ซื้อ กองทุน รวม ที่ไหน ดี

โดยปกติกองทุนประเภทนี้จะมีนโยบายการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี้อ้างอิงให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ดี มีปัจจัยที่ทำให้กองทุนมีผลตอบแทนที่ต่างจากดัชนีอ้างอิง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมกองทุน และสัดส่วนของเงินสดที่ถือเพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่อง

ปี 2564 เป็นอีกปีที่การลงทุนกองทุนรวมให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี มีนักลงทุนใหม่เข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก หลายคนมีปัญหาไม่รู้ว่าจะลงทุนกองทุนไหน ของธนาคารไหนดี? ในบทความนี้จะสรุปให้ว่ากองทุนเด่นๆ ที่กองไหน อยู่ที่ธนาคาร / บลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ไหนบ้าง น่าจะช่วยให้ปี 2564 เป็นปีที่เลือกลงทุนง่ายขึ้นสำหรับทุกๆ คน


ก่อนจะไปดูว่าจะเลือกกองทุนไหน ของธนาคารอะไร ต้องรู้ก่อนว่าเราเข้ามาลงเพื่อวัตถุประสงค์อะไร? เพื่อที่จะได้เลือกลงทุนกองทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของเราอย่างแท้จริง

ซื้อ กองทุน รวม ที่ไหน ดี

ซื้อกองทุนรวมเพราะต้องการอะไร?

  • เน้นผลตอบแทนสูง – อันนี้น่าจะเป็นวัตถุประสงค์ของคนส่วนใหญ่เลยคือเข้ามาลงทุนเพื่อต้องการกำไร! รับความเสี่ยง ความผันผวนได้ ถ้าแบบนี้แนะนำไปลงทุน กองทุนประเภท ตราสารทุน หรือกองทุนรวมหุ้นได้เลย จะเอาแบบเป็นหุ้นโดยรวมหรือจะเลือกประเทศ เลือก Sector ที่ชอบลงทุนก็ได้
  • เน้นไม่เสี่ยง ผลตอบแทนไม่ต้องมาก – อันนี้ซับซ้อนขึ้นมานิดนึงคืออยากได้ผลตอบแทนแหละ แต่ขอไม่เสี่ยงได้ไหม ผลตอบแทนไม่ต้องมาก ขอช้าๆ แต่ขอชัวร์ แบบนี้จะเข้าข่ายกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาล และหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ ซึ่งจ่ายผลตอบแทนคล้ายๆดอกเบี้ย จ่ายไม่มาก แต่จ่ายชัวร์
  • เน้นเอาปันผล – บางคนลงทุนเพราะอยากได้ปันผลมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นการให้เงินทำงานอย่างแท้ทรู เอาเงินก้อนนึงไปลงทุนไว้ และเก็บปันผลไปเรื่อยๆ แบบนี้ต้องหากองทุนหุ้นปันผล หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ฯที่จ่ายปันผลดีๆ
  • เน้นลดหย่อนภาษี – ต้องการกำไร และต้องการลดหย่อยภาษีได้ด้วย อันนี้ต้องหากองทุนประเภท SSF-RMF
  • อยากลงทุนใน Sector ที่ชอบ เช่น อยากลงทุนในเทคโนโลยี หรือพวกองทุนที่เกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพ เพราะมีความเชื่อส่วนตัวว่า Sector เหล่านี้จะ "มาแน่" ในอนาคต

ถ้าเข้าใจความต้องการของตนเองที่ชัดเจนแล้ว มาดูกันเลยว่าแล้วความต้องการแบบนี้ไปซื้อกองทุนธนาคารไหนดี? แล้วต้องซื้อกองชื่ออะไร?

กองทุนรวมเป็นสินค้าทางการเงินที่เหมาะกับคนที่ทำงานประจำหรือเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะเราจำเป็นต้องแบ่งเวลามาทำงานของตัวเอง และก็คงจะไม่มีเวลามาดูแลเรื่องการลงทุนสักเท่าไหร่

หลาย ๆ ครั้งก็มีการลงทุนบางประเภทที่เราก็เข้าไม่ถึง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ที่โดยปกติต้องซื้อผ่านการประมูลและจำเป็นต้องใช้เงินหลายล้านบาท มนุษย์เงินเดือนแบบเรา ๆ ที่มีเงินเดือนหลักหมื่นคงไม่มีปัญญาเข้าถึง แต่เราก็สามารถลงผ่านกองทุนรวมได้ ซึ่งการลงทุนใน กองทุนรวม ก็มีมืออาชีพช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับนักลงทุนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่นอกสายการเงินที่ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาและติดตามเรื่องการลงทุนมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะสนใจกองทุนรวม แต่คำถามยอดฮิตที่พี่ทุยเจอ คือ กองทุนไหนน่าลงทุนที่สุด ?

บทความนี้พี่ทุยจะพามาหาคำตอบกับขั้นตอนการเลือกกองทุนรวม ถึงแม้ว่าอาจจะเยอะหน่อย แต่พี่ทุยอยากให้อ่านจริง ๆ เพราะมันคุ้มค่ากับการเสียเวลาอ่านแน่นอน

การเลือกกองทุนรวม มีอะไรบ้าง

พี่ทุยสรุป ขั้นตอนการเลือกกองทุนรวมสำหรับมือใหม่มาให้ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. การเลือกกองทุนรวม ก่อนซื้อต้องสำรวจตัวเองกันก่อน

ว่าเราต้องการอะไรจากการลงทุน ลองถามตัวเองสำคัญที่สุด อย่าไปตามคนอื่น เช่น อยากลงทุนในสินทรัพย์อะไร หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ แล้วต้องการปันผลมั้ย ความเสี่ยงที่รับได้เป็นยังไง ? และระยะเวลาในการลงทุนจะลงนานแค่ไหน ?

และที่สำคัญ ถึงแม้จะลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีมืออาชีพคอยดูแลอยู่ ก็ควรมีความรู้ความเข้าใจในลักษณะของ “สินทรัพย์” ที่กำลังจะลงทุนด้วย เพราะอย่าลืมว่าถ้าสินทรัพย์ที่เรากำลังจะลงทุน อยู่ในจังหวะที่ไม่เหมาะต่อการลงทุนหรืออยู่ในช่วงขาลงก็ยากที่กองทุนรวมจะได้กำไรเช่นกัน

ขั้นตอนแรกจึงต้องเริ่มต้นสำรวจที่ความต้องการของเราก่อนเสมอ เราจะได้รู้ว่าเราควรเลือกดูกองทุนประเภทไหน แล้วจะได้หยิบจับกองทุนรวมที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบกันได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

2. ดูรายละเอียดกองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet ทุกครั้ง

ดูได้จากสิ่งที่มีชื่อเรียกเท่ ๆ ว่า “Fund Fact Sheet” แต่ไม่ต้องสับสนหรือตกใจว่ามันยาก เพราะใน Fund Fact Sheet นั้นบอกเราเกือบทุกอย่าง ว่ากองทุนนั้นมันเป็นยังไง ไม่ว่าจะนำเงินที่เราลงทุนไปลงทุนในอะไร ขนาดกองทุน จ่ายปันผลมั้ย ขั้นต่ำที่ซื้อได้ครั้งละเท่าไร แล้วก็พวกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็บอกด้วยทั้งหมดเช่นกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีพวกอายุของกองทุน ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแค่ไหน สภาพคล่องของกองทุน บางกองก็ไม่สามารถขายได้ทันที ควรศึกษาให้ละเอียดหน่อย เพื่อสอดคล้องเป้าหมายการลงทุนของเรา พวกเอกสารก็โหลดได้จากหน้า Website ของ บลจ. ที่ดูแลกองทุนนั้นได้เลย ช่วงแรกอาจจะงง ๆ หน่อย สักพักเราจะอ่านได้คล่องมากขึ้นเอง

3. การเลือกกองทุนรวม ที่ดีต้องให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

เคยซื้อหวยแล้วถูกบ้างมั้ย ? ตอนที่เราถูกเราคงรู้สึกว่าเรานี่โชคดีสุด ๆ ไปเลย สำหรับพี่ทุยคิดว่ากองทุนรวมก็เหมือนกัน บางกองทุนผลตอบแทนอาจจะดีมากอยู่แค่ 1 ปี ถ้าเป็นลักษณะนี้ก็สรุปไม่ได้ว่ากองทุนรวมนั้นดีจริง เพราะอาจจะแค่โชคดีก็เป็นไปได้

สิ่งที่พี่ทุยดูเสมอคือ “ผลตอบแทนย้อนหลัง” ถ้ามันดีมาอย่างสม่ำเสมอก็เป็นกองทุนที่น่าสนใจ และแน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้หาได้จาก Fund Fact Sheet ได้เช่นกัน

4. ถึงจะเป็นกองทุนก็มีความเสี่ยง

เมื่อขึ้นชื่อว่าการลงทุนแน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง ความเสี่ยงที่การลงทุนจะทำผลตอบแทนไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกองทุนรวมก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

ตัวเลขที่เราสามารถวัดค่าความเสี่ยงได้คือ Standard Deviation หรือ S.D. ค่ายิ่งสูง แปลว่า ยิ่งเสี่ยง แต่การใช้ตัวเลขตัวนี้เหมาะกับการเปรียบเทียบกองทุนรวมที่ลงทุนในแหล่งเดียวกันเท่านั้น เช่น กองทุนรวมหุ้นเหมือนกัน หรือกองทุนตราสารหนี้เหมือนกัน

พี่ทุยขอแนะนำ Sharpe Ratio ความหมายง่าย ๆ คือ ยิ่งสูงยิ่งดี หากดูกองทุนที่ประเภทเดียวกันแล้วกองทุนกองไหน Sharpe Ratio สูงกว่า แสดงว่ากองทุนรวมนั้นสามารถทำผลงานได้น่าสนใจกว่า

5. ตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตการลงทุนให้เราอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดเลยก็คือ “การตรวจสอบและติดตาม” กองทุนรวมที่เราลงทุนอย่างน้อยทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่ากองทุนรวมที่เราเลือกลงทุนอยู่ยังเป็นกองทุนรวมที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า “มาตรฐานการดำเนินงาน (Benchmark)” และกองทุนคู่แข่งอยู่เสมอ หรือถ้ามีผลการดำเนินงานที่ต่ำลง เราก็ควรไปเจาะลึกดูพอร์ตการลงทุนของกองทุนรวมอีกครั้งหนึ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้ววิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร

ถ้าตรวจสอบแล้วยังเป็นกองทุนที่ดีก็สามารถถือลงทุนต่อได้ แต่ถ้าดูแล้วไม่น่าไหว เราก็อาจจะขายแล้วเปลี่ยนไปเลือกกองทุนรวมที่ดี ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมก็คือ เราสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเองได้เสมอ

เห็นแล้วใช่มั้ยว่าการลงทุนใน “กองทุนรวม” ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมได้ คนเราแค่กลัวในสิ่งที่เราไม่รู้เท่านั้นเอง พออ่านถึงตรงนี้เราก็มีความรู้พร้อมที่จะไปลงทุนกองทุนรวมแล้ว เวลาเลือกซื้อของยังเลือกแล้วเลือกอีก เลือกลงทุนทั้งทีก็ต้องเปรียบเทียบให้เต็มที่เพื่อให้เราได้ของดีที่สุดนั่นเอง

แต่สำหรับบางคนอาจจะยังลังเลอยู่อีกว่า เราจะเลือกกองทุนรวมหรือหุ้นดีกว่ากัน แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม เราก็ยังจำเป็นต้องศึกษาเรื่องการลงทุนเอาไว้ให้มาก เพราะถ้าเรารู้และมีข้อมูลมากเพียงพอแล้ว เราก็จะเลิกกลัวและกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งและประสบความสำเร็จกับการลงทุนอย่างแน่นอน

ซื้อกองทุนรวมได้ที่ไหน

ช่วงนี้หลายคนให้ความสนใจซื้อกองทุนรวมกันมากขึ้น ด้วยเป็นการลงทุนที่สะดวกต่อมือใหม่ แต่คำถามคือ ถ้าอยากจะเปิดพอร์ตซื้อขายกองทุนรวม ควรเริ่มจากที่ไหนดี?.
1. Easy Invest. ... .
2. FINNOMENA. ... .
3. FinVest. ... .
4. odini. ... .
5. TMB TOUCH. ... .
6. Ascend WEALTH..

ซื้อกองทุนตัวไหนดี 2023

8 กองทุน DCA น่าสนใจปี 2023.
1. KFSMART: โอกาสรับผลตอบแทนโดยไม่ต้องเสี่ยงสูง ... .
2. KF-CSINCOM: คัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดีจากทุกมุมโลก ... .
3. KFCORE: กองทุนหลักในพอร์ตการลงทุน (Core Port) สำหรับทุกคน ... .
4. KFDYNAMIC: กองทุนหุ้นไทยศักยภาพสูงต้องกรุงศรีหุ้นไดนามิค ... .
5. KFGBRAND: เป็นเจ้าของหุ้นแบรนด์ชั้นนำผ่านกองทุนระดับโลก.

ซื้อกองทุนรวม เริ่มยังไงดี

การเลือกกองทุนรวม มีอะไรบ้าง.
1. การเลือกกองทุนรวม ก่อนซื้อต้องสำรวจตัวเองกันก่อน ... .
2. ดูรายละเอียดกองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet ทุกครั้ง ... .
3. การเลือกกองทุนรวม ที่ดีต้องให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ... .
4. ถึงจะเป็นกองทุนก็มีความเสี่ยง ... .
5. ตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง.

กองทุนรวม สามารถถอนได้ไหม

ส่วนใครที่กังวลว่ากองทุนรวมถอนได้ไหม ก็ไม่ต้องห่วง เราสามารถถอน หรือที่เรียกว่าการขายกองทุนรวมออกมาได้ทุกเมื่อ แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อเราทำรายการขายหน่วยลงทุน เงินจากกองทุนรวมจะเด้งเข้ามาในบัญชีได้ทันที ยังมีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาดำเนินการเช่นเดียวกับตอนที่เราซื้อหน่วยลงทุน