แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

เลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์แบบไหนดี ?

เลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์แบบไหนดี ? แผงโซล่าเซลล์ได้เป็นที่นิยมอย่างมากในการลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือน และอุตสาหกรรม แต่แผงโซล่าเซล์ไม่ได้มีอยู่แค่ชนิดเดียว แผงโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ก็คือ แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells) และ โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells) แล้วเราควรเลือกซื้อแผงแบบไหนดี ? และการคำนวณกำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมต้องเป็นอย่างไร วันนี้ Thai-A มีคำตอบค่ะ

ก่อนอื่นทำความรู้จักของระบบ On-Grid / Off- Grid ที่สรุปมาง่าย ๆ กันก่อน

On-Grid : เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่มีการเชื่อมโยงกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า เป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์แล้วส่งผ่านกระแสไฟฟ้าไปยังอินเวอร์เตอร์เพื่อเปลี่ยนไฟฟ้าเป็นกระแสสลับ และเชื่อมโยงกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ

ข้อดี ลดค่าไฟฟ้าได้ดีในตอนกลางวัน และสามารถขายกระแสไฟฟ้าส่งคืนต่อการไฟฟ้าได้ (ในกรณีที่ใช้ไม่หมด) นอกจากนี้ยังไม่ต้องมีระบบสำรองไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ แต่ระบบจะมีการดึงไฟฟ้าจากระบบสายส่งของการไฟฟ้ามาใช้แทนในกรณีที่โซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ เป็นระบบที่ประหยัดต้นทุน และเหมาะต่อการใช้งานในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าถึง

ข้อเสีย ต้องมีการขออนุญาติเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้ากับการไฟฟ้า และหน่วยงานของรัฐหลายขั้นตอน

Off-Grid : เป็นระบบผลิตไฟฟ้าแบบปิด ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบการไฟฟ้า ไม่มีการเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้า จำเป็นต้องมีระบบสำรองไฟฟ้าเพิ่ม เช่นแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของระบบสูงขึ้น ซึ่งระบบนี้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ระบบสายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

ข้อดี ผลิตกระแสไฟฟ้าเองได้และสามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลากลางคืนได้ ไม่ต้องมีระบบสายส่งไฟฟ้ามารองรับ

ข้อเสีย มีราคาสูง เนื่องจากต้องมีระบบสำรองไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่เข้ามาสำรองไฟฟ้าให้กับระบบ ทำให้ต้นทุนของระบบสูงขึ้น

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

1. แผงโซล่าเซลล์แบบ Mono

แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ ผลิตมาจาก ผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว (mono-Si) หรืออีกชื่อที่เรียกว่า single crystalline (single-Si) วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางเรียงกันในแนวราบคล้ายการปูกระเบื้อง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมทั้งสี่มุม และมีสีเข้ม เหมือนกันทุกแผ่นเซลล์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นโซล่าเซลล์ชนิดแรกที่ถูกสร้างขึ้น แม้จะมีราคาแพงแต่ก็มีประสิทธิภาพสูงในการส่งพลังงานไฟฟ้า

ข้อดี แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนนี้จะมีความไวต่อแสง และมีประสิทธิภาพต่อพื้นที่ติดตั้งมากกว่าแผงแบบโพลี ปัจจุบันสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้เกินกว่า 600 วัตต์ขึ้นไป ในขณะที่แผงโพลี่ผลิตได้เพียง 360 วัตต์ ต่อขนาดแผงที่เท่ากัน

ข้อเสีย แผงโมโนมีข้อเสียคือเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีแดดร้อนจัด ประสิทธิภาพการทำงานของแผงจะลดลงมากกว่าแผงแบบโพลี และมีราคาสูงกว่า

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

2. แผงโซล่าเซลล์แบบ Poly

แผงโซล่าเซลล์แบบโพลีคริสตัลไลน์ เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่คุณภาพเกือบเทียบเท่าแบบโมโนคริสตัลไลน์ โดยผลิตจากซิลิคอนที่มีการนำมาหลอมละลายและเข้ารูป ด้วยวิธีการผลิตที่ไม่ซับซ้อน รวดเร็ว และมีการใช้ซิลิคอนน้อยกว่า แต่ด้วยวิธีนี้โครงสร้างที่ได้จะมีผลึกที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้แผงโซล่าเซลล์ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในแบบแรก ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้แผงโซล่าเซลล์ชนิดโพลีมีราคาประหยัดกว่าแผงโซล่าเซลล์ชนิดโมโน

ข้อดี มีราคาถูกกว่าแผงโมโน และประสิทธิภาพในขณะทีอุณหภูมิสูงทำได้ดีกว่าแผงโมโน

ข้อเสีย ประสิทธิภาพต่อพื้นที่ต่ำกว่าแผงแบบโมโน สิ้นเปลืองพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าในกำลังการผลิตที่เท่ากัน

แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตแผงโซล่าเซลล์มีความใกล้เคียงกัน แตกต่างกันไม่มาก จึงสามารถใช้แผงโซล่าเซลล์ได้ทั้ง 2 ชนิด ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ติดตั้งมากกว่า

4 เหตุผลทำไมต้องใช้โซล่าเซลล์ของ THAI-A

ตัวอย่างการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์

Solar Rooftop

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

Solar Farm

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

Solarcell Reference

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

สูตรคำนวณกำลังไฟฟ้า

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ โซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟทอป พลังงานทดแทนแบบครบวงจร อาทิ ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ สินค้าคุณภาพดีพร้อมให้บริการ และติดตั้งด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องโซล่าเซลล์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น เพราะอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรจึงได้รับปริมาณแสงแดดที่เข้มข้นจากดวงอาทิตย์เกือบทั้งปีทำให้เหมาะกับการติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แผงโซล่าเซลล์ไม่ได้มีเพียง 1 ชนิด ควรเลือกแผงโซล่าเซลล์ที่เหมาะกับประเทศไทยและเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราอย่างไร มาดูกันเลย!

แผงโซล่าเซลล์มีกี่ชนิด?

แผงโซล่าเซลแบบไหนดีกว่ากัน

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักชนิดของแผงโซล่าเซลล์กันก่อน แผงโซล่าเซลล์มีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่

1. แผงโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells)

แผงชนิดนี้ทำมาจากซิลิกอนที่มีความบริสุทธิ์สูง เกรดดีที่สุด จุดสังเกตก็คือเซลล์ของแผงจะมีสีน้ำเงินที่ไม่เข้มมาก เซลล์บนแผงเป็นทรงสี่เหลี่ยมตัดมุมมน ข้อดีของแผงโมโนคริสตัลไลน์คือมีประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้ามากถึง 15-20% ใช้งานได้นานกว่า 25 ปีขึ้นไป และผลิตกระแสไฟได้มากแม้ว่าจะมีแสงเข้าถึงน้อย

2. แผงโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells)

เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตจากผลึกซิลิกอน เซลล์บนแผงเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่มีการตัดมุม สีของแผงมีสีน้ำเงินที่ไม่เข้มมาก ข้อดีของแผงโพลีคริสตัลไลน์ก็คือกระบวนในการผลิตนั้นไม่ซับซ้อน ใช้งานในที่อุณหูมิสูงค่อนข้างดี ราคาประหยัด แต่ประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่เพียงแค่ 13-16%

3. แผงอะมอร์ฟัส (Amorphous Silicon Solar Cells)

แผงโซล่าเซลล์ชนิดนี้เหมือนเอาสารที่สามารถแปลงพลังงานจากแสงเป็นไฟฟ้ามาฉาบเป็นฟิล์มบาง ๆ ซ้อนกันหลายชั้น ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของแผงชนิดนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 7-13% ราคาประหยัดมากที่สุด แต่ไม่เหมาะสำหรับติดตั้งบนหลังคา สำหรับบ้านโดยทั่วไปมีเพียง 5% เท่านั้นที่ใช้แผงโซล่าเซลล์ชนิดนี้

นอกจากจะแบ่งชนิดของแผงโซล่าเซลล์ตามวัสดุที่ใช้ผลิตแล้ว ยังสามารถแบ่งเป็นแบบ Full Cell และ Half Cell ตามลักษณะการทำงานของแผงได้ด้วย โดยแบบ Full Cell จะเป็น 1 แผง 1 วงจร ส่วนแบบ Half Cell จะเป็น 1 แผง 2 วงจร ซึ่ง PSI แนะนำให้เลือกติดตั้งแบบ Half Cell เนื่องจากแผงวงจรชนิดนี้จะแบ่งแผงโซล่าเซลล์ออกเป็น 2 แผงบน-ล่าง ซึ่งทั้ง 2 แผงนี้มีวงจรแยกกัน หากมีด้านใดด้านหนึ่งถูกบดบัง อีกด้านก็จะยังทำงานได้อยู่

นอกจากนี้ Half Cell ยังเหมาะกับประเทศไทยมาก เพราะเป็นแผงโซล่าเซลล์ประเภทที่ทำงานได้เป็นอย่างดีในสภาวะที่มีความร้อนสูง

แผงโซล่าเซลล์แบบ Half Cell มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?

4 จุดเด่นของแผง Half Cell

  1. ผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่องแม้มีเงาบดบังบางส่วนของแผง
  2. มีค่าความต้านทานต่ำ เนื่องจากเซลล์มีขนาดเล็ก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟสูง
  3. ความร้อนที่แผงต่ำ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  4. แข็งแรง ทนทาน ไวต่อการแตกร้าวน้อยกว่าแบบ Full Cell

 

แล้วแผงโซล่าเซลล์แบบไหน เหมาะกับอากาศประเทศไทย

 

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทั้งหมด 3 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว แผงโซล่าเซลล์ที่เลือกใช้จะต้องมีความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ ที่ถึงแม้จะมี 3 ฤดูก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาพอากาศของประเทศไทยนั้นมีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก

โดยที่อากาศของประเทศไทยมีแดดร้อนสลับฝนตกเป็นส่วนใหญ่ แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดใน 3 ชนิดที่กล่าวไว้ข้างบนแล้ว ยังผลิตกระแสไฟได้ดีแม้ในวันที่ไม่มีแดด มีความทนทาน เหมาะกับการติดตั้งบนหลังคาบ้าน และมีอายุการใช้งานที่นานมากกว่า 25 ปี สามารถใช้งานกันไปยาว ๆ ได้เลย

PSI พร้อมดูแลทุกครัวเรือน มีความเข้าใจถึงอากาศของประเทศไทยเป็นอย่างดี และผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา แผงโซล่าเซลล์ของ PSI เป็นชนิดโมโนคริสตัลไลน์ ประเภท Half Cell ใช้แผงโซล่าเซลล์เกรดดีที่สุด ผ่านการทดสอบด้วยละอองทราย เกลือ และแอมโมเนีย และยังกันฝุ่น กันน้ำที่มาตรฐาน IP68 ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ประสิทธิภาพและความทนทานต่อการใช้งานสูงแน่นอน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและโซล่าเซลล์ทุกแบบของ PSI ได้ที่ : ทำไมต้องใช้โซล่าเซลล์ของ PSI?  รวมถึงขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟได้ที่ PSI.CO.TH รวมทั้งที่ช่องทางออนไลน์ของ PSI ทุกช่องทาง LINE : @PSI1247 FB :