�����Ӥѭ��мš�з��ͧ��Ѿ�ҡø����ҵ� Show
�Ԩ�����ͧ���������觼š�з��������Ǵ������з�Ѿ�ҡø����ҵ� ����
���˵ط���������Ӻ������Ǵ�������������˵شѧ��� ทฤษฎีความต้องการลำดับขั้นของมาสโลว์เป็นทฤษฎีที่เป็นทีนิยมอย่างมาก และแพร่หลายสุดๆ ทั้งสายจิตวิทยาและการบริหาร ผมเชื่อว่าทุกคนรู้จักมาสโลว์ด้วยกันทั้งนั้น ทฤษฎีดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการออกแบบระบบการให้รางวัลได้อย่างดีเยี่ยม แต่เชื่อหรือไม่ว่า ส่วนใหญ่นำไปใช้แล้วกลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก มาสโลว์แบบความต้องการออกเป็น 5 ลำดับขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1: ความต้องการพื้นฐานด้านกายภาพ ขั้นที่ 2: ความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขั้นที่ 3: ความต้องการความรัก และการมีสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น ขั้นที่ 4: ความต้องการได้รับการยอมรับนับถือ ขั้นที่ 5: ความต้องการที่จะได้พัฒนาตนเองไปสู่ศักยภาพสูงสุดของตน มาสโลว์ได้วางเงื่อนไขเอาไว้ 2 ข้อในแนวคิดนี้ก็คือ 1. ความต้องการทั้ง 5 ขั้นจะเกิดขึ้นตามลำดับ จาก 1 ไปถึง 5 เสมอ นั่นหมายความว่า... หากคนเรายังไม่มีครบปัจจัย 4 ก็จะยังไม่เกิดความต้องการมั่นคงปลอดภัย และถ้าเรายังไม่เกิดความมั่นคงปลอดภัย ความต้องการความรักก็จะยังไม่เกิด และเมื่อความรักยังไม่เกิด ความต้องการการนับถือตนเองก็จะยังไม่มี และหากความต้องการการนับถือตนเองยังไม่ได้รับการเติมเต็ม คนเราก็จะยังไม่คิดที่จะพัฒนาตนอย่างสุดความสามารถ เงื่อนไขข้อที่ 2 นี่แหละครับ ที่หลายๆ องค์การมักจะมองข้ามไปเสมอ... และเป็นเหตุให้ระบบการให้รางวัลไม่ประสบความสำเร็จ มีหลายๆ ที่เขาสอนสั่งกันว่า เราไม่ควรที่จะให้รางวัลที่เป็นเงินบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะนั่นจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Overjustification หรือก็คือ การที่คนเราคิดว่าเหตุของการมีพฤติกรรมนั้นเป็นเพราะ เราได้รางวัล... เช่น ขยันทำงานเพราะว่าอยากำได้รางวัลคือเบี้ยขยัน เป็นต้น เลยทำให้องค์การเหล่านั้นพยายามให้รางวัลในรูปของสิ่งที่ไม่ใช่เงิน (non-monetary rewards) เช่น ใบประกาศเกียรติคุณ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็สอดคล้องกับแนวคิดของมาสโลว์ดี เพราะมนุษย์เรามีความต้องการการได้รับการยอมรับ ดังนั้นการได้ใบประกาศก็เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าได้รับการยอมรับ... แต่แล้วก็ต้องมากลุ้มใจว่า ทำไมให้แล้วไม่ได้ผล คำตอบที่มักถูกมองข้ามไปก็คือ ก็เป็นเพราะความต้องการขั้นต้น อย่างเช่น ปัจจัย 4 ยังไม่ได้รับการเติมเต็มไงล่ะครับ... พนักงานรายวันรายได้วันละ 203 บาท ถ้าให้เทียบระหว่างเงินรางวัล 300 บาท กับใบประกาศใบหนึ่ง เขาจะอยากได้อะไร?!? ปรากฏการณ์ Overjustification หรือการที่คนเราจะไปคิดว่าทำพฤติกรรมนั้นเพียงเพื่อหวังเงินรางวัลจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ เราให้รางวัลที่สูงค่าเกินไป ในการที่จะกระตุ้นให้คนเรามีพฤติกรรมอย่างง่ายๆ หรือพูดง่ายๆ คือให้รางวัลแบบ ขี่ช้างจับตั๊กแตนนั่นเอง แต่การให้เบี้ยขยัน 300-500 บาท เพื่อแลกกันการที่มาทำงานทุกวันไม่หยุดหรือสาย หรือพูดง่ายๆ คือ ให้เฉลี่ยวันละ 10 บาท ผมว่าไม่น่าจะเกิดปรากฏการณ์ Overjustification หรอกนะครับ บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
ปัจจัย 4 มีความสำคัญต่อมนุษย์อย่างไรปัจจัย 4 คือ สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย แต่นอกเหนือจากปัจจัย 4 แล้ว ในยุคปัจจุบัน 'ความมั่นคงทางการเงิน' กลายมาเป็นปัจจัย 5 ที่สำคัญของการดำรงชีวิต เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยพยุงให้เราปลอดภัยและอยู่รอดได้
ปัจจัย 4 ถือเป็นความต้องการของมนุษย์ด้านใด1. ความต้องการพื้นฐานทางด้านร่างกาย (Physiological Needs) เป็นความต้องการลำดับต่ำสุดและเป็นพื้นฐานของชีวิต ได้แก่ ความต้องการเพื่อตอบสนองความหิว ความกระหาย ความต้องการเพื่อความอยู่รอดของชีวิต เรียกง่ายๆ ก็คือ ปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่พักอาศัย รวมถึงสิ่งที่ทำให้การดำรงชีวิตสะดวกสบาย นั่นเอง
ปัจจัย 4 ได้แก้อะไรบ้าง3 Mins. Read. อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค การจัดการกับค่าใช้จ่ายเรื่องเหล่านี้ให้ดี คือ จุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับการสร้างความมั่งคั่ง. มีอาหารรับประทาน ... . มีที่อยู่อาศัยที่อบอุ่นปลอดภัย ... . มีเครื่องนุ่งห่มสวยงามตามฐานะ ... . เจ็บป่วยมีเงินรักษาพยาบาล. ปัจจัย4ของคนเรามีอะไรบ้างมนุษย์เราดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยปัจจัย 4 คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรคทำให้ตอนเด็ก ฉันฝันอยากเป็นเชฟทำอาหาร จะได้ทำให้คนในครอบครัวได้กิน
|