของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราจะสามารถดูได้จาก Youtube Studio เช่นกัน

3.การทำ Cover Page หรือ ปกคลิป

การทำ Cover Page หรือปกคลิปนั้น มีความสำคัญพอๆ กับตั้งชื่อคลิปเลยครับ หลักการง่ายๆ เลยก็คือ คอนเทนต์ในคลิปต้องตรงปก ความหมายคืออะไร ความหมายคือ “ปก” ต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ว่าเมื่อเขากดเข้าไปดูคลิปแล้วเขาจะเจออย่างที่คาดหวังจากปกหรือไม่  หากคอนเทนต์ตรงกับปก ก็จะช่วยทำให้ CTR สูง (Click Through Rate) 

ถ้าถามผมว่าแล้ว CTR แค่ไหนถึงเรียกว่าดี ผมตอบได้เลยว่าหากคุณทำได้เกิน 5% ก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้วครับ 

4.คำอธิบายคลิป

หลังจาก Q3 ของปี 2021 เป็นต้นมา Youtube ให้ความสำคัญกับคำอธิบายคลิปมากขึ้น หมายความว่าหากเนื้อที่ตรงช่องใส่ชื่อคลิปยาวไม่พอ ให้เรามาใส่คีย์เวิร์ดในช่องคำอธิบายคลิปเพิ่มเติมได้ ซึ่งในช่องอธิบายคลิปนี้สามารถใส่ได้สูงสุดถึง 5,000 คำเลยทีเดียว ซึ่งโดยส่วนมากตรงนี้จะใส่เป็นสคริป หรือไม่ก็ใส่เป็นพวก Longtail Keyword

5.แท็ก

ปีนี้เป็นอีกปีที่ยูทูปปรับให้แท็กมีความสำคัญและมองเรื่องการสแปมเป็นหัวข้อหลักเลย เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ผมแนะนำให้ใส่แท็กที่ตรงกับคลิป เป็นคำสั้นๆ ที่ใส่ในตรงชื่อคลิปไม่พอ ช่องนี้ใส่ได้ 500 คำ 

6.การใส่ End Credit (Upsell User) 

อย่าลืมใส่ลิงก์เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัววิดีโอที่เราลงในตอนท้ายด้วย เพื่อให้คนที่เข้ามาดู มากด Subscribe กดไลก์ กดแชร์ คลิปของเราสามารถเข้าไปดูวิดีโออื่นๆ ของเราที่ตรงกับความสนใจของเขาได้ จะได้เป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดวิวในคลิปอื่นๆ ได้ด้วย

อย่าลืมให้ความสำคัญกับหลัก 4R 

และอย่าลืมใช้หลัก 4R ในการทำวีดีโอด้วย เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ Youtube ให้ความสำคัญมากๆ 

  • Rais – VDO ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น มีการนำเสนอแหล่ง้อมูลทีน่าเชื่อถือ
  • Reduce – การเผยแพร่ VDO  ที่มีเนื้อหาเสี่งต่อการละเมิด
  • Remove – VDO ทีมีเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์
  • Reward – VDO ที่เป็นไปตามมาตรฐานการสร้างรายได้ 

เอาง่ายๆ ก็คืออย่าลืมอ่าน Community Standard แล้วทำตามอย่างเคร่งครัดนะครับ

Youtube ใช้ในการพิจารณาว่า VDO นี้มีประสิทธิภาพ

ทีนี้เรามาดูหลักเกณฑ์กันว่า ที่ Youtube ใช้ในการพิจารณา VDO ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่เขามองอะไรเป็นสำคัญ 

1.การคลิก และ ยอดการดู  

ความหมายคือ ชื่อและภาพต้องไม่เป็นคลิกเบต (คือทำปกหลอกๆ ตั้งชื่อคลิปหลอก) ที่ผมบอกไปตอนต้นไงว่า คอนเทนต์ต้องตรงปก 

2.ระยะเวลาในการรับชม 

คนใช้เวลามากขึ้นในการดูเนื้อหาที่ตัวเองชอบ อธิบายคือ คลิปคุณต้องน่าสนใจ คนใช้เวลาในการดูนานพอสมควรหากคนดูคลิปคุณจนจบ มั่นใจได้เลยว่าคลิปคุณคือคลิปที่มีประสิทธิภาพมากๆ แน่ๆ 

3.เวลาที่ผู้ชมดู

อันนี้ก็บ่งบอกอยู่แล้ว เช่น คลิปแบบเดียวกัน คลิปยาวเท่ากันคือห้านาที คนดูหนึ่งนาที กับคนดูสี่นาที หรือเกือบจบ มันก็บ่งบอกคุณภาพวีดีโอของคุณอยู่แล้ว 

4.การกด Like vs Dislike 

ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าปีนี้ยูทูปให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ แต่เท่าที่ดูสถิติหลังบ้านมา เออจริงแฮะ สิ่งนี้จะไปสะท้อนข้อ 1,3  

เคสจากข้อ 1 คือคุณทำปกปลอม ชื่อคลิปตั้งหลอกๆ คนกดมาดูแล้วไม่ตรงปก ไม่ตรงชื่อคลิป คนก็กด  Dislike ส่วนเคสจากข้อ 3 คนเผลอกดเข้าไปแล้วดู 3 วินาที ไม่ชอบใจก็กด Dislike 

พูดง่ายๆคือ Youtube เอากฏ Social Sanction มาใช้นั่นเอง ความหมายคือคลิปไหนที่ผิดกฏก็ต้องโดนกดรีพอร์ตนั่นเอง 

5.Share

บอกเลยครับว่าอันนี้คือพระเจ้าเลยนะ เพราะการแชร์คือการบ่งบอกว่าคลิปคุณประสบผลสำเร็จมากจน หรือทำให้คนชอบมากจนเอาไปแชร์ต่อ ซึ่งการที่คนจะแชร์คลิปได้นั้นส่วนใหญ่ก็จะมี Journey คล้ายๆ กันคือ 

ค้นคลิป >> เจอคลิป >> เห็นชื่อคลิป >> ปกคลิปน่าสนใจ >> กดเข้าไปดู >> ดูจนจบแล้วประทับใจ >> กด แชร์คลิปเพื่อส่งต่อความประทับใจ 

6.สถานที่ที่ผู้ชมดู 

ในข้อนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเอามาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาได้อย่างไร อาจจะเกี่ยวกับโลเคชันในการค้น เช่น อยู่ทะเล ภูเขา ที่ท่องเที่ยวน่าจะแสดงคอนเทนต์ที่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่คนดูค้นข้อมูลอยู่นั่นเอง

7.ความคิดเห็นที่ระบุว่า “ไม่สนใจ” 

ความหมายก็คือ ในช่องคอมเมนต์ของยูทูปคลิปนั้นๆ หากมีคำว่า ไม่สนใจมากๆ ยูทูปก็จะมองว่า VDO นี้ไม่มีประสิทธิภาพ จริงๆ ผมว่าคลิปจะตายจริงๆ ตายตั้งแต่กด Dislike แล้วครับ 

สรุป

ผมขอสรุปโดยย่อเรื่อง Youtube Strategy 101 ในส่วนของการทำคลิป Youtube ดังนี้ 

  1. Title: ชื่อคลิป สำคัญมากๆเน้นใส่คีย์เวิร์ดที่บ่งบอกวีดีโอนี้ว่าผู้ชมจะได้รับข้อมูลอะไร
  2. Description: คำอธิบายคลิป สำคัญมากๆ คือ 2-3 ประโยคแรก และควรใส่ไม่น้อยกว่า 200 คำ
  3. Tag: หลัง Q3 ปี 2021 เป็นต้นมา Youtube ให้ความสำคัญสิ่งนี้ประมาณ 1-2% แต่ผมยังมองว่ายังมีความสำคัญพอสมควร 
  4. Cover Page: ปกคลิปต้องตอบโจทย์ว่าข้างในวีดีโอจะมีอะไรแล้วต้องสอกคล้องกับชื่อคลิป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ Youtube Strategy 101 ที่ผมได้นำเสนอไปในวันนี้ นี่แค่ในส่วนของดาต้าทีเราควรรู้ก่อนทำยูทูปก็เยอะแล้ว แต่หากคุณอยากไปถึงล้านวิว ล้านซับ คุณต้องมีความรู้เหล่านี้ติดตัวไว้ 

บทความหน้าจะมาพูดถึงความสำคัญของการอ่านดาต้าหลังบ้านของ Youtube แล้วก็บอกว่ามีตัวชี้วัดหรือ Metric อะไรบ้างที่สำคัญกับการติดอันดับใน Youtube ทั้งแง่การเพิ่มรายได้ และเพิ่มผู้ชม (Increase Revenue and Increase Audience)

ทำยังไงให้มีคนดูยูทูป

วิธีเพิ่มยอดผู้ติดตามบนยูทูปผ่านการแชร์ลิงก์ลง Facebook. สำหรับการโพสลงในช่องทาง Facebook ทั้งทาง Facebook Page หรือ Facebook ส่วนตัว เป็นการช่วยให้คนได้เห็นคลิปหรือช่องยูทูปของเราได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรโพสโดยการแนบลิงก์ของคลิปเรา และเพิ่มเติมด้วยคำเชิญชวนให้กดเข้ามาดูและติดตามด้วย

คนชอบดูอะไรบนยูทูป

เวลาในการชมวิดีโอเกี่ยวกับการเงินเพิ่มขึ้น 70% เวลาในการชมวิดีโอเฮฮา ขำขัน เพิ่มขึ้น 90% เวลาในการชมวิดีโอเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 40% มีการค้นหาเกี่ยวกับการทำอาหารบน YouTube เพิ่มขึ้น 80%

ยูทูปคิดส์ เสียเงินไหม

YouTube Kids มีโฆษณาสนับสนุนแบบจำกัดเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อเลือกวิดีโอในแอป บุตรหลานอาจเห็นส่วนเกริ่นนำโฆษณาตามด้วยโฆษณาวิดีโอ (ที่มีเครื่องหมายกำกับว่าเป็น "โฆษณา") ก่อนวิดีโอที่เลือกจะเริ่มเล่น โฆษณาเหล่านี้เป็นโฆษณาแบบชำระเงิน ("โฆษณาจากสปอนเซอร์") โดยเราจะแสดงเฉพาะโฆษณาจากสปอนเซอร์ที่ได้ ...

คอนเทนต์ วิดีโอ มีอะไรบ้าง

Video Content คือ คอนเทนต์วิดีโอบอกเล่าเนื้อหาผ่านรูปแบบคลิปวิดีโอ หรือภาพเคลื่อนไหว เช่น Vlog, LIVE สด, คลิปรีวิว, การนำเสนอวิดีโอต่าง ๆ เพื่ออธิบาย สร้างแบรนด์ รวมทั้งโปรโมทโฆษณาแบรนด์ธุรกิจผ่านรูปแบบวิดีโอเคลื่อนไหวนั้นเอง