Mojang Studios เป็นผู้ที่ออกวางจำหน่ายหรือปล่อยตัวเกมรุ่น Java โดยตรง ดังนั้นจึงไม่ต้องผ่านการรับรองในการปล่อยจากผู้ถือลิขสิทธิ์แพลตฟอร์มเหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ Show รุ่น Java มี Launcher เป็นของตัวเองและใช้เป็น Launcher เดียวกันในการเปิด Minecraft Dungeons และมีความจำเป็นที่จะต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Mojang หรือ Microsoft เพื่อเล่นเกม นอกจากนี้ หากเวอร์ชันใหม่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น Snapshot หรือตัวเต็มก็ตาม เวอร์ชันก่อนหน้านั้นส่วนมากคุณยังคงสามารถเล่นได้ผ่าน Launcher รวมถึงสามารถเพิ่มโปรไฟล์เวอร์ชันใหม่สำหรับส่วนเสริม (Mods) หรือเวอร์ชันพัฒนา รุ่น Java มีโค้ดที่สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งและเมื่อเป็นดังนั้น มันทำให้มีกลไกมากมายที่สามารถทำได้ในส่วนเสริม (Mods) หรือเซิร์ฟเวอร์กำหนดเอง ตัวอย่างเช่นการเพิ่ม Obfuscation map ที่มีจุดประสงค์ที่จะทำให้การสร้างส่วนเสริมนั้นทำได้ง่ายมากขึ้น Realms สำหรับรุ่น Java เป็นบริการที่แยกต่างหากมาจาก Realms Plus สำหรับรุ่น Bedrock เจ้าของไมน์คราฟต์รุ่นจาวาที่ได้ทำการซื้อเกมมาก่อนวันที่ 19 ตุลาคม 2018 สามารถแลกรุ่น Bedrock สำหรับวินโดวส์ 10 ได้ฟรี โดยต้องแลกก่อนวันที่ 20 เมษายน 2020 การพัฒนา[]บทความหลัก: ประวัติเวอร์ชันรุ่น Java การสร้าง/Pre-classic[]Cave Game นอตช์ได้ไอเดียสำหรับการสร้างไมน์คราฟต์จากการเล่น Infiniminer กับคนในฟอรัม TIGSource ในปี 2009 รวมถึงเกมอื่นๆ เช่น Dwarf Fortress, Dungeon Keeper และนอตช์ยังเป็นเจ้าของโปรเจคก่อนที่จะมาสร้างไมน์คราฟต์หน้าอย่าง RubyDung เมื่อเขาเริ่มสร้างไมน์คราฟต์เขาแค่หวังแค่มันเป็นโปรเจคเล็ก ๆ ตัวอย่างเช่น การที่นอตช์ได้อัปโหลดคลิปเกมคลิปแรกลงใน Youtube ของเขา เขายังแม้แต่จะคิดชื่อของมัน เขาเรียกมันว่า Cave Game (เกมถ้ำ) และชื่อต่อมาจาก Cave Game ก็คือ Minecraft: Order of the Stone (มันมาจาก Order of the Stick เว็บการ์ตูนคอมมิกชื่อดังในตอนนั้น ภายหลังได้นำมาตั้งเป็นชื่อตอนตอนหนึ่งใน Minecraft Story Mode) ซึ่งได้ถูกประกาศในวันต่อมา (จากคำแนะนำที่ผู้ใช้ฟอร้ม TIGSource ให้ในการแชท IRC ) จากนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่เป็นชื่อที่สั้นลงว่า Minecraft อย่างปัจจุบัน เพื่อป้องกันคนจะสับสนระหว่าง Order of the Stick กับ Minecraft และได้ปล่อยตัวเกมออกมาให้เล่นในวันที่ 16 พฤษภาคม 2009 สำหรับ "Early Private Singleplayer Alpha" โดยใช้เวลาสร้างเกมแค่ 6 วัน ในทุกวันนี้เวอร์ชัน Pre-classic ไม่มีปรากฏให้เล่นใน Launcher Classic[]Minecraft Classic Minecraft 0.0.11a ได้รับการปล่อยตัวสู่สาธารณะในวันที่ 17 พฤษภาคม 2009 และเกมก็ได้ถูกเป็นที่พูดถึงใน IndieGames.com หลังจากวันนั้น ในช่วงนี้เกมได้ชื่อว่า Minecraft Classic ในช่วงกรกฎาคม Minecraft ถูกเขียนใหม่เพื่อใช้ Lightweight Java Gaming Library ก่อน Beta จะถูกปล่อยตัว Minecraft Classic เป็นเวอร์ชันเดียวที่เป็นโหมดสร้างสรรค์ (Creative mode) ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถสรรค์จินตนาการได้โดยมีบล็อกอย่างไม่จำกัดโดยไม่ต้องไปรวบรวมบล็อกเหมือนในโหมดเอาชีวิตรอด (Survival Mode) Survival Test[]บทความหลัก: รุ่น Java Survival Test การทดสอบโหมดเอาชีวิตรอด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2009 การเอาชีวิตรอดคือการที่ผู้เล่นจะต้องขุดบล็อกต่าง ๆ เพื่อรวบรวมมาใช้ประโยชน์ ใช้ชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ และมีแถบสุขภาพ (health bar) เมื่อผู้เล่นตาย แผนที่เกมจะหายไป และผู้เล่นต้องเริ่มต้นใหม่ในแผนที่ใหม่ คล้ายโหมดฮาร์ดคอร์ (Hardcore Mode) ในปัจจุบัน Indev[]บทความหลัก: รุ่น Java Indev Indev Indev (ย่อมาจาก In Development หรืออยู่ระหว่างการพัฒนา) เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2009 หลังจากที่นอตช์ได้รับคำขอร้องของชุมชนในการเพิ่มคุณสมบัติในการเอาชีวิตรอดใหม่หลังจากที่ได้มีการเปิดให้ทดลองเล่นเอาชีวิตรอดใน Survival Test ไป เวอร์ชัน Indev 0.31 ได้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะบน minecraft.net/indev และมีให้บริการเฉพาะผู้ที่ได้ทำการซื้อเกมแล้วเท่านั้น เมื่อผู้เล่นเริ่มเกม ผู้เล่นจะเกิดในบ้านไม้สี่เหลี่ยม ๆ อัปเดตนี้เป็นอัปเดตที่เพิ่มความซับซ้อนมากกว่าตัวคลาสสิก มีการปรับเปลี่ยนเรื่องแสงให้ดีขึ้น มีการเพิ่มกลางวัน-กลางคืน และเพิ่มคุณสมบัติพื้นฐานในการเอาชีวิตรอดหลาย ๆ อย่าง และหลาย ๆ การอัปเดตในเวอร์ชันนี้ออกมาเพื่อทดลองสิ่งใหม่ ๆ เช่น การเพิ่มคบเพลิง (Torch), อาหาร, และไฟ (Fire) เพิ่มการตั้งค่าระดับความยาก, เพิ่มเขตชีวนิเวศ (Biome) ใหม่ รวมถึงมิติ (dimension) เช่น Floating Island, Sky Dimension, และ Hell (ไม่ใช่ Nether) เวอร์ชันนี้ก็ยังเหมือน Survival Test เมื่อตาย แมพจะถูกลบและต้องเปิดโลกใหม่เพื่อเริ่ม Infdev[]บทความหลัก: รุ่น Java Infdev Infdev Infdev (ย่อมาจาก Infinite Development หรือการพัฒนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด) สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 ซี่งเป็นการพัฒนาของไมน์คราฟต์ในระยะที่ 3 มันเพื่อการสร้างแผนที่ให้สามารถสร้างได้เรื่อย ๆ ได้แทบไม่จำกัด รวมถึงอัปเดตอื่น ๆ เช่น สูตรคราฟต์, ก้อนเมฆสามมิติ, ระบบการสร้างภูมิประเทศใหม่, การไหลของของเหลวที่สมจริงขึ้น, ถ้ำที่ซับซ้อนขึ้น ในทางกลับกันก็ได้ลบคุณสมบัติบางอย่างออก เช่น , เกาะลอยฟ้า, Permaday การที่ลบพวกมันออกเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากจุดประสงค์หลักของ Infdev คือการพัฒนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงได้มีการเพิ่ม Minecart (รถราง), Dungeons (ดันเจี้ยน), และ Mob spawners และเพิ่มการ Respawn (การเกิดใหม่) หลังจากที่ถูกการอัปเดตเวอร์ชันแอลฟาแทนไปในวันที่ 28 มิถุนายน 2010 Infdev ก็ยังอยู่ในเว็บไซต์ไมน์คราฟต์จนถึงกันยายน 2010 แล้วจึงถูกลบออก ยกเว้นเวอร์ชัน Infdev 20100618 เป็นเวอร์ชันเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่และเล่นได้จนถึงปัจจุบันผ่านหน้า Launcher Alpha[]บทความหลัก: รุ่น Java Alpha The Nether ในแอลฟา เวอร์ชันแอลฟา (Alpha) ถูกปล่อยสู่สาธารณะในวันที่ 30 มิถุนายน 2010 แต่เพียงในทางเทคนิคเท่านั้น เวอร์ชันแรกที่ใช้ชื่อว่าแอลฟาคือเวอร์ชัน Alpha v1.0.1 เมื่ออัปเดตนี้ปล่อยตัวนอตช์ได้เปลี่ยนชื่อเวอร์ชัน Infdev (ของ 30 มิถุนายน 2010) เป็น Alpha v1.0.0 เกมในขั้นตอนนี้ก็ได้เพิ่มคุณสมบัติที่สำคัญหลาย ๆ อย่างไปในไมน์คราฟต์ Multiplayer for Survival (ผู้เล่นหลายคนสำหรับการเอาชีวิตรอด)ได้สร้างขึ้น และได้เพิ่มคุณสมับติที่สำคัญเช่น Redstone Circuits, เรือ, เพลงใหม่, และสิ่งมีชีวิตใหม่ ซึ่งไม่ได้ถูกประกาศใน "Seecret Friday Updates" The Helloween Update หรือการอัปเดตวันฮาโลวีน ในวันที่ 31 ตุลาคม 2010 เป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ มีทั้งการเพิ่มเขตทางชีวนิเวศ (Biome) ต่าง ๆ เข้ามา, Nether, สิ่งมีชีวิตใหม่ ๆ, บล็อกและไอเทมอีกมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ปัจจุบันยังสามารถเล่นได้ผ่านทางหน้า Launcher ในตัวเลือก "Historical versions" ในบางเวอร์ชัน มีเวอร์ชันประมาณ 23% ที่ถูกลบออกไปจาก Launcher Beta[]บทความหลัก: รุ่น Java Beta Beta เบต้าเป็นเวอร์ชันที่ 5 และขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาก่อนจะปล่อยตัวเต็ม เบต้าเวอร์ชันแรกออกมาในวันที่ 20 ธันวาคม 2010 มีลักษณะการทำงานของเกมที่ถูกเพิ่มมารวมถึงเพิ่มโลโก้ใหม่มาในเวอร์ชันนี้และรวมถึง Launcher, การปรับแต่งชื่อโลก, ซีด (Seed) ของโลก, Achievements, สถิติ, สภาพอากาศ, แสงนวล (Smooth Lighting), สีย้อม (Dyes), พืชใหม่ 2 ประเภท (2 ประเภทใหม่ของ Trees และ Tall grass), หมาป่า (Wolves), ปลาหมึก, เตียงนอน และอื่น ๆ อีกมากมาย The Adventure Update เป็นการอัปเดตที่มุ่งเน้นไปที่การสำรวจ การผจญภัย และมีการเพิ่มตอนจบของเกมขึ้นมา เพิ่มคุณสมบัติใหม่มากมาย ได้แก่ การสร้างภูมิประเทศแบบใหม่ บล็อก สิ่งมีชีวิต ไอเทมใหม่ มีการเพิ่มสิ่งก่อสร้างใหม่ 3 อย่าง: หมู่บ้าน,Strongholds, และ Mineshafts และวิธีการจบเกมด้วยการไป The End เพื่อฆ่า Ender Dragron เดิมทีมีการวางแผนว่าจะเริ่ม Adventure Update ในพาร์ทแรกในเวอร์ชัน Beta 1.7 โดย Adventure Update ในพาร์ทแรกได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวอร์ชัน Beta 1.8 ในวันที่ 14 กันยายน 2011 โดยได้มีการเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ 9 กันยายนในปีเดียวกัน ข้อมูลในส่วนนี้รั่วไหลโดยทาง Mojang Studios Beta 1.9 ไม่เคยถูกปล่อยออกมา แต่มีการเปิดตัว 1.9 Pre-release มาถึง 6 เวอร์ชันเพื่อให้ผู้เล่นได้ทดสอบและส่งรายงานข้อผิดพลาดไปที่ Mojang Studios และต่อมาก็ได้ทำการจบ Pre-release และ Mojang Studios ก็ได้หันไปเน้นที่การพัฒนาไมน์คราฟต์เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่มีและเตรียมสำหรับการเปิดตัวตัวเต็ม และเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 1.0.0 Release Candidate ก็ได้เพิ่มมา ปัจจุบันยังสามารถเล่นได้ผ่านทางหน้า Launcher ในตัวเลือก "Historical versions" ตัวเต็ม[]รุ่น Java 1.16.5 ender dragon ใน the End ตัวเต็ม (Full Release) สำหรับ ไมน์คราฟต์ 1.0.0 ได้ถูกปล่อยในวันที่ MINECON 2011 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2011 โดยนอตช์ได้เปิดคันโยกเพื่อปล่อยเวอร์ชันนี้ในเวลา 04:54 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2011 ตามเวลาประเทศไทย Jeb ได้ออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่าเกมนั้นจะออกจากเบต้าอย่างเป็นทางการ รวมถึงมีการเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ๆ มากมายใน Adventure Update ที่ไม่มีใน Beta 1.8 และหนึ่งในนั้นคือคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญที่สุดสำหรับการจบเกม คือการเอาชนะ Ender Dragron ในมิติ The End ราคาของตัวเกมไมน์คราฟต์อยู่ที่ 26.95 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 880 บาทประเทศไทย (มากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับการแข็งค่าของเงิน) สำหรับผู้เล่นใหม่ ส่วนผู้เล่นเดิมในเบต้าและแอลฟาจะได้รับตัวเกมต่อไปตามปกติโดยไม่มีการเสียเพิ่มเติม หลังจากที่น็อตช์ได้เปิดตัวเต็มของเกม เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกประหม่าเกี่ยวกับการเปิดตัวเกมตัวเต็มอย่างมากที่ตัวเกมจะได้ถูกจัดอันดับและวิจารณ์เมื่อปล่อยออกมา และเมื่อปล่อยออกมา เกมก็ได้รับการตอบรับอย่างดีและได้รับการจัดอันดับสูงในหลายเว็บไซต์จัดอันดับเกมหลายแหล่งและคำวิจารณ์จากแฟน ๆ ก็ออกมาเป็นแง่ดีในส่วนมาก การอัปเดตหลาย ๆ อย่างก็ตามมาตลอดหลังจากปล่อยตัวเต็มออกมา มีทั้งการเพิ่มระบบใหม่ สิ่งมีชีวิต บล็อก ไอเทมใหม่ สำหรับรายชื่อเวอร์ชันฉบับเต็มหลังจากปล่อย 1.0.0 ออกมา สามารถไปดูได้ที่ Java Edition version history เกมได้เพิ่มคำว่า "Java Edition" มาในโลโก้ของเกมในช่วงเวอร์ชัน 1.12.2 เพื่อแยกและป้องกันการสับสนกับ รุ่น Bedrock ที่ใช้โลโก้ว่า Minecraft ตั้งแต่การอัปเดต Better Together Update เวอร์ชันทดลองเล่น[]เวอร์ชันทดลองเล่น ของ Java Edition คือเวอร์ชันสำหรับผู้เล่นที่ยังไม่ได้ซื้อไมน์คราฟต์และก็ยังมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างดังนี้:
การควบคุม[]บทความหลัก: การควบคุม § รุ่น Java ระบบควบคุมสำหรับรุ่น Java ได้ออกแบบมาสำหรับการใช้เมาส์และคีย์บอร์ดหรือทัชแพด ความต้องการของระบบ[]ฮาร์ดแวร์[]{{See also|[[ความต้องการของฮาร์ดแวร์ในรุ่น Java}} ข้อมูลตาม Minecraft Help Center ระบุไว้: ถึงแม้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถเล่นไมน์คราฟต์ได้ก็จริง แม้ว่าจะมีโปรเซสเซอร์และการ์ดกราฟิกต่ำ แต่จำเป็นต้องมี RAM มาก ยังไงก็ตามเพื่อความสนุกในการเล่น ขอแนะนำให้ศึกษาความต้องการของระบบที่แนะนำ ระบบปฎิบัติการรุ่นเก่าสามารถเล่นไมน์คราฟต์ได้โดยใช้ซอฟต์แวร์ แต่คาดว่าน่าจะมีผลเรื่องประสิทธิภาพของเกมต่ำ ความต้องการขั้นต่ำ[]
ความต้องการแนะนำ[]
ซอฟต์แวร์[]
อินเทอร์เน็ตของคุณจำเป็นจะต้องมีความเสถียรระหว่างกับดาวน์โหลดไฟล์เกม ลงชื่อเข้าระบบเมื่อเปิด Launcher เชื่อมค่อกับเซิร์ฟเวอร์ใน Multiplayer ผู้เล่นจะต้องดาวน์โหลดและรันเกมในเวอร์ชันนั้น ๆ อย่างน้อยหนึ่งครั้งด้วยอินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ตัวเกมต้องการในเวอร์ชันนั้น ๆ หลังจากนั้นคุณสามรถเปิดเกมเวอร์ชันนั้น ๆ แบบออฟไลน์ได้ และคุณก็ยังคงเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่ออัปเดตเกมได้เสมอ รุ่น Java ไม่สามารถทำงานได้บน Windows RT tablets, Chromebooks (ยกเว้นจะใช้ตัวเลือกการเลียนแบบของ Linux) หรืออุปกรณ์ที่ไม่ใช่พีซีบางตัวแต่ใช้จาวา เช่น รถยนต์, Toaster หรือแอนดอยด์ การตอบรับ[]คะแนน ประเมินโดย 92.79% GameRankings 93/100 Metacritic A+ 1UP.com 4.5/5 GamesRadar 10/10 Eurogamer 9.25/10 Game Informer 8.5/10 GameSpot 5/5 GameSpy 9.0/10 IGN Minecraft Java Edition ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2009 และมียอดขายไปแล้วประมาณ 30 ล้านชุด ไมน์คราฟต์ได้รับคำชมอย่างสูงจากนักวิจารณ์และนับแต่นั้นมาก็กลายเป็นเกมอิมดี้ที่ทรงอิทธิพลและประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่เคยมีมา เกมได้รับการยกย่องในด้านความอิสระในการสร้างสรรค์ที่มอบให้กับผู้เล่น นับแต่นั้นมาไมน์ครฟาต์ก็กลายเป็นวิดีโอเกมที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยรวมการขายได้รวมจากทุกเวอร์ชันได้ประมาณ 180,000,000 ก๊อปปี่ PC Gamer ระบุว่าไมน์คราฟต์เป็นเกมที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในการเล่นในที่ทำงาน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2011 ไมน์คราฟต์ได้ถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 80 เกมที่จะจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะอเมริกันสมิธโซเนียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ "The Art of Video Games" ซึ่งเปิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2012 รางวัล[]ถ้วยรางวัลของ Mojang Studios นับตั้งแต่ไมน์คราฟต์ได้เปิดตัวก็ได้รับรางวัลมากมาย:
ตัวอย่างเกม[]ตัวอย่างอย่างเป็นทางการจาก YouTube ของ Mojang Studios หลังจากได้ปล่อยตัวเต็มออกไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2011 วิดีโอนี้สร้างโดย Vareide แทนที่จะเป็น Hat Films เขาคือคนที่สร้างตัวอย่างการอัปเดตและวิดีโอของ Mojang Studios มาก่อนในสมัยนั้น เกร็ดความรู้[]
แกลเลอรี[]
อ้างอิง[]
แอปพลิเคชัน หายไปไหนAndroid 9, 10, 11, 12, 13, 14 หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > แอปและการแจ้งเตือน (Apps & notifications) > ข้อมูลแอป (App info) แตะที่ แอปทั้งหมด (All apps) > แอปที่ปิดการทำงานไว้ (Disabled apps) เลือกแอปที่ท่านต้องการจะเปิดการทำงาน จากนั้นแตะที่ เปิดการทำงาน (Enable) แอพหยุดทํางาน เกิดจากอะไรแอพหยุดทำงานเกิดขึ้นเมื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณช้าหรือไม่เสถียร ในกรณีนี้การเพิ่มประสิทธิภาพความแรงของเครือข่ายของคุณมักจะใช้งานได้ หากปัญหายังคงมีอยู่ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง ขั้นตอนที่ 1. ปิดเราเตอร์ data / Wi-Fi มือถือของคุณประมาณสองสามนาที WIKO Launcher คืออะไรWiko Launcher P GO เป็นแอปพลิเคชั่นที่มีประโยชน์ที่ช่วยให้คุณสร้างหน้าจอหลักในแบบของคุณ ช่วยในการจัดระเบียบแอปและข้อมูลของคุณ เพื่อให้คุณสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถใช้แอปนี้เพื่อเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอ เพิ่มวิดเจ็ต และอื่นๆ อีกมากมาย! ทำไมหาแอพไม่เจอหากคุณไม่พบแอปในรายการแอปที่มี ให้ทำดังนี้ ยืนยันว่าคุณกำลังใช้อุปกรณ์ Android หรือ Chromebook ที่รองรับการใช้งาน คุณอาจซ่อนแอปเอาไว้และต้องเปิดใช้แอปอีกครั้ง ปิดอุปกรณ์แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง จากนั้นลองค้นหาแอป |