Redmi note 7 เรดหม ม วางจำหน ายท ไหนบ าง

ในบางครั้งเราอาจจะไปโหลดแอพที่มีลักษณะการใช้งานซ้ำเหมือนกัน ทำให้ระบบจะชอบถามอยู่เสมอว่าเราต้องการจะเปิดใช้งานด้วยแอพตัวไหน เช่น ในเครื่องมีเบราเซอร์พื้นฐานอยู่แล้ว แต่เราอยากใช้ Google Chrome ทีนี้เวลาเข้าเว็บ ระบบก็จะขึ้นแจ้งเตือนถามว่า เราต้องการเข้าเว็บด้วยเบราเซอร์ตัวไหน ถ้าเราอยากจะตั้งค่าให้ Chrome เป็นเบราเซอร์หลักไปเลย ไม่ต้องโดนระบบถามซ้ำซาก จะทำอย่างไร วันนี้ทางร้านจะมาสอนวิธีการทำแบบง่ายๆ ตามนี้เลยนะครับ

เริ่มแรกให้เข้าไปที่การตั้งค่าหรือ Settings ครับ

จากนั้นให้เลื่อนหาหัวข้อ Installed Apps แล้วกดเข้าไปเลยครับ

เมื่อเข้ามาถึงหน้านี้แล้ว ให้กดปุ่ม Default รูปเฟืองกลมๆเล็กๆที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอครับ

เมื่อเข้าถึงหน้านี้แล้ว จะพบว่ามีหัวข้อแอพต่างๆให้เราสามารถตั้งค่าเริ่มต้นหลากหลายประเภท ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ตามใจชอบ สมมติว่าอยากใช้ Chrome เป็น เบราเซอร์หลัก ก็สามารถเข้าไปที่หัวข้อ Browser แล้วเลือก Chrome ได้เลยครับ

ในหัวข้ออื่นๆก็สามารถทำได้เช่นกันครับ ยกตัวอย่างหัวข้อแอพเล่นเพลง เราสามารถเลือกใช้งานแอพอันไหนก็ได้ให้เป็นแอพหลักครับ วิธีการก็มีเพียงเท่านี้ ลองปรับใช้งานกันดูนะครับ

เสียวหมี่เป็นบริษัทเทคโนโลยีรุ่นใหม่ไฟแรง ที่นอกจากโทรศัพท์มือถือที่รู้จักกันดีแล้ว ยังมีอุปกรณ์ไอทีต่างๆโด่งดังด้วย

เสียวหมี่แตกต่างกับค่ายมือถืออื่นๆ ตรงที่ทางแบรนด์สร้างความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าแฟนๆ โดยถือคติที่ว่า “เพราะมี Mi Fans จึงมีเสียวหมี่” เสียวหมี่เชื่อว่าการที่ Mi Fans เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแม้แต่แนวทางการบริหารบริษัท เป็นวิธีที่จะทำให้ทางแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

เมื่อปีที่แล้ว Redmi Note 5 เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ประสบความสำเร็จและขายดีที่สุดของเสียวหมี่ และ Redmi Note 7 ที่กำลังเปิดตัวที่ประเทศไทยมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ทรงพลังขึ้น! ซึ่งตัวโทรศัพท์ได้รับการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์มาจากความคิดเห็นของเหล่าแฟนๆ

Redmi Note 7 ได้รับการพัฒนาจากคุณสมบัติต่างๆของ Redmi Note 5 ที่เป็นชื่นชอบของผู้ใช้งาน เช่น ชิป Snapdragon อันทรงพลัง, สุดยอดกล้อง, การแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ ด้วยการติดตั้ง Snapdragon 660 AIE, กล้องคู่ที่ทรงพลัง, แบตเตอรี่ 4000mAh และการออกแบบหน้าจอแสดงผลแบบเต็มหน้าจอแบบใหม่ ซึ่งทางแบรนด์เชื่อว่า Redmi Note 7 จึงจะนำประสบการณ์อีกระดับของโทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธงของเหล่าแฟนๆ ชาวไทย

Redmi Note 7 สมาร์ทโฟนระดับ Mid-End ที่ให้ฟีเจอร์อัดแน่นมาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่หน้าจอ Full Screen ทรงหยดน้ำ ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ทำงานบนหน่วยประมวลผลแสนฉลาดอย่าง Snapdragon 660 AIE Octa Core, RAM 4GB, ROM 64GB จับคู่กับแบตเตอรี่ความจุถึง 4,000 mAh ที่มี Quick Charge 4 ขณะที่เรื่องการถ่ายภาพก็จัดเต็มด้วยกล้องหลังคู่ที่ให้ความละเอียดมาสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล แถมจดจำซีนด้วย AI ถึง 33 หมวหมู่ ส่วนฟีเจอร์และสเปคอื่นๆ จะเป็นอย่างไรตามมาดูกันเลย

ดีไซน์ของ Redmi Note 7 ช่วยให้เราถือและจับได้กระชับด้วยขอบโค้ง 2.5D ไม่มีอาการลื่นหลุดออกจากมือง่ายๆ แถมยังใช้งานเพียงมือเดียวได้สะดวกอีกด้วย โดยขนาดรอบตัวเครื่องของรุ่นนี้อยู่ที่ 159.21 x 75.21 x 8.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปที่ 186 กรัม

Redmi Note 7 มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ที่ต่างจากรุ่นก่อนที่เป็นรอยบากมาใช้ทรงหยดน้ำแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่การแสดงผล โดยมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และใช้งานแบบ Full Screen Display ได้เต็มๆ ด้วยอัตราส่วน 19.5:9

เหนือหน้าจอแสดงผลจะเห็นเป็นหน้าจอทรงหยดน้ำ (Dot Notch Display) โดยมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลอยู่ โดยมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อยู่ที่ขอบดำเยื้องไปทางขวาของลำโพงสำหรับสนทนา

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางอยู่ในหน้าจอ โดยยังสามารถเปลี่ยนจากปุ่มเป็นการใช้ท่าทางได้ตามฉบับ Android 9 Pie

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM อยู่จำนวน 2 ช่อง ซึ่งช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card

ส่วนทางขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคเครื่อง

ด้านบนของตัวเครื่องมีระบบอินฟราเรด (IR ฺBlaster) ถัดไปมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

ขณะที่ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

และสุดท้ายที่ด้านหลังของตัวเครื่องทางมุมซ้ายบนมีกล้องหลังคู่ความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล ถัดลงมามีไฟแฟลช Dual LED โดยบริเวณตรงกลางเครื่องมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ตัวเครื่อง Redmi Note 7
• อะแดปเตอร์
• สาย USB Type-C
• อุปกรณ์เปิดถาดซิม
• เคสใสสีดำ
• วิธีการใช้งานเบื้องต้น
• ใบรับประกันสินค้า

สรุปสเปค Redmi Note 7

• ขนาดตัวเครื่อง : 159.21 x 75.21 x 8.1 มม.
• น้ำหนัก : 186 กรัม
• หน้าจอแสดงผล IPS-LCD ทรงหยดน้ำ ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
• GPU : Adreno 512
• RAM 4 GB
• ROM 64 GB สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 256 GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI Global 10.2
• กล้องถ่ายรูปด้านหลังคู่ความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับการจดจำซีนด้วย AI จำนวน 33 หมวดหมู่ และ HDR
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รองรับการจดจำซีนด้วย AI จำนวน 12 หมวดหมู่ และโหมด Smart Beauty
• รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano-SIM 2 ซิม
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง
• ขนาด 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ (Quick Charge 4)

ฟีเจอร์ที่สำคัญของ Redmi Note 7

ดีไซน์

Redmi Note 7 ใช้ดีไซน์หน้าจอทรงหยดน้ำในชื่อ 'Dot Notch Display' ช่วยให้หน้าจอมีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น รวมถึงขนาดหน้าจอก็ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ในขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และยังครอบทับด้วยกระจกสุดแกร่งอย่าง Corning Gorilla Glass 5 มาให้ทั้งบริเวณหน้าจอและฝาหลังอีกด้วย

หน่วยประมวลผลสุดฉลาด

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลือกใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz ช่วยให้ใช้งานไหลลื่น แถมเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานเพื่อให้แอพพลิเคชันพื้นหลังไม่กินหน่วยความจำ (RAM) มากเกินไปอีกด้วย

แบตเตอรี่สุดอึด พร้อม Quick Charge 4

Redmi Note 7 ให้แบตเตอรี่มาถึง 4,000 mAh ทำให้ใช้งานทั่วไปได้เกือบตลอดทั้งวัน หรือหากใครที่ชอบเล่นเกมก็เล่นติดต่อได้หลายชั่วโมงเช่นกัน เพราะจากที่ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ไปประมาณ 30 นาที แบตเตอรี่จาก 95% ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 92% เท่านั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด รุ่นนี้สามารถชาร์จได้รวดเร็วที่กำลังไฟ 10W (5V/2A) ด้วยเทคโนโลยี Quick Charge 4 จาก Qualcomm

ระบบความปลอดภัย

ด้านระบบความปลอดภัย Redmi Note 7 ก็ให้มาครบครันทั้งระบบสแกนใบหน้า (AI Face unlock) ซึ่งสแกนได้รวดเร็วและเสถียรมาก ส่วนระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องก็ทำงานได้รวดเร็วเช่นกัน โดยยังจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

มาตรฐานกันน้ำมาตรฐาน P2i

แม้จะมีราคาสุดประหยัดแต่ Redmi Note 7 ก็มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ P2i ซึ่งจะเป็นการเคลือบกันรอยเปื้อนแบบนาโนทำให้ป้องกันละอองน้ำได้ ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นการป้องกันละอองน้ำเท่านั้น (Splash-proof) ไม่ใช่การป้องกันใต้น้ำ (Water-proof)

เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ได้ง่ายๆ

เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้นในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ด้วยการเปลี่ยน Redmi Note 7 ให้กลายเป็นรีโมทคอนโทรลเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นด้วยแอพพลิเคชัน 'รีโมท Mi' เพียงแค่เรานำสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ที่มีอินฟาเรดไป เช่น ทีวี, แอร์, พัดลม, โปรเจคเตอร์ หรือกล้อง เป็นต้น

กล้อง AI ถ่ายสวยฉลาดล้ำ

มาที่เรื่องสุดท้ายกับกล้องหลังคู่ที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล โดยจะใช้กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ผสาน 4 ภาพรวมเป็นหนึ่งเพื่อให้ได้รายละเอียดขั้นสูง (ใช้ได้ในโหมด Pro) ซึ่งยังมีเทคโนโลยี AI Scene Detection ช่วยในการจดจกฉากและซีนได้ถึง 33 หมวดหมู่ พร้อมช่วยปรับสีสันของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุที่กำลังโฟกัสอยู่

ส่วนกล้องหน้าของ Redmi Note 7 มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยมีฟีเจอร์ AI Smart beauty ปรับแต่งใบหน้าอัตโนมัติได้ตั้งแต่ 1-5 ระดับ หรือหากใครไม่ชอบ ก็สามารถประบแต่งขั้นสูงได้ทั้งหน้าเรียว, ตาโต, โทน และผิวเนียนอีกด้วย ที่สำคัญความฟรุ้งฟริ้งของรุ่นนี้จะไม่ปรับหน้าเราให้จัดจ้านจนเกินไป ซึ่งหากเป็นผู้ชายใช้งานก็ไม่ต้องกังวลว่าจะแบ๊วเกินไปอีกด้วย