ข้อใดคือรูปไอคอนของ google site

คุณและผู้ใช้จะต้องแปลงเว็บไซต์ใน Sites แบบคลาสสิกเป็นเว็บไซต์แบบใหม่ภายในวันที่ 30 มกราคม 2023 จากนั้น ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2023 เป็นต้นไป ระบบจะแปลงเว็บไซต์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อ การเปลี่ยนจาก Sites แบบคลาสสิกเป็น Sites แบบใหม่.

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถแมป URL กับเว็บไซต์ใน Google Sites และ Sites แบบคลาสสิกเพื่อสร้างที่อยู่เว็บไซต์สั้นๆ และจำง่ายสำหรับเว็บไซต์สาธารณะของคุณ โดยสามารถสร้างที่อยู่เว็บไซต์ที่กำหนดเองได้สูงสุด 2,000 เว็บไซต์ด้วยบัญชี Google Workspace 

ข้อควรพิจารณาเมื่อทำการแมป URL

  • ผู้ใช้ที่มีบัญชีทดลองใช้หรือบัญชีที่มีสถานะทดลองใช้จะแมปเว็บไซต์กับ URL ไม่ได้
  • ใน Sites แบบใหม่ การแมปที่อยู่เว็บจะมีใบรับรอง SSL ที่มีการตรวจสอบโดเมนแล้วให้โดยอัตโนมัติเพื่อการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย และคุณจะใช้ใบรับรองอื่นไม่ได้
  • คุณไม่สามารถแมปเว็บไซต์กับ URL ที่อยู่ภายใต้ชื่อโดเมนอื่นใน Sites แบบใหม่ได้
  • หากมีการแชร์เว็บไซต์กับภายนอกองค์กร ผู้คนจะเห็นเพียง URL ที่แมปแล้วเท่านั้น ในกรณีที่แชร์เว็บไซต์กับผู้ใช้บางคนหรือแชร์เฉพาะกับองค์กร ทุกคนจะเห็น URL เดิม เช่น sites.google.com/example.com/yoursitename แทนที่จะเห็น URL ที่แมปแล้ว โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าตัวเลือกการแชร์ Google Sites

ขั้นตอนที่ 1: เปิดการสร้างเว็บไซต์ให้ผู้ใช้

ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น: หากต้องการแมป URL กับโดเมนรอง เจ้าของเว็บไซต์ต้องใช้โดเมนรองสำหรับอีเมล หากเจ้าของใช้โดเมนอื่น คุณต้องสร้างบัญชีสำหรับผู้ใช้ในโดเมนรองแล้วโอนความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ไปยังบัญชีใหม่ จากนั้นผู้ใช้ในโดเมนรองต้องทําซ้ําเว็บไซต์ (เพื่อเปลี่ยนเส้นทางของเว็บไซต์ไปยังโดเมนรอง) และเผยแพร่เว็บไซต์ที่ทำซ้ํา

Google ค้นหาเว็บไซต์ที่จะเพิ่มลงในดัชนีโดยอัตโนมัติ ปกติแล้วคุณไม่จําเป็นต้องดำเนินการใดๆ ยกเว้นโพสต์เว็บไซต์ของตนเองบนเว็บ แต่บางครั้งเว็บไซต์อาจไม่แสดง โปรดตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณอยู่ใน Google หรือไม่ และดูวิธีทำให้ผู้คนเห็นเนื้อหาของคุณมากขึ้นใน Google Search

มาดูตัวอย่างคำถามพื้นฐานให้คุณลองคิดเกี่ยวกับเว็บไซต์ของตัวเองเมื่อเริ่มต้นใช้งาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเริ่มต้นใช้งานได้ในคู่มือ SEO สำหรับมือใหม่

เว็บไซต์ของคุณปรากฏใน Google ไหม

หากต้องการดูว่ามีการหน้าเว็บของคุณอยู่แล้วหรือไม่ ให้ค้นหาเว็บไซต์ใน Google Search โดยใช้คำค้นหาดังนี้ แทน example.com ด้วยเว็บไซต์ของคุณเอง

site:example.com
โอเปอเรเตอร์ site: ไม่จำเป็นต้องแสดง URL ทั้งหมดที่จัดทำดัชนีไว้ภายใต้คำนำหน้าที่ระบุในคำค้นหา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอเปอเรเตอร์ site:

แม้ว่า Google จะรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บหลายพันล้านหน้า แต่ก็เป็นไปได้ที่จะไม่พบเว็บไซต์บางแห่ง โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเราอาจข้ามบางเว็บไซต์ไป ซึ่งมักจะเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  • เว็บไซต์ไม่ได้ลิงก์กับเว็บไซต์อื่นๆ ในอินเทอร์เน็ต ดูว่าคุณจะทำให้เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณได้หรือไม่ (แต่โปรดอย่าจ่ายเงินเพื่อให้ลิงก์มาหาคุณเพราะอาจถือเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของ Google)
  • คุณเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่และ Google ยังไม่ได้ Google อาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์กว่าจะพบเว็บไซต์ใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ที่มีอยู่
  • การออกแบบเว็บไซต์ทำให้ Google รวบรวมข้อมูลเนื้อหาของเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพได้ยาก หากเว็บไซต์สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีเฉพาะอื่นๆ ที่ไม่ใช่ HTML ทั่วไป Google อาจประสบปัญหาในการรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์อย่างถูกต้อง อย่าลืมใช้ข้อความด้วย ไม่ใช่เพียงรูปภาพหรือวิดีโอในเว็บไซต์
  • Google ได้รับข้อผิดพลาดขณะพยายามรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ของคุณ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเข้าสู่ระบบ หรือเว็บไซต์บล็อก Google ด้วยเหตุผลบางประการ โปรดตรวจสอบว่าคุณเข้าถึงเว็บไซต์ได้ในหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตน
  • Google ข้ามเว็บไซต์ไป: แม้ว่า Google จะรวบรวมข้อมูลจากหน้าเว็บนับพันล้านหน้า แต่ก็เป็นไปได้ที่อาจจะพลาดเว็บไซต์บางแห่งไปโดยเฉพาะเว็บไซต์ขนาดเล็ก โปรดรอสักระยะหนึ่งและพยายามให้เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์มาหาเว็บไซต์ของคุณ

    ถ้าอยากลอง ก็อาจเพิ่มเว็บไซต์ใน Search Console เพื่อดูว่ามีข้อผิดพลาดที่อาจทําให้ Google ไม่เข้าใจเว็บไซต์หรือไม่ หรืออาจส่ง URL ที่สําคัญที่สุดมาให้เราเพื่อบอกให้เรารู้ว่าควรรวบรวมข้อมูลและจัดทําดัชนี URL ดังกล่าว

ทำตาม Google Search Essentials เพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของเว็บไซต์เพื่อให้ปรากฏใน Google

คุณแสดงเนื้อหาคุณภาพสูงแก่ผู้ใช้หรือไม่

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณคือการดูแลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ คิดถึงสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีเอกลักษณ์ มีคุณค่า หรือน่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณประเมินเนื้อหาได้ ให้ตอบคําถามการประเมินตนเองในคู่มือเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ น่าเชื่อถือ และคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก และอ่านเกี่ยวกับการจัดการเว็บไซต์โดยใช้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะกับ Google ได้ที่ Search Essentials

ธุรกิจในพื้นที่ของคุณปรากฏใน Google ไหม

Business Profile ช่วยให้คุณจัดการลักษณะการแสดงข้อมูลธุรกิจใน Google รวมถึง Search และ Maps ลองพิจารณาการอ้าง Business Profile

เนื้อหาของคุณเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็วบนอุปกรณ์ทุกประเภทไหม

ปัจจุบันผู้คนค้นหาด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นส่วนใหญ่ ควรเพิ่มประสิทธิภาพให้โหลดเนื้อหาได้เร็วและแสดงเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมในหน้าจอทุกขนาด ทดสอบว่าหน้าเว็บเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือไม่

เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยไหม

ผู้ใช้สมัยใหม่คาดหวังประสบการณ์ออนไลน์ที่ปลอดภัย จึงควรรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อเว็บไซต์ด้วย HTTPS

คุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมไหม

SEO (ผู้ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา) คือผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณและเพิ่มระดับการเข้าถึงในเครื่องมือค้นหาได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลและวิธีว่าจ้าง SEO