ปัญหาความขัดแย้งเรื่องเพศในข้อใด

We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.

Show

You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.

Thank you!

View updated privacy policy

We've encountered a problem, please try again.

ข้อสอบปรนัย4ตัวเลือก จำนวน20ข้อ

1)ข้อใดพึงปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยมากที่สุด เมื่อนักเรียนถูกคนรักชวนไปเอาสมุดงานที่ลืมไว้ที่หอพักช่วงหลังเลิกเรียน

ก.ปฏิเสธ “พรุ่งนี้เธอหยิบมาให้ก็แล้วกัน วันนี้เรามีการบ้านที่ต้องรีบทำ”

ข.ตอบรับ “ได้ แต่เราไม่ขึ้นไป จะรออยู่ข้างล่างหอพักนะ”

ค.ปฏิเสธ “วันนี้เราไปไม่ได้ เอาไว้พรุ่งนี้นะ เราจะไป”

ง.ตอบรับ “ได้ แต่เราขอชวนเพื่อนไปด้วยคนนะ”

2)สถานการณ์ต่อไปนี้อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งได้ ยกเว้นข้อใด

ก.เอและบีเป็นเพื่อนกัน แอบชอบผู้ชายคนเดียวกัน

ข.ก้อยขอลอกการบ้านแก้ม แต่แก้มไม่ให้ลอก

ค.ดาวไม่ต่อว่าเดือนให้เพื่อนคนอื่นฟัง

ง.เอ๋กับแอ๋มไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน

3)ข้อใดเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ที่ดีที่สุดของวัยรุ่นในวัยเรียน

ก.ไม่อยู่ตามลำพังในที่ลับตากับเพศตรงข้ามสองต่อสอง

ค.ไม่ไปไหนกับแฟนเลย เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ

ง.ไม่หมกมุ่นหรือดูสื่อลามกต่างๆ

4)การสร้างสัมพันธภาพในข้อใดที่ใช้เวลายาวนานที่สุด

5)สิ่งที่เกิดขึ้นจากการสร้างสัมพันธภาพที่ดีคืออะไร

6)บุคคลวัยใดที่ควรมองเห็นความสำคัญของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพมากที่สุด

7)สถาบันใดที่มีการสร้างสัมพันธภาพที่ผูกพันแน่นแฟ้นมากที่สุด

8)การสร้างสัมพันธภาพทางด้านใด ที่มีลักษณะเป็นวงกว้างมากที่สุด

9)ข้อใดไม่ใช่หลักการสร้างสัมพันธภาพระหว่างเพื่อน

10)การที่เราจะสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่นจะต้องทำอย่างไรเป็นอันดับแรก

ค.เข้าใจความต้องการผู้อื่น

ง.มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

11)เพราะเหตุใดมนุษย์จึงต้องมีการสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน

ก.มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคม

ข.มนุษย์มีการแก่งแย่ง แข่งขันกัน

ค.เพื่อผลประโยชน์ในหน้าที่การงาน

ง.เพื่อให้มีเพื่อนที่หลากหลาย

12)ข้อใดมิใช่ปัญหาที่เกิดจากอารมณ์ทางเพศของวัยรุ่น

ก.การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

ค.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

13)พฤติกรรมข้อใดเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ทางเพศ

ง.ไม่อยู่ลำพังกับเพศตรงข้าม

14)พรไพลินเป็นเด็กนักเรียนที่ตั้งใจเรียนสม่ำเสมอ จัดเป็นการจัดอารมณ์ทางเพศในข้อใด

ข.การเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศ

ค.การปลดปล่อยหรือระบายอารมณ์ทางเพศ

15)ข้อใดจัดเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์สำหรับวัยรุ่น

16)ข้อใดมิใช่พฤติกรรมของวัยรุ่นโดยธรรมชาติ

17)ข้อใดไม่ใช่คุณค่าของความเป็นหญิงและความเป็นชาย

ก.การยอมรับและรู้จักตนเอง

ค.การไม่ชอบรูปร่างหน้าตาของตนเอง

18)ค่านิยมทางเพศของบุคคลได้รับอิทธิพลจากทุกข้อยกเว้นข้อใด

ข.ประสบการณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี

19)ข้อใดเป็นวัฒนธรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย

ง.แสดงความต้องการทางเพศด้วยความจริงใจ

20)การรับประทานอาหารสุก สะอาด ครบ 5 หมุ่ จัดเป็นพฤติกรรมสุขภาพประเภทใด

ข.พฤติกรรมเมื่อเกิดเจ็บป่วย

ห้ามส่งรหัสผ่านใน Google ฟอร์ม


ความขัดแย้งระหว่างเพศ    ความขัดแย้งระหว่างเพศ คือ ความไม่เห็นพ้องต้องกัน ควานไม่ลงรอยกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง อันเนื่องมาจากความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อ และค่านิยมที่แตกต่างกัน อาจเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ทุกรุปแบบ เช่น เพื่อนร่วมงาน เจ้านายกับลูกน้อง เพื่อน คนรัก สามีภรรยา เป็นต้น เนื่องจากในสังคมทุกคนล้วนต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพศชายและหญิงซึ่งมีความแตกต่างทางกายภาพเป็นพื้นฐานย่อมถูกเลี้ยงดูและอยุ่บนความคาดหวังของสังคมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ปกติที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้น

สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างเพศ

ความขัดแย้งระหว่างเพศนั้นอาจเกิดจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน สรุปได้ดังนี้  1. ทัศนคติ ความเชื่อ และค่านิยมที่สังคมปลูกฝัง        กำหนดว่าผู้ชายเป็นอย่างไรและผู้หญิงเป็นอย่างไร เช่น ผู้หญิงชอบการแสดงความรู้สึก ผู้ชายชอบเก็บความรู้สึก ผู้ชายต้องเข้มแข็ง ผู้หญิงต้องอยุ่กับเหย้าเฝ้าเรือน ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลัง  เป็นต้น  ทัศนคติและค่านิยมต่างๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดภาพแทนของผู้ชายและผู้หญิงที่ควรจะเป็น หากแต่ละฝ่ายแสดงออกหรือมีพฤติกรรมที่ผิดไปจากค่านิยมเหล่านั้นก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งได้ เช่น ปัญหาระหว่างเจ้านายที่เป็นผู้หญิงกับลูกน้องที่เป็นผู้ชาย เนื่องจากค่านิยมของสังคมไทย ยังคงมีความคิดว่าผู้ชายต้องเก่งกว่าผู้หญิงอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงกว่า อาจทำให้ลูกน้องที่เป็นผู้ชายไม่พอใจ และกลายเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้งต่อไปได้  2. ความต้องการที่แตกต่างกัน           ด้วยพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกัน ทำให้คนเรามีความต้องการที่แตกต่างไปด้วย ในความสัมพันธ์แบบคนรักหรือสามีภรรยา บางครั้งความต้องการที่แตกต่างกันในเรื่องเล็กน้อยก็อาจเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งได้ เช่น สามีอาจต้องการให้ภรรยาอยู่บ้าน เลี้ยงลูก ตามแบบภรรยาในอุดมคติ แต่ภรรยาอาจต้องการออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว เป็นต้น    3. ความคาดหวังที่มีต่อเพศตรงข้าม                เนื่องจากทัศนคติและค่านิยมของสังคมได้กำหนดภาพของผู้ชายและผู้หญิงที่ควรจะเป็นเอาไว้ ดังนั้นเมื่อเรามีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะร่วมงาน เป็นเพื่อนกัน ศึกษาคบหาดูใจกัน หรือใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ละฝ่ายย่อมมีความคาดหวังว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นไปแบบที่ตนคิด เป็นไปในตามกรอบที่สังคมกำหนด เช่น ผู้ชายคาดหวังว่าผู้หญิงที่ดีควรจะเรียบร้อย ทำอาหารเป็น ในขณะผู้ชายที่ดีควรจะเอาใจใส่ผู้หญิง ช่วยถือของ แต่ในความเป็นจริงทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิง ก็ไม่สามารถเป้นอย่างที่เราคาดหวังได้  4. การไม่เข้าใจความต้องการ และความแตกต่างของเพศตรงข้าม     เนื่องจากทุกคนมีความแตกต่างกันทั้งความคิด อุปนิสัยใจคอ และพฤติกรรม หากเราไม่พยายามทำความเข้าใจความต้องการ ไม่พยายามสื่อออกมา หรือเข้าใจผิดก็อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ เช่น วันครบรอบแต่งงานคู่รักหลายๆคู่ มักจะทะเลาะกันเนื่องจากผู้ชายจำวันครบรอบไม่ได้ทำให้ผู้หญิงเสียใจเพราะโดยธรรมชาติผู้ชายจะไม่ใส่ใจรายละเอียดเท่ากับผู้หญิง ดังนั้นการที่ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจธรรมชาติของอีกฝ่ายย่อมทำให้เกิดความขัดแย้งนี้ขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าสาเหตุของความขัดแย้งนั้นไม่อาจแยกออกจากกันได้  แต่จะส่งผลกันเป็นทอดๆ จากค่านิยมที่สังคมปลูกฝังให้เกิดทัศนคติต่อเพศตรงข้ามคำถาม-ตอบ1.ความขัดแย้งระหว่างเพศ คือ อะไรตอบ  ความไม่เห็นพ้องต้องกัน ควานไม่ลงรอยกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง2.ความขัดแย้งระหว่างเพศนั้นอาจเกิดจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน  ตอบ 1. ทัศนคติ ความเชื่อ และค่านิยมที่สังคมปลูกฝัง          2. ความต้องการที่แตกต่างกัน        3. ความคาดหวังที่มีต่อเพศตรงข้าม             4. การไม่เข้าใจความต้องการ และความแตกต่างของเพศตรงข้าม