วิทยาการคำนวณ ป.4 หน่วย 3 เรื่อง ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลระดับชั้น : ประถมศึกษาปีที่ 4 ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Literacy ) คือ ทักษะการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการสืบค้น จัดกระทำประเมินและสื่อสารข้อมูลความรู้ตลอดจนรู้เท่าทันสื่อโดยการใช้สื่อต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมีประสิทธิภาพ *เนื้อหาและรูปภาพการ์ตูนลิปดาโพล่านี้คือตัวอย่างหนังสือวิทยาการคำนวณ เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทอิมเมจิเนียริ่ง เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ไม่อนุญาตให้นำภาพประกอบไปใช้ในเชิงธุรกิจหรือแสวงหาผลกำไรต่าง ๆ หากต้องการนำเนื้อหาและรูปภาพไปใช้รบกวนติดต่อทีมงานก่อนทุกครั้ง เพื่อส่งเรื่องให้ทางผู้บริหารพิจารณาอนุมัติ
อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า “Inter-Connection Network” เป็นเครือข่ายของการสื่อสารข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อยๆ หลายๆ เครือข่ายรวมตัวกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะต้องทำการเชื่อมต่อจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) ก่อน โดย ISP จะทำหน้าที่ในการเชื่อมสัญญาณจากภายในประเทศไปยังทั่วโลก ด้วยสายสัญญาณความเร็วสูง
โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)1 ซึ่งในปัจจุบันมีหลายบริษัท เช่น 3BB, TURE, AIS เป็นต้น ทำการส่งสัญญาณผ่าน โทรศัพท์พื้นฐาน หรือ เคเบิลใยแก้ว2 เข้ามายังอุปกรณ์ เราเตอร์ (Router)3 ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ4 ด้วยสัญญาณแบบใช้สายหรือสัญญาไร้สาย (Wifi) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต เนื่องจากอินเทอร์เน็ตคือการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อยหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันทำให้เกิดการรับและส่ง หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวอักษร ภาพ เสียงภาพเคลื่อนไหว หรือข้อมูลจากอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ด้วยความเร็วสูงกว่า 30 – 400 เมกะบิตต่อวินาทีในปัจจุบัน
การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ เนื่องด้วยอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุด และมีการปรับปรุง (Update) ข้อมูลอยู่ตลอดเวลาโดยมี เว็บไซต์ (Website) ซึ่งเป็นเอกสารเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวขององค์กรต่างๆ นำออกมาเผยแพร่ โดยปัจจุบันมีจำนวนเว็บไซต์มากกว่า 1,200 ล้านเว็บไซต์ ซึ่งการหาข้อมูลสามารถหาได้จาก เว็บไซต์ ที่ใช้ในการสืบค้นหรือที่เรียกว่า Search Engine เช่น
คำสำคัญที่ใช้ในการค้นหา (Keyword) การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตจะต้องใช้ คีย์เวิร์ด (Keyword) หรือ คำสำคัญ ซึ่งคำที่ใช้ควรเป็นคำที่ตรงประเด็น กระชับจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต์ เช่น ชื่อเรื่อง หัวข้อ หัวเรื่อง หรือรายละเอียดอย่างย่อของข้อมูล การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องมีคำสำคัญ (Keyword) ใช้ในการค้นหา เมื่อค้นหาแล้วจะพบกับเว็บไซต์ซึ่งจะต้องเลือกเว็บไซต์ที่มี ความน่าเชื่อถือ แล้วจึงนำข้อมูลไปประมวลผลเป็นสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ต่อไป
เมื่อได้รับข้อมูลต้องนำมาพิจารณาโดยใช้วิธีสังเกตและตั้งคำถามโดยใช้หลักที่ว่า
โจทย์ : หลังเลิกเรียน เด็กชายแบ่งปัน ยืนรอคุณพ่ออยู่หน้าโรงเรียนมีชายแปลกหน้าเข้ามาพูดคุยและเชิญชวนไปเล่นเกมที่ร้านบริเวณนั้น
เนื่องด้วย เว็บไซต์ (Website) มีการนำเสนอข้อมูลที่มีทั้ง ภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ที่สามารถสร้างผลกระทบที่ดีและไม่ดีแก่ผู้รับข้อมูลได้ จึงควรจะ ประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล สามารถพิจารณาได้โดย ประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงานราชการ สำนักข่าว องค์กร) ผู้เขียน วันที่เผยแพร่ข้อมูล การอ้างอิง ตัวอย่างเช่น
การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล
สรุปผลการประเมิน ประเภทเว็บไซต์ .com เป็นเว็บไซต์ประเภท ธุรกิจทั่วไป เขียนโดยผู้เขียนภายในบริษัทซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ มีวันที่ที่ระบุ ข้อมูลมีความทันสมัยกับเหตุการณ์ มีข้อมูลอ้างอิงที่สามารถตรวจสอบได้ คือ กรมควบคุุมมลพิษ และ กรมอุตุนิยมวิทยา ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือเพราะมีแหล่งอ้างอิง และทันสมัย การนำข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์มาใช้ประโยชน์ เมื่อค้นหาข้อมูลความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ เราควรนำข้อมูลมาประมวลผลโดย การพิจารณา เปรียบเทียบ การเรียงลำดับ การจำแนกกลุ่ม การรวมข้อมูล และการสรุปผล โดยการ เลือกข้อมูลที่สอดคล้องและสัมพันธ์กัน เพื่อนำไปทำรายงานหรือนำเสนอต่อไป โจทย์ปัญหา : คุณแม่บอกว่าคุณย่าไม่ค่อยสบาย ร่างกายอ่อนแอ อาจเนื่องจากคุณย่าไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรือพักผ่อนไม่เต็มที่ เราไปเยี่ยมคุณย่าพรุ่งนี้กัน ลิปดาจะไปค้นหาความรู้เรื่องนี้จากไหนดีนะเพื่อนำไปช่วยคุณย่า
1,200 ล้านเว็บไซต์ Website in this world ลิปดาถามคุณพ่อว่า เว็บไซต์ในโลกนี้มีจำนวนเท่าไรคะ คุณพ่อตอบว่า น่าจะมีประมาณ 1,200 ล้านเว็บไซต์เลยนะ โห… มากมายขนาดนั้นเลยหรือคะคุณพ่อ แล้วเว็บไซต์เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของโลกใช่ไหมคะ ใช่แล้วจ้า แต่ว่าก็มีทั้งที่น่าเชื่อถือและไม่น่าเชื่อถือเหมือนกันนะ ลิปดาควรระมัดระวังการรับข้อมูลจากเว็บไซต์พวกนี้นะลูก ภารกิจ : 1. คุณครูยกตัวอย่างเว็บไซต์ และให้นักเรียนชูป้ายว่าเว็บไซต์นี้น่าเชื่อหรือไม่น่าเชื่อ พร้อมอธิบาย
วัสดุอุปกรณ์ : 1. คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื่องเขียน รวบรวมข้อมูล : การประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์มีวิธีการอย่างไร วางแผน ออกแบบ : แบ่งหน้าที่การทำงานวางแผนในการเขียนสรุปเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์
ลิปดาอยากทำอะไรมากมายจากภาพให้นักเรียนพิจารณารูปภาพ โดยกาเครื่องหมายถูก หน้าคำสำคัญที่เลือกเพื่อให้ลิปดานำไปค้นหาความรู้ในอินเทอร์เน็ต
ให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล และเขียนอธิบายด้วยหลัก Who, What, When, Why, How สถานการณ์ : ขณะที่ลิปดากำลังใช้โทรศัพท์ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอยู่นั้นมีข้อความส่งมายังโทรศัพท์บอกว่า ขณะนี้น้ำกำลังจะท่วมประเทศไทย ให้ทุกคนเตรียมอพยพทรัพย์สินไปเก็บไว้ หากไม่มีที่เก็บสามารถนำมาฝากไว้ได้ที่นี่นะครับ
โรคไข้เลือดออกน่ากลัวจังเลย ระบุปัญหา : ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ลิปดาได้นั่งดูข่าวในโทรทัศน์ว่ามีคนเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ลิปดาตกใจและกลัวว่าคนในครอบครัวจะป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ลิปดาจะไปค้นหาความรู้เรื่องนี้จากไหนดีเพื่อนำมาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว ภารกิจ : 1. ให้นักเรียนใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ แล้วนำมารวบรวมเป็นความรู้และทำเป็นรายงาน
วัสดุอุปกรณ์ : 1. คอมพิวเตอร์ 2. อุปกรณ์เครื่องเขียน 3. อุปกรณ์ที่คุณครูกำหนด หมายเหตุ : หัวข้อเนื้อหาความรู้ที่ต้องการ คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม รวบรวมข้อมูล : หลักการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและเว็บไซต์ และการนำข้อมูลมาทำรายงาน โดยเรียบเรียงเป็นภาษาของตนเอง ออกแบบและวางแผน วางแผนและออกแบบแผนการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ ลงมือปฏิบัติ และ ทดสอบชิ้นงาน ให้นักเรียนลงมือทำตามแผนที่กำหนดไว้ ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข
|