การใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด หากเลือกใช้ได้อย่างถูกวิธี เราจะได้ประโยชน์ต่าง ๆ อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นแบ่งจ่าย 0% หรือสิทธิประโยชน์ส่วนลดต่าง ๆ ที่ติดมากับบัตรเครดิตใบนั้น หรือระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย หากชำระตามวันที่กำหนด แต่สำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิต และชอบจ่ายขั้นต่ำ 10% ลองมาดูกันว่า การจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำบ่อย ๆ จะมีผลอย่างไรกับเราบ้าง Show
หลังจากการรูดบัตรเครดิตเพื่อใช้จ่ายแล้ว หากเราจ่ายบัตรเครดิตในจำนวนขั้นต่ำ จะถูกคิดดอกเบี้ย 2 ยอด ยอดแรกจะคิดจากยอดรูดบัตรนับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ครบกำหนดชำระ และยอดที่ 2 คือ การคิดดอกเบี้ยจากยอดคงเหลือหลังการจ่ายขั้นต่ำตั้งแต่วันที่เราจ่ายขั้นต่ำจนถึงวันสรุปยอดบัญชีในเดือนถัดไป ซึ่งหากเราจ่ายขั้นต่ำเป็นประจำ แน่นอนว่าดอกเบี้ยจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งนี้ หลายคนยังมีความเข้าใจว่า ดอกเบี้ยจะถูกคิดตั้งแต่วันที่เริ่มจ่ายขั้นต่ำ แต่จริง ๆ แล้วดอกเบี้ยเริ่มเดินตั้งแต่วันที่เราใช้จ่ายเลย
ตามปกติผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยให้ผู้ถือบัตรเครดิต ตั้งแต่วันแรกที่ใช้จ่ายจนถึงวันที่ครบกำหนดชำระเงิน ซึ่งหากเราวางแผนกันเงินไว้สำหรับจ่ายบัตรเครดิตให้เต็มจำนวน เราจะได้ประโยชน์จากระยะเวลาช่วงนี้ เป็นการใช้เครดิตแทนเงินสด ช่วยเพิ่มสภาพคล่องโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่หากครบกำหนดเราเลือกจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ สิทธิในการใช้ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยจะหมดลงทันที และเราต้องจ่ายดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันแรกที่รูดใช้จ่าย ทำให้ดอกเบี้ยในรอบบัญชีนั้นเพิ่มมากขึ้น ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดอย่างไร ?
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดอย่างไร ? บัตรเครดิตถ้าใช้เป็นใช้ถูกวิธีก็เป็นตัวช่วยให้เราสะดวกสบายได้มากขึ้น ทว่าถ้ารูดแบบไม่ระวังใช้จ่ายเกินตัว วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต รู้ไว้ก่อนรูดเพลินบัตรเครดิตถ้าใช้เป็นใช้ถูกวิธีก็เป็นตัวช่วยให้เราสะดวกสบายได้มากขึ้น ทว่าถ้ารูดแบบไม่ระวังใช้จ่ายเกินตัว ก็ทำให้แผนการเงินของเราพังได้ง่าย ๆ เช่นกัน เพราะรู้ไหมว่า “ดอกเบี้ยบัตรเครดิต” นั้นแพงมาก ! ซึ่งธนาคารสามารถคิดดอกเบี้ยสูงสุดได้ถึง 18% ต่อปี Advertisements ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะเกิดขึ้นใน 2 กรณี ได้แก่
สูตรคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูตรคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตดอกเบี้ยบัตรเครดิต = (ยอดใช้จ่าย x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวัน) / 365 หากผิดเงื่อนไขจะคิดดอกเบี้ยยังไง ?หากผิดเงื่อนไขจะคิดดอกเบี้ยยังไง ?หากเราผิดเงื่อนไข จะโดนธนาคารคิดดอกเบี้ยทันทีสูงสุด 18% ต่อปี โดยนับย้อนหลังตั้งแต่วันที่รูดซื้อสินค้า จนถึงวันที่จ่ายยอดทั้งหมดครบ แบ่งเป็น 4 ช่วงในการคิดดอกเบี้ย ดังนี้
ตัวอย่างการคิดคำนวนตัวอย่างการคิดคำนวน ดอกเบี้ยบัตรเครดิตตัวอย่างเช่น 1. ดอกเบี้ยเงินต้นส่วนแรกคิดจากยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชี ตั้งแต่วันรูดสินค้า ถึงวันสรุปยอด (30,000 x 18% x 21) / 365 = 310.68 บาท 2. ดอกเบี้ยเงินต้นส่วนที่สองคิดจากยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชี ตั้งแต่วันสรุปยอด ถึงวันครบกำหนดชำระ (30,000 x 18% x 15) / 365 = 221.91 บาท * หากเราจ่ายครบเต็มจำนวน ธนาคารจะไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในส่วนตัวข้างต้น แต่หากจ่ายไม่ครบจะโดนเรียกเก็บดอกเบี้ยเต็ม ๆ ทุกบาท ทุกสตางค์ Advertisements 3. ดอกเบี้ยค้างชำระส่วนแรกคิดจากยอดค้างชำระตั้งแต่วันครบกำหนดชำระ ถึงวันสรุปยอดงวดถัดไป (30,000 x 18% x 16) / 365 = 213.04บาท 4. ดอกเบี้ยค้างชำระส่วนที่สองคิดจากยอดค้างชำระตั้งแต่วันสรุปยอดงวดถัดไป ถึงวันครบกำหนดชำระงวดถัดไป (30,000 x 18% x 14) / 365 = 186.41 บาท สรุปต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งสิ้น 932.04 บาท Advertisements แม้เราจ่ายครบเต็มจำนวนในรอบบิลถัดไป ธนาคารก็จะยังคงเรียกเก็บดอกเบี้ยทั้งยอดใช้จ่ายและยอดค้างชำระทั้ง 4 ส่วนมารวมกัน ยิ่งถ้ายังไม่รีบนำเงินไปปิดหนี้บัตรเครดิต ก็จะทำให้ยอดค้างชำระนี้ยังอยู่และถูกคิดดอกเบี้ยวนไปเรื่อย ๆ นั่นเอง รู้แบบนี้แล้ว ก่อนใช้บัตรเครดิตอย่าลืมวางแผนทางการใช้เงินดี ๆ กันด้วนนะ เพราะถ้ารูดแบบไม่คิด รับรองว่ามีหนี้ก้อนโตรอคุณอยู่แน่นอน |