สาย fiber optic แบบ single mode และ multimode ต่างกันอย่างไร

Fiber Connector มีกี่ประเภท

    Fiber Connector คือหัวที่ใช้สำหรับต่อสายไฟเบอร์ออฟติกที่อยู่ปลาย ใช้เพื่อต่อสายไฟเบอร์ออฟติกต่อเข้ากับอุปกรณ์ โดยทั่วไปตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์สามารถแบ่งได้ตามมาตรฐานที่แตกต่างกัน เช่น ความนิยม วิธีการส่ง สื่อส่ง ความยาวบูต เราจะมาดูกันว่า Fiber Connector มีกี่ประเภท แต่ละประเภทใช้งานอย่างไร มีความแตกต่างกันอย่างไร

1. LC Connector

    LC Connector คือ หนึ่งในตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์ออปติกที่ใช้กันทั่วไปในการเชื่อมต่อระหว่างไฟเบอร์ออปติก LC มีปลอกโลหะ 1.25 มม. มีลักษณะที่เล็กมากทำให้ได้รับความนิยมในการใช้งานเพราะมีความหนาแน่นสูง ในปัจจุบัน LC Connector เป็นตัวที่ใช้กันมากที่สุด

2. SC Connector

    SC ย่อมาจาก Square Connector เนื่องจากลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ตัวเชื่อมต่อชนิดนี้เป็นตัวเชื่อมต่อตัวแรกที่ได้รับเลือกสำหรับมาตรฐาน TIA-568 เป็นหัวที่ได้รับความนิยมมากเพราะเป็นหัวแบบถอดเข้าถอดออกได้ ซึ่งมีปลอกโลหะขนาด 2.5 มม. มีขนาดเป็นสองเท่าของขั้วต่อ LC เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อ Fiber Optic ภายในอาคารสำนักงาน ซึ่งเครือข่าย LAN

3. MTP/MPO Fiber Connector

    MTP/MPO Fiber Connector ตัวเชื่อมต่อ MPO ย่อมาจาก Multi-fiber Push On เป็นตัวเชื่อมต่อออปติคัลชนิดหนึ่งที่เป็นตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์หลายตัว มีขนาดใหญ่กว่าตัวเชื่อมต่ออื่น ๆ ซึ่งรวมไฟเบอร์จาก 12 ถึง 24 เส้นใยไว้ในปลอกโลหะสี่เหลี่ยม มักใช้ในการเชื่อมต่อแบบขนานแบบออปติคัลแบนด์วิดท์สูง 40G และ 100G ได้รับมาตรฐานภายใน IEC 61754-7 และ TIA 604-5 ส่วนใหญ่จะใช้ในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงศูนย์ข้อมูลองค์กรและในศูนย์ข้อมูลคลาวด์

 4.ST Connector

    ST ย่อมาจาก Straight Tip มีปลอกโลหะขนาด 2.5 มม. รับน้ำหนักด้วยสปริงเซรามิก เป็นตัวที่ถูกนำมาใช้งานสำหรับสาย Fiber Optic ชนิด Single Mode และ Multimode มากที่สุด มักใช้ในแอปพลิเคชันทั้งทางไกลและระยะสั้น

5.FC Connector

    FC ย่อมาจาก Ferrule Connector เป็นตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์ FC เป็นตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์ออปติกตัวแรกที่ใช้ปลอกโลหะเซรามิก ต่างจากขั้วต่อ SC และ LC ที่เป็นพลาสติก โดยจะใช้ตัวยึดแบบสกรูกลมที่ทำจากเหล็กชุบนิกเกิลหรือสแตนเลส การใช้งานจะต้องขันเกลียวเพื่อยึดติดกับหัวปรับ ได้รับการออกแบบโดย NTT ของญี่ปุ่น ทำให้ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น รวมทั้งสหรัฐและยุโรป ปัจจุบันมีการใช้งานน้อยลงเนื่องจากมีแบบ SC และ LC

          ตัวเชื่อมที่กล่าวมาเป็นตัวเชื่อมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกันตามรูปด้านล่าง

 

สาย fiber optic แบบ single mode และ multimode ต่างกันอย่างไร

ตัวเชื่อมรุ่นเก่า 

1.MT-RJ Connector

    MT-RJ Connector ขั้วต่อชนิดนี้ใช้สำหรับการจัดตแหน่งซึ่งมีความแม่นยำ ใช้งานผ่านหมุดโลหะและปลอกโลหะพลาสติก

2.MU Connector

    MU Connector จะเหมือนกับแบบ SC มีปลอกโลหะ 1.25 มม. มีขนาดเล็กกะทัดรัดใช้สำหรับขั้วต่อออปติคัล

3.DIN Connector

    DIN Connector เป็นวงกลมและมีหมุดเรียงกันเป็นวงกลม ประกอบด้วยสายเคเบิลหลายประเภทที่เสียบเข้ากับอินเทอร์เฟซ โดยทั่วไปแล้วตัวเชื่อม DIN จะมี Pin ถึง 14 พินที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 13.2 มม. ใช้สำหรับคีย์บอร์ด PC, เครื่องมือ MIDI และอุปกรณ์พิเศษอื่นๆ

E2000 Connector

    E2000 Connector เป็นกลไกการเชื่อมต่อแบบผลัก-ดึง ใช้เพื่อความปลอดภัยสูงและการใช้งานที่มีกำลังสูง

ตัวเชื่อมแบบ Simplex Fiber Connector กับ DuplexFiber Connector ต่างกันอย่างไร

สาย fiber optic แบบ single mode และ multimode ต่างกันอย่างไร

    การเขื่อมต่อแบบ Simplex สัญญาณจะถูกส่งผ่านจากอุปกรณ์ A ไปยังอุปกรณ์ B ซึ่งไม่สามารถส่งคืนจากอุปกรณ์ B ไปยังอุปกรณ์ A ผ่านเส้นทางเดียวกันได้ การเขื่อมต่อแบบ Duplex สามารถส่งไปกลับและแก้ไขได้ ตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์แบบ Simplex กจะเชื่อมต่อกับเส้นใยแก้วหรือเส้นใยพลาสติกหนึ่งเส้น แต่ตัวเชื่อมต่อ Duplex จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเส้นใยสองเส้น

การเชื่อมต่อแบบ Single Mode กับ Multimode ต่างกันอย่างไร

    แบบ Single Mode อนุญาตให้แสงเดียวเท่านั้นที่จะผ่านแต่ละครั้ง แต่ Multimode จะส่งได้มาก ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ตัวเชื่อมต่อเช่น SC, LC และ FC  สามารถเข้ากันได้กับสายเคเบิลไฟเบอร์ทั้งแบบ Single Mode และ Multimode

ตัวเชื่อมต่อแบบ Standard Boot และ Short Boot

สาย fiber optic แบบ single mode และ multimode ต่างกันอย่างไร

    ความยาวของ Boot มีทั้งแบบ Standard Boot และ Short Boot แบบ Standard Boot สามารถป้องกันสายและขั้วต่อไม่ให้เสียหาย ไม่ให้หลุดจากตัวต่อ แบบ Short Boot จะมีฟังก์ชั่นที่เหมือนกันแต่ขนาดจะสั้นกว่า ซึ่งในการใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละสถานที่

APC/PC/UPC Fiber Optic Connectors

    ขั้วต่อไฟเบอร์ที่มีประเภทขัดต่างกันมีการสะท้อนกลับกัน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีมี 4 ประเภทขัดผิว ได้แก่ พื้นผิวเรียบ Physical Contact (PC), Ultra Contact Physical (UPC) และ Angular Physical Contact (APC)

Field-terminatedFiber Connectors และ Pre-terminated Fiber Connectors


Fibers with Field Terminated Connectors Fibers with Factory Terminated Connectors
PROS Cable Length Flexibility & Precision
Easy Cable Routing
Standard Procedure
Factory Polish Quality
Minimum Possible Insertion Loss
Always Passes Testing
CONS Time Consuming
Requires a Kit
Quality Depends on Skill and Components
Consumes Materials
Can Fail Testing and Must be Redone
Must-Know Lengths Exactly
Can be Too Bulky for Cable Tracks

ขอขอบคุณ

ที่มา https://community.fs.com/blog/four-types-connectors-of-fiber-optic-patch-cable.html

แปลภาษาและแก้ไขโดย : PBA Supply

อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างสายใยแก้วนำแสงแบบ Multimode และสายแบบ Single

สายเคเบิลจะถูกใช้เพื่อแยกประเภทระหว่าง Multi-Mode และ Single-Mode ตามคำแนะนำของสมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม มาตรฐาน TIA-598C (เฉพาะสายภายในอาคาร Indoor cable) Single-Mode จะใช้เปลือกนอก(Jacket) เป็นสีเหลือง Multi-Mode จะใช้เปลือกนอก(Jacket) อยู่หลายสีตามแต่ละประเภท หรือชนิดดังนี้ - OM1 จะใช้สี ส้ม

Mode ของการส่งสัญญาณด้วย Fiber Optic มีอะไรบ้าง

ตอบ : แบ่ง Fiber optic ออกเป็น 2 ประเภท คือ Single mode จะมีขนาด Core (แก้วแกนกลางที่ใช้ส่งสัญญาณแสง) คือ 9/125 µm (OS2) Multimode จะมีขนาด Core คือ 62.5/125 µm (OM1) , 50/125 µm (OM2) , 50/125 µm XG (OM3) , 50/125 µm (OM4) 3. Marking ของสาย Fiber optic จะเขียนว่า 50/125 ตัวเลข 50 และ125 คืออะไร

มาตรฐานใดใช้กับสาย Fiber Optic แบบ Multimode

OM1, OM2 และ OM3 เป็นมาตรฐานของเส้นใยแก้วนำแสงชนิด Multimode ซึ่งถูกกำหนดขึ้นตามมาตรฐาน ISO/IEC 11801 โดยคุณสมบัติที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของมาตรฐานทั้ง 3 แบบ ก็คือ ค่าความกว้างของช่องสัญญาณ (Bandwidth) และค่าการสูญเสียของสาย (Attenuation) โดยมาตรฐาน ISO/IEC 11801 ได้มีการกำหนดมาตรฐานความกว้างของช่องสัญญาณ และมาตรฐาน ...

ข้อใดคือความยาวคลื่นแสงในโหมด Multimode

Multimode สามารถส่งดาต้าผ่านแสงที่ความยาวคลื่น 850nm และ1300nm โดยที่นิยมใช้มีขนาด core/cladding 2 ขนาดคือ 50/125um และ 62.5/125um. Singlemode สามารถส่งดาต่าผ่านแสงที่ความยาวคลื่น 1310nm, 1490nm และ 1550nm โดยที่นิยมใช้มีขนาด core/cladding คือ 9/125um.