คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งใช่ไหมที่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องเสมอ ๆ เช่น จะใช้เครื่องหมายอัฒภาค (;) ให้ถูกต้องได้อย่างไร หรือจะรู้ได้อย่างไรว่า คำกริยาวิเศษณ์ตัวไหนควรวางไว้ที่ใดในประโยค เป็นต้น หากคำตอบ คือ ใช่ คุณมาถูกที่แล้ว เพราะนี่ คือ คู่มือการใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมที่สุดที่อัดแน่นไปด้วยกฎการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง กฎไวยากรณ์แต่ละกฎจะถูกอธิบายไว้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายพร้อมด้วยตัวอย่างการใช้อย่างละเอียด โดยเราจัดกฎไวยากรณ์ไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อให้สะดวกต่อผู้เรียน เรารู้ดีว่า ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเรียนรู้จากคู่มือของเราจะช่วยให้คุณจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะช่วยให้คุณสามารถพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น. คำนามคำนาม คือ คำที่กล่าวถึงคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ คำนามบอกให้เรารู้ว่า เรากำลังพูดถึงอะไร ตัวอย่างคำนาม ได้แก่ แมว แจ็ค หิน อัฟริกา มัน เป็นต้น คำคุณศัพท์คำคุณศัพท์ คือ คำที่ใช้ขยายหรืออธิบายคำนาม ตัวอย่างเช่น สูง สวย ไม่รับผิดชอบ น่าเบื่อ เป็นต้น คำกริยาวิเศษณ์คำกริยาวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำคุณศัพท์ คำกริยาหรือคำกริยาวิเศษณ์อื่น ๆ คำกริยาวิเศษณ์ไม่เพียงแต่บอกให้เราทราบว่า สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไรและอย่างไรเท่านั้น แต่ยังบอกปริมาณ ระดับความรุนแรง ความถี่และความคิดเห็นอีกด้วย คำนำหน้าคำนามคำนำหน้านาม เช่น a, an, the คำบอกปริมาณ และคำนำหน้านามอื่น ๆ คือ คำที่ใช้ขยายคำนาม มีลักษณะคล้ายคลึงกับคำคุณศัพท์ คำนำหน้านามช่วยให้เรารู้ว่า เรากำลังพูดถึงอะไรอยู่ คำกิริยา & กาล (Tenses)คำกริยา คือ คำที่แสดงการเคลื่อนไหวหรือการกระทำบางอย่าง คำกริยาบอกให้เรารู้ว่า เกิดอะไรขึ้นและเกิดขึ้นเมื่อไร (ในอดีต ในปัจจุบัน หรือในอนาคต) นอกจากนี้ คำกริยายังสามารถบอกถึงความเป็นไปได้และเงื่อนไขต่าง ๆ ได้อีกด้วย Speechเมื่อเราต้องเขียนว่า ใครพูดอะไรหรือเขียนถึงสิ่งที่มีคนเคยพูดไว้ เราสามารถอ้างอิงถึงคนที่พูดได้โดยทั้งทางตรงและทางอ้อม กฎการใช้ Indirect speech เป็นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคัญที่จำเป็นต้องเรียนรู้ เครื่องหมายวรรคตอนถึงแม้ว่าเครื่องหมายวรรคตอนจะไม่ได้ถูกนำมาใช้เลยในการพูดภาษาอังกฤษ แต่สิ่งนี้กลับมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเขียนภาษาอังกฤษ หลังจากที่พี่เป้และพี่ได้สำรวจความคิดเห็นจากน้องๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษพบว่าทักษะที่น้องๆ ไม่มั่นใจมากที่สุดคือการเขียน เพราะการฟังสามารถอาศัยสีหน้าท่าทางคนพูดเพื่อประกอบความเข้าใจได้ การพูดก็ยังพอใช้ภาษามือช่วยได้ ส่วนการอ่านก็ใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้เพื่อทำความเข้าใจไปทีละนิด แต่การเขียนกลับเป็นเรื่องที่ดูทางการที่สุด น้องๆ จะต้องกังวลทั้งเรื่องไวยากรณ์ คำศัพท์ และหลักการเขียนอื่นๆ อีกมากมาย พี่พิซซ่า เลยหาตัวช่วยให้น้องๆ ปรับปรุงการเขียนภาษาอังกฤษมาให้ค่ะ
ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไขและพัฒนาทักษะการเขียน เราต้องพิจารณาก่อนว่าอะไรคือจุดอ่อนที่ทำให้เราเขียนไม่ได้ซะที จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ
แม้ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษจะมีรูปแบบประธาน + กริยา + กรรม เหมือนกันอย่างฉันรักเธอกับ I love you. แต่เวลาใส่คำขยายต่างๆ เข้าไปในประโยค ลำดับจะต่างกันอย่างฉันมีกระเป๋าสีแดง ก็เป็น I have a red bag. นอกจากนี้เวลาทำเป็นประโยคคำถาม ภาษาอังกฤษก็จะย้ายคำกริยามาไว้หน้าประธาน ทั้งที่ภาษาไทยไม่มี เช่น นั่นคือแฟนเธอรึเปล่า กับ Is that your boyfriend? หรือเธอชื่ออะไร What is your name? (แปลตรงตัวได้ว่าอะไรคือชื่อเธอ) Did his dad tell him not to worry? ประโยคนี้ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะคำศัพท์ก็แปลออกทุกตัว แต่ถ้าให้เขียนเองตั้งแต่แรก พี่เชื่อว่าหลายคนคงไม่แน่ใจว่าเรียงประโยคยังไงให้อ่านรู้เรื่อง (จงแปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ “พ่อของเขาบอกเขารึเปล่าว่าไม่ต้องเป็นห่วง”)
เรื่องของเวลาและ Tense ต่างๆ ภาษาไทยไม่ต้องเปลี่ยนรูปตามกาล จะกินเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ ก็ยังคง “กิน” อยู่วันยังค่ำ แต่ภาษาอังกฤษกลับมีตั้ง 12 Tenses ทั้งอดีตของอดีต ทำแล้วจบแล้วในอดีต ทำแล้วแต่ยังไม่จบ จะทำแบบแน่นอน จะทำแบบยังไม่แน่นอน หรือแม้แต่กาลปัจจุบันอย่าง Present Simple Tense ที่กริยายังต้องเติม –s, -es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์อีก ตอนเด็กๆ พี่ก็เคยสงสัยค่ะว่ามันจะทำมาเยอะแยะทำไม แต่พอคิดได้ว่าคำตอบคงอยู่ที่คนคิดภาษาอังกฤษซึ่งไม่รู้ว่าจะไปเจอได้ที่ไหนแล้ว พี่เลยเปลี่ยนมาจำว่ามันมี Tense อะไรบ้าง แต่ไปสงสัยเรื่องการใช้แต่ละ Tense ให้ถูกต้องแทน (ต้องบอกว่าการสงสัยแบบหลังนี่เกิดประโยชน์มากกว่ากันเยอะ)
ภาษาไทยใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่บ่อยมากนัก เมื่อจบประโยคก็ไม่ต้องใส่จุดด้วย (มหัพภาค) แต่ภาษาอังกฤษต้องจบประโยคด้วยจุด เพราะภาษาไทยใช้การเว้นวรรคแสดงการจบประโยคอยู่แล้ว แต่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เขียนเว้นวรรคทุกคำจึงต้องมีจุดแสดง ส่วนประโยคคำถาม ในภาษาไทยก็ไม่นิยมใช้เพราะแต่เดิมไทยไม่มีเครื่องหมายปรัศนี (?) จนกระทั่งรู้จักภาษาต่างประเทศ และถือว่ามีคำไทยที่รวมความเป็นเครื่องหมายคำถามเข้าไปในตัวอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแสดงเครื่องหมายคำถามอีก เช่น กี่, ใคร, อะไร นอกจากนี้ภาษาไทยยังมีไม้ยมก (ๆ), ไปยาลน้อย (ฯ), ไปยาลใหญ่ (ฯลฯ) ที่ภาษาอังกฤษไม่มีใช้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จุกจิกเรื่องเครื่องหมายวรรคตอนเยอะมาก มีกฎเยอะแยะไปหมด แต่ภาษาไทยเน้นใช้ “วรรค” เป็นหลัก ซึ่งวรรคของภาษาไทยแทนเครื่องหมายวรรคตอนของภาษาอังกฤษได้หลายตัวมาก ทำให้เป็นอีกหนึ่งปัญหาการเขียน เพราะเดาไม่ถูกว่า “วรรค” ตรงนี้ควรเป็นเครื่องหมายไหนดี
สุภาษิต คำพังเพย สำนวน แต่ละภาษามีสุภาษิต คำพังเพย และสำนวนต่างกันตามวัฒนธรรมและลักษณะของประเทศนั้นๆ อย่างหนีเสือปะจระเข้ จะกลายเป็นหนีกระทะทอดไปเจอกองไฟทันที (Out of the frying pan and into the fire) หรือเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามก็เป็นเข้ากรุงโรมต้องทำตามชาวโรมัน (When in Rome do as the Romans do) ซึ่งเวลาจะใช้คนไทยคงนึกไม่ถึงกรุงโรมแน่ๆ ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเลือกอาณาจักรที่ไทยเราคุ้นเคยมากกว่าอย่างกรุงอโยธยา ถึงสำนวนพวกนี้ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ แต่โชคดีที่ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลมากมายที่ช่วยให้เรารู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน ทำให้ไม่ต้องพยายามแปลเองผิดๆ ถูกๆ อีกแล้วค่ะ (พี่พิซซ่า เคยรวบรวมสำนวนที่ใช้สัตว์เปรียบเทียบไว้ ไปดูได้ที่นี่ค่ะ)
จริงๆ ปัญหานี้แก้ได้ง่ายมากเพราะมีพจนานุกรมตั้งหลายประเภท แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ น่าจะเป็นการใช้ไม่เป็นมากกว่า ไม่รู้ว่าคำนี้ใช้ในประโยคนี้ได้หรือไม่ หรือว่าคำนี้มีความหมายด้านบวกหรือลบ หรือไม่แน่ใจว่ามันให้ความหมายตรงกับที่คิดไว้ในหัวรึเปล่า ฉะนั้นต้องมีพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษติดไว้ด้วยอีกเล่มหนึ่งค่ะ เลือกเล่มที่อธิบายความหมายเยอะๆ และยกตัวอย่างเยอะมากๆ จะได้เห็นภาพมากขึ้นว่าคำที่เราเลือกจากพจนานุกรมไทย-อังกฤษไปใช้นั้น มันถูกต้องจริงๆ แล้วรึยัง
ไม่รู้จะเขียนอะไร/ไม่มีอะไรจะเขียน ข้อนี้จัดเป็นปัญหาการเขียนแบบไม่ขึ้นกับภาษา อย่างนี้แสดงว่าต่อให้เป็นภาษาไทยก็ยังไม่รู้จะเขียนอะไรอยู่ดี ซึ่งพี่ไม่สามารถช่วยได้ค่ะ 5555
การเขียนร่างหลายๆ ครั้งหรือเขียนแล้วทบทวนแก้ไขหลายรอบ อย่าเขียนครั้งเดียวส่งค่ะ ร่างเสร็จก็ตรวจทานใหม่ ถ้าเป็นการบ้านที่อีกนานกว่าจะส่งก็ให้รีบทำแต่เนิ่นๆ ตรวจรอบแรกแล้วทิ้งไว้ซัก 3 วันมาอ่านอีกที แก้ไขแล้วก็เว้นไว้อีก 5 วันมาแก้อีกรอบ ควรเว้นจังหวะระหว่างการแก้ไขแต่ละครั้งด้วย (เหมือนแต่งนิยาย) ครั้งหลังๆ มาอ่านก็จะรู้สึกว่า “วันนั้นฉันเขียนอะไรลงไปเนี่ย” จับอะไรรวมกันได้ก็รวมเข้าด้วยกัน ถ้าน้องๆ รู้สึกว่าทำไมงานเขียนตัวเองมันดูพื้นๆ มากเลย มีแต่ I am. He is. They are. เต็มไปหมด เช่น He has beautiful eyes. They are green. He is looking right at me. ก็ลองรวมเป็น His beautiful green eyes are looking right at me. ซึ่งสามารถฝึกการแปลงรูปประโยคได้จากการอ่านและฟังเยอะๆ ดูหนังฟังเพลงจัดเต็มไปเลยค่ะ
ขยันพิมพ์ภาษาอังกฤษในสเตตัส ใครจะว่าก็ช่าง แต่เราทำเพื่อพัฒนาทักษะตัวเอง เวลาอยากจะเม้าธ์หรือวิจารณ์หนังที่เพิ่งไปดูมา ก็ลองเปลี่ยนมาอัพสเตตัสเป็นภาษาอังกฤษแทน พยายามแสดงเหตุผลไปเยอะๆ พระเอกหล่อยังไง ตัวโกงดีเลวยังไง ดนตรีประกอบเพราะมั้ย เขียนไปตามใจชอบเลยค่ะ เพื่อนในเฟซบุ๊คที่เก่งภาษาอังกฤษผ่านมาเห็นก็จะช่วยแนะนำแก้ไขให้ และการแสดงความเห็นเป็นภาษาอังกฤษบ่อยๆ ก็จะทำให้ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวเวลาต้องเขียนงานค่ะ พิมพ์ลง Google เมื่อมีประโยคที่ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกมั้ย วางคำขยายถูกตำแหน่งหรือยัง ให้ลองพิมพ์ประโยคนั้นลง Google ดูค่ะ ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะช่วยยืนยันได้ว่ามีคนเขียนแบบนี้หรือไม่ แต่ต้องอ่านทีละผลลัพธ์ดีๆ นะคะ ว่าเขาใช้ในสถานการณ์เดียวกันกับเรารึเปล่า
http://www.rong-chang.com/ex/contents.htm แบบฝึกหัดไวยากรณ์แบบปรนัย http://www.rong-chang.com/easyread/emx/contents.htm แบบฝึกหัดการเรียงประโยค คลิกทีละคำได้เลย ไม่ต้องพิมพ์ค่ะ http://www.rong-chang.com/writing/ แบบฝึกหัดเขียนประโยคตามรูปแบบหรือไวยากรณ์ที่กำหนดให้ http://www.rong-chang.com/qa2/index.html รวมเรื่องสั้นพร้อมคลิปเสียง ที่จะทำให้เห็นรูปแบบการเขียนมากขึ้น http://www.common-mistakes.net/ เว็บรวบรวมคำผิดที่เจอบ่อยในการเขียนภาษาอังกฤษ อย่างคำที่ความหมายใกล้กัน http://oxforddictionaries.com/words/better-writing รวมข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างทั้งไวยากรณ์ พจนานุกรม การสะกด เครื่องหมายวรรคตอน และอื่นๆ อีกมากมาย
ความหมายแง่บวกDenotation ความหมายปกติ ตามพจนานุกรมNegative Connotation ความหมายแง่ลบคำแปลaromasmellstenchกลิ่นthriftyinexpensivecheapไม่แพง, ถูกcabinhutshackกระท่อมstrong-willedstubbornpig-headedหัวแข็งpreviously ownedsecond handusedใช้แล้วunusualstrangeweirdแปลก ซึ่งการที่จะรู้ได้ว่าคำไหนมีความหมายตรงๆ คำไหนให้อารมณ์ร่วม แล้วเป็นความรู้สึกแง่บวกหรือลบนั้น ต้องอาศัยความคุ้นเคย ที่มาจากการอ่านหนังสือ ชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะๆ ค่ะ ถึงจะเข้าใจได้ว่าเขาจัดคำนั้นๆ ไว้ในหมวดไหน ซึ่งการจัด connotation นี้ก็ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วสังคมที่ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะในบางกลุ่มอาจจะบางคำในมุมที่ต่างออกไปก็ได้
ถ้าน้องๆ มีข้อสงสัย ส่งคำถามมาให้ พี่พิซซ่า ได้เลยนะคะ ^^แล้วมาพบกับคอลัมน์ภาษาอังกฤษได้ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายนค่ะ ส่วนใครอยากอ่านเรื่องราวสนุกๆ เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ www.dek-d.com/studyabroad
TWITTER: @PiZZaDekD ข้อมูล
01/06/56 03:03 น. 553,341 views Facebook Twitter Line พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะ มีประโยชน์มากๆ >< ทำออกมาบ่อยๆน้าหนูคอยติดตาม แก้ไขล่าสุด:
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ นะคะ เว็บที่แนะนำมานี่ใช้บริการเป็นประจำเลยค่ะ แก้ไขล่าสุด:
หนูก็เป็นเหมือนกันค่ะ อ่านออกแต่แปลไม่ได้ เขียนไม่ได้
เรื่องประโยคไม่ค่อยกลัวคะ แต่ศัพท์นี่สิ ไม่แน่นเลย พอจะเขียนประโยคอะไรที่ห็จะมาสะดุดตรงคำศัพท์ ทุกทีคะ T T แก้ไขล่าสุด:
เราจะมีปัญหาบ่อยๆ ตอนเขียนบทความ เครื่องหมายถูกไหม คำศัพท์โอเครึเปล่า แก้ไขล่าสุด:
คือเข้าใจคะ ว่าเค้าพูดเกี่ยวกับอะไร แต่ตอบไม่ได้ อ่านได้ แต่แปลไม่ได้ เรียงประโยคถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ลองคุยสไกด์กับต่างชาติ เค้าก็เหมือนเข้าใจกับ Tense ที่เราเติมบ้างไม่้เติมบ้าง อยากเรียนไกด์อ่า คงต้องฝึกฝนอีกเยอะ
เหนื่อยโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
Thank you.
ในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษอีกท่าน
ขอบคุรสำหรับบทความดีๆนะครับ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ แต่โง่เรื่อง tense มาเรียนตั้งแต่ ป.5 ก็ไม่เข้าใจซะที TT แก้ไขล่าสุด:
ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แก้ไขล่าสุด:
มีประโยชน์ดีจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ แก้ไขล่าสุด:
มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณค่า ^___^ แก้ไขล่าสุด:
ขอบคุณค่ะ // คำศัพท์นี่สิ จำไม่ได้สักที แก้ไขล่าสุด:
Thanks นู๊คือเอเรียลตัวน้อย
เราก็พอรู้บ้างอ่ะนะ แต่เรื่องThese is These are were was is am are ก็พอได้บ้างอ่ะนะพอเดาได้แต่ Tense นี่สิ ท้อใจจัง อ่านได้ ตอบได้บาง แปลได้เป็นบางคำค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ไปลองทำในเว็บ มาก็ได้บางไม่ได้บางค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ วันมะรืน ก็จะสอบแล้ว
เวลาจะขอคำแนะนำในเรื่อง ต่าง ๆ ควรจะเริ่มต้นประโยค และลงท้ายว่าอย่างไรคะ รบกวนหน่อยนะคะ จาก เด็ก...เริ่มหัดเขียน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ แก้ไขล่าสุด:
"คำแนะนำในเรื่องต่างๆ" นี่คือแบบไหนหรอคะ นึกภาพไม่ออก ฮะฮะฮะ สมมติว่าแฟนเก่าที่ทำเราเจ็บช้ำมาโดยตลอด แถมสุดท้ายยังทิ้งเรา จนเราทำใจไม่ได้ วันนึงเขาโทรมาหาเราแล้วบอกว่าคิดถึงและชวนไปกินข้าว เราตอบว่าขอคิดดูก่อน แล้วก็วางหู จากนั้นก็หันมามองเพื่อนรักที่ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ เพื่อขอความเห็น กรณีนี้ส่วนมากเราจะพูดว่า What should I do? ฉันควรทำยังไงดีเนี่ย หรือ Should I?ฉันควรไปมั้ย ถ้าเราต้องทำรายงานวิเคราะห์เพลงหลายๆ ภาษา แต่เราไม่รู้จักเพลงเกาหลีเลย ก็ไปหาแฟนคลับตัวแม่ และขอคำแนะนำจากเขาว่า Could you recommend me some Korean songs? เธอช่วยแนะนำเพลงเกาหลีให้ฉันหน่อยได้มั้ย มีอีกหลายแบบค่ะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่พูด |