แต่งตั้งผู้จัดการมรดก ที่ไหน

จะมีการร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกก็ต่อเมื่อทายาทมีปัญหาหรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการทรัพย์มรดก จึงจำเป็นต้องมีคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดกเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถดำเนินการจัดการทรัพย์มรดกต่างๆได้

Show

เมื่อบุคคลใดตายทรัพย์มรดกของบุคคลนั้นจะตกทอดแก่ทายาททันที แต่ก็อาจมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก เช่น การจดทะเบียนโอนที่ดินไม่ได้ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ลูกหนี้ของเจ้ามรดกไม่ยอมชำระหนี้ โดยอ้างว่าต้องมีคำสั่งศาลตั้งผู้นั้นเป็นผู้จัดการมรดกมาแสดงก่อน มิฉะนั้นจะไม่สามารถดำเนินการให้ได้

จะยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกได้เมื่อใด ?

เมื่อเจ้ามรดกตายและมีทรัพย์มรดก แต่ทายาทมีปัญหาไม่สามารถจัดการได้ หรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถแบ่งปันทรัพย์มรดกได้ จึงมีความจำเป็นที่ทายาทจะต้องตั้งทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งตนเองหรือบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดก

ใครบ้างที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ?

1. ทายาทโดยธรรม ที่มีสิทธิได้รับทรัพย์มรดก
2. ผู้มีส่วนได้เสีย

ผู้จัดการมรดกจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ?

ผู้จัดการมรดกนั้นจะเป็นใครก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทายาทเสมอไป แต่บุคคลที่จะเป็นผู้จัดการมรดกได้นั้นจะต้อง

1. บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปี ขึ้นไป)
2. ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือคนที่ศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
3. ไม่เป็นคนล้มละลาย

ยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกที่ศาลไหน ?

ต้องยื่นต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย หรือโดยปกติก็คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้ตายนั่นเอง แต่ถ้าเจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ต้องยื่นคำร้องต่อศาลที่ทรัพย์มรดกตั้งอยู่ในเขตศาล

ใช้ระยะเวลาดำเนินการนานไหม ?

เมื่อยื่นคำร้องต่อศาลแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เพื่อประกาศหนังสือพิมพ์หรือทางอิเล็กทรอนิค ก็จะถึงวันนัดไต่สวน ศาลก็จะทำการไต่สวนคำร้อง หากเอกสารครบถ้วนไม่มีเหตุขัดข้องและไม่มีใครคัดค้าน ศาลก็จะมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกในวันนั้นเลย

เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้วทำอย่างไร ?

ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องขอคัดสำเนาคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และใบสำคัญว่าคดีถึงที่สุดได้เมื่อเกิน 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว เมื่อได้รับคำสั่งศาลมาแล้วก็สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงต่อธนาคาร เจ้าพนักงานที่ดิน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดกของผู้ตายได้

การยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกต่อศาลนั้น มีขั้นตอนการดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมาย อาจเป็นเรื่องซับซ้อนยุ่งยากของคนทั่วไป หรือมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามา จึงมีความจำเป็นต้องแต่งตั้งทนายความเข้ามาดำเนินการแทน เพื่อความสะดวกและความถูกต้อง เป็นการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

สนใจติดต่อทนายเพื่อยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกได้ โดยท่านไปศาลเพื่อไต่สวนเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ซึ่งนอกนั้นทนายเราจะดำเนินการให้ทั้งหมด จนได้รับคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุด

2. ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น เจ้าของร่วมในทรัพย์สินของเจ้ามรดก หรือสามีภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีทรัพย์สินร่วมกัน

3. พนักงานอัยการ

 

บุคคลใดไม่สามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้

• ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

• บุคคลวิกลจริต หรือบุคคล ที่ศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ

• บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย

 

หน้าที่ของผู้จัดการมรดก มีอะไรบ้าง?

เริ่มนับตั้งแต่วันที่ได้ฟังหรือถือว่าได้ฟังคำสั่งศาลแล้ว

• จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก ภายใน 15 วัน และต้องจัดทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน หากไม่เสร็จสามารถขออนุญาตขยายระยะเวลาต่อศาลได้

          • ประกอบด้วย รายการแสดงทรัพย์สิน สิทธิเรียกร้อง เงิน มูลค่า และแจ้งจำนวนเจ้าหนี้ เป็นเงินรวมเท่าใด

          • บัญชีทรัพย์มรดก ต้องมีพยานรับรอง 2 คน โดยต้องเป็นทายาทที่มีส่วนได้เสียในกองมรดก

          • ถ้าไม่ได้จัดทำให้เสร็จภายในกำหนดเวลา และตามแบบที่กำหนด หรือบัญชีไม่เป็นที่พอใจแก่ศาล เพราะความประมาทเลินเล่อ อย่างร้ายแรง การทุจริต หรือความไม่สามารถของผู้จัดการมรดก ศาลจะถอนผู้จัดการมรดกได้

          • ผู้จัดการมรดกไม่มีสิทธิที่จะได้รับบำเหน็จจากกองมรดก เว้นแต่พินัยกรรมหรือทายาทจำนวนข้างมากจะได้กำหนดไว้

          • ผู้จัดการมรดกจะทำพินัยกรรมใดๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้ เว้นแต่พินัยกรรมจะอนุญาตไว้หรือได้รับอนุญาตจากศาล

          • ผู้จัดการมรดกต้องจัดการมรดกด้วยตนเอง

          • ถ้าผู้จัดการมรดกเข้าทำนิติกรรมกับบุคคลภายนอก โดยเห็นแก่ทรัพย์สินอย่างใดๆ หรือประโยชน์อื่นใดที่บุคคลภายนอกได้ให้ หรือได้ให้คำมั่นว่าให้เป็นลาภส่วนตัว ย่อมไม่ผูกพันทายาท เว้นแต่ทายาทจะได้ยินยอมด้วย

          • ต้องแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบถึงข้อกำหนดพินัยกรรม ภายในเวลาอันสมควร

          • ทายาทจะต้องบอกทรัพย์สินมรดกและหนี้สินของผู้ตาย ตามที่ตนรู้ทั้งหมดแก่ผู้จัดการมรดก

 

ผู้จัดการมรดก มีได้กี่คน

ผู้จัดการมรดกจะมีคนเดียวหรือหลายคนก็ได้

        • กรณีมีผู้จัดการมรดกหลายคน การกระทำหน้าที่ของผู้จัดการมรดกต้องถือเอาเสียงข้างมาก เว้นแต่มีข้อกำหนดพินัยกรรมอื่น

        • ถ้าเสียงเท่ากันเมื่อผู้มีส่วนได้เสียร้องขอก็ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด

        • นิติกรรมที่ผู้จัดการมรดกคนใดคนหนึ่ง กระทำไปโดยพลการ โดยไม่ถือเสียงข้างมากไม่ผูกพันกองมรดก

        • นิติกรรมนั้นเสียเปล่า แม้ผู้จัดการมรดกที่เหลือจะมาให้ ความยินยอมในภายหลัง ไม่ทำให้นิติกรรมนั้นสมบูรณ์ขึ้นมาได้

เหตุใดบ้างที่ทำให้การผู้จัดการมรดกสิ้นสุดลง

เมื่อผู้จัดการมรดกตาย 

        • สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกนั้นเป็นสิทธิเฉพาะตัว

        • ผู้จัดการมรดกตายลง ทายาทของผู้จัดการมรดกไม่สามารถ เข้ามาทำหน้าที่ต่อไปได้

 

เมื่อผู้จัดการมรดกลาออก 

        • กรณีเป็นผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล การลาออกจะมีผลต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาล

        • หากยังไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ลาออกแล้วความเป็นผู้จัดการมรดกก็ยังไม่สิ้นสุดลง หากมีความเสียหายเกิดขึ้น เพราะละเลย ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ในระหว่างนี้ ผู้จัดการมรดกก็ต้องรับผิดชอบ

 

ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก 

        • คำร้องของทายาทคนอื่น

ผู้จัดการมรดกตกเป็นบุคคลผู้มีคุณสมบัติต้องห้าม 

        • เช่น บุคคลล้มละลาย บุคคลวิกลจริต หรือเสมือนไร้ความสามารถ ทำให้ความเป็นผู้จัดการมรดกก็สิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ

การจัดการมรดกสิ้นสุดลง

        • นับตั้งแต่ผู้จัดการมรดกได้โอนมรดก “ทั้งหมด” ให้กับทายาทไป โดยเป็นการเริ่มนับอายุความจัดการมรดก 5 ปี

ผู้จัดการมรดกตาย ต้องตั้งผู้จัดการมรดกคนใหม่หรือไม่

        • ผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับการแต่งตั้ง หากผู้จัดการมรดกตายก่อนจัดการมรดกเสร็จสิ้นจะต้องร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกคนใหม่ และไม่สามารถเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะได้

        • กรณีมีผู้จัดการมรดกหลายคนตามคำสั่งศาล เมื่อผู้จัดการคนใด คนหนึ่งเสียชีวิต ผู้จัดการมรดกร่วมจะจัดการมรดกต่อไปไม่ได้ หากยังไม่ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้จัดการที่เหลือเป็นผู้จัดการต่อไป ดังนั้น ผู้จัดการมรดกที่เหลือต้องร้องขอต่อศาลให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้จัดการมรดกได้โดยลำพังก่อน (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2516)

 

เอกสารการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก มีอะไรบ้าง ?

เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง

1. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องกับเจ้ามรดก เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนบ้าน

2. ใบมรณบัตรของเจ้ามรดก

3. เอกสาร หรือทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์มรดก เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) บัญชีธนาคาร ทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น

4. บัญชีเครือญาติของเจ้ามรดก

5. หนังสือยินยอมให้เป็นผู้จัดการมรดกจากทายาท

6. พินัยกรรม (หากมี)

7. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (หากมี)

ขั้นตอนการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก มีอะไรบ้าง ?

ขั้นตอนการดำเนินการ

        • ผู้มีสิทธิยื่นคำร้อง ต้องยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลในขณะถึงแก่ความตาย

        • แต่หากเจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตอำนาจศาล

        • เมื่อยื่นคำร้องแล้ว ศาลจะนัดไต่สวนคำร้องประมาณ 2 เดือน

 

ผู้จัดการมรดก ถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยดำเนินการเกี่ยวกับมรดกต่างๆ ให้ถูกจัดสรรอย่างลงตัว ทั้งทรัพย์สินที่ต้องส่งต่อแก่ทายาท หรือการจัดการเรื่องหนี้สินของผู้ตาย โดยหากผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ ก็สามารถจัดการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่หากไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ต้องดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอน โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พินัยกรรม…หากไม่ได้ทำไว้ใครมีสิทธิ์รับมรดกและใช้หนี้แทน?