เหตุผล ใด ไม่ใช่ สาเหตุ หรือ ปัจจัย ของ การ พัฒนา ระบบ โอน เงิน บน Application ใน โทรศัพท์ มือ ถือ

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ ได้แก่ Frontline, Business Plus, องค์กร, Education Fundamentals, Education Standard, Teaching and Learning Upgrade และ Education Plus, G Suite Basic และ G Suite Business, Cloud Identity Premium  เปรียบเทียบรุ่นของคุณ

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถควบคุมวิธีที่ผู้ใช้เข้าถึงและโต้ตอบกับอุปกรณ์ Android ได้โดยใช้การตั้งค่านโยบาย

ข้อกำหนด

  • ตั้งค่าการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ขั้นสูงสําหรับผู้ใช้อุปกรณ์ Android ที่ต้องการใช้การตั้งค่า
  • การตั้งค่าบางอย่างจะใช้ได้เฉพาะในอุปกรณ์ของบริษัทเท่านั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเพิ่มอุปกรณ์ของบริษัทไปยังคลัง

ค้นหาและตั้งค่า Android

ก่อนที่จะเริ่มต้น: หากต้องการใช้การตั้งค่ากับผู้ใช้บางราย ให้ใส่บัญชีในหน่วยขององค์กร

  1. จากหน้าแรกของคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่อุปกรณ์

  2. ที่ด้านซ้าย ให้คลิกอุปกรณ์เคลื่อนที่และปลายทาง
    เหตุผล ใด ไม่ใช่ สาเหตุ หรือ ปัจจัย ของ การ พัฒนา ระบบ โอน เงิน บน Application ใน โทรศัพท์ มือ ถือ
    การตั้งค่าการตั้งค่า Android
  3. (ไม่บังคับ) เลือกหน่วยขององค์กรที่คุณต้องการใช้การตั้งค่าทางด้านซ้าย
  4. คลิกหมวดหมู่การตั้งค่าและการตั้งค่า ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าในส่วนต่อไปนี้
  5. หากต้องการใช้การตั้งค่ากับทุกคน ให้เลือกหน่วยขององค์กรระดับบนสุด หรือเลือกหน่วยขององค์กรระดับล่าง
  6. หากต้องการใช้การตั้งค่า ให้เลือกช่องหรือป้อนข้อมูลที่ต้องระบุ
  7. คลิกบันทึก หากกำหนดค่าองค์กรณ์ระดับล่างแล้ว คุณอาจรับค่าหรือลบล้างการตั้งค่าขององค์กรระดับบนได้

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ดัชนีการตั้งค่า Android

  • การตั้งค่าทั่วไป
  • โปรไฟล์งาน
  • แอปและการแชร์ข้อมูล
  • เครือข่าย
  • ฟีเจอร์ของอุปกรณ์
  • ผู้ใช้และบัญชี
  • ฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด

การตั้งค่าทั่วไป

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

ล้างข้อมูลอัตโนมัติ

นำข้อมูลงานหรือโรงเรียนของผู้ใช้ออกจากอุปกรณ์โดยอัตโนมัติหากผู้ใช้ไม่แก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดก็ตามต่อไปนี้

  • อุปกรณ์ไม่ได้ซิงค์ตามจำนวนวันที่กำหนด
  • อุปกรณ์ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดนโยบายด้านอุปกรณ์ต่อไปนี้
    • ข้อกำหนดของรหัสผ่าน
    • บล็อกอุปกรณ์ Android ที่ถูกบุกรุก
    • บล็อกอุปกรณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด Android CTS
    • ต้องมีการเข้ารหัสอุปกรณ์

ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนและเวลาในการแก้ไขปัญหาก่อนที่ระบบจะล้างข้อมูล

หากต้องการปิดการล้างข้อมูลอัตโนมัติ ให้ยกเลิกการเลือกช่องล้างข้อมูลอุปกรณ์หากไม่ได้ซิงค์หรือไม่เป็นไปตามข้อกําหนด

ข้อมูลที่จะถูกล้าง

ข้อมูลที่ระบบนำออกจะขึ้นอยู่กับวิธีตั้งค่าอุปกรณ์ ดังนี้

Android Device Policy

  • สำหรับอุปกรณ์ของบริษัทหรืออุปกรณ์ส่วนตัวที่ผู้ใช้กำหนดไว้ว่าใช้ทำงานเท่านั้น (สิทธิ์ในการจัดการขององค์กรคือเจ้าของอุปกรณ์) ระบบจะรีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น
  • สําหรับอุปกรณ์ส่วนตัวที่มีโปรไฟล์งาน (สิทธิ์ในการจัดการขององค์กรคือเจ้าของโปรไฟล์) ระบบจะล้างเฉพาะโปรไฟล์งานเท่านั้น ส่วนข้อมูลและแอปส่วนตัวจะยังอยู่ในอุปกรณ์เช่นเดิม

Google Apps Device Policy

ระบบจะนำบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนออก ส่วนข้อมูลและแอปส่วนตัวจะยังอยู่ในอุปกรณ์เช่นเดิม แต่หากอุปกรณ์อยู่ในโหมดที่มีการจัดการครบวงจรและมีการเพิ่มบัญชีงานกลับเข้ามา แอปทั้งหมดจะถูกนำออกจากอุปกรณ์

การปฏิบัติตามข้อกำหนดของ CTS

รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

บล็อกอุปกรณ์ Android ที่ไม่สอดคล้องตามข้อกำหนดชุดเครื่องมือทดสอบความเข้ากันได้ (CTS) โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อชุดเครื่องมือทดสอบความเข้ากันได้

การตรวจสอบแอปพลิเคชัน

หมายเหตุ: การตั้งค่าตรวจสอบแอปในอุปกรณ์ส่วนตัวที่ไม่มีโปรไฟล์งานจะไม่มีผลอีกต่อไป เนื่องจากขณะนี้อุปกรณ์ส่วนตัวที่อยู่ภายใต้การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ขั้นสูงจะต้องมีโปรไฟล์งาน

อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบดูรายละเอียดเกี่ยวกับแอปที่ติดตั้งในอุปกรณ์ส่วนตัวที่ไม่มีโปรไฟล์งาน หมายเหตุ: แอปพลิเคชันจะได้รับการตรวจสอบโดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งาน

เมื่อเลือกช่องตรวจสอบแอปในอุปกรณ์ส่วนตัวที่ไม่มีโปรไฟล์งาน อุปกรณ์จะรายงานข้อมูลต่อไปนี้ไปยังคอนโซลผู้ดูแลระบบ

  • รายชื่อแอปที่ติดตั้งในอุปกรณ์ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อดูรายละเอียดอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • รายละเอียดที่ระบุเวลาที่ผู้ใช้ติดตั้ง ถอนการติดตั้ง หรืออัปเดตแอปในอุปกรณ์ของตน โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์

ล้างข้อมูลอุปกรณ์ของผู้ใช้

อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ใช้อุปกรณ์ Android เข้าถึงโปรแกรมจัดการอุปกรณ์ Android

เมื่อเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้ล้างข้อมูลในอุปกรณ์จากหาอุปกรณ์ของฉัน ผู้ใช้จะใช้โปรแกรมจัดการอุปกรณ์ Android เพื่อค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายได้ นอกจากนี้ยังทำให้อุปกรณ์ส่งเสียง ล็อก หรือลบข้อมูลออกจากอุปกรณ์จากระยะไกลได้อีกด้วย โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อโปรแกรมจัดการอุปกรณ์ Android

อุปกรณ์ Android รุ่นเก่า

รองรับอุปกรณ์รุ่นเก่าโดยการบังคับใช้เฉพาะนโยบายที่อุปกรณ์รุ่นเก่ารองรับ

เมื่อเปิดแล้ว อุปกรณ์รุ่นเก่าจะยังคงซิงค์ข้อมูลของบริษัทต่อไปได้โดยไม่มีพื้นที่เก็บข้อมูลที่เข้ารหัส อุปกรณ์เหล่านี้ซิงค์ข้อมูลได้แม้ว่าคุณกำหนดให้ต้องเข้ารหัสก็ตาม

โปรไฟล์งาน

ใช้โปรไฟล์งานเพื่อแยกแอปขององค์กรออกจากแอปส่วนตัว ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของผู้ใช้ที่นำอุปกรณ์มาเอง (BYOD) จะยังคงเป็นส่วนตัวและใช้ได้เฉพาะผู้ใช้เท่านั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อโปรไฟล์งานคืออะไร

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

การตั้งค่าโปรไฟล์งาน

หมายเหตุ: ขณะนี้โปรไฟล์งานกำหนดให้ต้องใช้อุปกรณ์ส่วนตัวเสมอ การตั้งค่านี้จึงไม่มีผลอีกต่อไป

ควบคุมการสร้างโปรไฟล์งานในอุปกรณ์ Android ส่วนตัวที่ใช้ในองค์กร

ผู้ใช้สามารถเพิ่มบัญชีที่มีการจัดการ 1 บัญชีลงในอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งานได้ ภายในโปรไฟล์งาน คุณกำหนดและจัดการแอปของบริษัทได้จากรายการแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หลังจากติดตั้งแล้ว แอปที่มีการจัดการจะมีเครื่องหมาย Android Enterprise กำกับอยู่เพื่อให้ผู้ใช้แยกความแตกต่างจากแอปส่วนตัวได้ง่าย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุญาตรายการแอป Android

ถัดจากการตั้งค่าโปรไฟล์งาน ให้คลิกลูกศรลง แล้วเลือก 1 ตัวเลือกต่อไปนี้

  • ผู้ใช้เลือกใช้ - แจ้งให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์งานเมื่อลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อรับการจัดการ หากผู้ใช้เลือกที่จะไม่สร้างโปรไฟล์งาน ผู้ใช้จะยังคงซิงค์ข้อมูลบริษัทได้ แต่คุณ (และผู้ดูแลระบบคนอื่นๆ) จะยังคงปกป้องข้อมูลงานหรือสถานศึกษาในอุปกรณ์ได้ เช่น หากอุปกรณ์สูญหาย คุณก็ล้างข้อมูลทั้งหมดจากอุปกรณ์ดังกล่าวได้
  • บังคับใช้ - กําหนดให้ผู้ใช้ต้องสร้างโปรไฟล์งานในอุปกรณ์ของตน ผู้ใช้จะซิงค์ข้อมูลบริษัทไม่ได้จนกว่าจะยอมรับโปรไฟล์งานโดยที่ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ หากอุปกรณ์ Android ที่ไม่มีโปรไฟล์งานได้รับการลงทะเบียนเพื่อรับการจัดการแล้ว ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์งานขึ้นมา การซิงค์ข้อมูลกับอุปกรณ์จะหยุดลงจนกว่าจะมีโปรไฟล์งาน หากอุปกรณ์ไม่รองรับโปรไฟล์งาน ระบบจะไม่ใช้การตั้งค่านี้ หากต้องการดูว่าอุปกรณ์รองรับโปรไฟล์งานหรือไม่ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของอุปกรณ์ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อดูรายละเอียดอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • ปิดใช้ - ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อุปกรณ์สร้างโปรไฟล์งาน แต่จะไม่มีผลกับโปรไฟล์งานเดิมที่สร้างขึ้นในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว

รหัสผ่านโปรไฟล์งาน

รองรับในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไป

บังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านเฉพาะในแอปที่เรียกใช้ในโปรไฟล์งานของผู้ใช้ และอนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าหน้าจอล็อกสำหรับอุปกรณ์ของตนเองได้

หากต้องการบังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านในอุปกรณ์ทุกเครื่อง ให้ยกเลิกการเลือกช่องใช้การกำหนดให้ป้อนรหัสผ่านในแอปที่ใช้โปรไฟล์งานเท่านั้น

หมายเหตุ: สําหรับอุปกรณ์ที่เก่ากว่า Android 7.0 ระบบจะบังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านในอุปกรณ์ทุกเครื่องเสมอ

แอปและการแชร์ข้อมูล

รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ที่นํามาใช้เองที่มีโปรไฟล์งาน เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

แอปที่ใช้ได้

อนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาและติดตั้งแอปทั้งหมดใน Google Play Store หรือเฉพาะแอปที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

หมายเหตุ:

  • การตั้งค่านี้จะลบล้างการตั้งค่าการเข้าถึงของผู้ใช้สําหรับแอปในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • หากเลือกแอปทั้งหมด ผู้ใช้จะติดตั้งแอปใดก็ได้ใน Google Play Store รวมถึงแอปที่ตั้งการเข้าถึงของผู้ใช้เป็นปิดและแอปที่ไม่มีการจัดการ
  • หากเลือกเฉพาะแอปที่อนุญาต ผู้ใช้จะติดตั้งได้เฉพาะแอปในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่แอปที่ไม่มีการจัดการที่ติดตั้งไว้ในเครื่องอยู่แล้วจะอยู่ในเครื่องต่อไป

แอประบบ

รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทเท่านั้น

อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปทั้งหมดหรือเฉพาะแอประบบบางแอป ซึ่งแอประบบเป็นแอปที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น นาฬิกาและเครื่องคิดเลข คุณสามารถอนุญาตแอปทั้งหมด บล็อกแอปทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะแอปที่จะบล็อกหรืออนุญาตก็ได้

ผู้ใช้จะยังคงติดตั้งแอประบบบางแอปที่สำคัญต่อฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ได้ แม้ว่าคุณจะเลือกบล็อกทั้งหมดก็ตาม การเลือกบล็อกทั้งหมดจะไม่นําสิทธิ์เข้าถึงแอป Android ที่คุณเพิ่มลงในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่ออก

โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการแอปของระบบในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของบริษัท

การจับภาพหน้าจอ

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป

อนุญาตให้ผู้ใช้จับภาพหน้าจอของอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้

หากต้องการบล็อกการจับภาพหน้าจอในแอปงาน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการจับภาพหน้าจอ ในกรณีนี้ผู้ใช้จะจับภาพหน้าจอได้เฉพาะในแอปส่วนตัวเท่านั้น

การแชร์ไปยังโปรไฟล์อื่น

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น

อนุญาตให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลและไฟล์จากโปรไฟล์งานไปยังพื้นที่ส่วนตัวในอุปกรณ์

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเลือกช่องอนุญาตการแชร์เนื้อหาจากโปรไฟล์งานไปยังพื้นที่ส่วนตัวมีดังนี้

  • ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาจากโปรไฟล์งานกับแอปต่างๆ ในพื้นที่ส่วนตัวของผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอกสารจากที่ทำงานไปยังแอป Gmail ส่วนตัว
  • ข้อมูลหมายเลขผู้โทรจากโปรไฟล์งานจะปรากฏในพื้นที่ส่วนตัวเมื่อมีสายเรียกเข้า
  • (เฉพาะในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไปที่ใช้ Google Workspace เท่านั้น) ผู้ใช้สามารถค้นหารายชื่อติดต่อของที่ทํางานได้จากพื้นที่ส่วนตัว
  • ระบบจะเปิด URL ในพื้นที่ส่วนตัวหากไม่มีเบราว์เซอร์ในโปรไฟล์งาน
  • แอปแผนที่ในโปรไฟล์ส่วนตัวจะเปิดสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์หากไม่มีแอปแผนที่ในโปรไฟล์งาน

การคัดลอกระหว่างโปรไฟล์

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไปที่มีโปรไฟล์งาน

อนุญาตให้ผู้ใช้คัดลอกข้อความจากแอปในโปรไฟล์งาน แล้ววางในแอปใดก็ได้ในพื้นที่ส่วนตัว

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้คัดลอกข้อมูลงานไปยังแอปส่วนตัว ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการวางข้อมูลระหว่างโปรไฟล์งานและพื้นที่ส่วนตัว

Android Beam

อนุญาตให้ผู้ใช้แชร์เนื้อหาระหว่างอุปกรณ์ Android กับ Android Beam ซึ่งใช้ Near Field Communication (NFC) ได้

หากต้องการบล็อกการแชร์ข้อมูลกับ Android Beam ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตบีมขาออก

การแชร์ตำแหน่ง

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป

อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดบริการตำแหน่งของ Google แอปจะใช้ข้อมูลตำแหน่งเพื่อให้บริการตามสถานที่ เช่น การดูสภาพการจราจรหรือค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียง การตั้งค่านี้ยังช่วยให้ผู้ใช้จัดการอุปกรณ์ Android ได้จากหน้าอุปกรณ์ของฉันอีกด้วย

หากต้องการบล็อกการแชร์ตําแหน่งสําหรับแอปทั้งหมด ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการแชร์ตําแหน่ง

แอปส่วนตัวใน Google Play

อนุญาตให้ผู้ใช้ Android เข้าถึงและเผยแพร่แอปส่วนตัวได้ใน Google Play

  • หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปส่วนตัวที่เผยแพร่ไว้ได้ ให้เลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปส่วนตัวใน Google Play
  • หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและอัปเดตแอป Android เพื่อการใช้ภายในและเผยแพร่แอปไปยังผู้ใช้ต่างๆ ในโดเมน ให้เลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้เผยแพร่และอัปเดตแอปส่วนตัวใน Google Play

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปส่วนตัว โปรดดูหัวข้อจัดการแอปส่วนตัวใน Google Play

สิทธิ์รันไทม์

รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป

หมายเหตุ: การปฏิเสธสิทธิ์รันไทม์อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของแอปบางแอป

กำหนดคำตอบเริ่มต้นสำหรับคำขอสิทธิ์จากแอปตามรันไทม์ ค่ากำหนดสิทธิ์ที่กำหนดไว้ให้แอปแต่ละแอปในรายการแอปที่มีการจัดการจะลบล้างการตั้งค่านี้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการสิทธิ์รันไทม์สำหรับแอป Android

การตั้งค่าแอป

รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท

อนุญาตให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งแอป ปิดใช้แอป บังคับให้หยุด (หยุดกระบวนการ) แสดงการแจ้งเตือน และล้างข้อมูล แคช หรือค่าเริ่มต้น

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าแอป ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าแอป

ยืนยันแอป

รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท

อนุญาตให้ผู้ใช้ปิด Google Play Protect (เดิมคือ "ยืนยันแอป") ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยป้องกันการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์ Android และยังช่วยสแกนอุปกรณ์เพื่อหาแอปที่อาจเป็นอันตรายอยู่เป็นระยะด้วย โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อช่วยป้องกันแอปที่เป็นอันตรายด้วย Google Play Protect

หากต้องการให้ Play Protect เปิดอยู่ตลอดเวลา ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้ปิด Google Play Protect

การโอนไฟล์ผ่าน USB

รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท

อนุญาตให้ผู้ใช้โอนไฟล์เข้าและออกจากอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้การเชื่อมต่อ USB

หากต้องการบล็อกการโอนผ่านการเชื่อมต่อ USB ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้โอนไฟล์ USB

แหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก

รองรับในอุปกรณ์ Android 8.0 Oreo ขึ้นไป

การตั้งค่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาอื่นนอกเหนือจาก Google Play Store ในโปรไฟล์งาน แต่ผู้ใช้จะยังติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักในโปรไฟล์ส่วนตัวได้

หากต้องการอนุญาตให้ติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก ให้ยกเลิกการเลือกช่องบล็อกการติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก

ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป

อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้ใช้ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หากอุปกรณ์มีโปรไฟล์งาน ผู้ใช้จะยังเปิดตัวเลือกสําหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับพื้นที่ส่วนตัวของตนเองได้ เช่น ผู้ใช้สามารถโหลดแอปจากแหล่งที่ไม่รู้จัก (ดาวน์โหลดแล้วใช้โปรแกรมจัดการไฟล์ในการติดตั้ง) จากคอมพิวเตอร์ลงในพื้นที่ส่วนตัวได้ แต่จะทำเช่นนี้ในโปรไฟล์งานไม่ได้

เครือข่าย

รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท

หากคุณจำกัดการใช้เครือข่าย Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตมือถือไว้ โปรดตรวจสอบว่ามีเครือข่าย Wi-Fi อย่างน้อยหนึ่งเครือข่ายที่ได้รับอนุญาตในการตั้งค่าเครือข่ายขององค์กร ไม่เช่นนั้นอุปกรณ์อาจซิงค์นโยบายไม่ได้ และอาจไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ทั้งหมดเข้าใช้งานได้ในที่สุด

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

การเข้าถึง VPN

อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม แก้ไข เชื่อมต่อ หรือลบเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) ในอุปกรณ์ของตนได้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่า VPN ในอุปกรณ์ของตนได้โดยแตะการตั้งค่าระบบไร้สายและเครือข่ายเพิ่มเติมVPN

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้แก้ไขการกําหนดค่า VPN ในอุปกรณ์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการกําหนดค่า VPN

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ

อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าและใช้ฮอตสปอต Wi-Fi และบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือด้วย USB และบลูทูธได้

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้ใช้การเชื่อมต่อประเภทนี้ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือและฮอตสปอต Wi-Fi

เครือข่ายมือถือ

อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับการเข้าถึงข้อมูลและการโรมมิ่งในอุปกรณ์ได้ การตั้งค่านี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • แสดงชื่อเครือข่ายมือถือในแถบสถานะ
  • เปลี่ยนชื่อจุดเข้าใช้งาน (APN)
  • เลือกผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเหล่านี้ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่

การส่งข้อมูลเตือนภัยทางมือถือ (CB)

อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกใช้การแจ้งเตือนภัย เช่น เหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสภาพอากาศและการแจ้งเตือนเด็กหาย (AMBER) ในอุปกรณ์ที่มีซิมการ์ด

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าการส่งข้อมูลเตือนภัยทางมือถือ (CB) ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการส่งข้อมูลเตือนภัยทางมือถือ (CB)

บลูทูธ

อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน

หมายเหตุ: สําหรับ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้กําหนดการตั้งค่าบลูทูธได้ คุณต้องอนุญาตการแชร์ตําแหน่งด้วย (ในส่วนแอปและการแชร์ข้อมูล)

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธ

Wi-Fi

อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน

หากต้องการบล็อกไม่ให้เปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi

ฟีเจอร์ของอุปกรณ์

รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

สื่อกายภาพ

สําหรับอุปกรณ์ที่มีช่องการ์ด SD ภายนอก ผู้ใช้สามารถย้ายข้อมูลหรือแอปพลิเคชันไปยังการ์ด SD ได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ มักจะใช้การ์ด SD เป็นที่เก็บข้อมูลที่ถอดออกได้

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้คัดลอกข้อมูลไปยังการ์ด SD ภายนอก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการ์ด SD ภายนอก

ข้อมูลเข้าสู่ระบบที่เชื่อถือได้

อนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขแบบฟอร์มผู้ออกใบรับรอง (CA) สําหรับโปรไฟล์งานของตนในตั้งค่า ความปลอดภัยข้อมูลเข้าสู่ระบบที่เชื่อถือได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่

หากต้องการบล็อกไม่ให้แก้ไขใบรับรอง CA ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลเข้าสู่ระบบที่เชื่อถือได้ หากไม่เลือกช่องนี้ ผู้ใช้จะยังคงดูใบรับรอง CA สําหรับโปรไฟล์งานของตนได้

ไมโครโฟน

อนุญาตให้ใช้ไมโครโฟนของอุปกรณ์

หากต้องการปิดเสียงไมโครโฟนและป้องกันไม่ให้เปิดอีก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตไมโครโฟน คุณอาจต้องการบล็อกการใช้ไมโครโฟนเพื่อให้มั่นใจว่าแอปที่เป็นอันตรายจะไม่ใช้ไมโครโฟนบันทึกเสียงรอบๆ อุปกรณ์

ลำโพง

อนุญาตให้ใช้ลำโพงของอุปกรณ์

หากต้องการปิดเสียงลําโพงสําหรับแอปในโปรไฟล์งานและป้องกันไม่ให้เปิดอีก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตลําโพง

PIN การจำกัดของผู้ดูแลระบบ

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.1 Lollipop และรุ่นก่อนหน้า

เมื่อเลือกแล้ว PIN การจํากัดของผู้ดูแลระบบที่ระบุจะซิงค์กับอุปกรณ์ของผู้ใช้ โดย PIN ต้องเป็นตัวเลขอย่างน้อย 5 ตัว ระบบจะขอให้ผู้ใช้ป้อน PIN นี้เมื่อพยายามรีเซ็ตโทรศัพท์ หรือเปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi หรือบลูทูธ

หากไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลง PIN การจำกัดของผู้ดูแลระบบ ให้ยกเลิกการเลือกช่องเปิดใช้งานการจัดการระยะไกลสำหรับ PIN การจำกัดของผู้ดูแลระบบ หากต้องการอัปเดต PIN คุณต้องเลือกช่องนี้เพื่อตั้ง PIN ใหม่และอนุญาตให้ซิงค์กับอุปกรณ์

รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น

อนุญาตให้ผู้ใช้รีเซ็ตอุปกรณ์ Android เป็นค่าเริ่มต้นด้วยแอปการตั้งค่า การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจะลบแอป ข้อมูล และการตั้งค่าทั้งหมดออกจากอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงการตั้งค่าที่กําหนดโดยผู้ดูแลระบบผ่านการจัดการอุปกรณ์

หากเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้รีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น ให้ลองใช้การป้องกันการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบเข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกรีเซ็ตได้

หากยกเลิกการเลือกช่องนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถรีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้นโดยใช้แอปการตั้งค่าได้ แต่ผู้ใช้อาจยังรีเซ็ตอุปกรณ์ได้โดยใช้ปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มปรับระดับเสียง

การป้องกันการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น

อนุญาตให้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ระบุลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ของบริษัทได้หลังจากที่รีเซ็ตเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น ผู้ที่สามารถลงชื่อเข้าใช้หลังการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นได้จะกำหนดโดยขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์เป็นของบริษัทในลักษณะใดและไคลเอ็นต์การจัดการของอุปกรณ์

  • สำหรับอุปกรณ์ในคลังของบริษัทที่มี Android Device Policy ทั้งบัญชีที่ระบุไว้และเจ้าของเดิมสามารถลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ได้
  • สำหรับอุปกรณ์ส่วนบุคคลที่ตั้งค่าสำหรับที่ทำงานเท่านั้น (สิทธิ์ระดับเจ้าของอุปกรณ์) ทั้งบัญชีที่ระบุและเจ้าของคนก่อนหน้านี้จะลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ได้

หากต้องการเพิ่มผู้ดูแลระบบ ให้ป้อนอีเมลและคลิกเพิ่ม

หมายเหตุ: โปรดยืนยันให้แน่ใจว่าคุณเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบได้ก่อนจะรีเซ็ตอุปกรณ์ ทีมสนับสนุนไม่สามารถปลดล็อกหรือกู้คืนอุปกรณ์ที่รีเซ็ตแล้วจากระยะไกลได้ หากมีปัญหาในการปลดล็อกอุปกรณ์ที่ผ่านการรีเซ็ต โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อรับความช่วยเหลือ

ข้อกำหนดของบัญชี

  • คุณสามารถป้อนอีเมลได้ไม่เกิน 10 รายการ เราขอแนะนำให้ป้อนอีเมลมากกว่า 1 รายการ เผื่อเกิดปัญหากับบางอีเมลที่ป้อนไป
  • ยืนยันว่าอีเมลต่างที่เพิ่มไว้เป็นอีเมลที่ใช้งานได้และไม่เคยถูกลบหรือระงับการใช้งาน หากบัญชีอีเมลที่ใช้ถูกลบหรือระงับการใช้งาน คุณอาจเข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกการรีเซ็ตไม่ได้แม้ว่าจะกู้คืนบัญชีแล้วก็ตาม
  • โปรดอย่าใช้อีเมลกลุ่ม เพราะบัญชีกลุ่มจะไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นได้

ก่อนรีเซ็ตอุปกรณ์ ให้ทำดังนี้

  • ออกจากระบบและนําบัญชีงานหรือโรงเรียนของผู้ใช้ออก
  • หากผู้ใช้ไม่ทราบรหัสผ่านของตัวเอง ให้รีเซ็ตรหัสผ่าน คุณต้องรีเซ็ตรหัสผ่านก่อนล้างข้อมูลอุปกรณ์ หากไม่ดำเนินการทันที ผู้ใช้อาจต้องรอนานถึง 24 ชั่วโมงก่อนลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ได้อีกครั้ง

แก้ไขเวลา

อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งวันที่และเวลาในอุปกรณ์

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนวันที่และเวลา ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขวันที่และเวลา

การโรมมิ่งข้อมูล

รองรับในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท

อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตในขณะที่อยู่นอกพื้นที่ให้บริการของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ

หากต้องการบล็อกไม่ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตขณะโรมมิ่ง ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับบริการข้อมูลเมื่อโรมมิ่ง

รีบูตในโหมดปลอดภัย

อนุญาตให้ผู้ใช้รีสตาร์ทอุปกรณ์ในโหมดปลอดภัย เนื่องจากในโหมดปลอดภัย อุปกรณ์จะใช้เฉพาะแอปพื้นฐานที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าและปิดใช้แอปของบุคคลที่สามทั้งหมด

หมายเหตุ: สำหรับอุปกรณ์ Android ที่ไม่ได้ติดตั้งแอป Google Apps Device Policy ไว้ล่วงหน้า โหมดปลอดภัยจะปิดใช้แอป Google Apps Device Policy โดยเมื่อไม่ได้ใช้แอปนี้ อุปกรณ์จะหยุดซิงค์กับนโยบายการจัดการและผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีงานหรือโรงเรียนในอุปกรณ์ได้

หากต้องการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รีบูตในโหมดปลอดภัย (แนะนำ) ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้รีบูตอุปกรณ์ในโหมดปลอดภัย

ผู้ใช้และบัญชี

รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ส่วนตัวที่มีโปรไฟล์งาน

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

เพิ่มผู้ใช้

รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow เท่านั้น

อนุญาตให้ผู้ใช้อุปกรณ์หลักเพิ่มโปรไฟล์ผู้ใช้ในอุปกรณ์ได้ โดยโปรไฟล์ผู้ใช้แต่ละรายจะมีพื้นที่ส่วนตัวในอุปกรณ์สําหรับเก็บบัญชี แอป และการตั้งค่า

ลบผู้ใช้

รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow เท่านั้น

อนุญาตให้ผู้ใช้อุปกรณ์หลักนำโปรไฟล์ผู้ใช้ออกจากอุปกรณ์ได้ เมื่อนำโปรไฟล์ผู้ใช้ออกแล้ว ระบบจะนำบัญชีที่ถูกเพิ่มในโปรไฟล์ดังกล่าวออกด้วย

บัญชี

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป

อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มและนำบัญชีออกจากอุปกรณ์ได้ โดยที่สามารถเพิ่มบัญชีที่จัดการลงในอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งานได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น หากต้องการนำบัญชีที่จัดการออก ผู้ใช้จะต้องนำโปรไฟล์งานออกจากอุปกรณ์ของตนเอง

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนบัญชีในอุปกรณ์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มและนำบัญชีออก หากไม่เลือกตัวเลือกนี้ คุณจะเปิดการตั้งค่าบัญชี Google ไม่ได้และผู้ใช้จะเพิ่มบัญชี Google ที่มีการจัดการในอุปกรณ์ของตัวเองไม่ได้

บัญชี Google

รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป

อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชีงานหรือโรงเรียนในอุปกรณ์ได้ โดยเพิ่มบัญชีที่มีการจัดการในอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งานได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น

หมายเหตุ: หากต้องการเปิดการตั้งค่านี้ คุณต้องเปิดการตั้งค่าบัญชี

หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Google ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Google โดยที่ผู้ใช้จะยังคงเพิ่มบัญชีในโปรไฟล์งานหรือในอุปกรณ์ผ่านทาง Microsoft Exchange, IMAP หรือ POP3 ได้

ฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ส่วนตัวในโหมดเจ้าของอุปกรณ์ที่ใช้ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป

เปิดทั้งหมด   |   กลับไปที่ดัชนี

ฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

ฟีเจอร์หน้าจอล็อกช่วยให้คุณควบคุมความพร้อมใช้งานของการตั้งค่าเหล่านี้ในหน้าจอล็อกของผู้ใช้

  • กล้อง
  • ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ
  • วิดเจ็ตในหน้าจอล็อก
  • การแจ้งเตือน
  • รายละเอียดการแจ้งเตือน
  • เอเจนต์ความน่าเชื่อถือ

หากต้องการปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก เมื่อยกเลิกการเลือก ระบบจะบล็อกเฉพาะฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกในกลุ่มการตั้งค่านี้เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ที่ไม่อยู่ในรายการ เช่น การจดจำใบหน้า จะไม่ถูกบล็อก

หากต้องการบล็อกฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกแต่ละรายการ ให้เลือกช่องอนุญาตฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก จากนั้นยกเลิกการเลือกช่องฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกที่ต้องการบล็อก

กล้อง

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

อนุญาตให้ใช้กล้องขณะล็อกอุปกรณ์

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกไม่ให้ใช้กล้องจากหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตกล้อง

ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือของอุปกรณ์เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกไม่ให้ปลดล็อกอุปกรณ์ด้วยเครื่องอ่านลายนิ้วมือ ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ

วิดเจ็ตในหน้าจอล็อก

รองรับในอุปกรณ์ Android เวอร์ชัน 4.2 Jelly Bean ถึง 4.4 KitKat

อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มวิดเจ็ต เช่น วิดเจ็ตอีเมลและปฏิทินลงในหน้าจอล็อกในอุปกรณ์ของตน

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกวิดเจ็ตในหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตวิดเจ็ตในหน้าจอล็อก

การแจ้งเตือน

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

อนุญาตให้ผู้ใช้รับการแจ้งเตือนในขณะที่อุปกรณ์ล็อก

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกการแจ้งเตือน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อก เมื่อยกเลิกการเลือก ระบบจะปิดการตั้งค่ารายละเอียดการแจ้งเตือนด้วย

รายละเอียดการแจ้งเตือน

อนุญาตให้ผู้ใช้ดูรายละเอียดการแจ้งเตือนในขณะที่อุปกรณ์ล็อก

หากการตั้งค่าการแจ้งเตือนปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้ก็ปิดเช่นกัน

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกรายละเอียดการแจ้งเตือน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตรายละเอียดการแจ้งเตือน

เอเจนต์ความน่าเชื่อถือ

ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals

อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ Smart Lock เพื่อให้อุปกรณ์ไม่ต้องล็อกหน้าจอในบางกรณี เช่น เมื่อโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าหรืออยู่ที่บ้าน เมื่อใช้ Smart Lock ผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องใช้ PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านในการปลดล็อก โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าอุปกรณ์ Android เพื่อปลดล็อกโดยอัตโนมัติ

หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก

หากต้องการบล็อกไม่ให้ใช้ Smart Lock ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ Smart Lock ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ล็อก

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

  • ตั้งค่าข้อกำหนดด้านรหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีการจัดการ
  • ใช้การตั้งค่าส่วนกลาง
  • ใช้การตั้งค่าสำหรับอุปกรณ์ iOS
  • ข้อมูล Android Device Policy
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Agent การจัดการอุปกรณ์ Android


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง