สุดสาครในเรื่องพระอภัยมณีเป็นบุตรของใคร

ท้าวสุทัศน์และนางปทุมเกสรกษัตริย์เมืองรัตนา  มีโอรส 2 องค์ชื่อพระอภัยมณีและศรีสุวรรณ  เมื่อทั้งสองเจริญวัยเป็นหนุ่ม  ท้าวสุทัศน์ก็ให้ไปศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์ใช้ประโยชน์ในการครองเมือง  แต่พระอภัยมณีและศรีสุวรรณกลับไปเรียนวิชาที่ท้าวสุทัศน์เห็นว่าไม่ใช่วิชาสำหรับกษัตริย์  คือวิชาปี่และกระบี่กระบอง  ท้าวสุทัศน์จึงไล่โอรสทั้งสองออกจากเมือง  สองพี่น้องต้องพเนจรไปตามยถากรรม  จนมาวันหนึ่งได้พบกับพราหมณ์หนุ่มสามคน คือ โมรา สานน และวิเชียร  ซึ่งต่างมีวิชาดีประจำตัว คือโมราสามารถมัดฟางแล้วเสกให้เป็นเรือแล่นไปมาได้  สานนสามารถเรียกลมฝนได้  ส่วนวิเชียรสามารถยิงธนูได้คราวละ 7 ดอก  พราหมณ์ทั้งสามไม่เชื่อว่าเพลงปี่ของพระอภัยมณีจะมีประโยชน์ได้จริง  พระอภัยมณีจึงพิสูจน์ฤทธิ์ของปี่  โดยเป่าให้ฟังจนศรีสุวรรณและพราหมณ์ทั้งสามเคลิ้มหลับไป  

นางผีเสื้อสมุทรซึ่งเป็นใหญ่ในท้องทะเลอโนมานได้ยินเสียงปี่  จึงตามมาจนได้เห็นพระอภัยมณี  เกิดหลงรักจึงเอาตัวพระอภัยมณีไปไว้ในถ้ำ พระอภัยมณีจำใจอยู่กับนาง มีโอรสคือสินสมุทร  เมื่อสินสมุทรอายุได้ 8 ปีได้จับเงือกมาให้พระอภัยมณีดู  พระอภัยมณีจึงให้เงือกพาหนีจากนางยักษ์  เงือกพาพระอภัยมณีและสินสมุทรหนีไปอาศัยอยู่กับพระฤาษีที่เกาะแก้วพิสดาร  พระอภัยมณีได้นางเงือกเป็นชายา  นางยักษ์ติดตามมาแต่ไม่สามารถเอาตัวพระอภัยมณีกลับไปได้

 ฝ่ายศรีสุวรรณและสามพราหมณ์  ครั้นตื่นขึ้นไม่เห็นพระอภัยมณีจึงออกตามหา  โดยอาศัยเรือฟางของพราหมณ์โมราเป็นพาหนะ  ทั้งหมดหลงทางไปถึงเมืองรมจักรจึงปลอมตัวเป็นพราหมณ์เข้าไปอาศัยอยู่กับนายด่านตรวจเมืองรมจักร  ศรีสุวรรณจึงมีโอกาสรู้จักนางแก้วเกษราพระราชธิดาของท้าวทศวงศ์  ต่อมาเมืองรมจักรมีสงครามเนื่องจากท้าวอุเทนกษัตริย์ชวายกทัพมาล้อมเมืองเพราะโกรธที่ท้าวทศวงศ์ไม่ยอมยกนางแก้วเกษราให้  ศรีสุวรรณและสามพราหมณ์อาสาศึกได้รับชัยชนะ  ศรีสุวรรณจึงได้อภิเษกกับนางแก้วเกษราและได้ครองเมืองรมจักร  มีธิดาคือนางอรุณรัศมี

กล่าวถึงท้าวสิลราชเจ้าเมืองผลึก  มีธิดาชื่อนางสุวรรณมาลีซึ่งเป็นคู่หมั้นของอุศเรน  โอรสเจ้ากรุงลังกา  เมื่อใกล้จะถึงการอภิเษกสมรส  ท้าวสิลราชได้พานางสุวรรณมาลีออกไปเที่ยวทะเล  เกิดพายุใหญ่เรือท้าวสิลราชไปเกยติดฝั่งที่เกาะแก้วพิสดาร  ท้าวสิลราชและนางสุวรรณมาลีได้รู้จักกับพระอภัยมณีและสินสมุทร    สินสมุทรฝากตัวเป็นลูกของนางสุวรรณมาลี  เมื่อท้าวสิลราชและนางสุวรรณมาลีเดินทางกลับเมือง  พระฤาษีจึงฝากพระอภัยมณี สินสมุทรและผู้คนที่ติดเกาะจำนวนหนึ่งให้โดยสารเรือกลับมาด้วย  นางผีเสื้อสมุทรที่คอยเฝ้าพระอภัยมณีจึงล่มเรือท้าวสิลราช  ท้าวสิลราชจมน้ำตาย  พระอภัยมณีและบริวารหนีนางผีเสื้อมาจนถึงเกาะมหิงษะ  พระอภัยมณีจึงเป่าปี่จนนางยักษ์ขาดใจตาย

ฝ่ายสินสมุทรอุ้มนางสุวรรณมาลีว่ายน้ำมาพบเรือของโจรสุหรั่ง  โจรสุหรั่งอยากได้นางเป็นภรรยา  แต่สินสมุทรไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กัน  สินสมุทรฆ่าโจรสุหรั่งตายและได้เป็นผู้ครอบครองเรือนั้นแทน สินสมุทรเดินเรือรอนแรมมาจนเข้าเขตแดนเมืองรมจักร  เสบียงอาหารในเรือร่อยหรอจึงเข้าตีเมืองรมจักรเพื่อแย่งชิงอาหาร  ศรีสุวรรณออกต่อสู้ป้องกันเมือง  เมื่อรู้ว่าสินสมุทรเป็นหลาน  ศรีสุวรรณก็ตกลงใจพาสินสมุทรเดินทางตามหาพระอภัยมณีโดยนางอรุณรัศมีร่วมเดินทางด้วย

อุศเรนคู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี  เดินทางมาเมืองผลึกตามกำหนดวันอภิเษกสมรส  ครั้นได้ทราบว่านางสุวรรณมาลีหายไปก็ออกตามหา  มาจนถึงเกาะมหิงษะพบพระอภัยมณีและบริวารจึงรับขึ้นเรือมาด้วย  เรืออุศเรนพบเรือของสินสมุทรที่กลางทะเล  สินสมุทรและศรีสุวรรณได้พบพระอภัยมณี  อุศเรนขอนางสุวรรณมาลีคืน  สินสมุทรไม่ยอมให้จึงเกิดการต่อสู้กัน  อุศเรนถูกสินสมุทรจับได้แต่พระอภัยมณีของดโทษอุศเรนไว้  อุศเรนจึงกลับไปกรุงลังกา  ส่วนพระอภัยมณีไปกับสินสมุทร  เมื่อกลับไปถึงเมืองผลึก  นางมณฑาแม่ของนางสุวรรณมาลีเชิญให้พระอภัยมณีครองเมือง  ส่วนนางสุวรรณมาลี สินสมุทรและนางอรุณรัศมีออกบวช

เมื่อพระอภัยมณีได้ครองเมืองผลึกก็จัดการทำนุบำรุงบ้านเมือง  รับผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการ  นางวาลีซึ่งเป็นคนที่ฉลาดมีความรู้ได้เข้ามาถวายตัวเป็นนางสนม  แล้วช่วยคิดอุบายให้นางสุวรรณมาลีสึกมาเข้าพิธีอภิเษกสมรส  พระอภัยมณีจึงได้ครองเมืองผลึกกับนางสุวรรณมาลีอย่างมีความสุข  มีธิดาฝาแฝดชื่อสร้อยสุวรรณกับจันทร์สุดา

ฝ่ายนางเงือกคลอดลูกเป็นชายชื่อสุดสาคร  พระฤาษีช่วยเลี้ยงดูสุดสาครจนอายุได้ 3 ปี  วันหนึ่งสุดสาครได้พบม้านิลมังกร  พระฤาษีสอนให้จับม้านิลมังกร  ได้ม้านิลมังกรแล้วสุดสาครจึงออกเดินทางตามหาพ่อ  ระหว่างทางสุดสาครพบชีเปลือย  ถูกชีเปลือยหลอกผลักตกเหวชิงไม้เท้าวิเศษหนีไปยังเมืองการะเวก  พระฤาษีมาช่วยให้ขึ้นจากเหวได้ สุดสาครติดตามไปเอาไม้เท้าและม้านิลมังกรคืน  เจ้าเมืองการะเวกรับสุดสาครเป็นโอรสบุญธรรมให้เป็นเพื่อนเล่นกับธิดาและโอรสคือนางเสาวคนธ์และหัสไชย

อุศเรนคิดแก้แค้นที่รบแพ้สินสมุทร  จึงยกทัพมาแก้แค้นแต่พ่ายแพ้ถูกจับได้  นางวาลีใช้อุบายพูดยั่วจนอุศเรนกระอักเลือดตายกลายเป็นปีศาจเข้าสิงนางวาลีจนตายตกตามกัน  เจ้ากรุงลังกาเสียใจเรื่องอุศเรนจนตรอมใจตาย

 นางละเวงวัณฬาน้องสาวของอุศเรนได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์กรุงลังกาต่อ  นางคิดแก้แค้นให้พ่อและพี่ชาย  จึงปรึกษากับบาทหลวงใช้อุบายทำเสน่ห์ใส่รูปวาดแจกจ่ายแก่เจ้าเมืองต่าง ๆ เพื่อให้ช่วยยกทัพมาตีเมืองผลึก  เจ้าละมานหลงเสน่ห์รูปนางละเวงจึงยกทัพมาตีเมืองผลึก  พระอภัยมณีเป่าปี่จับเจ้าละมานได้  พอเห็นรูปนางละเวงก็พลอยหลงเสน่ห์ไปด้วย

ฝ่ายสุดสาครซึ่งอยู่ ณ เมืองการะเวกออกเดินทางพร้อมด้วยนางเสาวคนธ์และหัสไชย  เพื่อตามหาพระอภัยมณี  ระหว่างทางนั้นได้ต่อสู้กับผีเสื้อกินคน  ได้ของวิเศษคือตาผีเสื้อสำหรับป้องกันตน  ทั้งสามรอนแรมมาจนถึงเมืองผลึกซึ่งขณะนั้นกำลังมีสงครามเก้าทัพติดพันอยู่  สุดสาครจึงเข้าช่วยทำสงครามจนชนะ  สุดสาครเข้าเมืองผลึกได้พบพ่อและญาติ ๆ และแก้เสน่ห์นางละเวงได้  ทั้งสองฝ่ายยังสู้รบกันอยู่ พระอภัยมณีจึงเป่าปี่ห้ามทัพทหารหลับหมด และถือโอกาสเกี้ยวนางละเวง  แต่นางหนีไป

ระหว่างทางนางละเวงหนีได้ดินถนันซึ่งเป็นยาวิเศษ  และมาถึงบ้านสิงคารนำ  ได้นางยุพาผกาและสุลาลีวันชาวบ้านสิงคารนำเป็นบุตรีบุญธรรม  ขณะเดินทางกลับเมืองลังกานางพักที่ถ้ำกลำพัน  ได้พบย่องตอดซึ่งยอมเป็นทาสรับใช้  เพราะเกรงอำนาจตราราหู

ศรีสุวรรณและสินสมุทรนำกองทัพตีด่านดงตาลฆ่าอิเรนนายด่านตาย  นางรำภาสะหรีลูกสาวอิเรนออกรบได้พบศรีสุวรรณ  นางสู้ไม่ได้จึงหนีไปเฝ้านางละเวง  นางละเวงให้นางยุพาผกา  นางสุลาลีวันและนางรำภาสะหรีมารักษาด่านเขาเจ้าประจัญ  ย่องตอดออกช่วยทำศึกสะกดทัพจับสามพราหมณ์แต่พราหมณ์หนีไปได้  นางละเวงเห็นว่าเป็นศึกหนักจึงคิดหย่าทัพ คิดอุบายพาตัวพระอภัยมณีเข้าเมืองลังกา  พระอภัยมณีจึงได้นางละเวงและยอมเข้ารีตฝรั่ง  ศรีสุวรรณและสินสมุทรตามพระอภัยมณีเข้าเมืองลังกาถูกเสน่ห์นางรำภาสะหรีและนางยุพาผกาจึงไม่กลับ นางสุวรรณมาลีและสุดสาครจึงยกทัพไปกรุงลังกา  สุดสาครถูกเสน่ห์นางสุลาลีวันอีกคน  ทัพเมืองผลึกจึงมีแต่นางสุวรรณมาลีกับหัสไชยเป็นนายทัพ  นางสุวรรณมาลีแจ้งข่าวไปยังเมืองรมจักรและเมืองการะเวก  ท้าวทศวงศ์จึงพานางแก้วเกษราและนางอรุณรัศมีมายังเมืองลังกา  ส่วนเจ้าเมืองการะเวกให้นางเสาวคนธ์และทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์มาช่วยทำศึกรบกับทัพนางละเวง  นางละเวงขอให้พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สินสมุทร และสุดสาครออกไปสู้กับทัพเมืองผลึก  ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์จึงทำพิธีเชิญพระฤาษีเกาะแก้วพิสดารมาช่วยเทศน์โปรดกองทัพทั้งสองฝ่าย  สงครามยุติ  นางละเวงเชิญทุกคนเข้าเมืองลังกา  นางเสาวคนธ์ได้โอกาสขอขุดโคตรเพชรไปได้

เมื่อสงครามสงบพระอภัยมณีจึงจัดการอภิเษกสินสมุทรกับนางอรุณรัศมี  สุดสาครกับเสาวคนธ์  แต่นางเสาวคนธ์น้อยใจหนีพิธีอภิเษกปลอมตัวเป็นฤาษีชื่อพระอัคนีไปเมืองวาหุโลมทำสงครามกับเจ้าเมืองชนะได้ครองเมืองวาหุโลม  สุดสาครออกตามหาจนพบและได้นางเสาวคนธ์เป็นชายาด้วยอุบายแล้วจึงพากลับเมือง

ทางเมืองลังกาสี่นางต่างให้กำเนิดโอรสคือ  นางละเวงให้กำเนิดมังคลา  นางรำภาสะหรีให้กำเนิดวลายุดา  นางยุพาให้กำเนิดวายุพัฒน์  และนางสุลาลีวันให้กำเนิดหัสกัน  เมื่อโอรสเจริญวัยนางละเวงจึงอภิเษกให้มังคลาครองเมืองลังกาได้นางสุนีเป็นชายา  บาทหลวงยุให้มังคลาไปชิงโคตรเพชรคืน  วายุพัฒน์กับหัสกันอาสายกทัพไปชิงโคตรเพชรจากเมืองการะเวกมาถวายมังคลา  ท้าวสุริโยทัยส่งข่าวถึงนางสุวรรณมาลี  นางสุวรรณมาลีจึงส่งหัสไชยกลับเมืองการะเวกและมีสารถึงนางละเวง  แต่ทหารฝ่ายมังคลาจับคนเดินสารได้  มังคลาจึงให้วายุพัฒน์กับหัสกันไปจับนางสุวรรณมาลี นางสร้อยสุวรรณ จันทร์สุดาไปขังไว้ที่ด่านดงตาล  ส่วนวลายุดาไปตีเมืองรมจักรจับท้าวทศวงศ์และมเหสีไปได้

นางเสาวคนธ์และสุดสาครทราบข่าวศึกจึงขอกำลังเมืองวาหุโลมมาสมทบกับทัพหัสไชยซึ่งยกไปจากเมืองการะเวกช่วยกันตีกองทัพฝ่ายลังกา  เมื่อนางละเวงทราบว่ามังคลาจับท้าวทศวงศ์ นางสุวรรณมาลี และพระราชธิดามาขังไว้ที่ด่านดงตาลจึงมาช่วยแก้ไขพาคนทั้งหมดไปอยู่ในวังเมืองลังกา

ระหว่างนั้นพระอภัยมณีและศรีสุวรรณซึ่งไปปลงพระศพท้าวสุทัศน์  ณ เมืองรัตนา  ทราบข่าวศึกจึงยกทัพมาช่วย  นางละเวงร่วมมือกับพระอภัยมณีทำสงครามกับฝ่ายมังคลาจับวลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันได้  แต่ผู้วิเศษซึ่งเป็นอาจารย์ของคนทั้งสามมาช่วยพาหนีไป  พระอภัยมณีจึงเข้าเมืองลังกา

เมื่อสงครามสงบ  พระอภัยมณีออกบวช ณ เขาสิงคุตร์  สองนางคือนางสุวรรณมาลีและนางละเวงจึงบวชตาม  มีนางรำภาสะหรี  ยุพาผกาและสุลาลีวันคอยปรนนิบัติรับใช้ สุดสาครกับนางเสาวคนธ์จึงได้ครองเมืองลังกา  หัสไชยครองเมืองการะเวก  สินสมุทรครองเมืองผลึก  ศรีสุวรรณกลับไปเมืองรมจักร  

ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. ชีวิตและงานของสุนทรภู่. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : เสริมวิทย์บรรณาคาร, 2518.