ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

JSON ย่อมาจาก JavaScript Object Notation คือ รูปแบบในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์กับไคลเอนท์ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น เช่น จากเว็บเซิร์ฟเวอร์มายังเว็บบราวเซอร์ เป็นต้น

JSON จะมีลักษณะเป็นชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างเฉพาะตัวซึ่งเป็นอิสระจากภาษาคอมพิวเตอร์อื่นๆ เราจึงสามารถนำเอา JSON ไปใช้ในการเขียนโค้ดร่วมกับภาษาต่างๆ ได้มากมาย เช่น C++, C#, PHP, Java, Python ฯลฯ

ในการทำงานหลายอย่างกับ JavaScript เราจะพบว่ามี JSON เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยกตัวอย่างการทำงานกับ script หลายๆตัวที่มีการเรียกข้อมูลแบบ AJAX ก็มักจะส่งข้อความตอบกลับมาในรูปแบบ JSON อยู่เนืองๆ จริงๆ แล้ว เรารับมาใช้ต่อได้ไม่ยากเลย JSON จะเก็บข้อมูลในรูปแบบของ Key-Value pairs ด้วยรูปแบบการเก็บข้อมูลที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน

วิธีนำเข้าข้อมูลแบบ JSON จากเว็บเข้ามาใช้ในไฟล์ Microsoft Excel

1 หา URL ของข้อมูลแบบ JSON ที่ต้องการดึงข้อมูล เช่น https://covid19.ddc.moph.go.th/api/Cases/today-cases-by-provinces เป็นข้อมูลรายงานสถานการณ์ COVID-19 ประจำวัน แยกตามรายจังหวัด ในรูปแบบ JSON

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

2. เปิดโปรแกรม Microsoft Excel ขึ้นมา แล้วไปที่เมนู Data -> From Web

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

3. คัดลอกพร้อมทั้งใส่ URL ที่ต้องการ เสร็จแล้วกดปุ่ม OK

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

4. หน้าจอถัดไปให้คลิกที่ Connect ได้เลย

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

5. จะมีหน้าจอขึ้นมาดังรูป ให้คลิกขวาที่คำว่า List แล้วเลือกเมนู To Table เพื่อแปลงข้อมูลให้เป็นตาราง

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

6. เมื่อมีหน้าจอด้านล่างขึ้นมา ให้คลิกที่ปุ่ม OK ได้เลย

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

7. โปรแกรมก็จะแสดงหน้าจอดังรูป

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

8. คลิกที่ปุ่มตรงหลังคำว่า Column1 ก็จะแสดงหน้าจอป๊อปอัพขึ้นมาเพื่อเลือกคอลัมน์ที่ต้องการแสดงผลใน Excel

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

9. ผู้ใช้สามารถเลือกคอลัมน์ที่จะแสดงผลใน Excel โดยคลิกให้มีเครื่องหมายถูกตรงหน้าคอลัมน์ เสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม OK

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

10. โปรแกรมก็จะแสดงหน้าจอดังรูป

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

11. ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ได้โดย Double-Click ที่คอลัมน์ที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ แล้วตั้งชื่อคอลัมน์ใหม่

12. เลือกเมนู Close & Load -> Close & Load To…

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

13. จะมีหน้าต่างในการนำเข้าข้อมูลว่าจะแสดงผลใน worksheet และเซลล์ไหน หรือว่าจะแสดงผลใน worksheet ใหม่ เสร็จแล้วกดปุ่ม OK

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

14. จากนั้นก็สามารถปรับแต่งรูปแบบของข้อมูลที่แสดงไว้ตามต้องการ

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

15. เลือกเมนู Data -> Refresh All -> Connection Properties…

ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง
ข้อใดกล่าวถึงข้อมูล JSON ไม่ ถูก ต้อง

16. โปรแกรมก็จะแสดงหน้าจอตัวเลือกในการ Refresh การแสดงผล ให้ทำเครื่องหมายถูกตรงหน้าคำว่า Refresh every เสร็จแล้วให้กรอกตัวเลข 60 เพื่อให้รีเฟรชข้อมูลอัตโนมัติทุก 60 นาที แล้วกดปุ่ม OK

แต่พอท่านได้เขียนเว็บมาถึงจุดๆ นึง ท่านจำเป็นต้องลงลึกไปกว่านี้ ต้องเข้าใจรูปแบบของมัน เพื่อที่จะประยุกต์กับงานต่างๆ ได้ โดยบทความนี้ผมจะอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ครับ

    JSON หรือ Java Script Object Notation เป็นวิธีการที่ทำให้ JavaScript แลกเปลี่ยนข้อมูลกับ Server ได้อย่างง่ายดายครับ รูปแบบของ JSON นั้น อาจทำให้หลายๆ ท่านงงกับมันไม่มากก็น้อยล่ะครับ เช่น บางครั้งทำไมใช้ [] บางครั้งใช้ {} มันมีเหตุผลอะไร มีความหมายอย่างไร ถ้าจะให้อธิบายรูปแบบเป็นประโยคก็คือ JSON ถูกสร้างขึ้นจากชุดข้อมูลของ literal object notation ใน javascript JSON จะใช้ [] แทน array และใช้ {} แทน hash (หรือ associate array ) แต่ละสมาชิกคั่นด้วย comma (,) และแต่ละ ชื่อสมาชิกคั่นด้วย colon (:)