ซึ่งเป็นฮีโร่ออฟเลนที่มีความสามารถในการ Sustain หรือการเอาชีวิตรอดในเลนสูง เนื่องจากมีสกิล 1 – Red Stallion ที่ใช้ได้ถึง 3 ครั้ง เหมาะกับทั้งการเข้าล้วงและการหนี อีกทั้ง ยังมีอัลติเมต 3 – Conqueror ที่ทำให้ตัว Lu Bu ที่ไม่ได้ถึกเท่ากับไฟต์เตอร์ตัวอื่นๆ สามารถยืนในไฟต์และทำดาเมจพร้อมกับดูดเลือดไปในตัวได้ Show ถึงแม้จะมาพร้อมด้วยดาเมจท้ายเกมและดูดเลือดที่เด้งเลือดกันรัวๆ แต่ก็มาพร้อมข้อเสียที่มี CC (Crowd Control)แค่สโลว์ศัตรูเท่านั้น อีกทั้งยังต้องการไอเท็มประมาณสองถึงสามชิ้นถึงจะเริ่มเก่งในทีมไฟต์และเป็นตัวที่ต้องมีทักษะในการเล่นสูงมากอีกด้วย อันดับที่ 3 : Max อัตราชนะ 50.2 %Max เป็นฮีโร่ที่ถูกเลือกมาเล่นน้อยมากแต่มีอัตราชนะ 50.2 % อยู่ที่อันดับสาม โดย Max เป็นไฟต์เตอร์ที่มีความสามารถโดดเด่นในเรื่องการ Split Push หรือการแยกดัน เนื่องจากมีอัลติเมต 3 – Liftoff ที่เป็น Global Range ใช้ได้ทั้งการเปิดแมพเพื่อหาตำแหน่งศัตรูทั้งหมด หรือใช้ในการบินเพื่อเข้าเปิดไฟต์หรือเติมไฟต์ได้อีกด้วย อีกจุดเด่นคือ Passive – Static Shock ซึ่งจะทำดาเมจกับเป้าหมายเรื่อยๆเป็นความเสียหายจริงและลดอัตราการฟื้นฟู 25% อีกด้วย ถือเป็นตัวแก้ทางแทงค์สายเด้งเลือดอย่าง Taara หรือ Lu Bu ได้เป็นอย่างดี ข้อเสียคืออัลติเมตใช้ยากเนื่องจากต้องใช้ในจังหวะที่ถูกต้อง หากใช้ผิดจังหวะอาจเข้าไปตายเปล่าได้ โดยสามารถกดใช้สกิล 3 อีกครั้งเพื่อหยุดบินได้ และการบินไปช่วยเพื่อนอาจเป็นการทิ้งเลนทำให้เลนที่ตนเองอยู่โดนดันยาวได้อีกด้วย อันดับที่ 2 : Veres อัตราชนะ 50.9 %เป็นฮีโร่ที่ถูกเลือกมาเล่นในโหมดจัดอันดับกันเยอะมากๆหลังจากการถูกบัฟ เนื่องด้วยประโยชน์อันหลากหลายทั้งดูดเลือดที่เด้งทีมีตกใจและ CC ที่สูงหากคอมโบถูกต้องจะทำให้ศัตรูเสียเลือดได้เยอะโดยยังไม่ทันขยับตัวเลยก็ได้ โดยข้อเสียของ Veres มีเพียงแค่เป็นฮีโร่ที่เล่นยาก การคอมโบจะต้องถูกต้องเพื่อที่จะรีดดาเมจได้สูงและการใช้ Passive – Bloody Kiss ให้โดนเพื่อดูดเลือดและยืนในไฟต์ต่อไป หากคอมโบพลาดหรือ สกิลไม่โดนจะไม่ได้เลือดเพิ่มและเสียจังหวะพลาดท่ากันได้ง่ายๆเลย อันดับที่ 1 : Astrid อัตราชนะ 53.9 %เป็นฮีโร่อีกตัวที่ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากถูกบัฟ ทำให้มีระยะสกิล 2 – Fearless Charge ที่พุ่งไกลมากๆ สามารถเข้าล้วงได้ถึงแนวหลัง และมีสกิล Sustain อย่าง Passive – Martial Soul ที่เพิ่มเกราะและถูกลดคูลดาวน์โดยการโจมตีและการใช้สกิล และอัลติเมตอย่าง 3 – Dire Blow ที่ทำให้เป็นอมตะ 1.5 วิ สามารถใช้รับดาเมจในไฟต์หรือใช้แท้งป้อมให้เพื่อนร่วมทีมได้พร้อมสร้างความเสียหายรุนแรงได้อีกด้วย ข้อเสียของ Astrid ก็คือความเป็นไฟต์เตอร์ที่ไม่ได้หนามากต้นเกมถึงขนาดโดนแก๊งแล้วไม่ตาย จึงควรระวังในช่วงต้นเกม และ Astrid จะโหดมากในทีมไฟต์ แต่หากโดนแยกเก็บเดี่ยวๆโดยถูกรุมด้วยฮีโร่ตีไกลหรือแครี่และเมจก็อาจจะเสียท่าได้ จบลงไปแล้วกับ 4 อันดับไฟต์เตอร์ ถึงแม้จะมีอัตราชนะสูง การเล่นฮีโร่เหล่านี้ต้องมาพร้อมกับความสามารถในการเล่นหรือ Skill Play ด้วย เพราะอย่างนั้นผู้เล่นจึงควรฝึกฝนทักษะฝีมือให้ชำนาญและการเล่นร่วมกับเพื่อร่วมทีมเป็นสำคัญเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะในที่สุด รายชื่อฮีโร่สุดโหดใน ROV นำมาไต่แรงค์ไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเกมและลงแรงค์ไต่อันดับกับเกม ROV แน่นอนว่าการเล่นเกมในโหมดจัดอันดับนั้น จะต้องอาศัยความเก่งของผู้เล่นด้วย แต่การเลือกฮีโร่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง มาดูกันว่าฮีโร่ที่เราจะมาแนะนำนั้น มีรายชื่อฮีโร่ตัวใดบ้าง และจะมีจุดเด่นหน้าที่อย่างไร ไปดูกันเลย ฮีโร่สาย Dark Slayerฮีโร่สาย Dark Slayer คือฮีโร่ที่เหมาะแก่การเล่นออฟเลน หรือเลนมังกรเล็ก ซึ่งจะต้องอาศัยความชำนาญในการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 อย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องรับหน้าที่ในการรักษาป้อม เดินเกมไฟต์ เน้นเคลียร์เลนเป็นหลัก
ฮีโร่สาย Abyss Dragonฮีโร่สาย Abyss Dragon คือฮีโร่ที่เหมาะแก่การเล่นบนเลนมังกรใหญ่ ซึ่งจะเน้นการยืนแบบ Duo หรือยืน 2 คน ดังนั้น ฮีโร่ที่เหมาะแก่การยืนเลนมังกรใหญ่ จะต้องมีสกิลที่สามารถทำดาเมจได้เป็นวงกว้าง เพื่อให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้
ฮีโร่สาย Mid Laneฮีโร่สาย Mid Lane หรือก็คือเลนกลางนั่นเอง เหมาะแก่ฮีโร่ที่มีสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่คู่ต่อสู้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะได้แก่ ฮีโร่สายเมจหรือแครี่
ฮีโร่สาย Supportสำหรับสายซัพพอร์ตอาจจะมีผู้เล่นไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก เพราะจะต้องคอยช่วยเพื่อนในทีม คอยปกป้องแม้จะต้องตายแทนก็ต้องยอม
ฮีโร่สาย Jungleฮีโร่สาย Jungle มีหน้าที่ในการฟาร์มป่าเพื่อหาเงินออกของเพื่อสร้างดาเมจให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้เพื่อเข้าไฟต์
ฮีโร่สาย Roamingฮีโร่สาย Roaming คือฮีโร่ที่มีหน้าที่หลักในการเข้าช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมตามเลนอื่น ๆ หรือก็คือจะต้องทำการย้ายเลนไปเรื่อย ๆ เพื่อก่อกวนและสร้างความปั่นป่วนให้แก่ฝ่ายตรงข้าม
สำหรับฮีโร่ทั้งหมดที่แนะนำมา จะมีความเก่งและความสามารถในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจึงจำเป็นที่จะต้องดูคู่ต่อสู้ อีกส่วนหนึ่งเป็นสิ่งสำคัญคือเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเราคงไม่สามารถจะเก่งและชนะไปได้เพียงลำพังแน่ ๆ หากไม่มีเพื่อนร่วมทางที่ดี |