ทําไมเราต้องเลือกคุณ มหาลัย

I live in ........(เขตที่อยู่)........ District, .......(จังหวัดที่อยู่)...... Province with ......(อยู่กับใคร)........... (ส่วนนี้ถ้าบ้านใครแขวงไม่เหมือนกับเขตต้องเพิ่มลงไปด้วยนะคะ)

My favorite subject is...........  because..........................   (จะบอกเหตูผลหรือไม่บอกก็ไดค่ะ แต่เตรียมเหตุผลไปด้วยจะดีค่ะ)

My hobby is ......................

I’m interested in ...................... (พูดถึงสิ่งที่เราสนใจ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับสาขาก็จะดีมากค่ะ)

I have won awards in ................ (พูดถึงรางวัลที่เคยได้รับ ถ้ามีของตอนช่วง ม.ปลายให้พูดก่อนนะคะ แล้วค่อยของตอนช่วงอื่นๆ)

I have done a project ........... ( โปรเจคที่เคยทำ) / I have participated in ....................... (กิจกรรมต่างๆหรือโปรเจคที่เคยเข้าร่วม)

หรือ จะถึงลักษณะนิสัยเราด้วยก็ได้ค่ะ I’m a .................. Ex.I’m a determined person หรือเราจะเพิ่มประโยคที่ขยายเข้าไปด้วยก็ได้ค่ะ เพื่อให้ดูมีน้ำหนักมากขึ้น ว่าเรา determined person หรืออาจะเป็นคำอื่นๆก็เช่นกันค่ะ

แต่ถ้าเป็นนิสัยทางด้านลบหรือจุดด้อยของเราให้บอกวิธีแก้ไขด้วยนะคะ

นี้ก็คือส่วนที่เราแนะนำตัวไปทั้งหมดในตอนแรกเลยนะคะ ส่วนเพื่อนๆอยากพูดแนะนำตัวเองแบบไหนก็พูดได้ค่ะ การพูดแนะนำตัวเองพูดให้เป็นตัวเราจะดีที่สุดค่ะ


Par2

หลังจากแนะนำตัวเรียบร้อย อาจารย์ก็ถามต่อว่า

  • What do your parents do? : พ่อกับแม่ทำงาน/อาชีพอะไร

My father is .....(อาชีพ)........ and my mother is....(อาชีพ).........

  • Do you have any brothers and sisthers? มีพี่น้องไหม / How many brothers and sisters do you have? มีพี่น้องกี่คน
  • ทำไมอยากเข้าที่นี้ อาจารย์อาจจะถามได้ว่า

Why are you interested in this university?

Why do you want to study in this university?

I decided to study here because .............................

  • ทำไมถึงอยากเข้าคณะ / สาขานี้ อาจารย์อาจจะถามได้ว่า

Why are you interested in this faculty?

Why do you want to study in this major?

Why did you choose to study this major?

I want to study in this major because ........................................ อันนี้เราก็แนะนำไปดูข้อมูลหลักสูตรในเว็บของคณะ / สาขานะ เพราะอาจารย์อาจถามเราต่อได้ว่า รู้จักอะไรเกี่ยวกับสาขานี้ไหม หรือถ้าสาขานี้มีสาขาแยกไปอีกตอนชั้นสูงๆ แล้วสนใจจะเลือกอันไหน หรือสาขานี้มีประโยชน์อะไรในสังคมประเทศและในอนาคต เป็นต้นค่ะ

  • Do you know what you are going to study about, this field/ at this faculty? รู้ไหมว่าสาขานี้เรียนเกี่ยวกับอะไร
  • How do you practice and improve English? /  How would you improve your English skill? มีวิธีฝึกภาษาอังกฤษ / พัฒนาภาษาอังกฤษอย่างไร

  • Have you ever attended university events? เคยเข้าร่วมกิจกรรมของมหาลัยไหม
  • Does your family support you to study in this field ?  ครอบครัวสนับสนุนในการเรียนสายนี้ไหม
  • What hobbies do you have? / What are your hobbies? / What do you do in your spare time? อาจารย์ถามเราอีกรอบว่า งานอดิเรกชอบทำอะไร ที่ในตอนอนะนำตัวเราพูดไปแล้ว แต่อาจารย์เขาอาจจะถามอีกว่า แล้วทำไมถึงชอบทำสิ่งนี้ อย่างเช่นเราตอบอาจารย์ว่า เราชอบเล่นกีฬา อาจารย์เขาถามอีกว่า ชอบเล่นกีฬาไหนบ้าง เล่นมาตั้งแต่ตอนไหน ใครเป็นสอน เป็นต้น ทุกคนก็ลองเตรียมคำตอบไปด้วยนะ หรือพูดไปเลยตอนเขาถามว่าชอบงานอดิเรกอะไร
  • อาจารย์เขาถามเราว่า อยากมีธุระกิจเป็นของตัวเองไหม เราจำที่อาจารย์ไม่ได้แต่น่าจะประมาณว่า                                           Would you like to have your own business?
  • อาจารย์เขาถามเราว่าอีกว่า ได้ยื่นที่อื่นไหม  แต่เราจำคำถามภาษาอังฤษไม่ได้นะคะ ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
  • คำถามสุดท้ายที่อาจารย์ถามเรา คือ

After your graduation what is your plan for the future? หลังจากที่เรียนจบแล้วมีการวางแผนอะไรไหม

I plan to ........................

นี้คือ คำถามทั้งหมดที่เราเจอในตอนสอบสัมภาษณ์ บางคำถามอาจจะถามแค่คำถามเดียวแต่เขาอาจจะถามต่อได้หรือให้ลึกขึ้น จากคำตอบที่เราตอบเขาไป บางครั้งอาจารย์เขาอาจจะถามซ้ำกับทีี่เราแนะนำตัวไปแล้วก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาเตรียมเราต้องเตรียมตัวแบบเหมือนเราไปสอบจริงๆเลยค่ะคิดว่าเขาจะถามอะไรอีกได้บ้าง เราควรต้องเตรียมตัวเผื่อไปนะคะ ถ้าอาจารย์เขาถามเราจะได้ตอบได้ดีกว่าตอนที่เราไปนั่งนึกตอนสอบสัมภาษณ์ค่ะ แต่ถ้าส่วนไหนเราไม่ได้เตรียมไปเราก็ตอบตามที่เข้าใจ และรู้ให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะพูดได้ค่ะ เพราะเราก็เกิดสถานการณ์นี้เหมือนกันค่ะ

คำถามอื่นๆที่อาจจะเจอได้อีกค่ะ

  • If you fail this interview,what will you do next ? ถ้าไม่ได้ที่นี้แล้วจะทำอย่างไรต่อ
  • What are your strengths and weaknesses? มีจุดแข็งและจุดออ่นอะไรบ้าง
  • Have you ever participated in any competitions? เคยเข้าร่วมแข่งขันอะไรไหม
  • Have you ever participated in any activities? เคยเข้าร่วมกิจกรรมอะไรไหม
  • บางครั้งอาจารย์อาจจะให้เราเล่าเกี่ยวกับครัวเราเล็กน้อย  เขาอาจจะถามว่า Could you please tell me a little bit about your family?  (แต่เราไม่เจอนะ มีบางคนเจอ เตรียมๆไว้ก่อนได้นะ)
  • How do you deal with hanndle stress ? มีวิธีรับมือกับความเครียดอย่างไร

เป็นต้น

คำถามอื่นๆอาจารย์เขาอาจจะถามเราขึ้นมาเองก็ได้ ที่นอกเหนือจากนี้ หรือ เป็นคำถามที่อาจารย์ถามเราอยากถามต่อจากที่เราตอบคำถามนั้นค่ะ


Part3

หลังจากอาจารย์ถามคำถามเราหมดแล้ว เขาถามเราอีกว่า Do you have anything you wanna know about us ?  มีอะไรถามอาจารย์เพิ่มเติมไหม เราก็ถามอาจารย์ไป อาจารย์ก็ตอบเราในทุกๆเรื่อง พูดคุยกันในเรื่องต่างๆ อาจารย์ใจดีมากๆ และเป็นมิตรมากๆเลย ทำให้เราไม่เครียด รู้สึกสบายใจมากเลยค่ะ

อันนี้ก็เป็นการจบการสอบสัมภาษณ์นะคะ จากประสบการณ์ที่เราไปสอบสัมภาษณ์ ซึ่งการสอบสัมภาษณในแต่ละที่ก็จะมีคำถามที่อาจแตกต่างออกไปได้ค่ะ แต่สำหรับเราคิดว่ามีแตกต่างกันไม่มากค่ะ จากที่เราไปสอบสัมภาษณ์มา 3 ที่ค่ะ มีทั้งหลักสูตรไทยและนานาชาติค่ะ แม้จะเป็นหลักสูตรไทยทุกๆคนก็อย่าลืมเตรียมการพูดเป็นภาษาอังกฤษไปนะคะ เผื่ออาจารย์เขาจะถามเรา เราก็ขอให้ทุกๆคนสู้ๆ มั่นฝึกการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์นะคะ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรืออังกฤษ แล้วก็ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย สาขา คณะที่เราอยากศึกษาต่อไว้เยอะๆนะคะ ถ้าอาจารย์สอบสัมภาษณืถามเราจะได้ตอบได้ และเป็นคะแนนได้ด้วยค่ะ ว่าสนใจมหาวิทยาลัย คณะ สาขา ของเขาแค่ไหน และทุกคนไม่ต้องกลัวการสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเลยนะคะ เราต้องมั่นใจว่าเราพูดได้ทำได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิดแกรมม่า สำเนียงไม่ได้ หรือผิดอะไรเลยค่ะ พูดแค่ให้อาจารย์เข้าใจก็พอแล้วค่ะ ถ้าเขาไม่เข้าใจเขาจะถามเราเองค่ะ เตรียมตัวเยอะๆเลยค่ะ ท่องทุกๆวัน แล้วจะทำให้ลื่นไหลมากขึ้น ถามอาจารย์ที่โรงเรียน หรืออาจารย์ท่านไหนก็ได้ค่ะที่สามารถช่วยเราเรียงประโยคหรือแต่งประโยค ช่วยเราในเรื่องสัมภาษณ์ได้เราควรถามเลยค่ะ สู้ๆนะคะ เราเชื่อว่าเพื่อนๆน้องๆที่เข้ามาอ่านบทความนี้ทุกคนทำได้ค่ะ ขอให้พบแต่ความโชคดี และสมหวังทุกคนเลยนะคะ สวัสดีและขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความนี้กันะค่ะ ขอบคุณค่ะ


Part4

  • เมื่อรู้ว่าเราติดสอบสัมภาษณ์ ให้รีบหาข้อมูล เขียนโน๊ตต่างๆ เพื่อเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ แล้วหมั่นทวนอยู่เรื่อยๆ
  • First Impression : สำคัญมากเลยค่ะ เราต้องยิ้มแย้มสดใสเข้าไว้ดูมิตร และสุภาพค่ะ และเข้าสอบสัมภาษณ์ตรงตามเวลา ถ้าเกิดปัญหาใดๆรีบแจ้งเลยค่ะ ทางมหาวิทยาลัยจะได้มีวิธีการแก้ไขให้เราได้ค่ะ
  • ต้องแสดงความเป็นตัวเองออกมา ให้อาจารย์เขาได้เห็น ไม่ต้องอายหรือเขินใดๆ
  • ตอบคำถามให้ดูเป็นธรรมชาติ ดูเป็นตัวเรามากที่สุด ตอบอย่ามั่นใจ ตอบตามความเป็นจริงจะดีที่สุดไม่ต้องดัดแปลง หรือต้องพูดคำสวยหรูอะไรมาก ขอแค่สุภาพก็พอค่ะ
  • หาข้อมูล เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย คณะ สาขา ที่จะสอบสัมภาษณ์ไว้เยอะๆค่ะ ถ้าอาจารย์ถามจะได้มีข้อมูลในตอบได้ค่ะ หรือถ้าเมื่อเราไปดูข้้อมูลมาแล้ว เกิดความสงสัยก็ให้ถามอาจารย์ได้เลยค่ะ อาจารย์เขขาจะได้รู้ว่ารราสนใจสาขาของเขาจริงๆนะ
  • ในการสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเราไม่รู้คำไหน ก็พูดเป็นภาษาไทยได้ค่ะแต่อย่าเยอะเกินไปนะคะ หรือ ถ้าเราพูดภาษาอังกฤษตอบอาจารย์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่คิดว่าถ้าเป็นไทยน่าจะดีกว่าก็ค่อยพูดเสริมได้ค่ะ แต่แนะนำเราต้องพยายามพูดอังกฤษก่อนนะคะ
  • ทำตัวสบายๆไม่ต้องตื่นเต้น ตกใจค่ะ เพราะจะส่งผลให้เราพูดไม่รู้เรื่องและไม่มีสติค่ะ
  • body language ก็สำคัญนะคะ
  • ถ้าอาจารย์เปิดโอกาสให้ถาม ก็ควรถามเลยค่ะไม่ควรปล่อยว่างไว้โดยไม่ได้ถามอะไรอาจารย์เลย หรือถ้าไม่มีอะไรจะถามก็ชวนอาจารย์คุยก็ได้ค่ะ

เครดิตภาพออกแบบโดยผู้เขียนบทความ

เครดิตภาพปกและภาพที่ 1 2 3 4 โดย canva

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`