จีพีเอสพร้อม! น้ำมันพร้อม! รถพร้อม! แล้วก็สตาร์ทรถเตรียมออกเดินทางไปเที่ยวโร้ดทริปกันดีกว่า เราขอแนะนำ 6 เส้นทางขับรถเที่ยว ทั่วโลกซึ่งรับประกันเลยว่าวิวระหว่างทางนั้นสวยจนแทบหยุดหายใจ ไม่ว่าจะเป็นที่ ไอซ์แลนด์ ดินแดนในฝันของเหล่านักล่าแสงเหนือ หรือ ออสเตรเลีย กับเส้นทาง North Coast 500 ยอดฮิต หรือไปซิ่งบนเส้นทางสายคลาสสิคอย่าง Route 66 ในอเมริกา จะที่ไหนก็เริ่ดหมด แล้วยิ่งเดินทางกับเพื่อนๆ และคนรู้ใจแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้โร้ดทริปครั้งนี้เป็นอะไรที่ลืมไม่ลงแน่นอน! Show
1. เส้นทางขับรถเที่ยว | เส้นทางวงแหวน (The Ring Road), ไอซ์แลนด์เส้นทางขับรถเที่ยว ในไอซ์แลนด์ไม่เคยมีคำว่าน้อย แต่บอกได้เลยว่าจัดเต็มมาก เพราะเราสามารถขับรถเที่ยวไปทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ เริ่มต้นที่ เรคยาวิก (Reykjavik) และขับไปตามเส้นทางวงแหวน (The Ring Road) หรือเส้นทางหมายเลข 1 (Route 1) ซึ่งมีระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรทอดยาวเป็นวงกลมรอบประเทศไอซ์แลนด์ ส่วนวิวระหว่างทางนั้นไม่ต้องพูดถึง การันตีความอลังการของทัศนียภาพทางธรรมชาติ ทั้งธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง ทุ่งมอสลาวา และน้ำตก พักเบรคด้วยการแช่น้ำในบ่อน้ำพุร้อน และเดินบนหาดทรายสีดำ ส่วนกลางคืนก็ตั้งตารอแสงเหนือสวยสะกดที่ใครหลายคนหวังว่าจะได้เห็นสักครั้งหนึ่งในชีวิต
นักเดินทางส่วนใหญ่นิยมเช่ารถแคมเปอร์แวน เพราะทั้งสะดวกและไม่ต้องเสียเงินค่าโรงแรม แต่จะเช่ารถธรรมดาก็ได้เช่นกัน อย่าลืมทำใบขับขี่สากลมาด้วย ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ขับรถชิดขวา (พวงมาลัยซ้าย) ดังนั้นใครไม่ถนัดก็สามารถเช่าคนขับรถได้ ซึ่งราคาก็อาจจะแพงขึ้นมาหน่อย ที่เที่ยวไฮไลต์รอบเส้นทางวงแหวน
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในไอซ์แลนด์ Reykjavik Hostel Village2. เส้นทางขับรถเที่ยว | นอร์ธ โคสต์ 500 (North Coast 500), สกอตแลนด์ลืม กลาสโกว์ กับ เอดินบะระ ไปก่อน เพราะเส้นทาง นอร์ธ โคสต์ 500 (North Coast 500) คือหนึ่งในโร้ดทริปที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เส้นทางนี้พานักเดินทางผ่านเขตที่แทบไม่ค่อยมีคนไปเยือนทางสกอตแลนด์ตอนเหนือ เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2015 และมีที่เที่ยวไฮไลต์อย่าง Cape Wrath จุดตะวันตกเฉียงเหนือสุดของบริเตนใหญ่ และหมู่บ้าน John O’Groats ซึ่งตั้งอยู่ทางแหลมด้านตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางนี้เริ่มต้นและสิ้นสุดที่ อินเวอร์เนสส์ (Inverness) ซึ่งมีที่เที่ยวอย่างอุทยานแห่งชาติ Cairngorms National Park และน้ำตก Rogie Falls โดยระหว่างทางก็จะผ่านหมู่บ้านทางเหนืออย่างหมู่บ้าน Applecross และผ่านหมู่บ้าน Ullapool ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบ Loch Broom ใครอยากพักจากการนั่งรถ ก็ลองนั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะ Outer Hebrides หรือพักในเมืองแล้วไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Ullapool Museum ก็ได้ นอกจากนี้ เส้นทางนี้ยังผ่านซากปราสาทเก่าที่มีอายุเป็นร้อยๆ ปี ฟาร์มต่างๆ และภูมิทัศน์อันงดงามของภูเขาและชายฝั่งทะเล ถนนระยะทางยาวกว่า 800 กิโลเมตรสายนี้ใช้เวลาเดินทางเที่ยวได้ในเวลา 2-3 วัน แต่หากอยากเต็มอิ่มกับวิวและที่เที่ยวให้มากกว่านี้ ก็สามารถแพลนทริป 5-7 วันก็ได้ ที่เที่ยวไฮไลต์บนเส้นทาง NC500
จองที่พักราคาดีในอินเวอร์เนสส์ Drumdevan Country House, InvernessHighland Holiday House, Durness (Cape Wrath)3. เส้นทางขับรถเที่ยว | รูท 66 (Route 66), สหรัฐอเมริกานักเดินทางโร้ดทริปหลายคนใฝ่ฝันจะขับรถเที่ยวในเส้นทางรูท 66 ซึ่งเริ่มต้นที่เมือง ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ และไปจนถึงเมือง ซานตาโมนิก้า–ลอสแองเจลิส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เส้นทางสายนี้มีชื่อขึ้นมาในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และพายุฝุ่นในช่วงทศวรรษ 1930 เมื่อเหล่าผู้อพยพจากมิดเวสต์เดินทางมาตามถนนเพื่อหางานทำและหวังจะร่ำรวยในแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าปัจจุบันทางหลวงส่วนใหญ่ในเส้นทางนี้ไม่ได้ใช้ชื่อรูท 66 อีกต่อไป แต่ก็ถูกกำหนดให้เป็น “Historic Route 66” (เส้นทางประวัติศาสตร์สาย 66) สำหรับบรรดานักเดินทางโร้ดทริปทั้งหลายโดยเฉพาะ เส้นทางรูท 66 มีระยะทางทั้งหมด 3,940 กิโลเมตร (2,448 ไมล์) และผ่านแลนด์มาร์คเก๋ๆ อย่างศิลปะจัดวาง Cadillac Ranch ในเมือง อามาริลโล รัฐเท็กซัส และผ่านถนนระยะทางยาว 20 กว่ากิโลเมตรในรัฐแคนซัส ที่ยังคงใช้ชื่อถนนว่ารูท 66 อยู่ การจะขับรถเที่ยวเส้นทางนี้ให้ครบนั้นจะต้องผ่านรัฐอิลลินอยส์, มิสซูรี่, แคนซัส, โอกลาโฮมา, เท็กซัส, นิวเม็กซิโก, แอริโซนา และแคลิฟอร์เนีย โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ตลอดเส้นทางนี้ก็มีที่เที่ยวให้แวะมากมาย ดังนั้นใครมีเวลามากๆ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเที่ยวสัก 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป ก็จะได้เก็บครบทั้งหมดเลย ที่เที่ยวไฮไลต์บนเส้นทางประวัติศาสตร์สาย 66
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเส้นทางรูท 66 Trade Winds Inn ClintonBaymont by Wyndham Amarillo EastSanta Fe Sage Inn4. เส้นทางขับรถเที่ยว | เกรทโอเชียนโร้ด (Great Ocean Road), ออสเตรเลียการขับรถเที่ยวในเส้นทาง เกรทโอเชียนโร้ด (Great Ocean Road) ถนนเลียบชายฝั่งใน รัฐวิคตอเรีย ทางออสเตรเลียตอนใต้ อาจใช้เวลาแค่สองชั่วโมง แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบร้อนอะไรบนถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีความยาวเพียง 243 กิโลเมตร แต่จุดแวะพักเที่ยวระหว่างทางนั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นชายหาดสุดสงบ ประภาคารสวยๆ ป่า เส้นทางธรรมชาติ แถมมีโอกาสได้เห็นเจ้าจิงโจ้อีกต่างหาก ว่ากันว่านักเดินทางบางคนเคยได้เห็นตัวกินมด หมีโคล่า นกแก้วหลากสี และแม้กระทั่งเพนกวินด้วย ที่เที่ยวติดดาวของเส้นทาง เกรทโอเชียนโร้ด ก็น่าจะเป็นที่ Shipwreck Coast ซึ่งกินเส้นทางจาก ทอร์คีย์ (Torquay) ไปถึง อัลลันส์ฟอร์ด (Allansford) แล้วก็ยังมีที่เที่ยวห้ามพลาดอย่าง Twelve Apostles แท่งหินซึ่งตั้งตระหง่านอย่างมหัศจรรย์อยู่ในมหาสมุทร ที่เที่ยวไฮไลต์บนเส้นทางเกรทโอเชียนโร้ด
ค้นหาที่พักราคาดีในรัฐวิคตอเรีย Cape Otway Lightstation HotelDaysy Hill Country CottagesPort Campbell Motor Inn5. เส้นทางขับรถเที่ยว | เกาะใต้, นิวซีแลนด์เมื่อเป็น เกาะใต้ แล้ว ก็ไม่มีเส้นทางไหนสวยงามกว่าเส้นทางไหนทั้งนั้น เพราะเหล่านักเดินทางโร้ดทริปเค้าการันตีว่าทุกเส้นทางดีหมด! เกาะใต้ เป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ (Fiordland National Park) และ อุทยานแห่งชาติเขาแอสไพริ่ง (Mount Aspiring National Park) ซึ่งทั้งสองแห่งก็เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม ป่าเขา ทะเลสาบใสราวกระจก และธารน้ำแข็งสวยอลังการ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้ไปแช่ผ่อนคลายและเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ลองแพลนทริปสัก 7-10 วันเพื่อสำรวจ เกาะใต้ แต่ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็ยิ่งเริ่ด เพราะหลายคนที่เคยขับรถเที่ยวในนิวซีแลนด์ต่างยืนยันว่าแม้จะใช้เวลาเที่ยวหนึ่งเดือนก็ไม่ถือว่านานไปหรอก ที่เที่ยวไฮไลต์บนเกาะใต้
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในควีนส์ทาวน์ Franz Josef Montrose Hostel LodgeFiordland Hotel & MotelMt Cook Lodge & Motels6. เส้นทางขับรถเที่ยว | ทางหลวงเลห์-มะนาลี (Leh Manali Highway), อินเดียช่วงเวลานี้นี่แหละเหมาะสุดๆ แล้วที่จะขับรถเที่ยวบนเส้นทางเทือกเขาหิมาลัย และถนนจากเมือง มะนาลี (Manali) ไปยัง เลห์ (Leh) ก็เป็นเส้นทางที่ขาลุยโร้ดทริปควรลองสักครั้ง ถนนสายนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ทางหลวงเลห์-มะนาลี ระหว่างทางก็จะได้เห็นวิวอลังการงานสร้างของเทือกเขาอันยิ่งใหญ่ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และดอกไม้น่ารักๆ เต็มไปหมด เส้นทางนี้ยังผ่าน หุบเขาโซลัง (Solang Nala) และ ช่องเขาโรแทง (Rohtang La) และจะได้เห็นภูมิทัศน์แปลกตาสองข้างทางที่สวยงามราวกับสวรรค์บนดินเลยทีเดียว การนั่งรถเที่ยวบนถนนระยะทางยาวเกือบ 500 กิโลเมตรนี้ใช้เวลา 2 วัน แต่ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเที่ยวสัก 3-4 วัน จะได้เที่ยวแบบชิลๆ ไม่เร่งรีบ และมีเวลาปรับร่างกายบนที่สูง ถนนเส้นนี้เปิดให้ใช้ในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึง 15 กันยายน ที่เที่ยวไฮไลต์บนทางหลวงเลห์-มะนาลี
|