���ҷ���١�ӨѴ�ô��ѧ����Ǣ�ҧ�鹹�� �����¶������˹����ҷ��ҷ����鹵������� �ѧ��鹶�ҷ��ҷ������շ��ҷ�Ѻ��ǧ��� ���ҷ����Ѻ��ǧ�����������ö�Ѻ�ô�᷹����� ���㹡óշ��١�ӨѴ������ (�) �֧ (�) �������ô�����������������ѡɳ��ѡ�� ������ö�Ѻ�ô��������� Show
���¡���ʴ�ਵ��������ҧ�Ѵ�� ����Ҩ���� � �Ը� ��� � ����˹ѧ����ͺ����边ѡ�ҹ���˹�ҷ�� �ӾԹ�¡���¡��Ѿ���ô���餹��蹨���� ���ҷ�¸������������Ѻ�ô�����Թ�¡��� ���ҷ��������������Ҷ١�Ѵ������Ѻ�ô� (�) �������ô� ���ҷ������Է�����Ѻ�ô� �Ҩ�����ʧ����Ѻ�ô��ѧ����ǡ��� �·���˹ѧ����ʴ�ਵ������ô�������Ѵ�� ���ͨз����ѭ�һ�йջ�й������������� ��������ô���鹨������§�ҧ��ǹ ��������������� ����������������
���ӾԹ�¡�����ͧ��駢�ͤ��������ʧ������������㹾Թ�¡������������ ���˹�Ҿ�ҹ�ա���ҧ�����ͧ��������ѹ �. �ӾԹ�¡������͡����Ѻ ��觵�ͧ�Ӵ����Ըմѧ���仹�� ���ӾԹ�¡�����ͧŧ�����ͪ���㹾Թ�¡��� �. �Թ�¡����Ӵ����Ҩ� �»��ԾԹ�¡����зӴ����Ҩ������ �����������վĵԡ�ó����ɷ���������ö�зӾԹ�¡������Ẻ����� �蹵�������ѹ������������� �����������ä�кҴ ����ʧ���� ��÷ӾԹ�¡��������ҨҨе�ͧ��ԺѵԴѧ��� ���ӾԹ�¡�����ͧ�ʴ�ਵ�ҡ�˹���;Թ�¡������˹�Ҿ�ҹ���ҧ�����ͧ��������������ѹ � ����� �. �Թ�¡�����㹵�ҧ����� ��Ҥ�㹺ѧ�Ѻ�¨зӾԹ�¡���㹵�ҧ����� �зӵ��Ẻ��ҧ � �ѧ����Ǣ�ҧ�� ���ͨзӵ��Ẻ��衮���¢ͧ����ȷ��ӾԹ�¡����ѭ�ѵ������� ในบางครั้ง ผู้ทำพินัยกรรมมีกรรมสิทธิ์รวมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่เป็นสินสมรส กรรมสิทธิ์รวม เป็นต้น ทรัพย์สินเหล่านี้ ไม่ได้เป็นของผู้ทำพินัยกรรมแต่เพียงผู้เดียว แต่ผู้อื่นยังมีส่วนในทรัพย์สินนั้นๆ ร่วมกับผู้จัดทำพินัยกรรมรวมผู้ด้วย ดังนั้น ผู้จัดทำพินัยกรรมจึงไม่มีส่วนในทรัพย์สินของตนเองเต็มส่วนในทรัพย์นั้น ในปัญหาดังกล่าวนำมาสู่ประเด็นที่ว่า ผู้จัดทำพินัยกรรมได้ระบุในพินัยกรรมว่า ต้องการยกทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมทั้งหมดให้แก่ผู้รับพินัยกรรม จึงมีปัญหาว่า การยกทรัพย์มรดกเกินส่วนของตนเองเช่นนี้ สามารถทำได้หรือไม่ และมีความสมบูรณ์หรือตกเป็นโมฆะเพียงใด คำตอบ แม้ผู้ทำพินัยกรรมจะระบุว่า ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ผู้รับพินัยกรรม แต่ก็มีผลเพียงเท่าที่ผู้จัดทำพินัยกรรมมีส่วนในกรรมสิทธิ์รวมเท่านั้น ไม่สามารถยกทรัพย์สินในส่วนของกรรมสิทธิ์ของผู้อื่นให้แก่ผู้รับพินัยกรรมได้ หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย มาตรา 1481 สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินสมรสที่เกินกว่าส่วนของตนให้แก่บุคคลใดได้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 บุคคลใดจะแสดงเจตนาโดยพินัยกรรมกำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนเอง หรือในการต่าง ๆ อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตนตายก็ได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2874/2559 ป.พ.พ. มาตรา 1481, 1646, 1705 พินัยกรรมหรือข้อกำหนดพินัยกรรมย่อมตกเป็นโมฆะ ถ้าได้ทำขึ้นขัดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 1652, 1653, 1656, 1657, 1658, 1660, 1661 หรือ 1663 ทั้งนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705 ที่ดินพิพาทส่วนที่เหลือเนื้อที่ 11 ไร่ 87 ตารางวา เป็นสินสมรสส่วนของโจทก์เพียง 8 ไร่ 2 งาน 7,0625 ตารางวา โจทก์จึงมีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินส่วนดังกล่าวหลังจากที่จดทะเบียนหย่า การที่ ส. ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินพิพาทส่วนที่เหลือดังกล่าวให้แก่จำเลย จึงไม่ใช่กรณีตาม ป.พ.พ. บรรพ 5 ที่ตรวจแก้ไขชำระใหม่ พ.ศ.2519 มาตรา 1481 ที่บัญญัติ "สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินสมรสเกินกว่าส่วนของตนให้แก่บุคคลใดได้" เพราะขณะทำพินัยกรรมโจทก์และ ส. ไม่ได้เป็นสามีภริยากันแล้ว ทั้งบทบัญญัติดังกล่าวก็ไม่ใช่บทมาตราที่จะตกเป็นโมฆะตามที่มาตรา 1705 บัญญัติ แต่เป็นการทำพินัยกรรมกำหนด การเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ใช่ในเรื่องทรัพย์สินของตนเองตามมาตรา 1646 ก็มีผลเพียงว่า ข้อกำหนดที่ยกที่ดินพิพาทส่วนของผู้อื่นไม่มีผลบังคับเท่านั้น ส่วนข้อกำหนดอื่น เช่น การตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกคงมีผลบังคับได้ ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมตกเป็นโมฆะไม่เนื่องจากไม่ต้องด้วยกรณีตามมาตรา 1705 เช่นกัน โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาเพิกถอนพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองและข้อกำหนดในพินัยกรรมที่นายสวัสดิ์ทำไว้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2549 เพิกถอนการจดทะเบียนการรับโอนมรดกที่จำเลยในฐานะส่วนตัวและฐานะผู้จัดการมรดกจดทะเบียนไว้ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2555 ให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2215 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม (บางปลา) จังหวัดนครปฐม (นครไชยศรี) เนื้อที่ 11 ไร่ 87 ตารางวา พร้อมบ้านเลขที่ 54 และ 54/1 แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้โจทก์มีสิทธิดำเนินการได้เองโดยถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา และหากไม่สามารถดำเนินการได้เพราะสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามมูลค่าที่ดินและบ้านจำนวน 2,750,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจากการที่นายสวัสดิ์จำหน่ายที่ดินพิพาทเกินส่วนไปจำนวน 3 ไร่ เป็นเงิน 750,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 2215 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม (บางปลา) จังหวัดนครปฐม (นครไชยศรี) เนื้อที่ 14 ไร่ 78.437 ตารางวา เป็นสินสมรสส่วนของโจทก์ พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองของนายสวัสดิ์ ฉบับลงวันที่ 4 มกราคม 2549 ไม่มีผลผูกพันและบังคับถึงที่ดินสินสมรสในส่วนของโจทก์ได้ ให้จำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกจดทะเบียนโอนที่ดินแปลงดังกล่าวส่วนที่เหลือเนื้อที่ 11 ไร่ 87 ตารางวา คืนแก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการ พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ต้องทำ กี่ ฉบับพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ผู้ทำพินัยกรรมจะทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ แต่ผู้ทำนั้นต้องเขียนพินัยกรรมนั้นด้วยลายมือตนเอง ลงวัน เดือน ปีที่ทำ และที่สำคัญต้องลงลายมือชื่อผู้ทำด้วย กรณีนี้จะมีพยานมารับรู้การทำพินัยกรรมด้วยหรือไม่มีก็ได้
พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับต้องทำอย่างไรต้องเขียนด้วยลายมือของตนเองทั้งฉบับ ใช้พิมพ์ไม่ได้. จะมีพยานหรือไม่มีก็ได้. ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ. ต้องลงลายมือชื่อ จะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือหรือเครื่องหมายอื่นไม่ได้. ทำพินัยกรรมยกสินสมรสได้ไหมตามกฎหมายได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องการทำพินัยกรรมในส่ วนสินสมรสไว้ว่า... สามีหรือภริยาแต่ละฝ่าย จะทำพินัยกรรมจำหน่ายสินสมรสเกินกว่าส่วนของตนไม่ไ ด้ หากขืนทำพินัยกรรมยกสินสมรสเกินกว่าส่วนของตนให้แ ก่บุคคลอื่น พินัยกรรมนั้นไม่มีผลบังคับถึงสินสมรสที่เกินส่วนนั้น คงมีผลเฉพาะสินสมรสส่วนที่เป็นของผู้ทำพินัยกรรมเท่านั้ น...
ผู้รับพินัยกรรมมีกี่ลักษณะผู้รับพินัยกรรม คือ บุคคลที่ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ โดยอาจเป็นญาติพี่น้อง หรือบุคคลภายนอกก็ได้ และอาจเป็นบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคลก็ได้ ผู้รับพินัยกรรม มีสิทธิได้รับมรดกก่อนทายาทโดยธรรมเสมอ ถ้าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ผู้รับพินัยกรรม ทายาทโดยธรรมก็จะไม่ได้รับมรดกเลย
|