ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก วัยรุ่น คือ ผู้ที่มีอายุระหว่าง 10-19 ปี ในปัจจุบัน มีประมาณร้อยละ 20 ของประชากรโลก หรือมีประมาณ 1.2 พันล้านคน สำหรับในประเทศไทยมีวัยรุ่นประมาณ 10 ล้านคน ตามจริงแล้วช่วงชีวิตวัยรุ่นควรจะเป็นช่วงที่มีสุขภาพดี เพราะได้ผ่านช่วงที่มีอัตราเสี่ยงสูงต่อสุขภาพในวัยเด็กเล็กมาแล้ว แต่ในปัจจุบันวัยรุ่นไทยกลับเสียชีวิตและเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ มาก เช่น อุบัติเหตุ ความรุนแรงต่าง ๆ สารเสพติด การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โรคจากบุหรี่ และ AIDS ซึ่งนับแต่จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากโรคทางกายแล้วปัญหาในด้านจิตใจของวัยรุ่นสามารถพบได้มากเช่นกัน ทั้งนี้อาจเนื่องจากการเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติซึ่งส่งผลให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกันทางสังคมน้อยลง เช่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ลดน้อยลง ไม่สามารถอดทนต่อเรื่องที่เข้ามากระทบอารมณ์ได้หรือรอคอยเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้ เข้าสังคมได้ไม่ดี โดยมีปัญหาในการปรับตัวและรับวัฒนธรรมเหล่านั้นจนเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจได้ ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในวัยรุ่น หากแบ่งปัญหาสุขภาพเป็นโรคทางกายและทางใจแล้ว สามารถแบ่งโรคที่พบบ่อยดังนี้ โรคทางร่างกาย เช่น โรคอ้วน โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง เป็นต้น โรคทางจิตใจ เช่น การติดเกมส์ และปัญหาเรื่องเพศ เป็นต้น โรคทางร่างกาย โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกินในปัจจุบันพบได้มากขึ้นจนจัดได้ว่ามีการระบาดไปทั่วโลก ส่วนใหญ่ไม่พบสาเหตุทางกาย แต่มักเกิดจากพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ไม่เหมาะเช่น รับประทานอาหารมากเกิน ออกกำลังหรือมีกิจวัตรที่ใช้พลังงานน้อย จากการสำรวจเด็กวัยเรียนจากการสุ่มตัวอย่างทั่ว ประเทศพบว่าประมาณ 1 ใน 10 มีภาวะโภชนาการเกินหรือ โรคอ้วน โดยมีสาเหตุมาจากการ พันธุกรรม การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม ดู TV เล่น Internet และ Game online โดยไม่มีการควบคุม ส่วนสาเหตุจากโรคต่างๆสามารถพบได้ว่าเป็นสาเหตุของการอ้วนได้ เช่น เป็นเนื้องอกในระบบ ประสาทส่วนกลาง (Pituitary) หรือในต่อมไร้ท่อ หรือการใช้ยา Steroid ซึ่งทำให้ระบบผลาญอาหารและพลังงานผิดปกติไป โรคที่ตามมาจากภาวะโรคอ้วนมีหลายโรค เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งในวัยรุ่นไทยสูงเกิน กว่า 3 เท่า ในช่วง 5 ปีหลัง เป็นร้อยละ 17.9 ของวัยรุ่นทั้งหมด เกิดภาวะผิวหนังรอยทับตามข้อพับ ความผิดปกติของการหายใจโดยมีการหยุดหายใจเป็นช่วงระหว่างการนอนหลับ (Sleep apnea) และ ทางด้านจิตใจ พบว่าคนอ้วนอาจมีภาวะซึมเศร้า และภูมิใจในตนเองน้อยลง การรักษา หากมีสาเหตุจากโรคใด เช่น เนื้องอกในระบบประสาท สามารถรักษาตามสาเหตุโรค ถ้าไม่พบสาเหตุ จะอยู่ที่ความตั้งใจของผู้ป่วย และความร่วมมือของครอบครัวโดยการควบคุมอาหาร การออกกำลัง ปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานในระหว่างวัน การใช้ยาลดความอ้วนอาจไม่คุ้มโดยกลับมาอ้วนได้อีก การพิจารณาประมาณพลังงานจากอาหารและการออกกำลังง่ายสามารถพิจารณาจากตัวอย่างได้ดังนี้ น้ำอัดลม 1 กระป๋อง กล้วยทอดสองชิ้น โดนัท 1 ชิ้น ทองหยิบ 1 ดอก เมื่อรับประทานแล้วหากต้องการให้เกิดการเผาผลาญให้หมด ต้องเดิน 20 นาที วิ่ง 10 นาที ซึ่งจะใช้พลังงาน 100 Kcal สำหรับบทบาทของส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นมีหลายส่วนเช่น โรงเรียนและสถานศึกษา ช่วยได้มากในเรื่องการจัดไม่ให้มีการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่หวานเกินไป การส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และการสร้างเจตคติที่เหมาะสมเพื่อควบคุมพฤติกรรมการบริโภคของหวาน สำหรับพ่อแม่ สามารถจำกัดเวลากิจกรรมที่ใช้พลังน้อย เช่น การดู TV เล่น Internet ทั้งนี้ต้องเป็นลักษณะของการเสริมแรงทางบวก การมีกิจกรรมร่วมกันในด้านกีฬา โดยชวนกันออกกำลังทั้งครอบครัว การออกกำลังนอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการเติบโตใหม่ของเซลล์สมองซึ่งจะทำให้จิตใจสดชื่นด้วย โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้เป็นสภาวะที่ร่างกายมีความไวต่อสารหรือสภาวะบางอย่างมาก ซึ่งร่างกายคิดว่าเป็นสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจึงทำงานอย่างเต็มที่โดยทั่วไป อาการภูมิแพ้ที่พบบ่อยแสดงออก 3 ลักษณะ คือทางผิวหนัง ทางเดินหายใจส่วนบน จมูก ระบบหายใจ ปอด ทางผิวหนังจะมีอาการผื่นแพ้ เฉพาะจุดหรือทั่วทั้งร่างกายทางจมูกมีเรื่อง การคัดแน่นหายใจไม่สะดวก มีน้ำมูก สารคัดหลั่ง ระบบหายใจเป็นเรื่อง หอบหืด การป้องกันอาการสำคัญต่อการเกิดภูมิแพ้เป็นอย่างมาก การเลี่ยงสิ่งที่แพ้ หากเลี่ยงสิ่งที่ แพ้ได้ในระยะเวลานานอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจะห่างไปและเกิดอาการน้อย การจัดสภาพอากาศให้ดี ปลอดโปร่งจะช่วยลดและบรรเทาอาการได้ โรคผิวหนัง ในวัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการดำเนินกิจกรรมมากเช่น กีฬา หรือการออกกำลัง ซึ่งหากไม่รักษาความสะอาดและสุขอนามัยของร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนัง เช่น ผื่นจากเชื้อรา ผิวหนังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเกิดอาการควรให้ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาไม่ควรหายามาทาหรือรักษาเอง โรคผิวหนังบางประเภทหากใช้ยาไม่ถูกต้องอาจเกิดอาการกลับเป็นซ้ำหรือลุกลามมากขึ้น โรคทางจิตใจ ติดเกมส์ ปัญหาเรื่องเพศศึกษา ติดเกมส์ ในช่วงเราได้ทราบข่าวที่มีเยาวชนเล่นเกมส์จนเสียชีวิตในร้านเกมส์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าและเสียดายเป็นอย่างยิ่งในปี พ.ศ.2545 สำนักงานสถิติสำรวจเด็กและเยาวชน 11-24 ปี พบว่า 3 ล้านคนเล่นเกมส์และมีสถิติที่สูงขึ้นเรื่อยๆในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกม ทั้งนี้เป็นการออนไลน์ที่ไม่ได้ประโยชน์ โดยใช้ออนไลน์เพื่อเล่นมากกว่าการค้นคว้าและทำงาน ซึ่งเป็นทั่วทั้งโลก สิ่งที่น่าห่วงคือเล่นเกมส์มาปจนติดเกมส์ สำหรับเกณฑ์วินิจฉัย คล้ายผู้ติดสารเสพติด และผู้ป่วยที่ติดการพนัน ใช้เวลานานขึ้นคุมตนเองให้เลิกเล่นไม่ได้ หมกมุ่นคิดเกี่ยวกับเกมส์มาก เกิดผลเสียต่อการเรียนต่อสุขภาพ มีปัญหาพฤติกรรมตามมา เช่น โกหก ขโมย ก้าวร้าว การที่จะเกิดการเสพติดนั้นเกิดเนื่องจากระหว่างเล่นเกมส์ที่ตื่นเต้นจะมีการหลั่งสารเคมี Dopamine ในสมอง ทำให้เกิดความรู้สึกสุขเพลิดเพลินคล้ายกับกรณีของยาเสพติด จากนั้น Dopamine จะลดลงจนต้องเสพมากขึ้น ด้านจิตสังคม เด็กที่มีความนับถือตนเองจะพอใจกับความสำเร็จในการเล่นเกมส์ สังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น มีร้านเกมส์ที่ไม่มีการควบคุมอยู่ใกล้บ้าน ผลกระทบ เกมส์ที่รุนแรง เช่น การยิง ฆ่า จะเสริมให้วัยรุ่นมีความคิดอารมณ์และพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุ่นแรง การเรียน การทำงานจะมีปัญหา การป้องกัน พ่อแม่ควรมีความรู้เรื่องเกมส์ ช่วยลูกเลือกเกมส์ที่ควรเล่นไม่ควรเล่น จัดวินัย ในการเล่นเกมส์เป็นเวลา สำคัญมากเป็นการปูพื้นข้อตกลงกัน ซึ่งถ้าละเมิดสามารถลงโทษโดยลดเวลาในการเล่นเกมส์ ถ้าทำได้อาจเพิ่มเวลาให้บ้าง สำหรับวัยรุ่นในปัจจุบันต้องเลี่ยงการตำหนิหรืออบรมสั่งสอนโดยตรง แต่ให้กระตุ้นให้พูดถึงผลกระทบของการเล่นเกมส์ที่มีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว เพศศึกษา ส่วนใหญ่วัยรุ่นได้ความรู้ในเรื่องนี้จากเพื่อนซึ่งอาจไม่ถูกต้องที่จริงแล้ว พ่อ แม่ สามารถเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาได้เป็นคนแรก สื่อสารความคาดหวังและค่านิยมเรื่องเพศจะช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้สามารถตัดสินใจในสิ่งที่จะเป็นผลดีต่อสุขภาพในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางเพศเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ลูกที่ได้รับข้อมูลเพศศึกษาจากพ่อแม่จะมีเพศสัมพันธ์ช้าลง การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร นับเป็นปัญหาที่สำคัญและมีผลกระทบต่อเยาวชนอย่างมากโดยเฉพาะเยาวชนสตรี เพื่อป้องกันปัญหานี้วัยรุ่นควรมีการฝึกทักษะการสื่อสารและการต่อรองของวัยรุ่นเพื่อเลี่ยงการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ การปฏิเสธอย่างจริงจัง บอกความรู้สึก ถามความเห็น ต่อรองไปทำกิจกรรมอื่น ผัดผ่อนเวลาออกไป สำหรับส่วนที่ตามมาจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรคือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งสะท้อนการวางแผนครอบครัวที่ไม่ทั่วถึง มักเกิดปัญหาในกลุ่มที่ด้อยโอกาส เราต้องสอนเรื่องวิธีในการคุมกำเนิดและต้องดำเนินการเชิงรุกต่อไป |