เชื้อไวรัสตับอักเสบบี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดบี (HEPATITIS B) ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี ทั่วโลกประมาณ โดย ไวรัสตับอักเสบบีเป็น DNA ไวรัส ที่จัดอยู่ใน family Hepadnaviridae โดยทั่วโลกมีผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีประมาณ 240 ล้านคน โดยความชุกมีตั้งแต่ 2-8% แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย พบผู้ป่วยที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ประมาณ 7 – 8 ล้านคน โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงนับว่ามีความสำคัญมาก แต่ในปัจจุบันหลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีในเด็แรกเกิดทุกคนทำให้อุบัติการณ์ในคนไทยลดลง ประมาณร้อยละ 3-5 Show
เนื้อหาที่น่าสนใจ การติด เชื้อไวรัสตับอักเสบบี
อาการของผู้ป่วยโรคตับอักเสบบี
การวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบบีการวินิจฉัยในเบื้องต้นสามารถทำเอง โดยการสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ ปวดท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งหากผู้ป่วยพบว่าตัวเองมีโอกาส มีความเสี่ยง หรือพบว่ามีอาการของไวรัสตับอักเสบ บี ให้ไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือด เจาะเลือดตรวจค่าการทำงานของตับ (liver function test) , เจาะเลือดตรวจ เชื้อไวรัสตับอักเสบบี และอาจนำเอาตัวอย่างชิ้นเนื้อตับไปตรวจ
การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาไวรัสตับอักเสบบีมี 2 กลุ่มได้แก่ ยาฉีด pegylated-interferon alpha และยารับประทาน (oral nucleoside/nucleotide analogs) โดยคุณสมบัติที่แตกต่างกันของการรักษาด้วย 2 วิธีมีดังต่อไปนี้ ยาฉีด pegylated-interferon alpha
ยารับประทานชนิด oral nucleoside/nucleotide analogs
การดูแลตนเองเมื่อติด เชื้อไวรัสตับอักเสบบี
การป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี คือ การสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นในคนส่วนใหญ่ ซึ่งปกติถ้ามีภูมิแล้วจะป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันและระมัดระวังด้วยตัวเองได้ เช่น การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่กังวลหรือเครียดจนเกินไป สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หรือหากต้องการเจาะหูหรือสักลาย ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือถูกหลักอนามัย โรคตับอักเสบบี ฟังดูอาจจะเหมือนห่างไกลตัวเรา เพราะเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้เราจะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท ไวรัสตับอักเสบบี อยู่ได้กี่ปีหลังจากฉีดครบทั้ง 3 เข็ม ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีจะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาในเวลา10 ปี มากกว่า 1 ใน 3 อาจมีภูมิต้านทานลดลงจนตรวจไม่พบ แต่ความเสี่ยงในการติดเชื้อน้อย และหากได้รับเชื้อ ร่างกายมักสร้างภูมิต้านทานขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะไม่เกิดการติดเชื้อทางคลินิก จึงไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นอีก
ไวรัสตับอักเสบบีสามารถหายได้ไหมเป็นไวรัสตับอักเสบบี หายได้ไหม
โรคนี้มักพบแบบเฉียบพลัน ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ภายใน 10 สัปดาห์ แม้จะรักษาจนหายขาดแล้วยังสามารถพบเชื้อในร่างกายได้อยู่ และยังสามารถนำเชื้อไปติดต่อให้กับผู้อื่นได้อีก หรือที่เรียกว่า พาหะ (Carrier) จึงต้องดูแลร่างกายและควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างสม่ำเสมอด้วย
เป็นไวรัสตับอักเสบบี ห้ามกินยาอะไรหลีกเลี่ยงการใช้ยาชุด ยาลูกกลอนสมุนไพร ยาต้ม เนื่องจากอาจกดภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ไวรัสกำเริบและทำให้เกิดตับอักเสบจากตัวยานั้นๆเองได้
ยารักษาไวรัสตับอักเสบบี มีอะไรบ้างปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาไวรัสตับอักเสบบีมี 2 กลุ่มได้แก่ ยาฉีด pegylated-interferon alpha และยารับประทาน (oral nucleoside/nucleotide analogs) โดยคุณสมบัติที่แตกต่างกันของการรักษาด้วย 2 วิธีมีดังต่อไปนี้
|