นอกจาก ร้านอาหาร จะต้องจดทะเบียนพาณิชย์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ต้องมีคือ ใบอนุญาต ซึ่งใบอนุญาตก็จะมีข้อกำหนด Show
และรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป แล้วเพราะอะไรทำไมใบอนุญาตถึงสำคัญต่อธุรกิจ ร้านอาหาร ถ้าไม่มีใบอนุญาตจะเกิดอะไรขึ้น บทความนี้มีคำตอบ เลือกหัวข้ออ่าน
ทำไมต้องขอใบอนุญาต ?การเปิดร้านอาหาร หรือ ขายอาหาร ในทางกฎหมาย ถือเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยละแวกใกล้ ๆ ดังนั้น จึงมีการออกกฎหมายมาว่า “ผู้ใดที่จะจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร หรือสถานที่สะสมอาหาร ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน” โดยต้องทำหนังสือรับรองการแจ้ง หรือ ขอรับใบอนุญาต สถานที่จำหน่ายอาหาร และ สถานที่สะสมอาหาร คืออะไรก่อนจะเข้าเรื่อง เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สถานที่จำหน่ายอาหาร และ สถานที่สะสมอาหารคืออะไร สถานที่จำหน่ายอาหารสถานที่จำหน่ายอาหาร เป็นสถานที่ในการปรุงอาหารและจำหน่ายอาหาร สามารถซื้อแล้วทานได้ทันที หรือนำกลับไปทานในสถานที่อื่น ๆ ได้ สถานที่จำหน่ายอาหาร ได้แก่ ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านข้าวราดแกง, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ศูนย์อาหาร, โรงอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารอิตาเลี่ยน หรือที่ขึ้นชื่อว่า ร้านอาหาร รวมถึงแผงลอยที่จำหน่ายอาหารในพื้นที่เอกชน ซึ่งที่กล่าวมา ยังต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติท้องถิ่นและกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหารอีกด้วย สถานที่สะสมอาหารสถานที่สะสมอาหาร คือ สถานที่จัดเก็บอาหารที่มีทั้งของสด ของแห้ง หรือในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อผู้ซื้อจะได้นำไปประกอบอาหาร, เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร, หรือเก็บไว้บริโภคในภายหลัง เช่น ร้านสะดวกซื้อ, มินิมาร์ท, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายของชำ เป็นต้น อีกทั้ง สถานที่สะสมอาหาร จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด รวมถึงควบคุมโรคโควิด-19 และโรคอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย เมื่อคุณเข้าใจความหมายของสถานที่จำหน่ายอาหาร และ สถานที่สะสมอาหารแล้ว หากคุณเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหาร และเป็นผู้ประกอบการ นอกจากจะต้องทำการจดทะเบียนพาณิชย์แล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือ การทำหนังสือรับรองการแจ้ง หรือ ขอใบอนุญาต ทั้งนี้ การขอใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหารนั้น จะแบ่งตามพื้นที่ประกอบกิจการของคุณ พื้นที่ประกอบกิจการของคุณพื้นที่ประกอบกิจการ ไม่เกิน 200 ตารางเมตร หากพื้นที่ประกอบกิจการของคุณ ไม่เกิน 200 ตารางเมตร คุณต้องยื่นเรื่องขอรับ “หนังสือรับรองการแจ้ง” (ใบอนุญาตร้านอาหาร/ใบอนุญาตขายอาหาร) มีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท พื้นที่ประกอบกิจการเกิน 200 ตารางเมตรขึ้นไป หากพื้นที่ประกอบกิจการของคุณเกิน 200 ตารางเมตรขึ้นไป คุณต้องยื่นเรื่องขอรับ “ใบอนุญาต” (ใบอนุญาตร้านอาหาร/ใบอนุญาตขายอาหาร) มีค่าธรรมเนียม 3,000 บาท หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ด้วยค่ะ หากพื้นที่ประกอบกิจการของคุณไม่เกิน 10 ตารางเมตร ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 200 บาทค่ะ ใครบ้างที่สามารถยื่นคำขอใบอนุญาตได้
แต่การยื่นคำขอในรูปของบุคคลธรรมดา ผู้ประกอบการต้องมีการจดทะเบียนพาณิชย์ก่อน โดยระบุวัตถุประสงค์ของการจดทะเบียนพาณิชย์ว่า “เป็นการประกอบกิจการร้านอาหารหรือจำหน่ายอาหาร” ที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ก่อน เพราะว่าในการจะขอใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารและสะสมอาหาร จำเป็นต้องใช้สำเนาทะเบียนพาณิชย์ร่วมด้วย สำหรับการยื่นคำขอในรูปของนิติบุคคล ผู้ประกอบการต้องระบุวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับการจำหน่ายอาหาร หรือธุรกิจร้านอาหารในหนังสือรับรองนิติบุคคล เอกสารที่ต้องเตรียม สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้ง
หมายเหตุ หากมีสำเนาใบวุฒิบัตรผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารของกรุงเทพมหานคร หรือ ใบอนุญาตจากส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีโปรดนำมาด้วยนะคะ สถานที่การยื่นคำขอใบอนุญาต หรือ ขอหนังสือรับรองการแจ้ง
ขั้นตอนการขอใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้งเมื่อคุณทราบแล้วว่า ธุรกิจร้านอาหารของคุณ มีพื้นที่เท่าใด และต้องยื่นแบบไหน โดยขั้นตอนการขอใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้งมี ดังนี้
หมายเหตุ หากเลย 15 วัน คุณไม่มารับใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้ง และไม่ชำระค่าธรรมเนียมตามเวลาที่กำหนด จะถูกยกเลิกทันที ใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองมีอายุกี่ปี ?มีอายุ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่เจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาต และให้ใช้ในเขตนั้น ๆ หากเปิดธุรกิจร้านอาหาร โดยไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองอย่างถูกต้อง จะเกิดอะไรขึ้น ?
หมายเหตุ หากฝ่าฝืนข้อบัญญัติท้องถิ่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หากฝ่าฝืนกฎกระทรวง ปรับไม่เกิน 50,000 บาท การต่อใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้งการต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร สามารถยื่นคำขอต่อ (แบบ สอ.5) ได้เลยค่ะ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมแล้ว คุณก็สามารถประกอบกิจการต่อได้เลย ส่วนหนังสือรับรองการแจ้ง ไม่ต้องยื่นคำขอต่ออายุรายปีค่ะ แต่ต้องชำระค่าธรรมเนียมทุกปี ถ้าไม่มีการต่อใบอนุญาต หรือ หนังสือรับรองการแจ้ง จะเกิดอะไรขึ้น?หากคุณไม่ได้ยื่นเรื่องขอเลิกการดำเนินกิจการต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นอย่างถูกต้อง คุณปล่อยให้ใบอนุญาตหมดอายุ หรือคุณต้องการจะต่อใบอนุญาต แต่ชำระในช่วงที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว คุณจะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 20 ของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ หากใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองแจ้งหายทำอย่างไร ?หากสูญหาย, ถูกทำลาย, หรือชำรุด ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่สำนักเขตนั้น ๆ เพื่อขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุด หากต้องการแก้ไขรายการในใบอนุญาตร้านอาหารทำอย่างไร ?สามารถยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแก้ไขรายการในใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการได้เลยค่ะ READ ทำไมผู้ประกอบการร้านอาหาร ควรจดทะเบียนการค้า ? ใบอนุญาตอื่น ๆ ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารควรรู้นอกจากการขอใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหารแล้ว หากร้านอาหารของคุณเข้าข่ายตามที่ได้กล่าวไว้ด้านล่างนี้ คุณก็ต้องขอใบอนุญาตเพิ่มด้วย มิเช่นนั้น คุณอาจจะโดนจำคุก เสียค่าปรับได้ค่ะ ร้านอาหารมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ
หมายเหตุ ต้องยื่นเรื่องขอก่อนนะคะ ถึงจะจำหน่ายได้ แต่ถ้าคุณจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต หรือใบอนุญาตไม่ตรงตามที่แจ้งไว้ โดนปรับไม่เกิน 5,000 บาท ร้านอาหารมีการเต้นบนเวที, แสดงดนตรีสด, ตลก หรือเข้าข่ายสถานบันเทิงในกรณีนี้ คุณต้องยื่นเรื่อง 2 อย่าง คือ ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และ ขออนุญาตตั้งสถานบริการ ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ขออนุญาตตั้งสถานบริการ
ร้านอาหารมีการเปิดเพลงหรือถ่ายทอดสดถ้าร้านอาหารเปิดเพลงที่ติดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเปิดจากแผ่นบันทึกเสียง หรืออินเทอร์เน็ต คุณจำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน โดยอัตราค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับเจ้าของลิขสิทธิ์กำหนดค่ะ ร้านอาหารมีป้ายหน้าร้านหากคุณมีจุดประสงค์ เพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดป้ายหน้าร้าน หรือการโฆษณาร้านอาหารตามตึก มีป้ายไฟ ก็ต้องเสียภาษีป้ายค่ะ ร้านอาหารมีปริมาณอาหารหรือเครื่องดื่มจำนวนมาก และรบกวนผู้อื่น หรือส่งกลิ่นเหม็นคุณต้องขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วัตถุดิบใดบ้างที่มีปริมาณมาก ๆ ต้องขออนุญาตปลาร้า, แหนม, น้ำปลา, หอยดอง, น้ำบูดู, ไตปลา, น้ำพริกแกง, ซีอี๊ว, น้ำจิ้ม, ซอสปรุงรสต่าง ๆ, เส้นหมี่, ก๋วยเตี๋ยว, เต้าหู้, เนย, เนยเทียม, กาแฟทุกรูปแบบ, น้ำส้มสายชู, ไวน์, ข้าวหมาก, น้ำแข็ง (รวมถึงการขนส่งด้วย), น้ำอัดลม, น้ำกลั่น, ขนมปังแห้ง, ขนมปังสด, ใบชาแห้ง, ใบชาผง ร้านอาหารมีก๊าซหุงต้มไว้ครอบครอง
พื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการธุรกิจพลังงาน ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานพลังงานจังหวัด หมายเหตุ หากธุรกิจของคุณมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยนะคะ ที่สำนักงานสรรพากร แท็กที่เกี่ยวข้อง
|