การปูกระเบื้องเซรามิคควรใช้ปูนชนิดใด

ปูนกาว จะเลือกยังไงดี?

หมวดหมู่: สาระดีีีดี

ปูนกาว จะเลือกยังไงดี?

      ปูนกาว ปูนปูกระเบื้อง กาวซีเมนต์ จะเรียกยังไง หน้าที่ของปูนกาวนั้นคือใช้สำหรับการติดกระเบื้อง เดิมนั้นช่างในบ้านเราจะใช้ปูนดำผสมทรายผสมน้ำแล้วก็นำไปใช้ติดกระเบื้องเลย แต่มาสมัยนี้พัฒนาการของสินค้าในกลุ่มกาวซีเมนต์ไปไกลมาก สามารถเปิดถุงผสมน้ำแล้วนำไปใช้ได้เลย

จะดูว่าเลือกใช้ปูนกาวอย่างไรนั้น จากประสบการณ์ของผู้เขียนนั้น ให้ยึดหลัก 2 ข้อ ซึ่งต้องใช้พิจารณาควบคู่กันไป

  1. กระเบื้องที่ใช้ เป็นกระเบื้องชนิดใด
  2. พื้นที่ที่จะปูกระเบื้อง

      ปัจจัยแรก คือ กระเบื้องปูพื้นปูผนังนั้น สมัยก่อนช่างจะต้องนำกระเบื้องไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้กระเบื้องดูดซึมน้ำเข้าไปในกระเบื้องแล้วค่อยนำไปปูเพื่อป้องกันกระเบื้องดูดน้ำจากตัวปูน ทำให้ปูนนั้นคายน้ำเร็วเกินไป จนทำให้กระเบื้องร่อนได้ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ที่ช่างปูกระเบื้องยังคงเอากระเบื้องไปแช่น้ำ แต่ปูนกาวปูกระเบื้องในปัจจุบันสามารถใช้กับกระเบื้องดูดซึมน้ำต่ำได้แล้ว จึงสามารถลดขั้นตอนแช่กระเบื้องได้

      กระเบื้องที่จะนำมาใช้นั้นให้ดูไปที่ขนาดของกระเบื้อง คือ ถ้าเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ เช่น กระเบื้องแกรนิโต้ กระเบื้อง 60x60 ซม. ควรใช้ปูนกาวที่มีแรงยึดเกาะสูง เนื่องจากมีน้ำหนักมาก ปูนกาวที่เหมาะสำหรับการปูกระเบื้องแผ่นใหญ่นี้ เช่น ปูนกาวจระเข้แดง,ปูนกาวเดฟโก้แกรนิโต้ เป็นต้น ถ้าเป็นกระเบื้องขนาดเล็ก เช่น กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องดินเผา กระเบื้อง 4x4 ก็สามารถใช้ปูนกาวธรรมดาได้ เช่น ปูนกาวจระเข้เขียว, ปูนกาวจระเข้ฟ้า, ปูนกาวเดฟโก้ทีทีบี เป็นต้น ถ้าเป็นงานกระเบื้องโมเสกแก้ว อันนี้ต้องใช้ปูนกาวปูนกาวติดโมเสกแก้วเท่านั้น เช่น ปูนกาวซีเมนต์จระเข้ทอง ผงสีขาว หรือ ปูนกาวซีเมนต์จระเข้แดง ผงสีขาว สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

      ปัจจัยที่ 2 พื้นที่ที่จะปูกระเบื้อง อันนี้ค่อนข้างละเอียดสักเล็กน้อย  หลักเกณฑ์ในการแบ่งก็แบ่งเป็น ปูพื้นหรือปูผนัง , ปูภายในหรือภายนอก, ปูในน้ำหรือปูบนบก และปูทับกระเบื้องเดิมหรือไม่? 

  • ถ้าเป็นกระเบื้องเซรามิคทั่วไปไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนัง สามารถใช้ปูนกาวปูกระเบื้องทั่วไปได้ เช่น  ปูนกาวจระเข้เขียว, ปูนกาวจระเข้ฟ้า, ปูนกาวเดฟโก้ทีทีบี เป็นต้น
  • ถ้าปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ ไม่ว่ากระเบื้องชนิดใด ต้องใช้ปูนกาวที่มีแรงยึดเกาะสูง เช่น ปูนกาวจระเข้แดง,ปูนกาวจระเข้เงิน,ปูนกาวจระเข้ทอง,ปูนกาว เดพโก้ อัลตร้าเฟล็กซ์ หรือ ปูนกาวเดฟโก้ พลู
  • ถ้าเป็นการปูทับกระเบื้องเดิม โดยไม่ต้องสกัดผิวกระเบื้องเดิม ต้องใช้ ปูนกาวจระเข้ทองหรือปูนกาว เดพโก้ อัลตร้าเฟล็กซ์ ทั้ง 2 ตัวนี้มีความสามารถปูทับกระเบื้องเดิมได้ทุกชนิด
  • นอกจากนี้เราอาจจะเจอกรณีพิเศษ เช่น งานเร่งด่วน ต้องการเปิดใช้พื้นที่เร็ว มีเวลาจำกัด สามารถใช้ ปูนกาวจระเข้แพลทินัม ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ปูนกาวจระเข้ เอ็กซ์เพรส ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกาวซีเมนต์ชนิด โพลิเมอร์ โมดิฟรายด์ ชนิดแห้งตัวได้เร็ว สามารถปูกระเบื้องได้ทุกชนิดและปูทับกระเบื้องเดิมได้
  • งานปูหินธรรมชาติ ลดการเกิดคราบขาว พื้นที่ที่ยาแนวยาก สามารถใช้ ปูนกาวจระเข้เนเจอรัล สโตนเมท ลดการเกิดคราบขาวได้ดี และคราบเกลือจากน้ำปูน

       ปัจจุบันนี้ปูนกาวปูกระเบื้องนั้นสามารถปูได้ทั้งภายในและภายนอกได้ด้วยกันแล้ว ปัจจัยข้อนี้น้ำหนักเลยน้อยลงไป

       ข้อแนะนำ ควรใช้เกรียงหวี ในการปาดปูนกาว เพื่อให้ปูนกาวเป็นร่อง เวลาวางแผ่นกระเบื้องลงไป ปูนกาวจะกระจายเต็มแผ่น

       และคำถามที่ได้ยินบ่อยมากคือ ปูนกาว 1 ถุง ใช้ได้กี่ ตร.ม.? ก็ต้องขอตอบว่า ขึ้นอยู่กับใช้กับกระเบื้องชนิดใด ถ้าเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ ต้องใช้เนื้อปูนมากเพื่อให้มีความหนามากพอสำหรับแผ่นกระเบื้องยึดเกาะได้ 1 ถุง (20 กก.) เฉลี่ยที่ 3-4 ตร.ม. ถ้าเป็นกระเบื้องเซรามิคทั่วไป เฉลี่ยที่ 5 ตร.ม. แต่ถ้าเป็นกระเบื้องแผ่นเล็กสามารถเฉลี่ยที่ 5-6 ตร.ม. ได้

และสิ่งที่จะมาคู่กับปูนกาวเสมอเลย คือ ยาแนวหรือกาวยาแนว ซึ่งจะขอนำเสนอในบทความที่ชื่อว่า " เลือกยาแนวกระเบื้องอย่างไร? "

 

หากลูกค้าท่านใดสนใจสินค้า ปูนกาว ยาแนว เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง หรือสินค้าอื่นใดที่ทางเรามีจำหน่าย สามารถติดต่อได้ที่ 084-1288835

กระเบื้อง ถือเป็นส่วนสำคัญของบ้าน เพราะไม่ว่าจะไปส่วนใดของบ้าน เราจะเห็นกระเบื้องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนัง ดังนั้น การปูกระเบื้อง จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากปูกระเบื้องไม่ดี อาจเกิดการแตก ร้าว ไม่สม่ำเสมอและเกิดอุบัติเหตุได้เลยทีเดียว เมื่อพูดถึงการปูกระเบื้อง หลาย ๆ คนอาจคิดว่ายาก ต้องจ้างช่างรับเหมามาทำถึงจะออกมาเนี้ยบ แต่จริง ๆ แล้ว การปูกระเบื้องไม่ยากอย่างที่คิดครับ วันนี้ ​​A-Decor มีวิธีการปูกระเบื้องง่าย ๆ แม้ไม่มีประสบการณ์ก็สามาถทำได้ด้วยตัวเอง

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มปูกระเบื้อง

การปูกระเบื้องด้วยตัวเอง จะต้องมีการเตรียมตัว เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อความสะดวกและง่ายในการทำงาน รวมถึงต้องเตรียมสถานที่ให้พร้อม ซึ่งในการปูกระเบื้อง มีสิ่งที่ต้องเตรียม ดังนี้

1. แผ่นกระเบื้อง ต้องคำนวณขนาดกระเบื้องกับพื้นที่ที่จะปูและจำนวนให้ดี เพื่อไม่ให้ขาด/เหลือ และวางกระเบื้องได้ลงตัว สวยงาม และที่สำคัญต้องเลือกประเภทกระเบื้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน อย่าง กระเบื้องปูพื้นและกระเบื้องปูผนัง จะมีคุณสมบัติและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันนั่นเอง

2. เครื่องมือ หลัก ๆ ที่จะใช้ในการปูกระเบื้อง ได้แก่ เกรียงหวี ค้อนยาง ถังผสมปูน (ใช้สำหรับผสมปูนกาวเข้ากับน้ำ) และอุปกรณ์ช่วยปรับระดับกระเบื้อง

3. วัสดุสำหรับติดตั้ง ในการปูกระเบื้อง ได้แก่ กาวปูนซีเมนต์ และยาแนว

4. สถานที่ ต้องเตรียมให้พร้อม โดยตรวจสอบสภาพพื้นผิวให้เรียบ ปรับความลาดเอียงให้เสมอกัน ไม่มีการยุบตัวของพื้นที่

3 วิธีการปูกระเบื้อง ที่ช่างนิยมใช้

วิธีการปูกระเบื้อง สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน สำหรับวิธีที่ช่างนิยมใช้ จะมี 3 วิธี นั่นก็คือ การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา การปูกระเบื้องแบบกึ่งเปียก ซึ่งเป็นวิธีการปูกระเบื้องแบบผิด ๆ ที่ไม่ควรทำ และการปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ (ปูนกาว) ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง ลองมาดูเหตุผลกันเลยครับ ว่าทำไมการปูกระเบื้องถึงมีทั้งวิธีที่ทั้งควรทำและไม่ควรทำ

วิธีปูกระเบื้องแบบผิด ๆ ที่ไม่ควรทำ

1. การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา

เป็นการนำปูนซีเมนต์ที่ผสมน้ำแล้ว มาแปะบนหลังกระเบื้องเป็นก้อน ๆ เหมือนซาลาเปา จากนั้นนำกระเบื้องไปแปะบนพื้น/ผนัง แล้วใช้ค้อนยางเคาะ ๆ เพื่อให้ปูนกระจายตัว

ข้อเสีย : กระเบื้องหลุดกร่อน แตกง่าย เพราะปูนไม่เต็มแผ่น โดยเฉพาะช่วงขอบ ๆ กระเบื้อง เมื่อเคาะแล้วจะมีเสียงโปร่ง ๆ ไม่แน่น

ทำไมถึงเป็นที่นิยม : วิธีการปูกระเบื้องแบบนี้ง่ายและสะดวกที่สุด ใช้เวลาไม่มาก ทำให้ปูได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

2.วิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก 

เป็นการปรับระดับพื้นผิวพร้อมปูกระเบื้องไปในตัว โดยการนำปูนซีเมนต์ ทราย น้ำ ผสมเข้าด้วยกันให้ได้สัดส่วนที่พอดีแล้วนำไปเทปรับพื้นให้ได้ระดับที่ต้องการ จากนั้นนำกระเบื้องวางลงไปเลยโดยไม่ต้องรอให้ปูนแห้ง แล้วใช้ค้อนยางเคาะจนได้ระดับที่ต้องการ ช่างบางคนก็จะเรียกวิธีนี้ว่า ปูแบบขุยหนู

ข้อเสีย : กระเบื้องหลุดร่อนง่าย และอาจเกิดการยุบหรือขยายตัวของปูนทรายที่เทปรับพื้นได้ ทำให้กระเบื้องหลุด แตกได้ง่าย

ทำไมถึงเป็นที่นิยม : รวดเร็วและสะดวก สามารถปูกระเบื้องพร้อมกับปรับพื้นได้เลย ไม่เสียเวลามากนัก

ทั้ง 2 วิธีนี้เป็นวิธีที่ผิด ที่ไม่ควรปูครับ เพราะจะทำให้กระเบื้องที่ปูมีโอกาสหลุดร่อนได้ง่าย ไม่ทนทานในระยะยาว

วิธีปูกระเบื้องที่ถูกต้องและควรทำ

การปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ (ปูนกาว)

วิธีการปูกระเบื้องแบบนี้จะต้องทำการเทปรับพื้นให้เรียบได้ระดับก่อน โดยต้องเผื่อความหนาไว้สำหรับความหนาของกระเบื้องและความหนาของกาวซีเมนต์ ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร จากนั้นทำการผสมปูนกาว โดยใช้น้ำตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นรอให้เคมีบ่มตัวเล็กน้อย แล้วก็นำไปปาดลงบนพื้น/ผนัง และหลังกระเบื้อง

ข้อดี : การเตรียมส่วนผสมไม่ยุ่งยาก เพราะปูนกาวเป็นแบบผสมสำเร็จรูปมาจากโรงงาน  ค่าการยึดเกาะสูง ทนทาน ไม่หลุดร่อนง่าย ไม่มีปัญหาการยุบตัว สามารถใช้ปูทับบนพื้นผิวได้หลากหลาย เช่น ซีเมนต์ คอนกรีต พลาสติก PVC ไม้ หรือแม้กระทั่งกระเบื้องเก่า

ทำไมถึงไม่เป็นที่นิยม : ช่างส่วนใหญ่ไม่ชำนาญ เพราะเป็นวิธีใหม่ และต้องใช้เวลาในการปูพื้นให้ได้ระดับก่อนถึงจะปูกระเบื้องได้

เพื่อให้กระเบื้องใช้งานได้ยาวนาน มีความทนทาน ไม่หลุดร่อนง่าย แนะนำให้ใช้วิธีปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ (ปูนกาว) ครับ แม้ว่าจะใช้เวลาและมีขั้นตอนในการปูสักหน่อย แต่เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไม่เสียเวลา เสียความรู้สึก และไม่เสียเงินซ่อมแซมในอนาคต วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดและคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอนครับ

การปูกระเบื้องเซรามิคควรใช้ปูนชนิดใด

ขั้นตอนการปูกระเบื้องง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

เมื่อเตรียมวัสดุอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มปูกระเบื้องกันเลย ครั้งนี้เราจะเลือกวิธีการปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ (ปูนกาว) เพราะว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องและกระเบื้องที่ปูจะมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันการปูแบบใช้กาวซีเมนต์ (ปูนกาว) ก็ทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น คนไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เลย  โดยขั้นตอนการปูกระเบื้องง่าย ๆ ด้วยตัวเองมีเพียง 6 ขั้นตอน ดังนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นผิวให้เรียบร้อย กำจัดเศษวัสดุ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ให้สะอาด ตรวจสอบพื้นผิวให้เรียบเสมอกัน ต้องไม่ให้มีหลุมหรือมีจุดนูน

ขั้นตอนที่ 2 สำหรับมือใหม่ ควรลองวางกระเบื้องให้เต็มพื้นที่เพื่อกะแนวการวางก่อน ใครที่ชินแล้วข้ามข้อนี้ได้เลยครับ

ขั้นตอนที่ 3 เตรียมปูนสำหรับปูกระเบื้อง สำหรับปูนกาวสำเร็จรูปสามารถผสมน้ำตามส่วนผสมที่ระบุไว้ คนให้เข้ากันและใช้งานได้ทันที

ขั้นตอนที่ 4 นำปูนกาวที่ผสมแล้วบางส่วนเทลงพื้นแล้วใช้เกรียงหวีปาดกาวให้เป็นทางยาวประมาณ 1-2 ตร.ม. ความหนาของปูนตามร่องของเกรียงหวี หากกระเบื้องแผ่นใหญ่ให้นำปูนปาดและเกลี่ยบริเวณหลังกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อให้มั่นใจว่าปูนจะติดทั่วแผ่น ไม่มีช่องว่างอากาศหลังปูกระเบื้องเสร็จ

ขั้นตอนที่ 5 นำกระเบื้องวางลงบนปูนกาวแล้วใช้ค้อนยางทุบเบา ๆ ให้ได้ระดับที่ต้องการ ก่อนปูแผ่นต่อไปต้องเว้นระยะสำหรับยาแนว 2-3 มิลลิเมตร ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทีละแผ่นจนเต็มพื้นที่ อาจใช้อุปกรณ์ช่วยปรับระดับกระเบื้องร่วมด้วย เป็นตัวช่วยเช็คให้กระเบื้องทุกแผ่นเสมอกัน (หากปูกระเบื้องไปแล้ว ต้องการปรับแนวกระเบื้อง สามารถทำได้ภายใน 15-20 นาที ก่อนปูนแห้ง) อย่าลืมเช็ดคราบปูนที่กระเด็นติดกระเบื้องให้สะอาดก่อนปูนแห้งด้วยนะครับ

ขั้นตอนที่ 6 เมื่อปูกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ปูนแห้งสนิท จากนั้นลงยาแนวกระเบื้องตามร่องที่เว้นระยะไว้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เทคนิคการปูกระเบื้องในบริเวณต่าง ๆ

การปูกระเบื้องในแต่ละพื้นที่อาจมีวิธีทีการปูกระเบื้องที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกประเภทวัสดุของกระเบื้องให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ถ้าหากเลือกประเภทกระเบื้องไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจทำให้กระเบื้องเสื่อมสภาพไว แตกร่อนง่าย ไม่ทนทานเท่าที่ควร

การปูกระเบื้องห้องนอนและห้องนั่งเล่น

พื้นที่บริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำ ถูกฝน จึงไม่ต้องการกระเบื้องที่ทนน้ำมากนัก แต่ยังต้องการความทนทาน เพราะเป็นพื้นที่ที่ใช้สอยบ่อย อาจเลือกเป็น กระเบื้องยาง เพราะมีคุณสมบัติกันน้ำกันไฟ ทนต่อแรงกดทับ และมีความยืดหยุ่นสูงไม่แตกหักง่าย และปูง่ายด้วยครับ

การปูกระเบื้องห้องน้ำ

พื้นที่ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่เปียกตลอดเวลา การปูกระเบื้องจะต้องระวังเป็นพิเศษ​ ก่อนปูกระเบื้อง ควรทาน้ำยากันซึมบริเวณที่มีแนวโน้มการเกิดการรั่วซึมบ่อย เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นห้องน้ำจะไม่เกิดการรั่วซึมแน่นอน หลังจากน้ำยาแห้งแล้ว ก็เริ่มปูกระเบื้องได้เลย 

กระเบื้องที่เลือกใช้ ควรเป็นกระเบื้องที่มีความหยาบ ไม่ลื่น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ควรหยาบมากเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย อาจเลือกเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ เพราะเป็นกระเบื้องที่มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้ไม่เกิดคราบหรือรอยเปื้อนฝังในผิวกระเบื้องได้ง่าย และเนื่องจากมีส่วนผสมของหินแกรนิต จึงมีจุดเด่นที่ความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มาก และทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน 

การปูกระเบื้องห้องครัว

ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่ต้องระวังทั้งน้ำและไฟ แต่อาจไม่เปียกหนักเท่าห้องน้ำ จุดสำคัญคือต้องทำความสะอาดง่าย และควรเลือกเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีขอบตัดเพื่อลดช่องว่างของยาวแนวกระเบื้อง เพราะเป็นจุดที่มักจะมีปัญหาเกิดคราบได้ง่าย

กระเบื้องที่แนะนำ จะเป็นกระเบื้องเซรามิค เพราะมีคุณสมบัติทนต่อความร้อน เช็ดล้างขัดทำความสะอาดได้สะดวก และ กระเบื้องแกรนิตโต้​​ เพราะเป็นกระเบื้องที่มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ และทนทานมาก อีกทั้งยังมีพื้นผิวที่ดูสวยงามอีกด้วย

การปูกระเบื้องเซรามิคควรใช้ปูนชนิดใด

เทคนิคตรวจเช็กงานหลังปูกระเบื้อง

หลังจากปูกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเช็คงานหรือตรวจสอบความเรียบร้อยของกระเบื้องที่เราปูไปนั่นเอง ซึ่งมีวิธีการตรวจเช็คง่าย ๆ ดังนี้

1. ตรวจการปูกระเบื้อง - จุดแรกที่ต้องตรวจสอบคือโพรงอากาศใต้แผ่นกระเบื้อง ให้เคาะที่แผ่นกระเบื้องโดยเฉพาะบริเวณขอบ ๆ หากเคาะแล้วมีเสียงก้อง หมายความว่ามีปูนไม่เต็มแผ่นกระเบื้องนั่นเอง

2. ตรวจดูระดับของกระเบื้อง - ระดับของกระเบื้องควรเท่ากัน ไม่มีแผ่นใดสูงแผ่นใดต่ำ จุดนี้หากใช้อุปกรณ์ช่วยปรับระดับกระเบื้องตอนที่ปูกระเบื้อง จะช่วยลดปัญหานี้ไปได้

3. ตรวจร่องระหว่างกระเบื้อง - ตรวจเช็คการลงยาแนวระหว่างกระเบื้องว่าได้ลงยาแนวเต็มร่องกระเบื้องหรือไม่

4. ตรวจสอบพื้นที่ลาดเอียง - สำหรับพื้นที่แห้ง ให้ใช้ลูกแก้วหรือลูกปิงปองวางที่กระเบื้อง หากลูกแก้วกลิ้ง หมายความว่าพื้นมีความลาดเอียงนั่นเอง หากลูกแก้วไม่กลิ้งแสดงว่าพื้นได้ระดับดี สำหรับพื้นที่ที่มีท่อระบายน้ำหรือพื้นที่เปียก ให้ลองเทน้ำดูเพื่อดูว่าน้ำจะไหลลงจุดที่ต้องการหรือไม่

ปัญหาที่พบหลังจากการเช็คกระเบื้อง สามารถป้องกันได้ หากปูกระเบื้องตามวิธีการปูกระเบื้องที่แนะนำอย่างถูกต้อง ก็จะไม่มีปัญหาเหล่านี้มากวนใจและกระเบื้องที่ปูก็จะมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้ได้นานครับ

จะเห็นว่าวิธีการปูกระเบื้องไม่ยากอย่างที่คิด เพราะปัจจุบันมีวัสดุสำเร็จรูปและอุปกรณ์หลากหลายชนิด ที่ช่วยให้งานปูกระเบื้องง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องปูกระเบื้องพื้นที่กว้าง ๆ การจ้างช่างมืออาชีพอาจเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาได้มากกว่า หากใครต้องการปูกระเบื้อง มองหากระเบื้อง หรือต้องการช่างมืออาชีพ สามารถปรึกษา A-Decor ได้เลยครับ

นึกถึงกระเบื้อง นึกถึง A-decor ศูนย์รวมกระเบื้องทุกแบบ ทุกลาย มีให้เลือกทุกความต้องการ พร้อมการบริการแบบ One stop service ไม่ว่าจะเป็น แหล่งรวมกระเบื้อง ให้คำปรึกษา และติดต่อช่างติดตั้ง ที่เดียวครบ จบเรื่องงานกระเบื้อง