Disclaimer: คำถามเหล่านี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดสรรกองทุนรวมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุนในเบื้องต้น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลในแบบสอบถามฉบับนี้ มิใช่ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุน และมิได้มีเจตนาเชิญชวนหรือชี้นำซื้อหรือขายกองทุนแต่อย่างใด จึงขอให้ผู้ใช้ข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมและใช้ดุลยพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน Show
หลาย ๆ ครั้งก็มีการลงทุนบางประเภทที่เราก็เข้าไม่ถึง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ที่โดยปกติต้องซื้อผ่านการประมูลและจำเป็นต้องใช้เงินหลายล้านบาท มนุษย์เงินเดือนแบบเรา ๆ ที่มีเงินเดือนหลักหมื่นคงไม่มีปัญญาเข้าถึง แต่เราก็สามารถลงผ่านกองทุนรวมได้ ซึ่งการลงทุนใน กองทุนรวม ก็มีมืออาชีพช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับนักลงทุนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่นอกสายการเงินที่ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาและติดตามเรื่องการลงทุนมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะสนใจกองทุนรวม แต่คำถามยอดฮิตที่พี่ทุยเจอ คือ กองทุนไหนน่าลงทุนที่สุด ? บทความนี้พี่ทุยจะพามาหาคำตอบกับขั้นตอนการเลือกกองทุนรวม ถึงแม้ว่าอาจจะเยอะหน่อย แต่พี่ทุยอยากให้อ่านจริง ๆ เพราะมันคุ้มค่ากับการเสียเวลาอ่านแน่นอน การเลือกกองทุนรวม มีอะไรบ้างพี่ทุยสรุป ขั้นตอนการเลือกกองทุนรวมสำหรับมือใหม่มาให้ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ 1. การเลือกกองทุนรวม ก่อนซื้อต้องสำรวจตัวเองกันก่อนว่าเราต้องการอะไรจากการลงทุน ลองถามตัวเองสำคัญที่สุด อย่าไปตามคนอื่น เช่น อยากลงทุนในสินทรัพย์อะไร หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ แล้วต้องการปันผลมั้ย ความเสี่ยงที่รับได้เป็นยังไง ? และระยะเวลาในการลงทุนจะลงนานแค่ไหน ? และที่สำคัญ ถึงแม้จะลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีมืออาชีพคอยดูแลอยู่ ก็ควรมีความรู้ความเข้าใจในลักษณะของ “สินทรัพย์” ที่กำลังจะลงทุนด้วย เพราะอย่าลืมว่าถ้าสินทรัพย์ที่เรากำลังจะลงทุน อยู่ในจังหวะที่ไม่เหมาะต่อการลงทุนหรืออยู่ในช่วงขาลงก็ยากที่กองทุนรวมจะได้กำไรเช่นกัน ขั้นตอนแรกจึงต้องเริ่มต้นสำรวจที่ความต้องการของเราก่อนเสมอ เราจะได้รู้ว่าเราควรเลือกดูกองทุนประเภทไหน แล้วจะได้หยิบจับกองทุนรวมที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบกันได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง 2. ดูรายละเอียดกองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet ทุกครั้งดูได้จากสิ่งที่มีชื่อเรียกเท่ ๆ ว่า “Fund Fact Sheet” แต่ไม่ต้องสับสนหรือตกใจว่ามันยาก เพราะใน Fund Fact Sheet นั้นบอกเราเกือบทุกอย่าง ว่ากองทุนนั้นมันเป็นยังไง ไม่ว่าจะนำเงินที่เราลงทุนไปลงทุนในอะไร ขนาดกองทุน จ่ายปันผลมั้ย ขั้นต่ำที่ซื้อได้ครั้งละเท่าไร แล้วก็พวกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็บอกด้วยทั้งหมดเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีพวกอายุของกองทุน ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแค่ไหน สภาพคล่องของกองทุน บางกองก็ไม่สามารถขายได้ทันที ควรศึกษาให้ละเอียดหน่อย เพื่อสอดคล้องเป้าหมายการลงทุนของเรา พวกเอกสารก็โหลดได้จากหน้า Website ของ บลจ. ที่ดูแลกองทุนนั้นได้เลย ช่วงแรกอาจจะงง ๆ หน่อย สักพักเราจะอ่านได้คล่องมากขึ้นเอง 3. การเลือกกองทุนรวม ที่ดีต้องให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอเคยซื้อหวยแล้วถูกบ้างมั้ย ? ตอนที่เราถูกเราคงรู้สึกว่าเรานี่โชคดีสุด ๆ ไปเลย สำหรับพี่ทุยคิดว่ากองทุนรวมก็เหมือนกัน บางกองทุนผลตอบแทนอาจจะดีมากอยู่แค่ 1 ปี ถ้าเป็นลักษณะนี้ก็สรุปไม่ได้ว่ากองทุนรวมนั้นดีจริง เพราะอาจจะแค่โชคดีก็เป็นไปได้ สิ่งที่พี่ทุยดูเสมอคือ “ผลตอบแทนย้อนหลัง” ถ้ามันดีมาอย่างสม่ำเสมอก็เป็นกองทุนที่น่าสนใจ และแน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้หาได้จาก Fund Fact Sheet ได้เช่นกัน 4. ถึงจะเป็นกองทุนก็มีความเสี่ยงเมื่อขึ้นชื่อว่าการลงทุนแน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง ความเสี่ยงที่การลงทุนจะทำผลตอบแทนไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกองทุนรวมก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ตัวเลขที่เราสามารถวัดค่าความเสี่ยงได้คือ Standard Deviation หรือ S.D. ค่ายิ่งสูง แปลว่า ยิ่งเสี่ยง แต่การใช้ตัวเลขตัวนี้เหมาะกับการเปรียบเทียบกองทุนรวมที่ลงทุนในแหล่งเดียวกันเท่านั้น เช่น กองทุนรวมหุ้นเหมือนกัน หรือกองทุนตราสารหนี้เหมือนกัน พี่ทุยขอแนะนำ Sharpe Ratio ความหมายง่าย ๆ คือ ยิ่งสูงยิ่งดี หากดูกองทุนที่ประเภทเดียวกันแล้วกองทุนกองไหน Sharpe Ratio สูงกว่า แสดงว่ากองทุนรวมนั้นสามารถทำผลงานได้น่าสนใจกว่า 5. ตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่องถึงแม้การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตการลงทุนให้เราอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดเลยก็คือ “การตรวจสอบและติดตาม” กองทุนรวมที่เราลงทุนอย่างน้อยทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่ากองทุนรวมที่เราเลือกลงทุนอยู่ยังเป็นกองทุนรวมที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า “มาตรฐานการดำเนินงาน (Benchmark)” และกองทุนคู่แข่งอยู่เสมอ หรือถ้ามีผลการดำเนินงานที่ต่ำลง เราก็ควรไปเจาะลึกดูพอร์ตการลงทุนของกองทุนรวมอีกครั้งหนึ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้ววิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ถ้าตรวจสอบแล้วยังเป็นกองทุนที่ดีก็สามารถถือลงทุนต่อได้ แต่ถ้าดูแล้วไม่น่าไหว เราก็อาจจะขายแล้วเปลี่ยนไปเลือกกองทุนรวมที่ดี ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมก็คือ เราสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเองได้เสมอ เห็นแล้วใช่มั้ยว่าการลงทุนใน “กองทุนรวม” ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมได้ คนเราแค่กลัวในสิ่งที่เราไม่รู้เท่านั้นเอง พออ่านถึงตรงนี้เราก็มีความรู้พร้อมที่จะไปลงทุนกองทุนรวมแล้ว เวลาเลือกซื้อของยังเลือกแล้วเลือกอีก เลือกลงทุนทั้งทีก็ต้องเปรียบเทียบให้เต็มที่เพื่อให้เราได้ของดีที่สุดนั่นเอง แต่สำหรับบางคนอาจจะยังลังเลอยู่อีกว่า เราจะเลือกกองทุนรวมหรือหุ้นดีกว่ากัน แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม เราก็ยังจำเป็นต้องศึกษาเรื่องการลงทุนเอาไว้ให้มาก เพราะถ้าเรารู้และมีข้อมูลมากเพียงพอแล้ว เราก็จะเลิกกลัวและกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งและประสบความสำเร็จกับการลงทุนอย่างแน่นอน ซื้อกองทุนรวมของที่ไหนดีถ้าหากว่าทุกท่านต้องการคำแนะนำ ว่าจะหาซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี หรืออยากจะซื้อกองทุนไหนดี เราขอแนะนำ 3 ธนาคารหลักของไทยซึ่งเป็นแหล่งซื้อกองทุน ที่ดีที่สุดนั่นคือซื้อกองทุนกสิกร ซื้อกองทุน scb และ กองทุนกรุงไทย 3 ธนาคารนี้มีราคาหน่วยลงทุน ที่ภาษีดีที่สุด ความเสี่ยงต่ำ ถือได้ทั้งแบบยาวและแบบสั้น
กองทุนรวมตัวไหนน่าลงทุนรวม 10 กองทุนต่างประเทศที่น่าสนใจ 1 บาทก็ลงทุนได้ ฉบับอัปเดต 2022. 1. ONE-UGG-RA.. 2. TMB-ES-GCG.. 3. UOBSGA.. 4. TMBEAE.. 5. WE-EVOSEMI.. 6. WE-TENERGY.. 7. TMBINDAE.. 8. UOBSGC.. เปิดบัญชีกองทุนรวมที่ไหนดี 2564ช่วงนี้หลายคนให้ความสนใจซื้อกองทุนรวมกันมากขึ้น ด้วยเป็นการลงทุนที่สะดวกต่อมือใหม่ แต่คำถามคือ ถ้าอยากจะเปิดพอร์ตซื้อขายกองทุนรวม ควรเริ่มจากที่ไหนดี?. 1. Easy Invest. ... . 2. FINNOMENA. ... . 3. FinVest. ... . 4. odini. ... . 5. TMB TOUCH. ... . 6. Ascend WEALTH.. ซื้อกองทุนตัวไหนดี 20238 กองทุน DCA น่าสนใจปี 2023. 1. KFSMART: โอกาสรับผลตอบแทนโดยไม่ต้องเสี่ยงสูง ... . 2. KF-CSINCOM: คัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดีจากทุกมุมโลก ... . 3. KFCORE: กองทุนหลักในพอร์ตการลงทุน (Core Port) สำหรับทุกคน ... . 4. KFDYNAMIC: กองทุนหุ้นไทยศักยภาพสูงต้องกรุงศรีหุ้นไดนามิค ... . 5. KFGBRAND: เป็นเจ้าของหุ้นแบรนด์ชั้นนำผ่านกองทุนระดับโลก. |