จากองค์ประกอบต่างๆของวรรณกรรมบทละครนำมาสู่หัวข้อลักษณะคำประพันธ์บทละคร ในปัจจุบันวรรณกรรมบทละครมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบทั้งร้อยกรองและร้อยแก้วในที่นี้จะเน้นประเด็นที่ส่วนของกลอนบทละครเท่านั้น Show
กลอนบทละคร (กลอนสุภาพ) ประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงละครและระบำโดยส่วนใหญ่มักจะพบว่า ขึ้นต้นด้วย “เมื่อนั้น และ “บัดนั้น” ซึ่งมีความแตกต่างกันในวิธีการใช้ ดังนี้ “เมื่อนั้น” จะใช้กับตัวละครที่เป็นกษัตริย์หรือมีบทบาทเด่นที่ผู้แต่งต้องการ ชี้ให้เห็นความสำคัญ “บัดนั้น” จะใช้กับตัวละครที่ต่ำศักดิ์หรือมีบทบาทรองลงมา “มาจะกล่าวบทไป” จะใช้กับตัวละครที่เป็นอมนุษย์ ได้แก่ เทพ ฤๅษี เทวดา ปีศาจ ยักษ์ ที่แสดงเป็นตัวประกอบในเรื่อง นอกจากนี้ในการอ่านบทประพันธ์ดังกล่าวสิ่งที่มักพบเสมอ คือ คำไวพจน์ ซึ่งหมายถึง คำที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก5 เช่น มนุษย์กับคน ป่ากับดง เป็นต้น เหตุที่ผู้ประพันธ์มักใช้คำประเภทนี้เนื่องจากหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำกัน ต้องการการสัมผัสคำเพื่อความไพเราะของบทประพันธ์ และเป็นการใช้ถ้อยคำให้มีความสละสลวยมากขึ้น ตลอดจนการใช้ท่าสูง (แม่ท่า) สื่อความให้องค์ประกอบของท่ารำสมบูรณ์ในบทนั้นๆ ถ้าจะนำมาใช้ในการแสดง คำเหล่านี้ทำผู้ชมเห็นการเคลื่อนไหวของตัวละคร ว่ากำลังจะทำอะไร จะเป็นอะไร หรือไปที่ใดเป็นต้น
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ โอด โอ้ปี่
ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด ร่าย
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๕๕
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด โอ้ร่าย
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด ช้าปี่
ฯ ๘ คำ ฯ พัดชา
ฯ ๔ คำ ฯ กล่อม ลีลากระทุ่ม
ฯ ๔ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด เชิด
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๕๖
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๕๗
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ โอด
ฯ ๑๖ คำ ฯ ทยอย
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๕๘
ฯ ๘ คำ ฯ เพลงช้า
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ฯ ๑๒ คำ ฯ โอ้ชาตรี
ฯ ๑๔ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๖ คำ ฯ โอ้โลม
ฯ ๘ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด โอ้ปี่
ฯ ๘ คำ ฯ โอด โอ้โลม
ฯ ๘ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๑๒ คำ ฯ ทยอย
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด ม้าย่อง
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด ร่าย
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด สามไม้ใน
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด ร่าย
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ ช้า
ฯ ๔ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๕๙
ฯ ๘ คำ ฯ เพลงเร็ว
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๖๐
ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจาบทที่ ๖๑
ฯ ๔ คำ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๔ คำ ฯ ชุบ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
ฯ ๒ คำ ฯ ชมตลาด
ฯ ๘ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๒ คำ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ฯ ๒ คำ ฯ ชมดง
ฯ ๑๐ คำ ฯ ร่าย
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด ครั้นถึง ใช้กับตัวละครใด“ครั้นถึง” ใช้กับตัวละครที่เป็นกษัตริย์ “มาจะกล่าวบทไป” ใช้เมื่อขึ้นตอนหรือเนื้อความใหม่
ท้าวกะหมังกุหนิงมีลักษณะนิสัยอย่างไร๒.๕) ท้าวกะหมังกุหนิง เป็นกษัตริย์เมืองกะหมังกุหนิง มีอนุชาสององค์ คือ ระตูปาหยัง กับระตูประหมัน โอรสคือวิหยาสะกำ มีลักษณะนิสัย ดังนี้ (๑) เป็นคนรักลูกยิ่งชีวิต ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก แม้ตนจะต้องตายก็ยอม เช่น แม้นวิหยาสะกำมอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา
ท้าวกุเรปันมีลักษณะนิสัยอย่างไรอย่าดูแม้เปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย”
จากบทประพันธ์นี้ แสดงให้เห็นว่า ท้าวกุเรปันมีนิสัยอย่างไร อารมณ์ร้าย พูดจริงทำจริง เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว
พิธีฟันไม้ข่มนามมีจุดประสงค์ในการทำพิธีข้อใดพิธีฟันไม้ข่มนาม มีจุดประสงค์ในการทำพิธีคือข้อใด answer choices. เพื่อเป็นสิริมงคลแก่การตั้งค่าย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหาร
|