กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน

  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. คว้ารางวัลดีเด่น Cybersecurity Supporting Awards 2023 จาก สกมช. ตอกย้ำบทบาทของหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ สคช. คว้ารางวัลดีเด่น Cybersecurity Supporting Awards 2023 จาก สกมช. ตอกย้ำบทบาทของหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ขึ้นรับรางวัลดีเด่น Cybersecurity Supporting Awards 2023 หน่วยงานสนับสนุนการดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ ในการมอบรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. เพื่อยกย่องหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และหน่วยงานที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ ให้กับสังคมไทย โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ปัจจุบันโลกเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตอย่างปฏิเสธไม่ได้ ส่งผลต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของรัฐ การที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่น่าลงทุน เพิ่มโอกาสในการแข่งขันของประเทศไทยต่อไป นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ซึ่งที่ผ่านมา สคช. ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์เพื่อรองรับความก้าวหน้าทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง สคช. ได้มีฐานข้อมูลด้านกำลังคนขนาดใหญ่ ผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผล ด้วยระบบที่มีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งรางวัลในครั้งนี้จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ทุกข้อมูลสำคัญของประชาชน จะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สคช. ยังได้ร่วมกับ สกมช. ในการพัฒนาบุคลากรด้าน Cyber Security ให้มีความรู้ความเข้าใจ และร่วมกันป้องกันภัยด้านไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนให้สามารถทำงานรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ในทุกรูปแบบ นำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศต่อไป 25.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ฟู้ดแพชชั่น เดินหน้าต่อ รุกสร้างมืออาชีพกลุ่มหัวหน้าครัว หัวหน้าบริการ สคช. การรันตีธุรกิจด้านอาหารได้มาตรฐานครบวงจรแห่งแรก ฟู้ดแพชชั่น เดินหน้าต่อ รุกสร้างมืออาชีพกลุ่มหัวหน้าครัว หัวหน้าบริการ สคช. การรันตีธุรกิจด้านอาหารได้มาตรฐานครบวงจรแห่งแรก เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพพนักงานร้านระดับ 3 จำนวน 282 คน โดยมีตัวแทนจำนวน 6 คนจากกลุ่มหัวหน้าบริการ (Service Head) และหัวหน้าครัว (Kitchen Head) ที่กระจายอยู่ในร้านบาบีคิว พลาซ่า กว่า 150 สาขาทั่วประเทศของบริษัทฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารชั้นนำ โดยมีคุณนาทีรัตน์ บุญรัตน์ ประธานบริหารสายงาน-ทรัพยากรบุคคลและหน่วยพีเพิลคอนเน็ค บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีภารกิจในการรับรองความรู้ ความสามารถของผู้ประกอบอาชีพ สู่ความเป็น “มืออาชีพตัวจริง” ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความภาคภูมิใจ สร้างความผูกพันของบุคลากรในองค์กร ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นของนายจ้าง ความเชื่อมั่นของผู้รับบริการ โดยสถาบันฯ มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด สร้างหลักสูตรการฝึกงานให้กับร้านบาบีคิว พลาซ่า ให้ได้สะสมความรู้ ทักษะ ความสามารถ จนนำไปสู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ มีการนำร่องรุ่นแรกจำนวน 22 คน ที่ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ผู้ช่วยผู้จัดการร้านไปก่อนหน้านี้ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า “ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพในกลุ่มพนักงานหัวหน้าครัว (Kitchen Head) และหัวหน้าบริการ (Service Head) ให้ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพพนักงานร้าน คุณวุฒิวิชาชีพระดับ 3 นั้น เป็นการการันตีว่ามีสมรรถนะเป็นมืออาชีพตัวจริง สามารถบริการลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ทั้งยังเปิดโอกาสสร้างความก้าวหน้าในอาชีพซึ่งนอกจากความก้าวหน้าที่ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด แล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการศึกษาต่อสามารถเทียบโอนหน่วยกิต รวมทั้งสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มีความร่วมมือกับสถาบันฯ อย่างเช่น ธนาคารออมสิน อีกด้วย คุณนาทีรัตน์ บุญรัตน์ ประธานบริหารสายงาน-ทรัพยากรบุคคลและหน่วยพีเพิลคอนเน็ค กล่าวว่า “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นสถาบันที่รับรองความสามารถให้คนในหลากหลายอาชีพ นอกจากเรื่องคุณวุฒิการศึกษาแล้ว คุณวุฒิวิชาชีพเป็นการการันตีมืออาชีพตัวจริงสามารถเทียบเคียงคุณวุฒิทางการศึกษา วันนี้เป็นความสำเร็จในการรับรองของคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพพนักงานร้านระดับ 3 ซึ่งต่อไปเรากำลังจะรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพผู้จัดการร้านระดับ 4, 5 ต่อไป ซึ่งเรามีความภูมิใจมากที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ธุรกิจอาหารที่อื่นๆ มีความความต้องการที่จะรับรองบุคลากรในองค์กรเพื่อได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ” 21.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร “สคช. ขอสวัสดีปีใหม่ 2567 และ งดให้ งดรับ” ของขวัญทุกเทศกาล งดรับของขวัญ จากบุคคล หรือหน่วยงานภายนอก โดยขอรับความปรารถนาดี ผ่านบัตรอวยพร หรือสื่อออนไลน์ 21.12.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หนุนอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้านท้องถิ่น ร่วมยกระดับกำลังคนด้าน Soft Power ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพยอดฝีมือในงาน OTOP City 2023 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หนุนอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้านท้องถิ่น ร่วมยกระดับกำลังคนด้าน Soft Power ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพยอดฝีมือในงาน OTOP City 2023 20 ธันวาคม 2566 ณ แกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้ประกอบการ OTOP ที่ผ่านการอบรมภายใต้โครงการ ผ้าไทยใส่ให้สนุก ในงาน OTOP City 2023 ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้าน ในสาขาผ้าทอ และสาขาเครื่องจักสาน รวมถึงสาขาวิชาชีพการออกแบบและสร้างสรรค์ สาขาออกแบบแฟชั่น จำนวน 19 คน จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญคณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับ สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการชุมชนท้องถิ่น รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทย สู่สายตาชาวโลก สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์งานฝีมือโดยคนไทยมืออาชีพ พร้อมส่งเสริม Soft Power ตามแนวนโยบายของรัฐบาล นายสุทธิพงษ์ ได้กล่าวแสดงความยินดี พร้อมระบุว่า จัดการประเมินโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ซึ่งถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยที่ได้มาตรฐาน จากคนคุณภาพให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถสะท้อนไปถึงคุณภาพสินค้าและบริการ ที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทำให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน ให้มีความสามารถในการบริหารจัดการและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และการรับรองคุณวุฒิทางวิชาชีพ ซึ่งเทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางสังคมให้กับผู้ที่ขาดโอกาส แต่มีฝีมือให้ได้รับการยอมรับ มีโอกาสเติบโตในเส้นทางอาชีพด้วย นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มอบป้ายมืออาชีพให้กับผู้ที่ผ่านการประเมินฯ ทั้ง 19 คน ณ อาคารชาเลนเจอร์ พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้มีการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพในสาขาวิชาชีพการออกแบบและสร้างสรรค์ และสาขาวิชาชีพอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้านมาแล้วกว่า 100 คน แต่โครงการนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้าน soft power ในชุมชนและท้องถิ่น โดยการอบรมต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งหลายพื้นที่มีผู้ที่มีฝีมือไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ OTOP และงานออกแบบต่างๆ ก่อให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ส่งเสริมคุณค่า soft power ของไทย คนเหล่านี้ควรได้รับการยกย่อง และส่งเสริมพัฒนาคุณภาพนำไปสู่การแข็งขันในตลาดต่างประเทศได้ อย่างงานจักสานผลิตภัณฑ์สานหวาย และไม้ไผ่ จ.สิงห์บุรี ด้วยทักษะงานฝีมือที่ปราณีตสามารถนำไม้ไผ่มูลค่าลำละ 100 บาท มาผลิตกระเป๋าสร้างรายได้สูงถึง 4 แสนบาท แต่ขาดผู้สืบทอด จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและสถาบันพร้อมให้การสนับสนุนอันจะนำไปสู่การส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านท้องถิ่นไทยให้ยังอยู่ และยังสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนด้วย สำหรับผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ทั้ง 19 คน เป็นผู้ประกอบการจาก จังหวัดชัยภูมิ สิงห์บุรี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช อุตรดิตถ์ และกาฬสินธุ์ ประกอบไปด้วย สาขาวิชาชีพการออกแบบและสร้างสรรค์ สาขาออกแบบแฟชั่น อาชีพนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้า ระดับ 5 สาขาวิชาชีพอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้าน สาขาเครื่องจักสาน อาชีพผู้ผลิตเครื่องจักสานสำหรับงานอนุรักษ์ ระดับ 5 ผู้ผลิตเครื่องจักสานร่วมสมัย ระดับ 6 รวมถึงสาขาผ้าทอ สาขาผ้าทอ อาชีพผู้ผลิตผ้าทอเทคนิคพื้นฐาน ระดับ 5 อาชีพผู้ผลิตผ้าทอเทคนิคขิด เทคนิคยก เทคนิคจก เทคนิคผสมผสาน เทคนิคมัดหมี่ และเทคนิคยกดอก ในระดับ 6 ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องเริ่มตั้งแต่การมีทักษะความรู้พื้นฐาน ทั้งการการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือสำหรับการผลิดและ ออกแบบ ความเข้าใจต่อเรื่องสัดส่วน สี พื้นผิว รูปร่าง การประยุกต์ ดัดแปลง ผสมผสานเทคนิค การตรวจสอบงาน ไปจนถึงสามารถแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เทคนิควิธีการที่ถูกต้องตามมาตรฐานได้อย่างมืออาชีพ 20.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ผนึก 3 กระทรวง กลาโหม-อว.-ศึกษาธิการ ติดอาวุธทหารกองประจำการ ยกระดับความรู้ ความสามารถ และทักษะด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ เพิ่มโอกาสการมีงานทำหลังปลดประจำการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ผนึก 3 กระทรวง กลาโหม-อว.-ศึกษาธิการ ติดอาวุธทหารกองประจำการ ยกระดับความรู้ ความสามารถ และทักษะด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ เพิ่มโอกาสการมีงานทำหลังปลดประจำการ 19 ธันวาคม 2566 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับทหารกองประจำการ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้ลงนามร่วมกับ พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. ระบุว่า ความร่วมมือในครั้งนี้มีความมุ่งหวังให้ทหารกองประจำการได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงาน โดยใช้นวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการพัฒนาตนเองตามความสมัครใจ สามารถเก็บสะสมหน่วยสมรรถนะการเรียนรู้จัดเก็บในแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Portfolio) และนำไปสู่การได้รับหนังสือรับรองสมรรถนะหรือประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป นอกจากนี้ยังจะได้มีการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ทหารกองประจำการอย่างมีประสิทธิภาพ เสมือนการติดอาวุธทางทักษะในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพ เป็นการสร้างโอกาสในการทำงาน สร้างรายได้หลังปลดประจำการ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ระบบการศึกษาได้เมื่อต้องการ นายสุทิน กล่าวว่า การลงนามในวันนี้ ถือเป็นการเดินหน้าปรับค่านิยมของสังคม 2 ฝ่าย คือประชาชนที่มองว่า 2 ปี ของการเป็นทหารกองประจำการ เป็นการสูญเสียโอกาส ให้กลายเป็น 2 ปี ของการเพิ่มศักยภาพของชีวิต ขณะที่ฝ่ายกองทัพ จากการฝึกเยาวชนเพื่อรบ ให้เปลี่ยนเป็นภาพของเยาวชนที่ได้รับการพัฒนา โดยครูฝึกที่มีศักยภาพ สิ่งสำคัญในความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยให้กลุ่มทหารกองประจำการ ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ ได้การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะถือเป็นใบนำทางให้ทหารที่ปลดประจำการได้นำไปประกอบอาชีพ หรือต่อยอดไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่อไปได้ สำหรับสาระสำคัญความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับทหารกองประจำการนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ทหารกองประจำการสามารถใช้เวลาระหว่างประจำการในขณะที่ว่างเว้นจากภารกิจให้สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาและการพัฒนาทักษะวิชาชีพได้ตามความสมัครใจ โดยกระทรวงกลาโหมจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเรียนรู้ อาทิ ศูนย์การศึกษาในค่ายทหารต่าง ๆ และเครือข่ายการเรียนรู้โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งจัดให้มีผู้จัดการการเรียนรู้คอยให้คำแนะนำ ขณะที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะดำเนินการส่งเสริม พัฒนากำลังคนให้แก่ทหารกองประจำการให้ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ และได้รับหนังสือรับรองสมรรถนะหรือประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้งานระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ และเชื่อมโยงข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มอัจฉริยะในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคนและการพัฒนาสมรรถนะเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย (E-Workforce Ecosystem หรือ EWE) ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบใหม่โดยนำระบบการเรียนรู้สมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอิเล็กทรอนิกส์ (E-Training) เพื่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพ โดยกระทรวงศึกษาธิการ และ อว. จะเป็นหน่วยจัดการศึกษา หรือหลักสูตรฝึกอบรมทั้งระยะสั้นและต่อเนื่องให้กับทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเปิดโอกาสให้ชายไทยที่เสียสละเข้ารับราชการทหารกองประจำการที่นอกจากจะทำหน้าที่รับใช้ชาติแล้ว ยังสามารถใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ด้วยการพัฒนาความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นต้นทุนของทรัพยากรทุนมนุษย์ที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป 19.12.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เดินเครื่องเชิงรุก หนุนนโยบาย Soft Power ให้การรับรองกำลังคนที่มีฝีมือรักษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ผ่านงาน OTOP City 2023 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เดินเครื่องเชิงรุก หนุนนโยบาย Soft Power ให้การรับรองกำลังคนที่มีฝีมือรักษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ผ่านงาน OTOP City 2023 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมและงานพื้นบ้าน สาขาผ้าทอ และสาขาเครื่องจักสาน รวมถึงสาขาวิชาชีพการออกแบบและสร้างสรรค์ สาขาออกแบบแฟชั่น ซึ่งนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำทีมสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และผู้เชี่ยวชาญจากคณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก เข้าให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพถึงในงาน OTOP City 2023 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับ สร้างโอกาส สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยที่ได้มาตรฐานผลิตจากคนคุณภาพที่ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ อันจะส่งผลให้เกิดชื่อเสียง และดึงดูดความสนใจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์งานฝีมือโดยคนไทยส่งเสริม Soft Power ตามแนวนโยบายรัฐบาล นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เดินเครื่องเชิงรุกจัดการประเมินให้กับผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน ผ้าทอ เครื่องจักสาน และออกแบบแฟชั่น รวมจำนวน 19 คน จากท้องถิ่นชุมชน ถึงในงาน OTOP City และเป็นครั้งแรกที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้จัดการประเมินเองโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากคณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก เข้าร่วมการประเมิน มีส่วนสำคัญในการพัฒนาคนด้าน soft power ในชุมชนและท้องถิ่น เพื่ออบรมต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมส่งเสริมให้ได้รับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งในหลายพื้นที่มีผู้ที่มีฝีมือ ในการสืบสานงานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์โอท็อป และงานออกแบบต่างๆ สร้างให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการส่งเสริมคุณค่า soft power ตามแนวนโยบายรัฐบาล ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพกำลังคนในอาชีพไม่ว่าจะเป็น อาชีพทอผ้า ออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้า และจักสาน ให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีมาตรฐานและได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบสาน ส่งต่อศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามจากรุ่นต่อรุ่น สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในชุมชน ให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากลต่อไป 18.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมเวทีเสวนาวันผู้ย้ายถิ่นสากล เติมเต็มช่องว่างความเท่าเทียม ให้กลุ่มแม่บ้านหรือลูกจ้างทำงานบ้าน ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. ร่วมเวทีเสวนาวันผู้ย้ายถิ่นสากล เติมเต็มช่องว่างความเท่าเทียม ให้กลุ่มแม่บ้านหรือลูกจ้างทำงานบ้าน ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมเวทีเสวนาเนื่องในวันผู้ย้ายถิ่นสากล (International Migrants Day) ปี 2566 จัดโดยคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และภาคีเครือข่าย ร่วมกับกองคุ้มครองแรงงานนอกระบบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการคุ้มครองลูกจ้าง ที่ทำงานบ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าเทียมกับลูกจ้างในอาชีพอื่นๆ โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “กระทรวงแรงงานกับการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน สุขภาวะที่เท่าเทียม” ท่ามกลางผู้บริหารหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแรงงาน กลุ่มแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติที่ทำอาชีพคนทำงานบ้าน เข้าร่วมในงาน ในการนี้นางสาววรชนาธิป ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “ลูกจ้างทำงานบ้าน : คุ้มครอง ส่งเสริม พัฒนา บาทบาทความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในสังคมไทย” กับผู้แทนปลัดกระทรวงแรงงาน นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย นายกอบ เสือพยัคฆ์ อดีตประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น นายประทีป โมวพรหมานุช เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน และนาวสาวภัคชนก พัฒนถาบุตร ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ เพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) โดย ดร.กฤษฎิ์ กาญจนกิตติ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาววรชนาธิป กล่าวในการเสวนาว่า จากข้อมูลในประเทศไทยมีกำลังแรงงานที่ประกอบอาชีพแม่บ้าน หรือทำงานบ้านอยู่ประมาณ 317,224 คน โดยกว่า 203,000 คน เป็นคนไทย ชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยอีกกว่า 5,000 คน และอีกกว่า 109,071 คน เป็นแรงงานข้ามชาติจากประเทศเมียนมา ลาว และกัมพูชา ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ และการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง และอาจไม่สามารถเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคมและสิทธิขั้นพื้นฐานได้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกำลังแรงงานกลุ่มนี้ จึงได้มีการดำเนินการในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำมาตรฐานอาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงให้ความสำคัญกับจริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความเห็นอกเห็นใจเกี่ยวกับการทำงานของแรงงานข้ามชาติอีกด้วย นอกจากนี้ สคช. ยังได้ร่วมกับ IOM เพิ่มเติมความรู้ให้กับแรงงานข้ามชาติ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดอบรมเพิ่มทักษะให้กับช่างก่ออิฐ ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า อาชีพแม่บ้านในโรงแรม (Housekeeper) และอาชีพแม่บ้าน เพื่อให้ได้รับการรับรองจากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการช่วยส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวได้รับการพัฒนาทักษะที่เหมาะสม สร้างโอกาสในการเคลื่อนย้ายผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย และสามารถนำไปใช้ประกอบการทำงาน ภายหลังกลับไปยังภูมิลำเนาได้ต่อไป 17.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมเวทีเสวนา ปลุกโอกาสกำลังแรงงานของประเทศ หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 สคช. ร่วมเวทีเสวนา ปลุกโอกาสกำลังแรงงานของประเทศ หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมเวทีสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาแผนงานวิจัยการวางแผนและพัฒนากำลังแรงงานหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย หรือ TDRI เพื่อนำเสนอผลการศึกษาโครงการวิจัยการวางแผนและพัฒนากำลังแรงงาน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ทั้งต่อตลาดแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงสิ่งที่ส่งผลต่อการจ้างงานและการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยมี ดร.ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร หัวหน้าทีมวิเคราะห์ตลาดแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เป็นผู้นำเสนอผลการวิจัย ในการนี้ นางสาวจุลลดา ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “ปลุกโอกาสหลังวิกฤตโควิด-19 สร้างแรงงานเท่าทันการเปลี่ยนแปลง” รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ดร.หลุยส์ คริสธานินทร์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ และ Professor Joshua D.Hawley Center for Human Resource Research, Ohio State University, USA โดยมี ดร.นครินทร์ อมเรศ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาวจุลลดา กล่าวในการเสวนาว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ทำหน้าที่เชื่อมโลกของ Demand side และ Supply side เข้าด้วยกัน โดยมองกำลังแรงงานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มแรงงานใหม่ ที่กำลังจะจบการศึกษา โดยได้มีการทำงานร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มาตลอด โดยพบว่านักศึกษาใช้เวลาอยู่ในระบบการเรียนมากเกินไป จะทำอย่างไรให้เกิดการเรียนฝึกงานในสถานประกอบการ แล้วเก็บประสบการณ์การเรียนรู้ในเชิงอาชีพได้ สคช. จะเป็นกลไกสำคัญ ที่ทำให้คนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา สามารถเก็บสะสมความรู้แล้วกลับเข้ามาในระบบของการศึกษาได้เมื่อต้องการ ซึ่งเมื่อมีกำลังคนเข้าสู่ตลอดแรงงานอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ส่วนอีกหนึ่งกลุ่ม ที่เป็นกำลังแรงงานเดิม มีการทำงานในหน่วยงาน สถานประกอบการ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้งการนำดิจิทัล ในการทำงาน รวมถึงการพัฒนา Soft Skill ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้กำลังแรงงานมีการปรับตัว ผ่านระบบการเรียนรู้ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว โดย สคช. มีระบบ E-Training ที่มีหลักสูตรการฝึกอบรมมากกว่า 500 หลักสูตร อาทิ บาริสต้า ผู้ดูแลผู้สูงอายุ E-Commerce และ Smart Farmer เป็นต้นซึ่งมีผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมากในช่วงที่เกิดการล็อกดาวน์ ไม่เพียงตอบโจทย์การเรียนรู้ Anytime Anywhere แต่ยังนำไปสู่การสร้างอาชีพสำรองรองรับในช่วงเกิดวิกฤตได้ ขณะเดียวกันก็มี E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) แพลตฟอร์มสำคัญที่ขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งมีการเชื่อมโยงข้อมูลด้านกำลังแรงงานกับอีกกว่า 50 หน่วยงานระดับประเทศมาแล้ว 15.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมร่วมติดปีกผู้ประกอบการไทยหนุนรับรองกำลังคนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Soft Power สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมร่วมติดปีกผู้ประกอบการไทยหนุนรับรองกำลังคนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Soft Power นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมในงานเปิดตัวโครงการ "ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power Xทรัพย์สินทางปัญญา" โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในพิธีเปิด และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวปาฐกถาพิเศษถึงแนวทางการพัฒนา soft power เพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยเต็มสูบ สร้างความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปตลาดต่างประเทศ นายภูมิธรรม ระบุว่า ประเทศไทยต้องปรับรูปแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำให้คนไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง สู่ประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญและใช้ยกระดับการค้าระหว่างประเทศในเวทีโลกได้ โดยรัฐบาลตั้งเป้าสร้างงานให้คนไทย 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปีผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขาซอฟต์พาวเวอร์ โดยกลุ่มสินค้าเป้าหมายสำคัญ คือ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ มวยไทย การท่องเที่ยว หนังสือ และเกม ล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้านอาหารผ่านครัวไทยสู่ครัวโลก เช่น งาน Anuga ที่เยอรมนี สร้างมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท นางสาวแพทองธาร กล่าวปาฐกถาย้ำว่า เวลานี้นิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งสำคัญน้อยที่สุด แต่ที่สำคัญกว่าคือทิศทางของรัฐบาลในการเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม 11 สาขา ของประเทศ ด้วยการนำสินทรัพย์ทางปัญญาที่มีคุณค่าของประเทศทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยผลักดัน soft power ให้ขับเคลื่อนและเป็นช่องทางทางการตลาดให้กับสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย แต่จะเป็นรูปธรรมได้ต้องทำทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยทำอย่างต่อเนื่อง และวางแผนระยะยาว เมื่อเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อวัฒนธรรมและประเทศ ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับคนไทยและภาคธุรกิจ สำหรับการพัฒนาต้นน้ำคือการพัฒนาทักษะให้กับคนไทย โดยสนับสนุนเพิ่มศักยภาพให้กับคนก่อน ซึ่งปัจจุบันมีโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย การอบรมเชฟอาหารไทยให้ได้มาตรฐานระดับสากล สร้างเชฟไทยส่งออกไปต่างประเทศทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การสนับสนุนแฟชั่นครั้งใหญ่กรุงเทพเมืองแฟชั่นจุดพลุให้ทั่วโลกได้รู้จัก รวมถึงมวยไทยที่ปัจจุบันมีโรงยิมสอนมวยไทยทั่วโลกมีอยู่กว่า 4 หมื่นแห่ง เมื่อเราสอดแทรกรูปแบบการสอนที่เป็นไทยดั้งเดิมคนทั่วโลกก็จะรับรู้ รู้จักแก่นแท้ของมวยไทย การปลดล็อกกฎหมายสร้างแรงจูงใจ ก็จะช่วยดึงดูดการลงทุนมากขึ้น นางสาววรชนาธิป ระบุสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพร้อมให้การรับรองคนในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยเริ่มจากกลุ่มที่สถาบันมีมาตรฐานอาชีพพร้อมให้การรับรอง อาทิ อาหาร ท่องเที่ยว มวยไทย ภาพยนตร์ นักเขียนบท เกมส์ อนิเมชัน ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาล 15.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. การันตี ผู้ช่วยผู้จัดการร้านป้ายแดง พร้อมยกฟู้ดแพชชั่น เป็นสถานประกอบการด้านอาหารแห่งแรก ที่สร้างพนักงานมืออาชีพ สคช. การันตี ผู้ช่วยผู้จัดการร้านป้ายแดง พร้อมยกฟู้ดแพชชั่น เป็นสถานประกอบการด้านอาหารแห่งแรก ที่สร้างพนักงานมืออาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับพนักงานที่สำเร็จการอบรมหลักสูตร Readiness AOC (Assistant Outlet Coach) ยกระดับ 22 พนักงาน จากบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง อย่างบาร์บีคิวพลาซ่า สู่ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ระดับ 3 เพื่อให้บุคลากรตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการสาขา (Assistant Outlet Coach) เกิดความภาคภูมิใจ มีความรัก และความผูกพันกับองค์กร โดยมี นางสาวชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายสนับสนุนคณะกรรมการบริหาร พร้อมนายเรืองชาย สุพรรณพงศ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการองค์กร นางสาวนาทีรัตน์ บุญรัตน์ ประธานบริหารสายงานทรัพยากรบุคคล และหน่วยธุรกิจพีเพิลคอนเน็ค และนายสัจจะ สัจจาวงศ์วณิชย์ ผู้บริหารฝ่าย-ปฏิบัติการบาร์บีคิวพลาซ่า ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมแสดงความยินดี นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า หนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการพัฒนากำลังคนให้มีศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ สำหรับบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ถือเป็นสถานประกอบการด้านอาหารแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการส่งเสริมพนักงานได้รับการฝึกฝน พัฒนา ผ่านการเทียบเคียงความสอดคล้องหลักสูตรการฝึกอบรมกับมาตรฐานอาชีพ พร้อมใช้คุณวุฒิวิชาชีพ เป็นเครื่องมือสร้างความก้าวหน้าให้กับพนักงาน ทั้งนี้ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มีเชฟชุมพร แจ้งไพร เป็นประธานอนุฯ ได้มีนโยบายเพื่ออาหารไทย โดยให้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ทำหน้าที่เป็นผู้ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการเรียนการสอนตามหลักสูตรที่กำหนด โดยสถาบัน พร้อมที่จะผลักดันพนักงานของฟู้ดแพชชั่น ภายใต้แบรนด์ บาร์บีคิว พลาซ่า ให้เป็นหนึ่งในองค์กร ที่มีบุคลากรด้านอาหาร ผ่านการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป ซึ่งจะเป็น Soft Power ที่สำคัญ สามารถสร้างจุดขาย และสร้างโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งต่อไป นางสาวชาตยา กล่าวว่า ฟู้ดแพชชั่น ไม่ใช่แค่สถานประกอบการด้านอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นโรงเรียนที่พร้อมจะพัฒนาผู้เรียน พนักงาน ให้มีเก่งขึ้น และมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ที่ได้รับการการันตี ด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชาชีพ ถือเป็นการพัฒนาไปอีกขั้น ในการยืนยันความเป็นมืออาชีพตัวจริง สร้างความภาคภูมิใจในอาชีพ ขณะเดียวกัน ส่งผลให้สถานประกอบการได้รับประโยชน์จากบุคลากรที่มีศักยภาพ และเกิดการพัฒนาในองค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป 12.12.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. จัดเวทีสัมมนา “พัฒนาสมรรถนะผู้เรียนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ” ดึงศักยภาพผู้เรียนในสังกัด สช. รองรับตลาดแรงงานในอนาคต สคช. จัดเวทีสัมมนา “พัฒนาสมรรถนะผู้เรียนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ” ดึงศักยภาพผู้เรียนในสังกัด สช. รองรับตลาดแรงงานในอนาคต สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จัดเวทีสัมมนา “การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ” โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. และสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ ในการดึงภาคีเครือข่ายร่วมใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อนำมาตรฐานอาชีพไปพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความสอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ สอดรับทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวเปิดงาน พร้อมร่วมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ทิศทางการขับเคลื่อนการศึกษาเอกชนนอกระบบให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก” นางสาวจุลลดา กล่าวว่า จากข้อมูลประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับนโยบายการศึกษา ประจำปี 2567 ที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนในทุกช่วงวัย ได้รับการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค คุณภาพและสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นตามบริบทของประเทศและสังคม โดยเน้นให้ผู้เรียน เรียนดี มีความสุข โดยเชื่อว่า สคช. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ช่วยส่งเสริมให้เป็นการตามกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับ Skill Certificate ติดตัว มีความพร้อมที่จะทำงาน หรือการให้สถานประกอบการทำการฝึก เพื่อรับการรับรอง ก่อนกลับไปต่อยอดในภาคการศึกษาได้ ซึ่งเชื่อว่าโรงเรียนเอกชนนอกระบบ เป็น 1 ใน Training Provider ที่สำคัญของ สคช. ที่จะช่วยบ่มเพาะคนทำงานให้มีทักษะในระยะเวลาอันสั้นได้ ที่ผ่านมา โรงเรียนเอกชนนอกระบบ ได้เข้าใจการทำงานของ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีการยึดโยงเข้าด้วยกันผ่านกลไกของมาตรฐานอาชีพ ด้วยการนำหลักสูตรมาเทียบความสอดคล้อง ไม่เพียงเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยประกันคุณภาพ เพิ่มจากกระทรวงศึกษาธิการได้อีกทางหนึ่ง นอกจากสถานศึกษา สคช. ยังทำงานกับสถานประกอบการ ในการยอมรับระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งในอนาคตจะลงลึกไปถึงค่าตอบแทนของระดับคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความมั่นคงทางหน้าที่การงาน และรายได้ที่เหมาะสมกับทักษะ ขณะเดียวกัน สคช. มีระบบ E-Workforce Ecosystem Platform หรือ EWE จะยิ่งเป็นการเปิดโอกาสการมีงานทำได้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับระบบ E-Trianing ที่สามารถตอบโจทย์การเรียนรู้ Anywhere Anytime ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมช่วยป้อนกำลังคนที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาดแรงงาน เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่าที่ผ่านมา สคช. และ สช. มีความร่วมมืออย่างเหนียวแน่น ในการส่งเสริมให้โรงเรียนพัฒนาหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพ ซึ่งจะนำไปสู่การนำคุณวุฒิวิชาชีพ ไปต่อยอดในการเรียน สร้างความก้าวหน้าในการทำงาน พร้อมรับเงินเดือนที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีหลักสูตรฐานสมรรถนะที่มีการเชื่อมโยงตามมาตรฐานอาชีพ และเป็นหลักสูตรต้นแบบของ สช. จำนวน 38 หลักสูตร และคาดว่าในปีงบประมาณ 2567 จะมีการพัฒนาอีกกว่า 20 หลักสูตร ขณะเดียวกันได้มีการส่งเสริมให้ผุ้เรียนในโรงเรียนเอกชน สามารถเทียบโอนผลการเรียนจากโรงเรียนเอกชนนอกระบบได้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ นอกจากนี้ สคช. จะร่วมกับ สช. ในการร่วมกันพัฒนาผู้เรียน สร้างแรงบันดาลใจไปสู่การประกอบอาชีพ สร้างรายได้ระหว่างเรียนให้กับผู้เรียน ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ การทำงานและประกอบอาชีพหลังจบการศึกษาต่อไปในอนาคต ส่วนการเสวนาหัวข้อ การใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อสร้างความยั่งยืนให้การศึกษาเอกชนนอกระบบ" โดยมี นายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล นายกสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ (ประเทศไทย) นายศรัณ อัยราน้อย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ นางสาวกาญจนา หงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา นางสาวโอมิกา บุญกัน ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ และนายพิริยะพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ โดยเวทีเสวนาเห็นตรงกันว่า คุณวุฒิวิชาชีพจะนำไปสู่การพัฒนากำลังคนในภาคการศึกษาเอกชน และโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง สามารถสร้างคุณภาพการศึกษาที่สอดรับทิศทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่กำลังต้องการกำลังคนที่ตอบตรงโจทย์ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การเทียบเคียงระบบการศึกษากับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สู่กรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน จะส่งผลต่อการหมุนเวียนกำลังแรงงาน จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นของประเทศต่อไป นอกจากนี้ภายในงานได้มีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับ "การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ" และ "E-Workforce Ecosystem Platform เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของกำลังคน และการเชื่อมโยงสมรรถนะการทำงานและการศึกษาด้วยระบบสะสมผลลัพธ์การเรียนรู้" โดยสำนักขับเคลื่อนภารกิจพิเศษ "หลักเกณฑ์การขึ้นเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม และแนวทางการได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ และหนังสือรับรองสมรรถนะ และหนังสือรับรองสมรรถนะสนับสนุนการทำงานของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ" โดย สำนักรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึง "สร้างเสริมสรรถนะให้ผู้เรียนผ่านนวัตกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ (E-training)" โดย สำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ อีกด้วย 08.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมแสดงความยินดี 14 ปี กรมหม่อนไหม สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมแสดงความยินดี 14 ปี กรมหม่อนไหม นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันสถาปนากรมหม่อนไหม ครบรอบ 14 ปี สืบสานภูมิปัญญา พัฒนาสู่ความยั่งยืน ซึ่งได้มีการพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นว่าจะได้มีแนวทางการสร้างความร่วมมือในการทดสอบ ประเมิน ในอาชีพผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และอาชีพผู้ผลิตเส้นไหม ซึ่งสถาบัน ได้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพดังกล่าว และจะเป็นการยกระดับคุณภาพให้กับกำลังคนในกลุ่มของผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และผู้ผลิตเส้นไหม ซึ่งจะได้มีการหารือร่วมกันต่อไป 06.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์การอบรมหลักสูตรผู้สอนระดับประเทศ (National Trainer: NT) และผู้ประเมินระดับประเทศ (National Assessor: NA) ภายใต้ข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประชาสัมพันธ์การอบรมหลักสูตรผู้สอนระดับประเทศ (National Trainer: NT) และผู้ประเมินระดับประเทศ (National Assessor: NA) ภายใต้ข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 04.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสดและขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ผนึกกำลัง ขับเคลื่อนไทย ด้วย วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม" ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสดและขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ผนึกกำลัง ขับเคลื่อนไทย ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม" 04.12.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ระดมความคิดเห็น แก้ พรฎ. เปิดแนวทางการให้คุณวุฒิวิชาชีพ สคช. ระดมความคิดเห็น แก้ พรฎ. เปิดแนวทางการให้คุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....จากประชาชนผู้เข้ารับบริการ องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ องค์กรที่จะขอขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรมหรือการประเมิน และหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมให้การดำเนินภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) มีความเหมาะสม ถูกต้องตามหลัก และสอดคล้องกับภารกิจเพิ่มเติมที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี โดยมีนายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน โดยมีคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองให้ความเห็นและจัดทำร่างหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับสถาบัน และคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง เข้าร่วมในงาน นายพิสิฐ กล่าวว่า ตลาดแรงงานในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการอย่างหลากหลายและรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อกำลังคนที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีนัยสำคัญ หากกำลังคนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะไม่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ก็อาจสูญเสียโอกาสในการมีงานทำ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีหน้าที่ ที่จะต้องพัฒนากระบวนการ รูปแบบ และกลไกลในการพัฒนากำลังคนผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพและการรับรองสมรรถนะ ช่วยส่งเสริมกำลังคนและกำลังแรงงานให้มีโอกาสได้ทำงานที่ดีขึ้น โดยมีภาระรายจ่ายกับการเรียนที่น้อยลง อันจะเป็นการก่อประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติในการพัฒนากำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดรับฟังความเห็นต่อการจัดทำ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ที่สถาบันจะได้ทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้เสียและผู้เกี่ยวข้อง ให้มีความเข้าใจต่อการดำเนินภารกิจของสถาบัน และขอบเขตการดำเนินงานของผู้มีส่วนได้เสียตามที่กฎหมายกำหนดมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนให้เข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้กระบวนการที่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพกำหนดไว้ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อให้การดำเนินภารกิจของสถาบันสอดคล้องกับการปรับปรุง ตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ 8 ระดับ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างคุณวุฒิทางการศึกษา คุณวุฒิวิชาชีพ และทักษะของฝีมือแรงงานให้สามารถเทียบเคียงกันได้ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการพัฒนาคนให้เข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมุ่งเน้นการฝึกฝนด้านความรู้ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นในการทำงานในอาชีพนั้น ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน อันจะเป็นการส่งเสริม ให้เกิดแรงงานใหม่ที่มีคุณภาพในระบบ ได้รวดเร็วขึ้น และนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ไปใช้กับกำลังแรงงานในสถานประกอบการ ในการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ตามความรู้ ความสามารถได้ แม้ไม่มีคุณวุฒิทางการศึกษาก็ตาม สำหรับการปรับปรุงแก้ไขร่าง พรฎ. จะประกอบไปด้วยการปรับปรุงนิยามศัพท์ที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงวัตถุประสงค์การจัดตั้ง การปรับปรุงอำนาจและหน้าที่ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงอำนาจของคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจการดำเนินงานใจปัจจุบัน ส่วนภารกิจที่จะมีการปรับปรุงและเพิ่มเติม จะนำไปสู่แนวทางการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพได้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งผ่านองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ องค์กรที่มีหน้าที่ให้บริการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ การให้การรับรองมาตรฐานอาชีพในสถานประกอบการ การเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ การส่งเสริมให้ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพไปพร้อมกัน รวมถึงการร่วมกับหน่วยงานด้านต่างประเทศ ในการจัดทำมาตรฐานอาชีพ และการยอมรับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ภายในงานได้มีการจัดเวทีเสวนา เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่มีต่อ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สถาบันคุณวุฒวิชาชีพ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่..) พ.ศ. ... โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบไปด้วย นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม นายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษา ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับด้านการเรียนรู้ นางสาวณัฐยา บุญเจริญ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท คาร์ซัม อะคาเดมี (ประเทศไทย) จำกัด ด้านการฝึกอบรม คุณวัลภา สถิรชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเกิลส์ แอร์แอนด์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ในด้านสถานประกอบการ และด้านองค์กรรับรอง โดย นส.พ.อภิวัจน์ พิเศษไพศาล กรรมการผู้จัดการบริษัท แม็คเวท จำกัด 29.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานอาชีพ (Skill Certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานอาชีพ (Skill Certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการจัดทำธนาคารหน่วยกิต การเทียบคุณวุฒิต่างๆ รวมถึงความต้องการให้การรับรองคุณวุฒิสามารถกำหนดค่าแรงได้ด้วย นางสาวจุลลดา ชี้แจงที่ประชุมว่าสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) มีความพร้อมเชื่อมโยงกับระบบธนาคารหน่วยกิต รวมถึงหลักสูตรการเรียนการสอน และหลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆ สามารถปรับปรุงให้สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพได้ อันจะนำไปสู่การเทียบคุณวุฒิวิชาชีพกับคุณวุฒิทางการศึกษา โดยเฉพาะสถาบันมีแพลตฟอร์ม EWE รองรับทั้งการสร้างแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ ระบบแนะแนวอาชีพ ระบบ E-Training E-Learning เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองทุกที่ทุกเวลา ระบบ E-Cupon สนับสนุนการฝึกอบรมพัฒนาตนเอง ระบบ JOB Matching รองรับคนหางาน งานหาคน รวมถึง Competency credit bank system ที่สามารถสะสมสมรรถนะผ่านการเรียนรู้ตามหลักสูตรที่สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อนำไปสู่การรับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งตอบโจทย์โลกปัจจุบันที่กำลังคนมุ่งสู่การทำงาน และต้องการมีโอกาสได้รับคุณวุฒิทางการศึกษาได้เมื่อต้องการ นายสิริพงศ์ ย้ำว่า มหาวิทยาลัยจะอยู่ไม่ได้ถ้ายังคิดในกรอบเดิม และสิ่งแวดล้อมจะบังคับให้มหาวิทยาลัยต้องปรับตัว ในฐานะเป็นคนภาคการศึกษาก็ต้องปรับตัวให้พร้อมสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป หลายระบบที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพดำเนินการ สามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับภาคการศึกษได้ในทันที เนื่องจากปัจจุบันเด็กมีความต้องการเรียนในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เป็นไปตามเทรนด์ความต้องการของตลาดแรงงาน การเทียบเคียง การเทียบโอนคุณวุฒิจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับโลกการศึกษาและโลกการทำงานในเวลานี้ ขณะเดียวกันฝากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพัฒนาการรายงานฐานข้อมูลของแพลตฟอร์ม EWE ให้สามารถดูเทรนด์อาชีพในปัจจุบัน และสามารถคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตแต่ละอาชีพที่ระบบแสดงผลเป็นอาชีพที่ตลาดแรงงานต้องการหรือไม่ ก็จะช่วยรองรับการผลิตคนจากภาคการศึกษาให้ตรงตามความต้องการที่แท้จริงด้วย ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมอาทิ สภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ต่างเห็นตรงกันถึงประโยชน์ของแพลตฟอร์ม EWE และพร้อมให้สนับสนุนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อประโยชน์ของนักเรียน นักศึกษาต่อไป 28.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือ ร่วมกับ พล.ต.บรรพต สังข์มาลา ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหารสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.อ.ชวลิต ประดิษฐ์นวกุล รองผู้บัญชาการโรงเรียนฯ และคณะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนช่างฝีมือทหาร นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือ ร่วมกับ พล.ต.บรรพต สังข์มาลา ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหารสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.อ.ชวลิต ประดิษฐ์นวกุล รองผู้บัญชาการโรงเรียนฯ และคณะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างโรงเรียนช่างฝีมือทหารและสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยพล.ต.บรรพต ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับแนวทางการฝึกอบรมและเทียบคุณวุฒิกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพในหลักสูตรทางการศึกษาสำหรับทหารกองประจำการ แนวทางการพิจารณาความสอดคล้องของหลักสูตร ปวช. โรงเรียนช่างฝีมือทหารกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงระเบียบและกฎเกณฑ์ในการขอเป็นศูนย์ทดสอบและฝึกอบรมสำหรับโรงเรียนช่างฝีมือ ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการได้มีอาชีพที่มั่นคงและรายได้ที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ภายหลังปลดประจำการ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะได้มีความร่วมมือกันในอนาคตต่อไป #มืออาชีพ #ที่นี่มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ 28.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้รับแต่งตั้ง ร่วมคณะอนุกรรมการจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้รับแต่งตั้ง ร่วมคณะอนุกรรมการจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ คณะอนุกรรมการชุดนี้จะร่วมกันจัดทําระบบวัดผลรับรองมาตรฐานอาชีพ (Skill certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to earn) สู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมเชื่อมโยงหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมกับมาตรฐานวิชาชีพต่าง ๆ เสริมศักยภาพแก่ผู้เรียน (Up-skill) หรือเพิ่มพูนทักษะใหม่ (Re-skill) หรือการปรับปรุงทักษะ สู่การรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ และสร้างทักษะใหม่ (New-skill) เพื่อตอบโจทย์กับโลกการทำงานในอนาคตให้แก่ผู้เรียนและประชาชนทั่วไป และ คณะอนุกรรมการจัดทำระบบการวัดผล เทียบระดับการศึกษา ประเมินผลการศึกษาและธนาคารเครดิตแห่งชาติ (Credit Bank) ทั้งนี้ จะมีการประชุมหารือในประเด็นกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมถึงแนวทางการบูรณาการร่วมกันในอนาคต ในวันอังคาร 28 พ.ย.66 เวลา 13.30 น. ณ กระทรวงศึกษาธิการ 27.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ประกาศการรับสมัครหรือเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้จัดการกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ประกาศการรับสมัครหรือเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้จัดการกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ 27.11.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร “อนุทิน” มอบ 6 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ย้ำคุณวุฒิวิชาชีพต้องเป็นปริญญาอาชีพของประเทศไทย “อนุทิน” มอบ 6 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ย้ำคุณวุฒิวิชาชีพต้องเป็นปริญญาอาชีพของประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแล โดยมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบัน พร้อมผู้บริหารและบุคลากรของสถาบันให้การต้อนรับ นายอนุทิน กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการรับรองความรู้ ความสามารถ ให้กับคนทำงานในทุกมิติตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ ไปจนถึงระดับ High skill และ Future skill ซึ่งหากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสามารถดำเนินการได้ครอบคลุมทั้งในเชิงพื้นที่และตามนโยบายรัฐบาลจะช่วย “ลดภาระของประชาชนคนทำงาน” ลดเวลาการหางาน และลดค่าใช้จ่ายในห้องเรียน ตนในฐานะกำกับดูแลสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ความสำคัญกับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปในยุคสมัยที่ Skill นำ Degree จึงต้องขับเคลื่อนงานให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ประกอบไปด้วย ส่งเสริมให้แรงใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานให้เร็วขึ้น เมื่อเข้าสู่สถานประกอบการ โดยได้รับการฝึกแล้ว ต้องได้รับการรับรองสมรรถนะ สามารถได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม ขณะที่แรงงานเดิมต้องได้รับการพัฒนา ยกระดับสมรรถนะ ผ่านการส่งเสริมให้เครือข่ายของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ทำการฝึก และประเมินคนทำงานทั้งในและนอกระบบด้วยมาตรฐานอาชีพ พร้อมเชื่อมโยงกับภาคการศึกษา ในการนำมาตรฐานอาชีพไปกำหนดเป็นหลักสูตร ฐานสมรรถนะ โดยความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อสร้างคนให้ตรงกับงาน ที่สำคัญคือให้คุณวุฒิวิชาชีพ ต้องเป็น “Degree” ด้านอาชีพ หรือเป็นปริญญาด้านอาชีพ ควรให้การรับรองความสามารถ และทักษะ โดยเฉพาะผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรต่าง ๆ แต่มีความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ทำให้เกิดคุณค่า สร้างนวัตกรรม รวมถึงเพิ่มโอกาสในการนำใบรับรองนี้ไปใช้สมัครงานใช้ประกอบอาชีพที่สุจริต แทนการใช้ใบปริญญา ขณะเดียวกันต้องร่วมผลักดันและขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem : EWE ให้เป็น Big Data “ด้านกำลังคน” ของประเทศไทย ให้คนหางาน เจองาน ให้นายจ้าง เจอคนหางาน ตลอดจน “เข้าถึง” ช่องทางสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับคนทำงาน และได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาทักษะ “อย่างเป็นระบบ” สามารถเก็บสั่งสมประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่าน Competency Credit Bank System เชื่อมกลับไปสู่โลกของการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพอิสระ ที่มีจำนวนกว่า 20 ล้านคน และสุดท้ายคือการยกระดับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสู่เวทีสากล ทำให้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพของไทยมีจุดยืนในเวทีสากล พร้อมสร้างการยอมรับมาตรฐานอาชีพของต่างประเทศ เตรียมความพร้อมให้คนที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ หรือคนไทยที่เคยไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วต้องการกลับมาที่ประเทศไทย โดยให้บูรณาการการทำงานร่วมกับ 4 กระทรวงหลักอย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดของประเทศไทย โอกาสนี้นางสาวจุลลดา ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยังได้กล่าวแนะนำถึงโครงสร้าง วัตถุประสงค์และบทบาทของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้แก่รองนายกรัฐมนตรี และคณะ พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานของสถาบันที่ผ่านมา อาทิ การจัดทำมาตรฐานอาชีพ การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ การนำมาตรฐานอาชีพไปพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ การสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยมาตรฐานอาชีพ การจัดทำฐานข้อมูลระบบคุณวุฒิวิชาชีพและข้อมูลกำลังแรงงาน เป็นต้น 23.11.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ชู อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพต้นแบบ ตอกย้ำความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขท้องถิ่น สู่การเป็นสังคมสูงวัยคุณภาพ สคช. ชู อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพต้นแบบ ตอกย้ำความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขท้องถิ่น สู่การเป็นสังคมสูงวัยคุณภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ประจำเทศบาลเมืองสระบุรี และเทศบาลตำบลหน้าพระลาน รวมกว่า 280 คน ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาบริการสุขภาพ อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 จากโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลาตามมาตรฐานอาชีพ โดยมี นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี นางสมฤดี จันทร์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลหน้าพระลาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากเทศบาลเมือง และเทศบาลตำบลหน้าพระลาน และดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย มีจำนวนทารกเกิดใหม่น้อยลง สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เข้ามาแทนที่ จากข้อมูลมีการคาดการณ์ว่านับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าในอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” (super aged society) เมื่อสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีสูงถึง 28% ของประชากรทั้งหมดทั่วประเทศ ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้สูงอายุ ให้มีความรู้ จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ทั้งนี้กลุ่ม อสม. ที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จะมีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับความสำเร็จในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ อสม. ที่จะมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา สามารถใช้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุได้อย่างมืออาชีพ นางสมฤดี กล่าวว่า เทศบาลตำบลหน้าพระลาน มีกลุ่ม อสม. ที่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุอยู่จำนวนมาก ซึ่งหลายคนระดับการศึกษาอาจไม่สูงนัก การที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเข้ามาให้การรับรองประสบการณ์การทำงานให้เหล่า อสม. จึงจะช่วยยกระดับศักยภาพให้กับกลุ่ม อสม. และจะเป็นใบเบิกทางในการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างการยอมรับในการทำหน้าที่ได้อย่างมืออาชีพ นอกจากจะทำให้สุขภาพ และคุณภาพชีวิตประชาชน ผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงแล้ว ยังเป็นการยกระดับศักยภาพผู้นำด้านสุขภาพ นักบริบาล และจิตอาสา ให้ได้รับการรับรองด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย เช่นเดียวกับนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ที่ยอมรับว่า กลุ่ม อสม. ที่ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ไม่เพียงจะเป็นการปฏิบัติต่อผู้สูงอายุได้ถูกต้องตามหลักการ ช่วยลดการบาดเจ็บระหว่างการดูแลได้ และยังเป็นความรู้ติดตัว ที่สามารถถ่ายทอดส่งต่อลูกหลานในชุมชน ให้มีการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้สังคมผู้สูงอายุในพื้นที่จะได้รับการดูแลทั้งกายและใจ เป็นสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ สำหรับจังหวัดสระบุรี นับเป็นพื้นที่ต้นแบบในการยกระดับความรู้ ความสามารถเพิ่มศักยภาพ และได้การรับรองประสบการณ์ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทั้งนี้ ได้เตรียมขยายผลไปยังอสม. ในจังหวัดอื่นๆ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ให้มีโอกาสได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป 22.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เสนอตัวพร้อมให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เสนอตัวพร้อมให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร (คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ) เข้าร่วมประชุมนัดแรก โดยมีเชฟชุมพร แจ้งไพร เป็นประธานอนุฯ พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอ 3 โครงการ Quick Win เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประกอบด้วยโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเพื่ออาหารไทย ด้วยการจัดทำหลักสูตร คู่มือการเรียนการสอน สร้างเทรนเดอะเทรนเนอร์ ส่งเสริมในเรื่อง เรียนทำอาหาร งานดี มีเงินเดือน จับคู่โรงเรียนสอนทำอาหารกับร้านอาหาร เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกงานช่วงเรียนแบบได้รับค่าแรง และเมื่อเรียนจบจะสามารถทำงานกับร้านอาหารได้ทันที โดยมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่ผู้ที่ผ่านการเรียนการสอนการอบรมตามหลักสูตรดังกล่าว โดยคัดเลือกสุดยอดเชฟจากกองทุนหมู่บ้าน 75,086 หมู่บ้าน สร้างเชฟ 75,086 คน ตั้งเป้าปีที่ 1 มีผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ 10,000 คน โดยอย่างน้อย 8,500 คน ต้องได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ และมีงานทำไม่ต่ำกว่า 5,000 คน นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นควรเสนอโครงการ Thai Food Channel ด้วยการทำคอนเทนต์สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารไทยเพื่อเผยแพร่ในทุกแพลตฟอร์มผ่าน influencer ตั้งเป้ายอดการเข้าชมตลอดโครงการ 500 ล้านวิว รวมถึงเห็นควรเสนอโครงการ ร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทย Local Chef Restaurant ด้วยแนวคิดการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบท้องถิ่นสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน ต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำเป็นอาหาร สร้างตัวตนให้อาหารท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างร้านค้าชุมชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างรายได้ตามมา ขณะเดียวกันยังมีอีก 6 โครงการซึ่งเป็นแผนระยะยาวที่จะดำเนินการต่อไปทั้งการจัด World Tour อาหารไทยไป 7 ทวีป 43 ประเทศทั่วโลก จัดตั้งกองทุน Soft Power จัดโครงการศูนย์รวมอาหาร Thai Food World Congress การยกระดับอาหาร สร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทย รวมถึงการสร้างนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มออกสู่ตลาดสากลด้วย 21.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. เปิดตัว Pet Groomer รพ.สัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรก ที่มีมาตรฐานอาชีพอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์ รับรองโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. เปิดตัว Pet Groomer รพ.สัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรก ที่มีมาตรฐานอาชีพอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์ รับรองโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับบริษัท โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ จำกัด และกรุงเทพมหานคร สานพลังเปิดตัวมาตรฐานอาชีพสำหรับสถานประกอบการ "อาชีพอินเทรนด์ Pet Groomer ดูแลน้องสัตว์เลี้ยงแสนรัก อย่างมืออาชีพ" หลังโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรกของประเทศ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาชีพสำหรับสถานประกอบการ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ระดับ 4 จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายบุญชู ทองเจริญพูลพร ที่ปรึกษาผู้บริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และคณะผู้บริหารของทั้ง 3 หน่วยงาน เข้าร่วมในงาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สัตว์เลี้ยงถูกปรับเปลี่ยนสถานะจากเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน กลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัว ช่วยสร้างคุณค่าทางจิตใจ ทำให้ผู้เลี้ยงมีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงเติบโตมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ความเป็นอยู่ และดูแลเรื่องสุขภาพ ดังนั้นบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง ว่าจะได้รับการบริการอย่างมีคุณภาพ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ถือเป็นหนึ่งในสถานประกอบการ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ให้ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ จนเป็นสถานประกอบการแห่งแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ในระดับ 4 การจัดงานในครั้งนี้ เกิดจากการสานพลังของ 3 หน่วยงานหลัก ที่ร่วมกันขับเคลื่อนให้มาตรฐานอาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยงได้เกิดขึ้นอย่างสำเร็จและสมบูรณ์ โดยโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สร้างมาตรฐานอาชีพ Pet Groomer จากสมรรถนะที่ผู้ประกอบการต้องการ กรุงเทพมหานคร ฝึกอาชีพสำหรับผู้ว่างงานและผู้ต้องการประกอบอาชีพอิสระ นำมาสู่การรับรองคุณวุฒวิชาชีพ Pet Groomer มืออาชีพ ทำงานได้ ทำงานจริง มีสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ สำหรับอาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ระดับ 4 โดยเป็นมาตรฐานอาชีพสำหรับผู้ที่มีสมรรถนะในการทำงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยงเฉพาะทางตามหลักการหรือทฤษฎีในการดูแลสัตว์เลี้ยง สามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานได้ด้วยตนเองเพื่อควบคุมคุณภาพงานหรือผลงานได้ โดยมีสมรรถนะคือ รับความต้องการของลูกค้า ให้บริการอาบน้ำ สัตว์เลี้ยง ให้บริการเสริมในการดูแลสัตว์เลี้ยงตามความต้องการของลูกค้า ตัดขนสัตว์เลี้ยงด้วยกรรไกร ตรวจสอบเก็บรายละเอียดหลังการให้บริการ ส่งมอบสัตว์เลี้ยงคืนลูกค้า ตามคู่มือระเบียบการปฏิบัติงานการให้บริการ ตามมาตรฐานการทำงานของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันให้พนักงาน บุคลากรในเครือข่ายของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ได้การรับรองสมรรถนะการทำงานด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นสร้างความภาคภูมิใจ สร้างความมั่นคงให้ผู้ปฏิบัติงาน และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้กับลูกค้าได้ว่า สัตว์เลี้ยงของท่านจะได้รับบริการจากพนักงานคุณภาพ และมีมาตรฐานรับรองความเป็นมืออาชีพ 20.11.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. เยือนราชบุรี เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งท้องถิ่น สคช. เยือนราชบุรี เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งท้องถิ่น 17 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงยิมเนเซียม (สนามฟุตซอล) จังหวัดราชบุรี สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยกทัพลุยจังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรม “เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน” เพื่อสร้างต้นแบบการฝึกอบรมอาชีพร่วมกับหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมต่อยอดพื้นที่ "เมืองแห่งมืออาชีพ" โดยมี คณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี และนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอีกครั้ง ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น จัดการฝึกอบรม สร้างอาชีพที่หลากหลายกระจายไปสู่ชุมชน โดยจังหวัดราชบุรี ถือเป็นจังหวัดนำร่อง ในการพัฒนาองค์ความรู้ โดยการใช้วัตถุดิบ หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ในชุมชนให้เกิดประโยชน์ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสมผสานกับทรัพยากร ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมพื้นถิ่น เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ครอบครัว ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่ชุมชน ภายในงาน มีจัดการอบรมสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการชี้ช่องทางในการประกอบอาชีพ และผลักดันองค์ความรู้ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนทั้งในด้านทักษะพื้นฐานการผลิต การบริการ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพ ของราชบุรีมีโอกาสเริ่มต้นธุรกิจและเติบโตเป็นผู้ประกอบการใหม่ในชุมชน อย่างเป็นมืออาชีพ อาทิ การทำอาหารไทยสร้างอาชีพ การแปรรูปสมุนไพรสร้างรายได้ เมนูเครื่องดื่มจากบาริสต้ามืออาชีพ เกษตรปรุงดิน สำหรับปลูกผัก ทำปุ๋ยออแกนิคสร้างรายได้ และเทคนิคการถ่ายภาพสินค้าและการทำตลาดออนไลน์ โดย True เน็ตทำกิน ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับทักษะความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ เสริมสร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนต่อไป สำหรับจังหวัดราชบุรี มีพื้นที่ปลูกมะพร้าวกว่า 88,000 ไร่ ในแต่ละปีมีผลผลิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่มะพร้าวน้ำหอมเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ Gl ของจังหวัด จึงมีความต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ในหมวดเพื่อการดูแลสุขภาพและความงาม เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตร การที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มาร่วมพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมต่อยอดไปยังพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบอาชีพ ที่สามารถนำทักษะไปเป็นช่องทางทำมาหากินต่อไปได้ จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเสริมสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับคนในชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย 18.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. รับมอบนโยบาย รองนายกฯ อนุทิน ร่วมผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. รับมอบนโยบาย รองนายกฯ อนุทิน ร่วมผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ 17.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สกมช. พร้อมพัฒนาคนให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ สกมช. พร้อมพัฒนาคนให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. นำโดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เข้าพบ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ และคณะผู้บริหารสถาบัน เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นกลุ่มที่กำลังเป็นที่ต้องการในโลกปัจจุบัน จากการก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลกระทบตั้งแต่ระดับบุคคล หน่วยงาน ไปจนถึงระดับประเทศ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมกับ สกมช. ในการพัฒนาบุคลากรด้าน Cyber Security ให้มีความรู้ความเข้าใจ และร่วมกันป้องกันภัยด้านไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมขยายองค์ความรู้ด้านไซเบอร์ไปยังผู้เกี่ยวข้องในภูมิภาค ทั้งนี้ ความร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่การฝึกอบรมให้ความรู้เท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนให้สามารถทำงานรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ในทุกรูปแบบ สกมช. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจในการกำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ เพื่อป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ 15.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร “คณะซอฟต์พาวเวอร์” ตั้ง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ” ร่วมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร “คณะซอฟต์พาวเวอร์” ตั้ง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ” ร่วมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานอนุกรรมการ คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีนายชุมพล แจ้งไพร เป็นประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการฯ ด้านอาหาร มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลและจัดทำนโยบายและแผน พร้อมทั้งแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอาหาร และเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเพื่อประกอบการทำนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ รวมถึงเสนอมมาตรการและแนวทางการดำเนินการ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามนโยบายและแผน เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ 11 ด้าน ประกอบด้วยอุตสาหกรรมด้านหนังสือ ด้านเฟสติวัล ด้านอาหาร ด้านการท่องเที่ยว ด้านดนตรี ด้านเกม ด้านกีฬา ด้านศิลปะ ด้านการออกแบบ ด้านภาพยนตร์ ด้านละครและซีรีส์ พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการจัดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ และคณะอนุกรรมการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมสนับสนุนแผนการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์เพาเวอร์ แบ่งการทำงานเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วยระยะ 100 วัน หรือภายใน 11 ม.ค.2567 เปิดให้ลงทะเบียนที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งแก้ไขกฎกระทรวง และจัดงาน Winter Festival ระยะ 6 เดือน หรือภายใน 3 เม.ย.2567 จะเริ่มบ่มเพาะ OFOS(One Family One Soft Power) รวมทั้งเสนอ พ.ร.บ.จัดตั้ง Thailand Creative Content Agency (THACCA) มีการจัดเทศกาล Water Festival และจัดงาน Soft Power Forum และระยะ 1 ปี หรือภายใน 3 ต.ค.2567 กำหนดเป้าหมายบ่มเพาะได้ 1 ล้านคน รวมทั้ง พ.ร.บ.จัดตั้ง THACCA ผ่านรัฐสภา มีการจัดงาน Film Festival และ Music Festival รวมถึงการสนับสนุน Soft Power ไปร่วมงานระดับโลก 10.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร รับสมัครรองผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนตาก รับสมัครรองผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนตาก 07.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนเอกชนนอกระบบทั่วประเทศ จัดการศึกษาที่มีคุณภาพ สคช. ร่วมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนเอกชนนอกระบบทั่วประเทศ จัดการศึกษาที่มีคุณภาพ 5 พฤศจิกายน 2566 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิ ร่วมพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และพิธีมอบประกาศนียบัตร ผู้ที่สำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนเอกชนนอกระบบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. เพื่อการส่งเสริมสนับสนุน สร้างขวัญกำลังใจ ให้ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้เรียน และนักเรียน ที่มีการจัดการศึกษาในภาคเอกชนอย่างมีคุณภาพ และยังผลักดันกำลังคนของโรงเรียนเอกชนให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา นายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล นายกสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ ให้การต้อนรับ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษา ตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข โดยเฉพาะการศึกษาของโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่มีความเข้มแข็ง โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น ผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค พร้อมดึงคนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ให้สามารถกลับเข้าสู่ภาคการศึกษาได้ ทั้งนี้จะร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อนำไปสู่การกำหนดอัตรารายได้ เพื่อพัฒนาผู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนาการศึกษาไทยที่มีความยั่งยืน ในโอกาสนี้ นางสาวจุลลดา ได้ร่วมมอบโล่เชิดชูเกียรติ ให้กับสถานศึกษาดีเด่น ผู้บริหารสถานศึกษาดีเด่น และครูผู้สอนดีเด่น ที่ได้รับการยกย่องว่ามีการจัดการเรียนการสอน ในโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ กับสมาคมโรงเรียนเอกชนนอกระบบอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงเรียนเอกชนที่เกี่ยวข้องกับ สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร เป็นต้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนอย่างมีคุณภาพ ทั้งการพัฒนาศักยภาพของผู้สอน บุคลากร และผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันให้มีโอกาสรับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้มีโอกาสกลับเข้าสู่โลกของการศึกษาได้ อีกทั้งยังนำไปสู่เส้นทางการพัฒนา ต่อยอดไปสู่การมีงานทำ สร้างรายได้ และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพต่อไป 05.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ต้องสร้าง "Trust" ให้กับประชาชน คนทำงาน ในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ต้องสร้าง "Trust" ให้กับประชาชน คนทำงาน ในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ 02.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร Association for Overseas Technical Cooperation and Sustainable Partnerships (AOTS) และ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) นำโดย Mr.Toshihiko Watanabe พร้อมด้วย Mr.Hirofumi Yamaguchi, AOTS’s expert และดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ Association for Overseas Technical Cooperation and Sustainable Partnerships (AOTS) และ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) นำโดย Mr.Toshihiko Watanabe พร้อมด้วย Mr.Hirofumi Yamaguchi, AOTS’s expert และดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือแนวทางการยกระดับบุคลากร ในภาคอุตสาหกรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น ตามโครงการ Smart Monodzukuri Support Team for Thailand ให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation : DX) ของประเทศ โดยร่วมกับ สคช. เตรียมจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพนักพัฒนาผลิตภาพระบบการผลิต เพื่อสร้างนักพัฒนาผลิตภาพที่มีความรู้ความสามารถในการเพิ่มผลิตภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร พร้อมได้รับการสนับสนุนตามกระบวนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ โอกาสนี้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ จึงแสดงความยินดีต่อนางสาวจุลลดา มีจุล ในโอกาสรับตำแหน่งผู้อำนวยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ 02.11.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร IM Japan โครงการจัดส่ง ผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคคนไทยไปฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น IM Japan โครงการจัดส่ง ผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคคนไทยไปฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น 01.11.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. พร้อมยกระดับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สู่มืออาชีพ รับการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สคช. พร้อมยกระดับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สู่มืออาชีพ รับการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาวิชาการเรื่อง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กับวงการอสังริมทรัพย์” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ โดยมี คุณพรเทพ ศรีนฤหล้า รองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิฯ กล่าวต้อนรับ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม และยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในเครือข่าย รองรับการกลับมาฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบ นางสาวจุลลดา กล่าวถึงบทบาทสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในการพัฒนาวิชาชีพ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในรอบ 3 ปี ตั้งแต่มีวิกฤตโควิด โดยในปี 2565 มีโครงการเปิดใหม่กว่า 387 โครงการ มูลค่าการพัฒนารวมสูงถึง 4.4 แสนล้านบาท การกลับมาฟื้นตัวของอสังหาฯ ได้เป็นแรงขับให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ต้องเร่งปรับตัว ยกระดับตัวเองให้เป็นนายหน้าฯ ที่มีคุณภาพ เพราะนอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ยังต้องสร้างความน่าเชื่อถือ เข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อโอกาสการลงทุนด้วย ทั้งยังเป็นตัวช่วยที่ดี ของการซื้อขายที่ทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบาย มั่นใจ และช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งคุณวุฒิวิชาชีพ จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ในการให้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะของผู้ประกอบอาชีพ ที่ไม่เพียงเพิ่มโอกาสการทำงาน แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนตลอดช่วงของการซื้อขาย สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. มีมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบอาชีพในวงการอสังหาฯ อาทิ สาขาวิชาชีพบริหารทรัพย์สิน อาชีพช่างซ่อมบำรุงประจำโครงการที่อยู่อาศัย อาชีพผู้จัดการนิติบุคคลที่อยู่อาศัย อาชีพผู้จัดการอาคารที่อยู่อาศัย สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผังเมือง อาชีพช่างก่ออิฐ ฉาบปูน ช่างเขียนแบบโครงสร้าง เขียนแบบสถาปัตยกรรม และที่สำคัญที่สุด คือสาขาวิชาชีพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ตั้งแต่การตรวจสอบทำเล สภาพแวดล้อม ตรวจสอบทรัพย์ตรวจสอบราคาประเมินทางราชการ วิเคราะห์ตลาด ความสามารถทางการเงิน บริการหลังการขาย ไปจนถึงการดำเนินงานกับลูกค้า และนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่ง สคช. จะเดินหน้าพัฒนาบุคลากรด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอาชีพนายหน้า เพื่อรองรับการกลับมาฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างโอกาสที่นำไปสู่การลงทุนต่อไป 31.10.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร สคช. ร่วมส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร นำโดย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมสาธารณกุศล เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เนื่องในวันครบรอบ 7 ปี แห่งการเสด็จสวรรคต และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสาธารณกุศล ส่งมอบอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับคนไร้บ้าน ณ จุดสวัสดิการคนไร้บ้าน บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนราชดำเนินใน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นางสาวจุลลดา กล่าวว่า จากข้อมูลที่พบว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีคนไร้บ้านไม่น้อยกว่า 1,800 คน ขณะที่คนไร้บ้านทั่วประเทศประมาณ 3,500-4,000 คน ที่ขาดแคลนน้ำ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค สคช. จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้าน ที่ต้องการปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ รับป้ายมืออาชีพ Street Food ย่านถนนข้าวสารมาแล้ว ซึ่งสามารถประกอบอาหารได้อย่างสะอาด ปลอดภัย ตรงตามมาตรฐานกำหนด นั่นหมายความว่าผู้ด้อยโอกาส จะได้รับประทานอาหารที่สะอาด อร่อยและมีคุณภาพด้วย ทั้งนี้ เห็นว่า แม้จะเป็นอาหารเพียงมื้อเดียว แต่ก็ช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ได้อิ่มท้อง เป็นแรงผลักดันให้สามารถดำรงชีวิตต่อไป สำหรับผู้มีจิตกุศล ที่ต้องการส่งมอบอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของให้กับคนไร้บ้าน พื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถประสานกับทางสำนักเขตพระนคร ในการแจกของจุดที่สำนักงานเขตพระนครกำหนด คือ จุดบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และอีกหนึ่งจุดที่ บริเวณซอยสาเก ถนนอัษฏางค์ เพื่อให้บริการสวัสดิการที่ครบวงจรในทุกด้านแก่คนไร้บ้าน ทั้งการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการด้านต่างๆ และการส่งมอบปัจจัยพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 27.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วม..เติมเต็ม Empower การประกอบอาชีพของผู้พิการ ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. ร่วม..เติมเต็ม Empower การประกอบอาชีพของผู้พิการ ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 27 ตุลาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมงานครบรอบ 10 ปี โครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าทำงาน ในสถานประกอบการและการประกอบอาชีพ..เติม เต็ม Empower ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคนพิการให้มีทักษะอาชีพที่สามารถทำงานในสถานประกอบการได้จริง โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน ในการนี้ นางสาวจุลลา ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “เติม...เต็ม Empower” ร่วมกับ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ พร้อมด้วย ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และ อ.สุชาติ เพริศพริ้ง ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมี ผศ.ดร.บุษเกตน์ อินทรปาสาน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ของนักศึกษาและผู้เรียนรู้ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สถาบันฯ เล็งเห็นความสำคัญของผู้พิการ ที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบทางด้านร่างกาย แต่ยังสามารถทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพและครอบครัวได้ สคช. จะร่วมเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญ ในการพัฒนา เสริมทักษะ และความรู้กับผู้พิการตามมาตรฐานอาชีพ ทั้งนี้ ผู้ประกอบอาชีพที่เป็นผู้พิการทุกคน สามารถเข้าสู่การประเมิน เพื่อรับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพได้ โดยที่ผ่านมา สคช. ได้มีการฝึกอบรม ส่งเสริม ให้กับเด็กพิเศษ มีทักษะในเรื่องของการชงกาแฟ เพื่อก้าวสู่การเป็นบาริสต้ามืออาชีพ มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพสาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม สาขาอุตสาหกรรมอาหาร อาชีพผู้ประเมินคุณภาพอาหารด้านประสาทสัมผัส รวมถึงมีการสนับสนุนค่าธรรมเนียมการประเมิน เพื่อให้การเรียนรู้ และบริการต่างๆ สามารถเข้าถึงทุกคน สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ภายในงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการ E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) โดยได้ให้ความสนใจในภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และระบบแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ E-Portfolio แนวทางการสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank ในการนี้ นางสาวจุลลดา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการรับรองคนในอาชีพ ที่จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคน ทุกวัย ในทุกอาชีพ มีสิทธิ์เข้าสู่การวัดระดับความรู้ ความสามารถของตัวเองตามมาตรฐานอาชีพ และมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพต่อไป 27.10.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมวงประชุม Soft Power พร้อมรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้มีฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงผ่านศูนย์บ่มเพาะ OFOS สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมวงประชุม Soft Power พร้อมรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้มีฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงผ่านศูนย์บ่มเพาะ OFOS นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับมอบหมายจากรักษาการผู้อำนวยการสถาบัน เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงการแต่งตั้งอนุกรรมการๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนโครงการรองรับส่งเสริมให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ในประเทศไทยให้มีศักยภาพ สู่เป้าหมายตามนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) และ THACCA ซึ่งจะมีการดำเนินการ 3 ขั้น โดยขั้นที่ 1 การพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ โดยเฟ้นหาคนที่มีความฝันและอยากทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ทุกช่วงอายุ จำนวน 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครัวเรือน โดยแจ้งลงทะเบียนกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขั้นที่ 2 การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ภายในประเทศ 11 ด้าน ประกอบไปด้วย ท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น กีฬา เฟสติวัล ดนตรี ออกแบบ หนังสือ เกม ศิลปะ และภาพยนตร์ และขั้นที่ 3 การนำอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ก้าวสู่เวทีโลก โดยตั้งเป้าภายใน 100 วัน ผู้ที่มีความฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงลงทะเบียนผ่านระบบ โดยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน 1 ล้านครอบครัว โดยผู้ที่มีความฝันจะได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพด้วย ในส่วนของ THACCA จะเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ และผลักดันการก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งจะได้มีการเสนอแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรองรับต่อไป ขณะที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีมาตรฐานอาชีพหลากหลายเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ตาม Quick Win 11 ด้าน ทั้งท่องเที่ยว อาหาร กีฬา ดนตรี เกม ศิลปะและภาพยนตร์ ที่พร้อมให้การรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงมีหลักสูตรการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพผ่านระบบ E-Training อีกกว่า 558 หลักสูตร ซึ่งสอดคล้องกับการ “เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา” และพัฒนาให้เป็นกำลังคนทักษะสูงได้ไปพร้อมกัน 26.10.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับช่างทำผมบุรุษ-สตรี และช่างทำเล็บ สู่การเป็นครูผู้สอน สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับช่างทำผมบุรุษ-สตรี และช่างทำเล็บ สู่การเป็นครูผู้สอน 25 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคล ในสาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวยและเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย อาชีพผู้สอนทำผมบุรุษ อาชีพผู้สอนทำผมบุรุษ-สตรี ผู้สอนทำเล็บ ระดับ 6 พร้อมด้วยช่างทำผมบุรุษ ช่างทำผมสตรี อาชีพช่างสักคิ้ว ช่างทำเล็บ ระดับ 4 และช่างต่อขนตา ระดับ 2 ยกระดับช่างเสริมสวยกว่า 120 คน สู่ความเป็นมืออาชีพ โดยมีนายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล ผู้บริหารโรงเรียนการจัดการวิชาชีพเสริมสวยและความงาม องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ และฐานะนายกสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ (ประเทศไทย) ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ช่างเสริมสวย เป็นหนึ่งในอาชีพอิสระที่ภาครัฐให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีความใกล้ชิดกับสังคมไทยมาต่อเนื่อง ขณะที่การให้บริการของช่างเสริมสวยของไทย ยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติ สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล ดังนั้นการที่ช่างเสริมสวย ไม่ว่าจะเป็น ช่างทำผม ช่างทำเล็บ ช่างสักคิ้ว หรือแม่แต่ช่างต่อขนตา ได้มีโอกาสได้พัฒนาศักยภาพให้มีมาตรฐาน นำไปสู่การยอมรับได้ โดยเฉพาะหากได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญอีกห้างหนึ่ง ที่นอกจากเป็นการยืนยันถึงความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้บริการได้ ยังช่วยสร้างความภาคภูมิใจแล้ว ในการประกอบอาชีพ เพราะแม้บางคนไม่มีต้นทุนทางการศึกษา ก็จะมีคุณวุฒิวิชาชีพที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ อยากให้ช่างเสริมสวยทุกคน หมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี การใช้โซเชียล มีเดีย รวมถึงความเทรนด์ของโลก เพื่อปรับตัวให้รองรับและทันต่อทุกความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนในการประกอบอาชีพต่อไป 25.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี โดยเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี โดยเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบัน เข้าร่วมร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี ในงานดินเนอร์ ทอล์ค Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2024 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังปาฐกถาทิศทางอนาคตประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ว่าเป็นปัญหาใหญ่มากต้องแก้ไข ความขัดแย้ง เป็นเรื่องทางความคิด แต่หลายอย่างเกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ของคนมีกับคนไม่มี ซึ่งต้องช่วยมองอย่างเป็นธรรม คนจะอยู่ไม่ได้ถ้ารัฐบาลไม่ช่วย แต่ภาครัฐจะต้องช่วยอย่างสุจริต กระตุ้นตรงจุด วิธีการชัดเจน เราพยายามเต็มที่ ไม่อยู่บนความขัดแย้ง หลายคนเป็นกำลังใจ หลายคนมีข้อสงสัยไม่มั่นใจทิศทางที่เราไป ความเห็นต่างแต่ต้องอยู่กันให้ได้ แม้รัฐบาลจะเหน็ดเหนื่อยกับการอธิบาย แต่เป็นหน้าที่ เพราะรัฐบาลมีความมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยในทุกมิติ 24.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ 24.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร คอร์สเรียนภาษารุ่น 15 คอร์สเรียนภาษารุ่น 15 24.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ม.เกษตรศาสตร์ พบ สคช. หารือแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านสถานศึกษา และการจัดหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ เพิ่มโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ม.เกษตรศาสตร์ พบ สคช. หารือแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านสถานศึกษา และการจัดหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ เพิ่มโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหาร และคณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย รศ.ดร.ลดาวัลย์ พวงจิตร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พร้อมด้วยผู้บริหารวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ และคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เข้าหารือแนวทางการความร่วมมือ ในการบริหารจัดการเรียนรู้ผ่านสถานศึกษา การจัดทำและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงหารือแนวทางการส่งเสริมให้นิสิต ได้เข้าใช้งานผ่านระบบ E-Workforce Ecosystem Platform นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า รู้สึกยินดี ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนานิสิต นักศึกษา ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง โดยที่ผ่านมา สคช. ได้มีการส่งเสริมให้ภาคการศึกษา นำมาตรฐานอาชีพมาถอดเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ เพื่อจัดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น หรือระยะยาว เพื่อให้นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพไปพร้อมกันด้วย นอกจากนี้ สคช. ยังมีหลักสูตรการเรียนรู้ผ่านระบบ E–Training ให้บริการกว่า 500 หลักสูตร ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะตามมาตรฐานอาชีพ รวมถึงยังสามารถต่อยอดไปสู่ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์ม EWE ในการจัดเก็บข้อมูลด้านกำลังคน การสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank และการฝากประวัติส่วนตัวผ่านแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ E-Portfolio ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับนิสิต นักศึกษา นำไปสู่การมีงานทำ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป 20.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมแสดงความยินดี 62 ปี สถาบันการประชาสัมพันธ์ สคช. ร่วมแสดงความยินดี 62 ปี สถาบันการประชาสัมพันธ์ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 62 ปี วันคล้ายวันก่อตั้งสถาบันการประชาสัมพันธ์ โดยมี นายคเชนทร์ กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนางานเทคนิค รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมบริจาคสมทบทุนเข้ากองทุน “กายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ” ในศิริราชมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่ยากไร้และด้อยโอกาส แทนการมอบกระเช้าและของขวัญแสดงความยินดีอีกด้วย สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากร ในสาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สาขาประชาสัมพันธ์ ประกอบไปด้วย อาชีพนักสื่อสารองค์กรสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ออนไลน์ นักสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ นักวิจัยและประเมินผลการประชาสัมพันธ์ นักสื่อสารกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ และนักบริหารการประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยกันขับเคลื่อนให้นักประชาสัมพันธ์สามารถทำงานได้อย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล แต่ยังส่งเสริมให้มีการสื่อสารข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดรับกับการเติบโตของสื่อโซเชียล มีเดียอีกด้วย 20.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดึง สมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนไทยเป็น Medical Travel Hub สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่าสูง หนุนเป็นผู้นำ Soft Power โลก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดึง สมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนไทยเป็น Medical Travel Hub สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่าสูง หนุนเป็นผู้นำ Soft Power โลก นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานการลงนามความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบัน และนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามความร่วมมือ เพื่อขยายผลความร่วมมือในการส่งเสริม พัฒนา และยกระดับการประกอบอาชีพของประชาชนไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นภายในงาน “GHA x TPQI International Seminar : สานพลังสร้าง Medical Travel Hub สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง” ซึ่งจัดโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับ Global Healthcare Accreditation (GHA) และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล นายนคร ระบุถึงความร่วมมือกับสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ว่าเป็นการร่วมกันยกระดับการประกอบอาชีพให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยขับเคลื่อนผ่าน อบจ.ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นผู้มีจิตสาธารณะในการดูแลประชาชน ควรมีโอกาสได้รับการพัฒนายกระดับความรู้เชิงการแพทย์ในการให้บริการด้วย เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ หรือ Medical Travel Hub ซึ่งเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนการเป็นผู้นำด้าน Soft Power ของโลกตามแนวนโยบายรัฐบาล ด้านนางสาวจุลลดา ระบุว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Wellness and Medical Tourism) จะเป็นช่องทางสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงได้ และท้องถิ่น ชุมชน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปถึงจุดหมายนั้น โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ครบทุกมิติทั้งด้านความเป็นอยู่ การศึกษา และสุขภาพ ความร่วมมือครั้งนี้จึงจะต่อยอดพัฒนาประชาชนในทุกมิติได้เช่นกัน หลังจากนี้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีแผนขับเคลื่อนร่วมกับ อบจ. ทุกแห่งส่งเสริมให้เกิดการนำมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้อง ไปพัฒนาผู้ประกอบอาชีพในท้องถิ่น ให้สอดคล้องความต้องการตามบริบทของแต่ละพื้นที่ต่อไป เนื่องจากการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่คนในท้องถิ่น เป็นเสมือนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพกำลังคนในการทำงาน ไม่เพียงเท่านั้นสังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ และผู้สูงอายุส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในท้องถิ่นตามภูมิภาคต่างๆ การมีช่องทางในการพัฒนาหรือส่งเสริมการประกอบอาชีพใหม่ให้คนเหล่านี้ จะช่วยแก้ปัญหาภาระในครัวเรือน ลดภาระการใช้จ่ายงบประมาณ แต่สามารถเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้สูงวัยเหล่านั้นด้วย นายบุญชู กล่าวย้ำในนามของผู้ดูแลสุขภาพประชาชนที่มีเจตนารมณ์ขับเคลื่อนให้รัฐบาลมีนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จนกระทั่งถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้อยู่ในความดูแลของ อบจ. โดยมีจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่นำร่องนั้น เชื่อว่าความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่ม อสม. ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้อื่น ก็ควรอยู่ในฐานะผู้ที่ได้รับการดูแลด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะส่งเสริมอาชีพ หรือพัฒนาให้เขาเหล่านั้นสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีมาตรฐาน จนนำไปสู่การยกระดับค่าตอบแทนให้สูงขึ้น เมื่อคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ดีขึ้น ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การขับเคลื่อนตามแนวนโยบายรัฐบาลแข็งแรงในทุกด้านเช่นกัน ทั้งนี้ในงานยังได้มีการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ ภายใต้แนวทางการมุ่งการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ด้วยการขับเคลื่อนสถานประกอบการในธุรกิจสถานพยาบาล โรงแรม และธุรกิจบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ประโยชน์ในการฝึกอบรมและพัฒนากำลังแรงงานในสถานประกอบการ ซึ่งมีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้นแบบในการนำมาตรฐานอาชีพไปใช้พัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ ทั้งนี้การจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการให้บริการการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ อาชีพนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) เป็นการประยุกต์นำมาตรฐานของ GHA ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการบริการสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อการรักษาพยาบาล (Medical Travel) ที่ได้รับการยอมรับจาก World Medical Association ว่าเป็นมาตรฐานที่จำเพาะเจาะจงต่อผู้ป่วยที่เดินทางเพื่อการรักษาพยาบาล และไม่ได้มีเพียงการดูแลผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการต้อนรับ การบริการผู้ป่วย รวมไปถึงช่วยพัฒนาธุรกิจการให้บริการผู้ป่วยอย่างยั่งยืน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมูลค่าสูงให้กับประเทศต่อไปได้ 18.10.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. พร้อมหนุน ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ สคช. พร้อมหนุน ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบหนังสือรับรองหลักสูตรฝึกอบรมในสถานประกอบการหลักสูตร Wellness Coaching Program ของบริษัท พานาซี เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมอบให้กับคุณศิริญา เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและประเมินหลักสูตรดังกล่าว มีช่องทางในการได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในอาชีพนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) ต่อไป โดยนางสาววรชนาธิป ระบุว่าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ เป็นโอกาสในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมูลค่าสูงจากการท่องเที่ยว ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจะช่วยสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพพื้นฐานและวางแผนการท่องเที่ยวให้ตอบรับกับตลาดแรงงาน มีการให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อันจะนำไปสู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ โดยวันที่ 18 ตุลาคมนี้ สคช. ได้ร่วมกับ Global Healthcare Accreditation จัดการประชุม “GHA x TPQI International Seminar: สานพลังสร้าง Medical Travel Hub สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง” ส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงการแพทย์ให้มีสมรรถนะการทำงานที่เป็นมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 17.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมแสดงความยินดี 22 ปี คมชัดลึก สคช. ร่วมแสดงความยินดี 22 ปี คมชัดลึก นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาส ครบรอบ 22 ปี คมชัดลึก โดยมี นายปิยวิทย์ ดำรงสัตย์ กรรมการผู้จัดการคมชัดลึก ให้การต้อนรับ ณ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ บางนา กรุงเทพมหานคร นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ สคช. ได้มาร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 22 คมชัดลึก และอวยพรให้เป็นสื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวสารที่มีคุณภาพ พร้อมส่งเสริมสังคมไทยเป็นสังคมแห่งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลต่อไป 16.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ประกาศองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มงานปฏิบัติการ ประกาศองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มงานปฏิบัติการ 12.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของสมาคมโรงแรมไทย ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของสมาคมโรงแรมไทย 09.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด 09.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผลลัพธ์ของการมีคุณวุฒิวิชาชีพ ของ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) 09.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. พร้อมยกระดับคุณภาพมัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. พร้อมยกระดับคุณภาพมัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ นายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เข้าพบนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กับมัคคุเทศก์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสมาชิกสมาคมมัคคุเทศก์ เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการให้แก่นักท่องเที่ยว นายวัสน์พล ระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับอาชีพมัคคุเทศก์ในปัจจุบันคือ ความเป็นมืออาชีพที่มีคุณภาพ ทั้งความรู้ ความถูกต้อง และภาษา โดยเฉพาะมัคคุเทศก์รุ่นใหม่ที่หลายคนแม้จะมีการทดสอบได้บัตรมัคคุเทศก์ แต่ความรู้ที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อการให้บริการ ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไม่ครบถ้วน รวมถึงมีปัญหาการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มัคคุเทศก์ไม่พัฒนาคือ Sitting Guide คือคนที่มีบัตรมัคคุเทศก์ แต่ไม่มีความสามารถด้านภาษา ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ และรับจ้างนั่งประจำบนรถ โดยให้ต่างชาติทำหน้าที่มัคคุเทศก์สื่อสารแทน ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่หากมัคคุเทศก์ที่ผ่านการรับรองโดยหน่วยงานรัฐ ก็จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นในบริการให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น นอกจากนี้อยากให้ สคช. จัดอบรมอาชีพเสริมให้กับมัคคุเทศก์ เพื่อรองรับทั้งมัคคุเทศก์ที่อาวุโส และช่วงการท่องเที่ยวซบเซาที่อาจทำให้คนในอาชีพต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน นางสาววรชนาธิป ย้ำว่า ที่ผ่านมา สคช. เปิดกว้างในการให้บริการให้กับผู้ประกอบอาชีพทุกคน ด้วยการจัดอบรมในอาชีพที่หลากหลาย ทั้งระบบออนไลน์ และออนไซต์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผู้ที่สนใจไม่ว่าจะเป็นมัคคุเทศก์หรือคนในอาชีพต่างๆ ก็สามารถเข้าใช้บริการอบรมพัฒนาความรู้ และทักษะสร้างอาชีพเสริมกับ สคช. ได้ผ่านระบบ E-Training ที่สำคัญ สคช. ให้การรับรองคนในอาชีพด้วยคุณวุฒิวิชาชีพในหลากหลายอาชีพ ซึ่งมัคคุเทศก์ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพอยู่แล้วและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนให้เกิดการประเมินและรับรองคนกลุ่มนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจในอันดับต้นๆ ของประเทศ และมัคคุเทศก์ก็มีส่วนสำคัญที่จะสร้างความประทับใจและภาพลักษณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ก็เป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยสื่อสารสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย สคช. จึงพร้อมสนับสนุนให้เกิดการรับรองและยกระดับคุณภาพให้แก่มัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ 05.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. – กรมการจัดหางาน แนะช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เข้าโครงการ IM Japan จำนวน 100 คน ประกอบด้วยผู้เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น / ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และ ผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ สคช. – กรมการจัดหางาน แนะช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เข้าโครงการ IM Japan จำนวน 100 คน ประกอบด้วยผู้เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น / ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และ ผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นำโดยนางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบัน ร่วมกับผู้แทนกรมการจัดหางาน และ IM Japan เข้าแนะนำช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกจาก IM Japan ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม EWE และ E-Portfolio โดยได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เข้ารับการฝีกอบรมก่อนเดินทางไปฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น ผ่านองค์กร IM Japan มีระยะเวลาฝึกปฏิบัติงานฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ในประเภทอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง ซึ่งมีอยู่ราว 100 คน ที่อยู่ระหว่างการฝึกอบรม โดยจะมีอย่างน้อย 30 คน ที่เตรียมเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงานโดยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถใช้ช่องทางต่างๆ จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ในการเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพ ทั้งจากการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรต่างๆ ในระบบ E-Training ผ่านแพลตฟอร์ม EWE ซึ่งมีกว่า 500 หลักสูตร โดยชุดฝึกอบรมเป็นสื่อการเรียนรู้ตามมาตรฐานอาชีพในการเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นการ Up-skill และ Re-skill ในด้านทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมหลักสูตรการฝึกอบรมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่ช่วยในการพัฒนาตนเองให้กับสมาชิกผู้ใช้บริการได้ นอกจากนี้ยังได้แนะนำการเข้าใช้ E-Portfolio ในการเก็บประวัติสะสมผลงาน เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการทำงานเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย รวมถึงสามารถขอทดสอบประเมินในสมรรถนะต่างๆ ตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อสะสมและขอรับคุณวุฒิวิชาชีพ อีกทั้งยังมีโอกาสในการนำไปเทียบเคียงกับคุณวุฒิทางการศึกษาได้เมื่อต้องการ โดยผู้เข้าอบรมได้ให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะการฝึกอบรมฟรีในหลักสูตรต่างๆ ที่มีในแพลตฟอร์ม EWE 02.10.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช.ร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย (B.A.E.Thailand) และ OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย (B.A.E.Thailand) และ OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP ณ โรงแรม แกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพ นางสาววรชนาธิป ระบุว่า องค์กร OMC เป็นองค์กรการแข่งขันด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดและมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน จาก 5 ทวีปทั่วโลก มีองค์กรและสมาคมจากนานาประเทศกว่า 50 ประเทศ เข้าร่วมเป็นสมาชิก และได้มีการจัดแข่งขันชิงแชมป์หาผู้ชนะเพื่อส่งไปแข่งชิงแชมป์ระดับโลก ณ กรุงปารีส เป็นประจำทุกปี โดยประเทศไทยมีนางสาวสมเพชร ศรีชัยโย นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย และเป็นผู้บริหารโรงเรียนเสริมสวยและออกแบบทรงผมนานาชาติณรงค์ ในฐานะเป็นผู้แทนองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย กับสถาบันคุณวุฒวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธาน OMC THAILAND ประจำประเทศไทย จึงจะเป็นอีกการขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจเสริมสวยให้มีมาตรฐานอาชีพ ซึ่งประธาน OMC THAILAND ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่าเตรียมจัดการแข่งขัน OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP เทศกาลงานแฟชั่นโชว์ศิลปะและความงามระดับโลก ในวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ไอคอนสยาม โดยจะมีการแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดมืออาชีพในธุรกิจเสริมสวย อาทิ การตกแต่งทรงผมชาย ทำผมแฟนซี การแต่งหน้า แต่งเล็บ เพ้นท์คิ้ว ซึ่งไม่เพียงจะเป็นการผลักดันให้บุคลากในอาชีพนี้เป็นมืออาชีพระดับมาตรฐานที่สากลยอมรับ แต่ยังเป็นการยกระดับให้ศิลปะแขนงนี้เป็น Soft Power ของไทยที่สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศได้ด้วย เพราะอาชีพเสริมสวยเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่แม้แต่ AI ก็แทนที่ไม่ได้ 28.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช.ประชุม คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สมรรถนะ และสมรรนะสนับสนุนการทำงานนัดแรก เพื่อหารือแนวทางการพัฒนากำลังคน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานการประชุม คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สมรรถนะ และสมรรนะสนับสนุนการทำงานนัดแรก เพื่อหารือแนวทางการพัฒนากำลังคน โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้งนี้คณะทำงานดังกล่าว จะช่วยเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพดำเนินการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ หนังสือรับรองสมรรถนะ และหนังสือรับรองสมรรถนะสนับสนุนการทำงานของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานศึกษา องค์กรที่ทำหน้าที่ฝึกอบรม องค์กรที่ทำหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ หรือสถานประกอบการ จัดทำหรือปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ หลักสูตรฝึกอบรม สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันให้มีการนำมาตรฐานอาชีพ หรือสมรรถนะสนับสนุนการทำงานไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนากำลังคน เสนอแนะด้านการประกันคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมให้มีการเข้าระบบ E-Portfolio บนแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem หรือ EWE เพื่อนำไปสู่การพัฒนากำลังคนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต 20.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมประชุมขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) สู่การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ สคช. ร่วมประชุมขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) สู่การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ร่วมประชุมทางวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน และมีนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับ นางสาวจุลลา ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากลของหน่วยผลิตและพัฒนากำลังคน” ร่วมกับ ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมี ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม กรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สคช. มีกลไกการพัฒนากำลังคนของประเทศ ด้วยการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) ที่สามารถสะท้อนความต้องการของสถานประกอบการได้ นอกจากเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ พร้อมนำไปสู่เส้นทางการพัฒนา สร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพได้แล้ว ที่ผ่านมา สคช. ยังได้มีการส่งเสริมให้ภาคการศึกษา นำมาตรฐานอาชีพมาถอดเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพื่อจัดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น หรือระยะยาว ก่อนจะผลักดันให้นักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ได้มีโอกาสรับคุณวุฒิวิชาชีพ นอกจากนี้ ในปี 2567-2569 สคช. จะมีการกำหนดมาตรฐานอาชีพนำร่อง ที่สามารถเทียบเคียงระดับอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับกำลังคนของประเทศในอนาคต ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยนางสาวจุลลดา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานอาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาคการศึกษา ในการพัฒนาหลักสูตรให้ยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem (EWE) ในการจัดเก็บข้อมูลด้านกำลังคน การสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank และการฝากประวัติส่วนตัวผ่านแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ E-Portfolio ซึ่งจะนำไปสู่การมีงานทำ และนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป 19.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ยก อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ ครั้งแรกของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขท้องถิ่น รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ สคช. ยก อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ ครั้งแรกของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขท้องถิ่น รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ใน 12 ตำบลของจังหวัดสระบุรี ประกอบไปด้วยตำบลทับกวาง หนองแซง ตลิ่งชัน หนองสรวง ปากข้าวสาร วิหารแดง ดาวเรือง เสาไห้ หนองปลาไหล ไก่เส่า นาโฉง และตำบลหัวปลวก ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาบริการสุขภาพ อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 จากโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลาตามมาตรฐานอาชีพ จำนวน 300 คน โดยมี นายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายขุนทอง แสนวิเศษ รองนายกฯ นางทิตยาพร เพชรประดับ รองปลัดฯ นายเอกพร จุ้ยสำราญ ผู้เชี่ยวชาญและอดีตรองผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี ดร.ณรงค์ศักดิ์ อุ้ย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี และ ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า จากข้อมูลการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย พบว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุมีมากกว่า 12 ล้านคน ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ ให้มีความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ดูแลขั้นพื้นฐาน โภชนาการ ดูแลทำความสะอาดร่างกายผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ กลุ่ม อสม. จะถือเป็นบุคลากรด่านหน้าด้าน ที่มีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้มีแรงเสริมในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับความสำเร็จในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ อสม. ที่จะมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา สามารถใช้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุได้อย่างมืออาชีพ นายธนกฤต กล่าวว่า อบจ.สระบุรี ให้ความสำคัญกับกลุ่ม อสม. ที่ถือเป็นผู้นำด้านสุขภาพ นักบริบาล และจิตอาสา ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้านสาธารณสุข ให้กับประชาชนในชุมชน ขณะที่หลังจากนี้ จะมีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใน 30 ตำบลให้ อบจ. สระบุรีกำกับดูแล การยกระดับให้คนกลุ่มนี้ไม่เพียงส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้ตรงตามมาตรฐาน นำไปสู่การต่อยอดในการเพิ่มรายได้แล้ว แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่ได้รับการดูแล นำไปสู่การสร้างสุขภาวะที่ดี ให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างมีมาตรฐาน สำหรับจังหวัดสระบุรี นับเป็นพื้นที่ต้นแบบในการยกระดับความรู้ ความสามารถเพิ่มศักยภาพ และได้การรับรองประสบการณ์ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทั้งนี้ ได้เตรียมขยายผลไปยังอสม. ในจังหวัดอื่นๆ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ให้มีโอกาสได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป 18.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. หนุนนโยบายรัฐบาล ดันสตรีทฟู้ดขึ้นแท่น soft power ประเดิมมอบป้ายมืออาชีพการันตีมาตรฐานผู้ประกอบอาหารถนนข้าวสาร สคช. หนุนนโยบายรัฐบาล ดันสตรีทฟู้ดขึ้นแท่น soft power ประเดิมมอบป้ายมืออาชีพการันตีมาตรฐานผู้ประกอบอาหารถนนข้าวสาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนายสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ 1 กรุงเทพมหานคร นางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถนนข้าวสาร และ นางสาวกัญณัฐสินี ธีร์วุฒิพร Miss Tourism World Thailand 2021 ร่วมมอบป้ายมืออาชีพให้ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี หรือสตรีทฟู้ด ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านการประเมินตามมาตรฐานอาชีพจำนวน 42 คน จาก 34 ร้านค้า นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกับ กทม. และธนาคารออมสิน จัดการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพให้กับผู้ค้า ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีถนนข้าวสาร ซึ่งป้ายมืออาชีพจะเป็นเครื่องหมายการันตีถึงความสะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานการปรุง ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว ซึ่งถนนข้าวสารเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพมหานคร ที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมา การส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาหารสตรีทฟู้ดปรุงอย่างมีมาตรฐาน มีช่องทางในการพัฒนาความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพต่อยอดการเรียนรู้ และแหล่งเงินทุน นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในครัวเรือน โดยเฉพาะเป็นการผลักดันให้อาหารไทยเป็น Soft Power ของไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก อันจะเป็นการส่งเสริมและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศตามแนวนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ประธานชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถนนข้าวสาร กล่าวว่า ถนนข้าวสาร แม้จะเป็นถนนเล็กๆ สายหนึ่ง แต่กลับเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็กเกอร์ชาวต่างชาติ เต็มไปด้วยอาหารสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อมากมาย ความสะอาด ปลอดภัย ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ป้ายมืออาชีพจะเป็นการยกระดับผู้ประกอบการอาหารสตรีทฟู้ด ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามระเบียบของ กทม. รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและผู้บริโภค ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ผู้ที่ผ่านการประเมินเป็นมืออาชีพสตรีทฟู้ด สามารถนำประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะ เป็นเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน ตามโครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพ และสินเชื่อสตรีทฟู้ด กับธนาคารออมสินได้ โดยที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้กับมืออาชีพ ไปแล้วกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่อยู่ในทุกอาชีพ มีโอกาสต่อยอดในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นได้ 15.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร รองผู้ว่าการฝ่ายวิชาการ และผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบิน รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร รองผู้ว่าการฝ่ายวิชาการ และผู้อำนวยการศูนย์ฝึกการบิน 14.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงาน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำ สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงาน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำ 12 กันยายน 2566 นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ระบบคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อการส่งเสริมการมีงานทำ โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นผู้จรดปลายปากกา ท่ามกลางสักขีพยาน ประกอบไปด้วย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นายวิชิต อินทรเจริญ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน และผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงาน นายนคร กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้นำศักยภาพ มาร่วมกันผลักดันให้กำลังแรงงานของประเทศ สามารถการเข้าถึงโอกาสการใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ให้การรับรองความรู้ ความสามารถ ของผู้ประกอบอาชีพ นำไปสู่การมีงานทำ รวมทั้งส่งเสริมให้กำลังแรงงานปรับตัวให้เข้ากับตลาดแรงงานในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงแหล่งงาน ภายใต้หลักการจ้างงานอย่างมีจริยธรรม และรับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมต่อไป นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีการทำงานร่วมกันกับกรมการจัดหางานอย่างต่อเนื่อง และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน E-Workforce Ecosystem (EWE) ทั้งระบบไทยมีงานทำ และระบบแนะแนวอาชีพ สำหรับบทบาทของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ จะมีการส่งเสริมการใช้นวัตกรรม โดยนำระบบการเรียนรู้สมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพอิเล็กทรอนิกส์ (E–Training) ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการเพื่อจัดทำข้อมูล ด้านการแนะแนวและการส่งเสริมการประกอบอาชีพ สนับสนุนมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ รวมถึงผลักดันให้แรงงานไทย ที่กลับจากการทำงานในต่างประเทศ เข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน มีความยินดี ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ สคช. ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนด้านวิชาการ เพื่อพัฒนามาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาธุรกิจบริการ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ เพื่อยกระดับสมรรถนะของผู้ประกอบอาชีพ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการตระหนักถึงการจ้างงานอย่างมีจริยธรรมต่อไป 12.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. – depa ประกาศความร่วมมือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตอกย้ำความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล สคช. – depa ประกาศความร่วมมือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตอกย้ำความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จรดปากกาลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล สำหรับบริการประชาชน โดยมีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่าที่ผ่านมา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้มีการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงานไปแล้วกว่า 4 แสนคน พร้อมผลักดันให้คนทำงาน และนักศึกษา ได้มีการเก็บสะสมเป็นรายสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ ก่อนรับการรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ โดยในปี 2567 สคช. จะมีช่องทางใหม่ในการเปิดหน่วยฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ พร้อม E-Coupon เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งความร่วมมือกับ depa จะสามารถให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem หรือ EWE ไม่ว่าจะเป็น ระบบ E-portfolio ที่สามารถเก็บประวัติ ข้อมูลวุฒิการศึกษา ผลงานประสบการณ์ทำงาน และการฝึกอบรม ระบบจับคู่งาน Job Matching ระบบแนะแนวอาชีพและค้นหาทักษะ Career Guidance and Skill Check ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Digital Competency Bank รวมไปถึงฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพทั้งหมด มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผล ด้วยระบบที่มีความมั่นคงปลอดภัย เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะมีการจัดเก็บอย่างปลอดภัยต่อไป นานณัฐพล กล่าวว่า depa ได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อการบริการประชาชน ที่ผ่านมาได้มีหารือร่วมกับ สคช. เกี่ยวกับ Certificate และการทำ Blockchain เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งหลังจากความร่วมมือครั้งนี้จะมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับ สคช. เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนต่อไป สำหรับความร่วมมือตาม MOU ของสองหน่วยงานครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับบริการประชาชน หรือบริการสาธารณะบนพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาบุคลากร ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ด้านความมั่นคงปลอดภัยข้อมูล (Data Security) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) รวมถึงร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลให้กับประชาชน 11.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ขยายเครือข่าย จับมือ ม.อีสเทิร์นเอเชีย Log In แพลตฟอร์ม EWE เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนของประเทศ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ขยายเครือข่าย จับมือ ม.อีสเทิร์นเอเชีย Log In แพลตฟอร์ม EWE เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนของประเทศ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จับมือ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนากำลังคนผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพและระบบ E-Workforce Ecosystem โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย ดร.โชติรัส ชวนิชย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย เป็นผู้จรดปากกาลงนาม มีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และ ดร.สุชัย พงษ์พากเพียร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากทั้ง 2 ฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน จะเป็นอีกครั้งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังคน ในการร่วมกันเชื่อมโยงคุณวุฒิวิชาชีพกับคุณวุฒิการศึกษา พร้อมวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ ที่นักศึกษาสามารถสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank ที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ตลอดจนส่งเสริมการเข้าใช้งานระบบ E-Portfolio ซึ่งในอนาคตจะมีระบบ E-Coupon ที่จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม Up-skill Re-skill อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ถูกรวบรวมไว้บน E-Workforce Ecosystem เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต Life Long Learning ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในวัยเกษียณ ก็จะมีความรู้ติดตัว เป็นผู้สูงวัยที่มีความตื่นตัว ทันโลกทันสมัยตลอดเวลา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย กล่าวว่า แนวทางของ สคช. เป็นการพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์เทรนด์ของปัจจุบัน โดยเฉพาะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ที่ส่วนใหญ่แล้วเรียนจบ จะไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น แต่จะมองหาการรับรองในวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ขณะที่เป็นไปตามเทรนด์สากลที่มีการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพ ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย พร้อมเข้าสู่โลกของการทำงานในอนาคตต่อไป 11.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. เยือนสิงคโปร์ ร่วมเวที ICDL Digital Literacy Day โชว์ศักยภาพการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล สคช. เยือนสิงคโปร์ ร่วมเวที ICDL Digital Literacy Day โชว์ศักยภาพการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมงาน 2023 ICDL Digital Literacy Day และ ICDL Digital Challenge 2023 Award Ceremony ณ SIM Global Education, Singapore Institute of Management (SIM) ประเทศสิงคโปร์ พร้อมเป็นบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนกำลังคนด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล หัวข้อ Accelerating Digital Skill in Thailand -Good Practices and Challenges และระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน และการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย E- Workforce Ecosystem Platform จากนั้นได้เข้าศึกษาดูงานที่ SIM University Tour นำโดย SIM student Ambassadors และเข้าฟังบรรยาย"Digital Changes and Effects of Singapore Global Education" โดย Dr.Timothy Chan, Provorst of SIM Singapore Institute of Management, Global Education ทั้งนี้ จากการศึกษาดูงานดังกล่าว ได้เตรียมนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อการพัฒนาการทำงานของ สคช. ต่อไป 07.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้เข้าพบนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. คนใหม่ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้เข้าพบนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. คนใหม่ ณ สำนักงานใหญ่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี ซึ่งได้มีการพูดคุยแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน หลัง ททท. ได้รับแนวทางจากรัฐบาลในการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยว และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นพันธมิตรที่ดีจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพด้วย ซึ่งนางสาววรชนาธิป ได้แสดงความพร้อมให้ความร่วมมือกับ ททท. ในการผลักดันและสนับสนุนการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยได้เติบโตในอนาคตต่อไป 07.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ม.ขอนแก่น ดูงาน สคช. เจาะลึกแนวทางการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ เพิ่มโอกาสให้นักศึกษารับคุณวุฒิวิชาชีพ ม.ขอนแก่น ดูงาน สคช. เจาะลึกแนวทางการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ เพิ่มโอกาสให้นักศึกษารับคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหาร และคณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.น.สพ.ดร.ชูชาติ กมลเลิศ ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เข้าศึกษาแนวทางการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรตามความสอดคล้องของมาตรฐานอาชีพ ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ตามโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อม และพัฒนาศักยภาพทางการจัดการการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Education) นางสาววรชนาธิป กล่าวถึงการจัดทำมาตรฐานอาชีพ ของ สคช. ว่ามีการจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในอาชีพ สามารถสะท้อนความต้องการของสถานประกอบการได้ และยังเป็นกลไกในการรับรองความสามารถของคน ว่าสามารถทำงานได้จริง นำไปสู่เส้นทางการพัฒนา สร้างความก้าวหน้าในการทำงานได้ ขณะที่แนวทางการพิจารณาความสอดคล้องของหลักสูตร ที่ผ่านมา สคช. ได้ทำงานร่วมกับภาคการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอาชีวศึกษา และโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ที่ได้มีการนำมาตรฐานอาชีพจาก สคช. เป็นสารตั้งต้น ในการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความสอดคล้องกัน พร้อมผลักดันให้นักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ได้มีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นการรับรองในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ 06.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมเปิดงาน Bio Asia Pacific 2023 หนุนอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์-การแพทย์-สุขภาพของไทย เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค สคช. ร่วมเปิดงาน Bio Asia Pacific 2023 หนุนอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์-การแพทย์-สุขภาพของไทย เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงาน Bio Asia Pacific 2023 ภายใต้แนวคิด Partnership & Collaboration : Bring it to Life จัดโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือทีเซลส์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิก (VNU ASIA PACIFIC) และภาคีเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อสร้าง Life Sciences Ecosystem ที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ การแพทย์และสุขภาพ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทย โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษ Life Sciences Outlook ท่ามกลางผู้ประกอบการ นักวิจัย นักลงทุน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ในระดับนานาชาติ เข้าร่วม สำหรับการจัดงาน Bio Asia Pacific 2023 เป็นการยกระดับและส่งเสริมอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ การแพทย์ และสุขภาพ โดยทีเซลส์ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่าง นักวิจัย กลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่ม Startup กลุ่ม SMEs และกลุ่มนักลงทุน เพื่อผลักดันให้ชีววิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงในมิติทางสังคม ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่สามารถรองรับประชาชนได้ทุกช่วงวัย 06.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. แถลงผลการดำเนินงาน 365 วัน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เตรียมพร้อมมาตรฐานอาชีพดัน Soft Power ไทย ให้ครองใจคนทั้งโลก สคช. แถลงผลการดำเนินงาน 365 วัน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เตรียมพร้อมมาตรฐานอาชีพดัน Soft Power ไทย ให้ครองใจคนทั้งโลก 5 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะสุโกศลกรุงเทพมหานคร นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำแถลงผลการดำเนินงาน 365 วัน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยระบุว่าในปี 2566 สถาบันได้มีกลไกขับเคลื่อนเพื่อเปิดโอกาสให้กำลังแรงงาน ได้เข้าถึงการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความสามารถในการประกอบอาชีพ ด้วยการวัดระดับจากมาตรฐานอาชีพ ที่ถูกกำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญเจ้าของอาชีพ ครอบคลุมทั้งธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการผลิต และการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย แล้วรวม 52 สาขาวิชาชีพ มากกว่า 1,000 อาชีพโดยในปี 2566 มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพใหม่จำนวน 28 อาชีพ อาทิ สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล อาชีพเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ และอาชีพผู้ประนอม (Mediator) เป็นต้น และมีการทบทวนมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ จำนวน 410 อาชีพ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการและความเปลี่ยนแปลงของโลก ขณะที่ในปีที่ผ่านมามีการรับรองมาตรฐานอาชีพของต่างประเทศเพิ่มเติม 1 มาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ ซึ่งอ้างอิงมาตรฐานสากล IRIS ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพ ได้เข้าใจถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ ช่วยแก้ปัญหาแรงงานต้องอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ แสวงประโยชน์ และแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่า ในปี 2566 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมีการให้คุณวุฒิวิชาชีพแก่กำลังคนไปแล้วกว่า 43,950คน ล่าสุดมีการประเมินอีกหนึ่งอาชีพสำคัญที่แม้แต่ AI ก็แทนที่ไม่ได้ ก็คืออาชีพควาญช้าง ที่เป็นการรับรองความสามารถ ความเชี่ยวชาญในอาชีพควาญช้างเป็นครั้งแรกของโลก ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ของไทย ในการถ่ายทอดประเพณี วัฒธรรม การเลี้ยงช้างที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่การรับรองควาญช้าง ในปีทีผ่านมา สคช. ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดัน Soft Power อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น อาหาร การออกแบบ เทศกาล ประเพณี ศิลปะป้องกันตัว รวมถึงภาพยนตร์ โดย สคช. มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพผู้ตัดสินมวยไทย และแผนการจัดทำมาตรฐานอาชีพนักเขียนบท จากแนวทางในการพัฒนานักเขียนบท เพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมครีเอทีฟคอนเทนต์ ที่ได้เชิญ Park Jae Bum นักเขียนบทชื่อดังจากสาธารณรัฐเกาหลี มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางการผลักดันให้อุตสาหกรรมบันเทิงเป็น Soft Power ของประเทศ นอกจากนี้ มีความร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้วยการเชื่อมโยงและให้การยอมรับมาตรฐานอาชีพกับมาตรฐานฝีมือแรงงาน แล้วอย่างน้อย 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ รวมถึงขยายการยอมรับในกระบวนการของระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปยังสถานประกอบการ สร้างเป็น Best Practice ในการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพพัฒนา เสริมศักยภาพกำลังคนในสถานประกอบการ และการจัดทำมาตรฐานอาชีพสำหรับสถานประกอบการเอง โดยมีสถานประกอบการอย่างน้อย 19 แห่ง ที่สถาบันฯ พิจารณาเนื้อหาหลักสูตรการฝึกอบรมของสถานประกอบการ เพื่อนำไปสู่การให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ แล้ว ตามข้อบังคับคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะสำหรับ สถานประกอบการอาทิ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์ซัม อะคาเดมี่ (ประเทศไทย), บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์, บริษัท ฟู้ดแพชชัน เป็นต้น เพื่อให้การพัฒนากำลังคนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สคช. ได้มีการจัดตั้งและขับเคลื่อนการดำเนินงานคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนากำลังคนในวิชาชีพ (Industry Competency Board) เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนในประเทศ จำนวน 8 คณะ คือด้านโลจิสติกส์ ด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล ด้านอุตสาหกรรมบริการสุขภาพและบริการทางการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ด้านอุตสาหกรรมพลังงานและพลังงานทดแทน ด้านอุตสาหกรรมอาหาร ด้านการเกษตร และด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นำไปสู่การรับรอง และการจัดทำหลักสูตรสำหรับฝึกอบรมตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การพัฒนาสมรรถนะบุคคลด้วยนวัตกรรมสคช. ได้ส่งเสริมให้เกิดการฝึกอบรมด้วยตัวเองได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอบโจทย์การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ด้วยการพัฒนาระบบ E-Training การจัดทำชุดฝึกอบรมและสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ตามมาตรฐานอาชีพ 40 ชุดฝึกอบรม เช่น สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล อาชีพนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) อาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านวิศวกรรมข้อมูล, สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน อาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นต้น (รวมทั้งสิ้น มีหลักสูตรการอบรมแล้วกว่า 558 หลักสูตร) มีผู้เข้าใช้ระบบ E-Trainingในการฝึกอบรมากกว่า 100,574 คน สคช. ยังเดินหน้าพัฒนาระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศเกี่ยวกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อการพัฒนากำลังคนของประเทศทุกช่วงวัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศ E-Workforce Ecosystem ปัจจุบันมีผู้เข้าใช้งานแพลตฟอร์มแล้วกว่า 50,000 คน ซึ่งในแพลตฟอร์ม ก็มีบริการทั้ง แฟ้มสะสมผลงาน E-Portfolio, บริการแนะแนวอาชีพ – ค้นหาทักษะ, สั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้, หลักสูตรฝึกอบรม, คูปองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต, ระบบจับคู่งาน และบริการข้อมูลด้านกำลังคน ทั้งหมดล้วนนำไปสู่กลไกระบบพื้นฐานเพื่อการพัฒนากำลังคนของประเทศตลอดชีวิต ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการที่ยกระดับคุณภาพกำลังแรงงานเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยต่อไป 05.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. พลิกโฉม สู่เส้นทางใหม่ในการให้คุณวุฒิวิชาชีพ เปิดช่องให้คุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับกำลังคนของประเทศ สคช. พลิกโฉม สู่เส้นทางใหม่ในการให้คุณวุฒิวิชาชีพ เปิดช่องให้คุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับกำลังคนของประเทศ 5 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะสุโกศลกรุงเทพมหานคร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ระดมพล จัดงาน “พลิกโฉมองค์กรรับรอง สู่เส้นทางใหม่ในการให้คุณวุฒิวิชาชีพ” ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้แก่องค์กรรับรองเพื่อการรับรองกำลังคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ หลังมีการปรับหลักเกณฑ์ข้อบังคับใหม่เปิดช่องในการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพใหม่ถึง 6 ช่องทาง โดยมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน มีผู้แทนองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ หรือ CB, ผู้เชี่ยวชาญตรวจประเมินองค์กร (Assessor) ผู้แทนองค์กรหรือหน่วยงานที่สนใจเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรอง รวมถึงตัวแทนจากองค์กรหรือหน่วยงานที่สนใจเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม เข้าร่วมในงาน นายนคร กล่าวว่า ปัจจุบัน สคช. มีองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ รวม 318 แห่ง ในทุกภูมิภาค มีผู้ตรวจประเมินองค์กร หรือ Assessor จำนวน 1,547 คน สามารถผลักดันให้กำลังแรงงานของประเทศได้รับคุณวุฒิวิชาชีพแล้วถึง 177,012 คน การประชุมในวันนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ปรับตัวพร้อมรับตามแนวทางการดำเนินงานที่เปิดช่องทางให้กำลังคนมีโอกาสได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพได้กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาองค์กรไปเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมในหลักสูตรที่สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ โดยมีสถาบันให้การรับรองหลักสูตรนั้นๆ จนท้ายที่สุดกำลังแรงงานที่อยู่ในทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพอย่างสูงสุด นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ บอกว่าการประชุม“พลิกโฉมองค์กรรับรองสู่เส้นทางใหม่ในการให้คุณวุฒิวิชาชีพ”ในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามข้อบังคับคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออกหนังสือรับรองแก่องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ พ.ศ. 2565 และข้อบังคับคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ และหนังสือรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ พ.ศ. 2566 และเงื่อนไขใหม่ในการให้คุณวุฒิวิชาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สำหรับผู้แทนองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการรับรองคนตามมาตรฐานอาชีพต่างๆ การดำเนินงานของสถาบัน ที่ไม่หยุดนิ่ง ได้มีการพัฒนากระบวนการ ระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งการพลิกโฉมสำคัญเพื่อสร้างการยอมรับ และสร้างความมั่นใจในการรับรองคน ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงอีกบทบาทสำคัญในการพัฒนากำลังคนก็คือการเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ฝึกอบรม เพื่อให้สอดรับกับโลกปัจจุบันที่ผู้คนมุ่งหน้าสู่การพัฒนาตนเอง ที่อย่างน้อยเราจะรู้เท่าทัน AI ที่กำลังเข้ามาแทนที่ได้อย่างไร นี่จึงเป็นอีกภารกิจสำคัญที่องค์รับรองสามารถพัฒนาไปเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการฝึกอบรมได้ ขณะที่ช่วงการเสวนาในหัวข้อ “การยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพ สู่เส้นทางมืออาชีพ” ซึ่งได้มีการกล่าวถึงแนวทางการทำงานที่ปรับเปลี่ยนของ สคช. โดยหนึ่งภารกิจที่สำคัญ ก็คือการจับมือกลุ่มอุตสาหกรรมหลักภาคการบริการ และสถานประกอบการ ในการยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพ และนำไปพัฒนาบุคลากรขององค์กร โดยมีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย นางสาว วิลานี แซ่แต้ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและองค์กรชุมชนธนาคารออมสิน และนางสาวภัทรา ศรีสุวรรณาสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาผู้นำและจัดการเรียนรู้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมในการเสวนา 05.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช.ร่วมประชุมเชิงวิชาการในหัวข้อ ’’’’Job Competency Recognition System’’’’ and ’’’’TVET implementation and Management System’’’’ ณ สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 30 - 31 สิงหาคม 2566 นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมเชิงวิชาการในหัวข้อ ’’Job Competency Recognition System’’ and ’’TVET implementation and Management System’’ ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเพื่อการยอมรับการรับรองทักษะและคุณวุฒิวิชาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ Human Resources Development Service of Korea (HRDK) (HRD Korea – TPQI Cooperation Exchange Workshop) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานอาชีพ ระบบการประเมินสมรรถนะ ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และแนวทางปฏิบัติที่ดี การส่งเสริมโอกาสในการจ้างงานและศึกษาแนวทางเพื่อนำไปสู่การยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพและการรับรองทักษะร่วมกัน ในการประชุมดังกล่าว นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้นำเสนอระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน และการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย (E- Workforce Ecosystem) และหัวข้อ Future Plans for Vocational Training in Thailand และนาวสาวธัญมาศ ลิมอักษร นักวิเทศสัมพันธ์ ได้นำเสนอในหัวข้อ Competency-Based Training and Cooperation with Training Providers รวมถึงนำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานในหัวข้อ Enterprise Standards and Recognition of Skills and Professional Qualifications in Workplaces โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ได้แก่ HRD Korea, GIFTS (Global Institute for Transferring Skills) และ KRIVET (Korea Research Institute for Vocational Education & Training) ทั้งนี้ ได้หารือความร่วมมือในแนวทางการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กับแรงงานไทยที่มีประสบการณ์การทำงานในประเทศเกาหลี ให้สามารถนำประสบการณ์ทำงานที่ได้รับกลับมาต่อยอดสร้างโอกาสการทำงานเมื่อเดินทางกลับประเทศ รวมถึงการดำเนินการร่วมกันในด้านอื่น ๆ เพื่อพัฒนากำลังแรงงานไทยต่อไป 01.09.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จัดประชุมรับฟังรายงานปิดการดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระบบนิเวศอุตสาหกรรม สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จัดประชุมรับฟังรายงานปิดการดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระบบนิเวศอุตสาหกรรม ในสาขาวิชาชีพการเชื่อมอุตสาหกรรม สาขาวิชาชีพบริการอุตสาหกรรม สาขาวิชาชีพบริการการศึกษาวิจัยและภาษา ณ ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง จ.นครราชสีมา และได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมและผ่านการประเมินสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ทั้ง 4 หลักสูตร โดยในงานได้มีการเสวนาเพื่อสร้างโอกาสการเข้าสู่กลไกในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในภาคการศึกษาและสมาคมวิชาชีพจากสมาคมมาตรวิทยาแห่งประเทศไทย และ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รวมทั้งได้มีการแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานระบบ E-Workforce Ecosystem Platform แก่ผู้ที่ผ่านการประเมินและนักศึกษาที่ร่วมงานด้วย 01.09.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. พร้อมดันคุณภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มโอกาสไปทำงานประเทศญี่ปุ่น สคช. พร้อมดันคุณภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มโอกาสไปทำงานประเทศญี่ปุ่น Mr.Toshinori Osumi, Former Chief Executive Officer, Hitachi Chemical Storage Battery Thailand PCL เข้าพบนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบัน และคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อร่วมหารือต่อเนื่อง ถึงแนวทางการส่งกำลังแรงงานในภาคธุรกิจบริการ โดยเฉพาะอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยในการหารือวันนี้ ได้มีการนำเสนอเครือข่ายองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ทั้ง 17 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยวิทยาลัยอาชีวศึกษา โรงเรียนบริบาล สถานประกอบการเอกชน และสมาคมต่างๆ โดยได้มีการนำเสนอองค์การรับรองฯ ที่มีผลงานโดดเด่น และมีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะผู้ดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มีประสบการณ์พร้อมไปทำงานเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้วีซ่า ทักษะพิเศษเฉพาะทาง 1 (SSW) หรือ Tokutei ginou เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการกำลังแรงงานผู้ดูแลผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น พร้อมรับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ สถาบัน เตรียมศึกษาแนวทางการพัฒนาคนในอาชีพ ทั้งใน ด้านทักษะการทำงานตามมาตรฐานอาชีพ และความสามารถด้านการใช้ภาษาญี่ปุ่น รวมถึงวัฒนธรรมในการทำงานของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับภาคีต่างๆ ต่อไป 31.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผลการศึกษาประเด็นการทุจริต ตามโครงการ TaC Team กรณีศึกษาการประกอบกิจการดูดทราย ผลการศึกษาประเด็นการทุจริต ตามโครงการ TaC Team กรณีศึกษาการประกอบกิจการดูดทราย 31.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ผู้บริหาร สคช.ศึกษาดูงานที่ KISTI (Korea Institute of Science and Technology Information) ณ สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และคณะ ได้เข้าศึกษาดูงานที่ KISTI (Korea Institute of Science and Technology Information) ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยการต้อนรับจาก Mr. Jongsung Lee Director, Department of Public Relations ซึ่ง KISTI ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลี ตั้งอยู่ในเมือง Daejeon สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งให้ดำเนินการ การพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลบนพื้นฐานข้อมูลเปิดด้านวิทยาศาสตร์ (Open Science-based Digital Innovation) และ พัฒนา Supercomputing เพื่อขับเคลื่อนโลกอนาคต (Future response Supercomputing) โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและภาครัฐ (Vitalizations of Co-work Governance) และยังเป็นผู้นำในการแก้ไขประเด็นปัญหาที่สำคัญ (Leading the way in resolving pending national-social issues) ซึ่งจากการศึกษาดูงานการดำเนินงานของ KISTI ดังกล่าวเป็นแนวทางที่ สคช.สามารถเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนางานของ สคช.ได้ต่อไป 31.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมเวที GIT World’’’’s Jewelry Design Award 2023 สร้างศักยภาพนักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับด้วยมาตรฐาน ยกระดับสู่สากล สคช. ร่วมเวที GIT World’’s Jewelry Design Award 2023 สร้างศักยภาพนักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับด้วยมาตรฐาน ยกระดับสู่สากล นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมพิธีมอบโล่รางวัล พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และประกาศผลผู้ชนะเลิศโครงการ GIT World’’s Jewelry Design Awards 2023 ใน ธีม Glitter & Gold - The Brilliant Way of Gold Shine" จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ นักออกแบบ และบุคคลทั่วไปที่มีใจรักในการออกแบบและสนใจในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ได้มีเวทีและโอกาสในการแสดงศักยภาพและพัฒนาฝีมือให้เข้าสู่มาตรฐานระดับโลก สร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยมีนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี สำหรับในปีนี้ มีนักออกแบบทั้งจากประเทศไทย และต่างชาติส่งชิ้นงานประกวดมากถึง 770 ผลงาน ก่อนจะคัดเลือกผ่านแบบวาด 30 แบบ และคัดเหลือ 4 แบบ เพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องประดับ และแสดงผลงานผ่านเหล่านางแบบ นำโดย นางสาวอแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2020 และประกาศรางวัลผู้ชนะการประกวด GIT World’’s Jewelry Design Awards 2023 ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นโอกาสที่สำคัญที่จะทำให้นานาชาติ ได้เห็นถึงศักยภาพของนักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับไทย แต่ยังสามารถนำเทรนด์ในการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกที่น่าสนใจ มาปรับใช้เป็นแนวทางสำหรับนักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับในอนาคตอีกด้วย นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สินค้าอัญมณีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอย่างต่อเนื่อง นับเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 3 ของสินค้าโดยรวมของประเทศ มีกำลังแรงงานที่มีฝีมือและทักษะสูง เป็นที่ต้องการในตลาดจำนวนมาก ในส่วนของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้มีแนวทางส่งเสริมผู้ที่อยู่ในอาชีพที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า ให้มีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ขณะเดียวกัน ยังผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพช่างเครื่องประดับ (ประดับอัญมณี) ช่างเครื่องประดับ (รูปพรรณ) ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ได้มีโอกาสขอรับคุณวุฒิวิชาชีพไปพร้อมกันด้วย เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับบุคลากรให้มีศักยภาพตามมาตรฐานในระดับสากล ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศได้ 30.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ลงนามความร่วมมือร่วมกับ IITP สาธารณรัฐเกาหลี พัฒนาสมรรถนะและบุคลากรสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และคณะ เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และ Institute for Information & communication Technology Planning & evaluation (IITP) ณ สํานักงานใหญ่ IITP สาธารณรัฐเกาหลี โดยการลงนามความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาสมรรถนะและบุคลากรสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หน่วยงาน IITP เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่ง สคช. และ IITP ได้มีความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจความร่วมมือในระหว่างปี 2558 – 2563 และมีดำเนินการความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เช่น การรับรองมาตรฐานฯ IT Business ของ IITP และนำมาใช้เป็นมาตรฐานอาชีพและให้การรับรอง ด้านการเทียบเคียงมาตรฐานอาชีพได้มีการเทียบเคียงสาขาบริหารโครงการของไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี การจัดสอบ TOPCIT ให้กับหน่วยงานในประเทศไทย เช่น สำนักงาน ก.พ. DEPA การบินไทย ฯลฯ และด้านการเผยแพร่แนวทางปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนากำลังคนสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดความร่วมมือ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความร่วมมือในภาพรวมดังนี้ 1.การพัฒนาระบบการประเมินสมรรถนะ การฝึกอบรมฐานสมรรถนะ ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และการพัฒนามาตรฐานอาชีพสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร รวมถึงการบริหารโครงการ และการสื่อสารเชิงเทคนิค 2.แลกเปลี่ยนและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับเครื่องมือประเมิน สมรรถนะสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ TPQI และ TOPCIT ของ IITP 3.การแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการ การศึกษาแนวทางการยอมรับประกาศนียบัตรและคุณวุฒิวิชาชีพร่วมกันสำหรับบุคลากรสาขาดิจิทัล การพัฒนาและแลกเปลี่ยนสื่อการเรียนการสอนและ e-learning ในสาขาดิจิทัล โดยเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม EWE การสนับสนุนให้ผู้ที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพมีโอกาสศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในเกาหลี และเก็บสะสมเครดิตที่ไปเรียนที่สาธารณรัฐเกาหลีใน competency credit bank การพัฒนาทักษะใหม่ให้กับบุคลากรในสาขาดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาบุคลากรกองทัพไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น 30.08.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. เร่งเครื่องผลักดัน Reskill Upskill Newskill ตอบโจทย์แรงงานไทยในอนาคต สคช. เร่งเครื่องผลักดัน Reskill Upskill Newskill ตอบโจทย์แรงงานไทยในอนาคต 27 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ กรุงเทพมหานคร นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เปิดเวทีสัมมนาหัวข้อ “Reskill Upskill Newskill ตอบโจทย์แรงงานไทยในอนาคต” เพื่อชูแนวทางการการพัฒนาศักยภาพให้สอดคล้องกับความต้องการกับตลาดแรงงาน และส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต (Life-Long Learning) เพื่อประโยชน์ต่อการรับรองระบบคุณวุฒิของประเทศไทย รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงเป็นการเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เข้าสู่มาตรฐานสากล ISO/EC 17024 ปี 2566 โดยมีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนายเอกนิติ รมยานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ และตัวแทนองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เข้าร่วมในงาน นายนคร กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด 19 สคช. เดินหน้าสร้างจุดแข็งให้แรงงานไทย โดยเร่งพัฒนาทักษะเพื่อขยายโอกาสในการกลับเข้าสู่ตลาดงาน หรือประกอบอาชีพใหม่ ด้วยกลไก Reskill Upskill และ New skill ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน และรองรับกับงานรูปแบบใหม่ให้แรงงานไทยสามารถอยู่รอดได้ในยุค Digital Disruption และนำไปสู่การพัฒนาประเทศ ตามแนวคิดการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) โดย สคช. ได้พัฒนาระบบการเรียนรู้สมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพอิเล็กทรอนิกส์ (E-Training) และการพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะ (E-Workforce Ecosystem) ที่เชื่อมโยงข้อมูลของแต่ละหน่วยงานให้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านแรงงานบนโครงสร้างเดียวกัน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สคช. ได้พัฒนาองค์กรต้นแบบที่นำระบบการรับรองสมรรถนะบุคคลฯ ไปปฏิบัติ และสอดคล้องตามมาตรฐาน ISO/IEC 17024 รวมทั้งสิ้น 43 องค์กร และปัจจุบันสามารถยกระดับองค์กรดังกล่าวให้ได้รับรองระบบงานตามมาตรฐานสากลอย่างเต็มตัว จำนวน 5 แห่ง คือ โรงเรียนเสริมสวยและออกแบบทรงผมนานาชาติณรงค์ บริษัท วินเนอร์ เอสเตท จำกัด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศูนย์การศึกษาด้านการสื่อสารและการบริการครบวงจร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต สถาบันพัฒนาบุคลากรการบิน และศูนย์รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เกษตรกรรมตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง นับเป็นความสำเร็จของประเทศไทยที่มีหน่วยรับรองระบบงานด้านคุณวุฒิวิชาชีพที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยภายใต้โครงการดังกล่าว สคช. ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ให้แก่ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สอบ และบุคลากรขององค์กรฯ และผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 2,580 คน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาระบบการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพของประเทศไทย นอกจากนี้ภายในการสัมมนา นายเอกนิติ ได้มีการมอบใบรับรองระบบงานหน่วยรับรองให้แก่องค์กรฯ ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล ISO/EC 17024 ในปี 2566 จำนวน 3 แห่ง ประกอบไปด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศูนย์การศึกษาด้านการสื่อสารและการบริการครบวงจร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต สถาบันพัฒนาบุคลากรการบิน และศูนย์รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เกษตรกรรมตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ในฐานะเป็นต้นแบบองค์กรที่มีการพัฒนาคุณภาพระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ด้วยความเข้มแข็ง สร้างการแข่งขัน ทัดเทียมกับนานาประเทศ พร้อมมอบโล่เกียรติคุณจาก สคช. ให้แก่องค์กรฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบการรับรองบุคลากร อีกจำนวน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และบริษัท แม็คเวท จำกัด หรือโรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก อีกด้วย 28.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร ครั้งแรกของโลก! กับการประเมินอาชีพควาญช้าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ณ จังหวัดลำปาง การประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อาชีพควาญช้าง มีควาญช้างเข้ารับการประเมิน 12 คน นสพ.ดร.ทวีโภค อังควานิช หรือ หมอต้อม หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ บอกถึงภาพรวมการประเมินว่าผู้ที่เข้ารับการประเมินส่วนใหญ่มีทักษะที่ดี หลายคนความสามารถเกินระดับ 2 ของการประเมิน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการหันมาให้ความสนใจสร้างมาตรฐานอาชีพควาญช้างซึ่งเป็นอาชีพที่ถ่ายทอดประเพณี วัฒธรรมที่เทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่ได้ และหากรัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญก็สามารถผลักดันให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทยได้ เพราะนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญและมีความชื่นชอบช้างเป็นอย่างมาก และจะช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้มากขึ้นได้เช่นกัน สำหรับการประเมินอาชีพควาญช้างระดับ 2 สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อาชีพควาญช้าง ระดับ 2 คุณลักษณะของผลการเรียนรู้ จะประกอบด้วย มีความรู้และทักษะในการดูแลเลี้ยงช้าง สามารถดูแลสุขอนามัยของช้าง มีทักษะในการทำความสะอาดช้าง สามารถตรวจสภาพทั่วไปของช้าง ผิวหนัง และร่องรอยบาดแผล หรือสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับช้าง นอกจากนี้มีทักษะในการจัดหา จัดเตรียมอาหารและน้ำให้ช้าง มีความรู้เกี่ยวกับโภชนาการอาหารของช้าง การเก็บรักษาอาหารช้าง สามารถสังเกตความผิดปกติในการกินอาหารและน้ำของช้างได้ รวมทั้ง สามารถดูแลที่อยู่อาศัยของช้าง มีความรู้ในการเลือกที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของช้าง สามารถเลือกสภาพพื้นที่ทำเลในการผูกล่ามช้างได้อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อตัวช้างและมนุษย์ด้วย 28.08.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ระดมสมองผู้นำในอาชีพ กำหนดแนวทางจัดทำมาตรฐานอาชีพรองรับตลาดใหม่ สคช. ระดมสมองผู้นำในอาชีพ กำหนดแนวทางจัดทำมาตรฐานอาชีพรองรับตลาดใหม่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดประชุมผู้แทนหลากหลายสาขาอาชีพครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เกษตร บริการและการท่องเที่ยว โดยเป็นผู้แทนจากสมาคม สมาพันธ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ เพื่อระดมสมอง ประสบการณ์ และความต้องการเพื่อนำไปสู่การจัดทำมาตรฐานอาชีพและให้การรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพเป็นกำลังแรงงานคุณภาพที่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานที่แท้จริง นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่าที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประกอบการในหลากหลายสาขาอาชีพจัดทำมาตรฐานอาชีพที่สากลให้การยอมรับมาแล้วจนถึงปี 2566 จำนวนกว่า 1,000 อาชีพ ซึ่งแนวทางในปี 2567 ไปจนถึง 2570 มีทิศทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพครอบคลุมการพัฒนาประเทศใน 4 มิติ คือพัฒนาการผลิตและบริการเป้าหมาย ปัจจัยในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม ความยั่งยืนในทรัพยากรธรรมชาติ และการพลิกโฉมประเทศไทย ความเห็นจากทุกฝ่ายจึงมีความสำคัญในการจัดทำมาตรฐานอาชีพและนำไปสู่การให้การรับรองกำลังคนให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงแผนพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ ประเทศด้วย นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่าระบบคุณวุฒิวิชาชีพเป็นเครื่องมือสำคัญที่ให้การรับรองกำลังคนของประเทศว่ามีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพเก่งในด้านใดด้วยมาตรฐานอาชีพและนำไปสู่การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ที่เป็นเสมือนปริญญาทางอาชีพ ที่สอดคล้องความต้องการของสถานประกอบการ และตลาดแรงงานจริงๆ ขณะเดียวกันสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้เชื่อมโลกการศึกษา กับโลกการทำงานเข้าด้วยกันตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ จะช่วยตอบโจทย์ให้กำลังคนของประเทศสามารถเลือกเส้นทางในชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยการทำงาน หรือการศึกษาก่อน แต่ปลายทางสามารถเชื่อมสมรรถนะและการรับรองถึงกันได้ แต่การจะทำให้การจัดทำมาตรฐานอาชีพสำเร็จได้ก็คือการขับเคลื่อนไปสู่การรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ให้การยอมรับและนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศต่อไป อันจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นด้วย สำหรับการประชุมได้มีการแสดงความเห็นที่หลากหลายต่อการจัดทำมาตรฐานอาชีพ อาทิ อาชีพซิมูเลชันทางการแพทย์ รองรับการเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ หรือ Medical Service Hub ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการรับรองให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ที่สำคัญสำหรับการแพทย์ทางไกลซึ่งมีผู้ใช้บริการค่อนข้างแออัด การให้การรับรองบุคลากรจะรองรับให้มีการกระจายตัวและช่วยลดความแออัดของผู้เข้ารับบริการ อันจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมตามยุทธศาสตร์ชาติ ขณะเดียวกันมีผู้เสนอให้จัดทำมาตรฐานอาชีพผู้ปลูกทุเรียนที่ขณะนี้มีการแข่งขันสูง และมีผู้ปลูกหน้าใหม่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในตลาดจีน ที่นำเทคโนโลยีมาใช้เรื่องการวัดอุณหภูมิ ดิน น้ำ จนนำไปสู่การพัฒนารสชาติให้ได้เหมือนทุเรียนไทย ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายและน่ากังวลเป็นอย่างมาก มีข้อเสนอให้จัดทำมาตรฐานอาชีพ นักเขียนบท รองรับแพลตฟอร์มในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่มีอยู่หลากหลายแพลตฟอร์มในเวลานี้ และจะเป็นส่วนเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศได้, อาชีพนักพัฒนาการท่องเที่ยว รองรับบริบทการท่องเที่ยวปัจจุบันเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้หลักของประเทศ ซึ่งผู้ที่ประกอบอาชีพนี้จะช่วยประคับประคองบุคลากรในภาคการท่องเที่ยว การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และสอนให้ชุมชนได้รู้จักการรักษาและพัฒนาชุมชนตัวเองให้อยุ่ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีผู้เสนอให้จัดทำมาตรฐานอาชีพช่างไม้ที่จะช่วยสร้างความภูมิใจ สร้างการมีตัวตนและการยอมรับในสังคม เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการทำแบบครูพักลักจำ, อาชีพผู้ประกอบการโรงสีข้าว, ผู้ปลูกกัญชง และกัญชา, อาชีพผู้ตรวจประเมินไม้ยืนต้น เพื่อสร้างเกษตรปลอดภัย, ผู้ตรวจประเมินแปลงเกษตรอินทรีย์, อาชีพอาชีพนักพัฒนาผลิตภาพด้านดิจิทัล เมนูแฟคเจอริง ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ, คลาวด์ เอ็นจิเนียร์, ผู้ควบคุมหม้อไอน้ำ, Arts & Culture, อาชีพผู้ตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้า, อาชีพนักพัฒนาโดรนเพื่อการเกษตร, อาชีพเกี่ยวกับพระเครื่อง เป็นต้น ทั้งนี้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้รับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อนำไปศึกษาต่อก่อนพิจารณาจัดทำเป็นมาตรฐานอาชีพ รวมถึงส่งต่อมาตรฐานอาชีพให้ภาคการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับหลักสูตร การเรียนรู้และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน 23.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมพิธีเปิด โครงการ August Series 2023 พร้อมเป็นผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมอบโล่เกียรติคุณจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ในฐานะองค์กรเจ้าภาพร่วมการจัดงาน Digital HR Forum 2023 (ครั้งที่ 6) นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมพิธีเปิด โครงการ August Series 2023 พร้อมเป็นผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมอบโล่เกียรติคุณจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ในฐานะองค์กรเจ้าภาพร่วมการจัดงาน Digital HR Forum 2023 (ครั้งที่ 6) ภายใต้แนวคิดหลัก Driving Collaboration Between Business and People : Humanizing HR in a Hyper-Digitalized World ณ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนในการเรียนรู้ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการจัดการและการให้บริการสาธารณสุข ส่งเสริมให้เกิดการตระหนักเรื่องคุณค่า และมูลค่าของฐานข้อมูลว่าสามารถพลิกโฉมประเทศได้อย่างไร รวมถึงเรียนรู้เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก การเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวทันและเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม รวมถึงการก้าวสู่ยุคโรโบติกส์ และระบบอัตโนมัติที่เข้ามามีบทบาทในการทำงานแทนมนุษย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร และประเทศชาติ 23.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร CREATIVE BUSINESS CONNEXT เปิดวิสัยทัศน์อนาคต จุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ เชื่อมต่อโอกาสใหม่ทางธุรกิจ CREATIVE BUSINESS CONNEXT เปิดวิสัยทัศน์อนาคต จุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ เชื่อมต่อโอกาสใหม่ทางธุรกิจ 22.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช.-มรภ.สวนสุนันทา จับมือใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพพัฒนากำลังคน หนุนบุคลากรใช้แพลตฟอร์ม EWE ตอบโจทย์การมีงานทำ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและพัฒนากำลังคนผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และระบบ E-Workforce Ecosystem หรือ EWE โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และ รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดี มรภ.สวนสุนันทา ร่วมลงนาม นางสาวจุลลดา ระบุว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลักดันให้เกิดหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีความสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ที่นักศึกษาสามารถสั่งสมสมรรถนะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงการส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์ม EWE ในการจัดเก็บแฟ้มสะสมข้อมูล หรือ E-Portfolio การเรียนรู้ผ่านระบบ E-training ซึ่งทุกแพลตฟอร์มล้วนนำไปสู่การได้คุณวุฒิวิชาชีพแก่นักศึกษาในอนาคต และที่สำคัญคือการเชื่อมโลกคุณวุฒิวิชาชีพกับคุณวุฒิทางการศึกษาเข้าด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม อันจะส่งผลให้กำลังคนในอนาคตสามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา และการได้รับคุณวุฒิวิชาชีพได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่ง มรภ.สวนสุนันทา สามารถเป็นโมเดลต้นแบบเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรทางการศึกษาใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนากำลังคนและเปิดโอกาสให้บัณฑิตเข้าสู่การมีงานทำเป็นกำลังคนที่มีศักยภาพสูงที่ตลาดแรงงานต้องการ ด้าน รศ.ดร.ชุติกาญจน์ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ตั้งเป้าพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเป็นกลุ่มผลิตและพัฒนาบุคลากรวิชาชีพและสาขาจำเพาะ ซึ่งมีเป้าหมาย เน้นการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ทักษะ และทัศนคติที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศหรือจรรโลงศิลปะ และวัฒนธรรม มีความสามารถในการเรียนรู้และยกระดับสมรรถนะทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพัฒนาก็จะตอบโจทย์เป้าหมายการดำเนินงานของ มรภ.สวนสุนันทา ที่พร้อมจะเป็นผู้นำการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของประเทศสร้างบัณฑิตไร้พรมแดน ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง ในขณะที่อัตราจำนวนนักศึกษาลดลงอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัยด้วยกัน และจะได้ร่วมสร้างการยอมรับระบบคุณวุฒิวิชาชีพในสังคมต่อไป 21.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วม ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ บรรยายแนวทางการพัฒนาบุคลากรและนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในสถานประกอบการ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันบรรยายในการประชุมแนวทางการพัฒนาบุคลากรและนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในสถานประกอบการ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ณ อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาบุคลากรและนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในสถานประกอบการ ของบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ดำเนินการร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ไปสู่การต่อยอดในอาชีพอื่นๆ ของสายงานโลจิสติกส์ และการพัฒนาบุคลากรของสถานประกอบการด้วยการเชื่อมโยงหลักสูตรการฝึกอบรมของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (TPQI E-Training) ให้พนักงานสามารถเข้าถึงหลักสูตรได้ง่าย สามารถเข้าเรียนทางออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา และผลการฝึกอบรมจะนำเข้าสู่ระบบแฟ้มสะสมผลงานอัจฉริยะ (E-Portfolio) หลังจากที่ทางบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำ บันทึกความร่วมมือ MOU กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง LEO เป็นองค์กรต้นแบบในการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพมาใช้ในสถานประกอบการนั้น ดังนั้น ทาง LEO จึงเรียนเชิญคณะผู้บริหารสถาบันฯ มาบรรยายถึงความร่วมมือดังกล่าวให้กับพนักงานทั้งหมด กว่า 300 รายได้ฟัง เพื่อให้เข้าใจหลักการและรับทราบถึงวิสัยทัศน์ของการพัฒนาบุคลากรของทางสถาบัน และของผู้บริหาร LEO ต่อไป 21.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. จัดกิจกรรมแนะนำระบบ E-Workforce Ecosystem ณ กรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน นำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ มาตรฐานอาชีพไปใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมแนะนำระบบ E-Workforce Ecosystem หรือ EWE Platform ณ กรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน นำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ มาตรฐานอาชีพไปใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้บนฐานสมรรถนะ การเชื่อมสมรรถนะการทำงาน และการศึกษาด้วยระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ (Competency Credit Bank) กับระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit bank) และการใช้งาน E-portfolio สนับสนุนให้คนมีงานทำ และยังเป็นกลไกผลักดันให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านการฝากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน รวมถึง ประกาศนียบัตรจากการฝึกอบรม บนแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อสถานประกอบการ และนายจ้าง ที่ต้องการคนทำงาน ก็จะสามารถพิจารณาจาก E-Portfolio ได้ทันที นำไปสู่โอกาสในการได้งานทำที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการมากขึ้น 18.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. เปิดเวทีรวมรุ่นใหญ่ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ส่องธุรกิจขนส่งกับการพัฒนากำลังคนในยุคที่คาดเดาไม่ได้ สคช. เปิดเวทีรวมรุ่นใหญ่ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ส่องธุรกิจขนส่งกับการพัฒนากำลังคนในยุคที่คาดเดาไม่ได้ วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ณ ไบเทค บางนา นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา ไทล็อก โลจิสติกส์ 2023 (TILOG-LOGISTIX 2023) ในหัวข้อ ICB Logistics : พัฒนาคน ยุคบานี (BANI) และนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของ สคช. กับการพัฒนาบุคลากรโลจิสติกส์ โดยในงานเป็นการรวมตัวของผู้นำภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ที่มาร่วมหาทางออกต่อการพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพก้าวทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชน โดยมี ผู้แทนของสมาคม สมาพันธ์ ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ด้านโลจิสติกส์ เข้าร่วมงาน นายนคร ระบุว่า ในยุค BANI ที่เต็มไปด้วยการคาดการณ์ได้ยาก ทั้งเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงวิกฤติโรคระบาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็อุบัติขึ้นแล้วบนโลกนี้ การเตรียมตัวเตรียมความพร้อมรับกับทุกสถานการณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะกับเรื่องการขนส่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพก็มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพให้กับกำลังคน และให้การรับรองคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพด้วย โดยมีคณะ ICB เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวทางในการพัฒนากำลังคนของประเทศให้รองรับทุกสถานการณ์ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า อุตสาหกรรมและบริการขนส่งและโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งข้อมูลในปีนี้ธนาคารโลกได้จัดอันดับประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ พบว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลก และอยู่ในอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่ง สคช. ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ก็พร้อมส่งเสริมแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้มีคุณภาพสอดรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ในภาพของคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนากำลังคนด้านโลจิสติกส์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ICB ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยที่จะร่วมกันหาทุกแนวทางในการพัฒนากำลังคนด้านโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพก้าวทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งอนาคต ตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้ประกอบการ และผู้รับบริการด้านการขนส่งซึ่งจะเป็นส่วนนำพาให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยก้าวเป็นผู้นำได้ในระดับอาเซียน และพัฒนาศักยภาพผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ทั้งภาคการผลิต บริการ และภาคการส่งออก ให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก สำหรับงาน TILOG-LOGISTIX 2023 ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Smart and Green Logistics for Sustainable Tomorrow : ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่อนาคตสีเขียวด้วยโลจิสติกส์อัจฉริยะรักษ์โลก” มุ่งเน้นการปรับตัวเดินหน้าสู่เทรนด์โลกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีโลจิสติกส์ยุคใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พร้อมกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตื่นตัว และให้ความสำคัญกับการปรับตัวภายใต้แนวคิดเรื่อง Green โดยงานนี้มีผู้จัดแสดงกว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมแสดงผลการดำเนินงานในการพัฒนาศักยภาพกำลังคนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพแล้วกว่า 28,900 คน ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทย 17.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. และ สมาคมโลจิสติกส์และชัพพลายเชนรามคำแหง หารือร่วมกันในการยกระดับกำลังคนในสาขาวิชาชีพโลจิสติกส์ด้วยมาตรฐานอาชีพ นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนายจรณวรรฒ ทองหลอม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ให้การต้อนรับผู้แทนจากสมาคมโลจิสติกส์และชัพพลายเชนรามคำแหง นำโดยคุณจันทนา เล็กสมบูรณ์ ประธานสมาคมโลจิสติกส์และชัพพลายเชนรามคำแหง พร้อมคณะ ในการหารือการดำเนินงานร่วมกันในการยกระดับกำลังคนในสาขาวิชาชีพโลจิสติกส์ด้วยมาตรฐานอาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในการหารือดังกล่าว สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้แนะนำภาพรวมภารกิจการดำเนินงานของสถาบันฯ รวมถึงมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการในการรับรองเป็นองค์กรรับรอง / หน่วยฝึกอบรมของสถาบันฯ และการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ จากการหารือดังกล่าว สมาคมโลจิสติกส์และชัพพลายเชนรามคำแหง เห็นความสำคัญของภารกิจของสถาบันฯ ที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างภาคการศึกษาและภาคกำลังแรงงาน ในการพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ อีกทั้งสมาคมฯ มีความประสงค์ที่จะยกระดับสมาชิกของสมาคม ซึ่งประกอบไปด้วย นักศึกษา นักวิชาการ กลุ่มคนในอาชีพ ให้มีมาตรฐานในการประกอบอาชีพ รวมถึงการเป็นหน่วยฝึกอบรม เนื่องจากเป็นภารกิจที่สมาคมได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว หากมีการต่อยอดด้วยมาตรฐานอาชีพจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกำลังคนในอาชีพมากยิ่งขึ้นต่อไป 16.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วม ศอ.บต. , ฑูตแรงงาน, กระทรวงการต่างประเทศ คล้องแขนเชฟมือ 1 งาน APEC สานพลังร่วมแก้ปัญหาแรงงานไทยในร้านอาหารต้มยำกุ้ง พร้อมร่วมมือด้านแรงงาน ระหว่าง กับพื้นที่ จชต. ผลักดันทุกมิติให้สองประเทศได้รับประโยชน์ร่วมกัน สคช. ร่วม ศอ.บต. , ฑูตแรงงาน, กระทรวงการต่างประเทศ คล้องแขนเชฟมือ 1 งาน APEC สานพลังร่วมแก้ปัญหาแรงงานไทยในร้านอาหารต้มยำกุ้ง พร้อมร่วมมือด้านแรงงาน ระหว่าง กับพื้นที่ จชต. ผลักดันทุกมิติให้สองประเทศได้รับประโยชน์ร่วมกัน นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำทีม สคช. ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชฟชุมพล แจ้งไพร สถาบันการอาหารไทย และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พบปะหารือภาคส่วนต่างๆ ในมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลเซีย ซึ่งในปัจจุบันมีแรงงานไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซียโดยมีทั้งแรงงานที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่เข้าไปทำงานในร้านอาหาร "ต้มยำกุ้ง" มากกว่า 1.5 แสนคน ทั้งนี้ แรงงานต้มยำกุ้งเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจที่หล่อเลี้ยงครอบครัวและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการทำงานในประเทศมาเลเซียให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำงานประเภทเดียวกันในประเทศไทย ทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของกลุ่มแรงงานดีขึ้น มีรายได้ส่งกลับให้ครอบครัว ซึ่งแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานกึ่งฝีมือและไร้ฝีมือ (Semi-Skilled and Unskilled) ไม่มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยีและไม่ปรับตัวต่อสถานการณ์ เคยชินกับการเดินทางในอดีต ไม่มีความรู้ความเข้าใจขั้นตอนการเดินทางตามกฎหมาย กลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ขาดการเข้าถึงสิทธิประโยชน์อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้ให้สิทธิพิเศษ (Privilege) แรงงานต้มยำกุ้งที่มาจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เป็นกลุ่มแรงงานต่างชาติกลุ่มเดียว สามารถทำงานในร้านต้มยำกุ้งได้โดยยกเว้นไม่ต้องผ่านระบบ FWCMS ของมาเลเซีย (Foreign Workers Centralized Management System) ซึ่งแรงงานจากประเทศอื่นๆ ต้องเข้าสู่ระบบดังกล่าว ทำให้เป็นสิทธิพิเศษ ลดเวลาการรอวีซ่าก่อนเข้าไปทำงานในมาเลเซียได้ และไม่มีการจำกัดโควต้าในภาพรวม (แต่ละร้านได้โควต้าตามจำนวนเตาของร้าน) เป็นประเทศเดียวที่ได้รับสิทธิ์พิเศษ จาก 11 ประเทศ ที่มีแรงงานทำงานในประเทศมาเลเซีย ในการเดินทางลงพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ได้พบปะหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร “ต้มยำกุ้ง” โดยพบกับ นายโจฮารี บินอาหมัด ประธานชมรม Ukhuwah (เป็นเครือข่ายต้มยำกุ้งเครือข่ายใหญ่) รวมไปถึง ผู้ประกอบการร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย แรงงานไทยภายในร้านอาหาร พนักงานให้บริการอาหาร พ่อครัว-แม่ครัว งานธุรการและงานอื่นๆ เพื่อรับฟังปัญหา อาทิ ความเป็นอยู่ของคนไทยในร้านอาหารต้มยำกุ้ง ตลอดจนปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางการส่งเสริมอาชีพผ่านร้านอาหารต้มยำกุ้ง ในทุกรัฐของประเทศมาเลเซีย พร้อมทั้งหารือแนวทางการผลักดันธุรกิจร้านอาหารต้มยำกุ้งให้เป็นธุรกิจที่สำคัญตั้งแต่กระบวนการต้นทาง กลางทางและปลายทาง ให้เป็นต้นแบบการทำงานเรื่องครัวไทย สู่ครัวโลกอย่างแท้จริง รวมทั้ง การสนับสนุนการพัฒนาทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมกิจการร้านอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย ทั้งในมิติการพัฒนาด้านทักษะแรงงาน และด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับสมาคมนักธุรกิจจีนมาเลเซีย เพื่อวางแผนการทำงานโดยตั้ง Working group เพื่อกำหนดแผนงานและประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันของประเทศไทยและมาเลเซียโดยเฉพาะพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีภูมิสังคมและวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับประเทศมาเลเซียใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ด้านการศึกษาเเละสังคม เพื่อจัดทำความร่วมมือด้านการศึกษาเเละทางด้านทางวิชาการ ร่วมกันในระดับสถาบันการศึกษา กับสถาบันการศึกษา เเละระหว่างรัฐกับรัฐ เเละเอกชนกับภาคเอกชน บนกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) ซึ่งประเทศไทยและมาเลเซียได้พัฒนากรอบคุณวุฒิของแต่ละประเทศที่สามารถเทียบเคียงระหว่างกันได้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านทักษะแรงงาน ในหลักสูตรที่เป็นความต้องการ ของประเทศมาเลเซียเเละอาเซียน เช่น อุตสาหกรรมอาหารไทยฮาลาล การพัฒนานวัตกรรมการบริการสุขภาพ และด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อจัดทำความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนที่จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่าง 2 ประเทศ ตั้งแต่ระดับฐานราก โครงการพื้นฐานที่เชื่อมโยงกัน รวมถึงการจัดงาน road show ของดีชายแดนใต้ในทุกรัฐของประเทศมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าทางการเกษตรอีกด้วย และได้มีประชุมร่วมกับอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประเทศมาเลเซีย และผู้แทนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนแรงงานไทย และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เนื่องจากประเทศมาเลเซีย ได้เริ่มดำเนินมาตรการเข้มงวดการเข้าเมืองแก่ผู้ประกอบการ และประชาชนที่จะเข้ามาทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ทางรัฐบาลไทย จะต้องรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้แรงงานทุกคนสามารถเข้าทำงานในทุกรัฐของประเทศมาเลเซีย ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็ว โดยทาง ศอ.บต. ได้มีข้อเสนอเพื่อเป็นการจัดระเบียบแรงงานเพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถได้รับการดูแลตามกฎหมาย โดยมีการหยิบยกปัญหาและจำแนกประเภทแรงงานและข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระบบแบบ Set Zero พร้อมวางขั้นตอนและวิธีการแก้ไขปัญหาในภาพรวมและในแต่ละประเด็นให้มีความชัดเจน ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลเซียแบบ Set Zero ในครั้งนี้ ศอ.บต. ได้เล็งเห็นบทบาทและภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้แรงงานในที่ทำงานในร้านต้มยำกุ้ง ด้วยมาตรฐานอาชีพ ที่สถาบันฯ ได้จัดทำมาตรฐานอาชีพในอาชีพผู้ประกอบอาหารฮาลาล และอาชีพต่างๆ ในสาขาธุรกิจอาหาร เช่น พนักงานร้าน ซึ่งสามารถนำมาใช้พัฒนาสมรรถนะการทำงานของแรงงานในร้านต้มยำกุ้ง เป็นเครื่องยืนยันความสามารถของกำลังแรงงานไทยที่ทำงานในต่างประเทศ เปิดโอกาสความก้าวหน้าในการทำงาน และเป็นการสร้างให้เป็นต้นแบบการทำงานเรื่องครัวไทย สู่ครัวโลกอย่างแท้จริง และจะได้ให้สถาบันฯ มีส่วนร่วมแก้ปัญหาแรงงานไทยในร้านอาหารต้มยำกุ้งต่อไป 16.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. เยือนกัมพูชา ร่วมประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการกิจการก่อสร้างไทยและผู้ส่งออกแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะแรงงานตามมาตรฐานอาชีพ รองรับปัญหาขาดแคลนแรงงาน สคช. เยือนกัมพูชา ร่วมประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการกิจการก่อสร้างไทยและผู้ส่งออกแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะแรงงานตามมาตรฐานอาชีพ รองรับปัญหาขาดแคลนแรงงาน เมื่อวันที่ วันที่ 7-8 สิงหาคม 2566 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษา ประเทศกัมพูชา สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย และ International Organization for Migration (IOM) สังกัดสหประชาชาติ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบกิจการก่อสร้างไทย ผู้ส่งออกแรงงานกัมพูชา และบริษัทไทยที่นำเข้าแรงงาน ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา เพื่อหาแนวทางสนับสนุนให้นายจ้างได้คัดเลือกแรงงานที่มีทักษะเหมาะสมกับงานเข้ามาในประเทศไทย และลดภาระการฝึกอบรมหน้างาน แก้ปัญหาอุตสาหกรรมก่อสร้างประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีคนไทยเลือกทำงานด้านนี้จำนวนน้อย และจำเป็นต้องพึ่งแรงงานข้ามชาติ แนวคิดการพัฒนาแรงงานที่จะเข้ามาทำงานเป็นช่างก่ออิฐให้มีทักษะตามมาตรฐานอาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับการสนับสนุนจาก Japan International Labour Foundation (JILAF) และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ในการประชุม กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมาย โดยชี้แจงว่า งานช่างก่ออิฐ อยู่ในบัญชี 3 ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยมีเงื่อนไข คือ ให้คนต่างด้าวทำงานฝีมือหรือกึ่งฝีมือนั้นได้ก็แต่เฉพาะงานที่มีนายจ้าง นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า สภาองค์การนายจ้างฯได้จัดประชุมกับนายจ้างและได้สอบถามความต้องการนำเข้าช่างก่ออิฐแล้วในเบื้องต้น โดยนายจ้างยินดีจะนำเข้าแรงงานตามช่องทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีความต้องการแรงงานกึ่งฝีมือ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ส่วนกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษา ประเทศกัมพูชา ก็ยินดีที่จะนำมาตรฐานอาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ฝึกอบรมให้กับแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจะหารือแนวทางความร่วมมือกับทั้งสองหน่วยงานต่อไป เพื่อให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงโอกาสการพัฒนาทักษะตั้งแต่ประเทศต้นทาง ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนสนับสนุนให้นายจ้างชาวไทยได้แรงงานที่มีทักษะเหมาะสมกับงาน 09.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. พร้อมรุกพัฒนาทักษะกำลังคนเพิ่มโอกาสไปทำงานในญี่ปุ่น หลังพบขาดแคลนแรงงานทักษะฝีมือโดยเฉพาะผู้ดูแลผู้สูงอายุ สคช. พร้อมรุกพัฒนาทักษะกำลังคนเพิ่มโอกาสไปทำงานในญี่ปุ่น หลังพบขาดแคลนแรงงานทักษะฝีมือโดยเฉพาะผู้ดูแลผู้สูงอายุ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบัน นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ และคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมหารือกับ Mr.Toshinori Osumi, Former Chief Executive Officer, Hitachi Chemical Storage Battery Thailand PCL ในประเด็นการขาดแคลนแรงงานทักษะฝีมือในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครอบคลุมทั้งในภาคธุรกิจบริการ เช่น อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ และในภาคอุตสาหกรรม เช่น อาชีพช่างก่อสร้าง ซึ่งประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนแรงงานในสองภาคดังกล่าว รวมกว่า 100,000 ตำแหน่ง ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สามารถมีส่วนร่วมโดยสนับสนุนการพัฒนาทักษะ สมรรถนะของกำลังคนที่สนใจไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งสถาบัน ได้จัดทำมาตรฐานอาชีพในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ พร้อมทั้งได้พัฒนาชุดฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพในรูปแบบ TPQI E-Training พร้อมให้นำไปใช้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมฐานสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพเพื่อพัฒนากำลังแรงงานไทยที่สนใจไปทำงานในประเทศญี่ปุ่น ผ่านกลไกการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ รองรับการไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นด้วย SSW Visa (Specified Skilled Worker Visa) ได้ นอกจากนี้ ในการหารือ ได้มีแนวทางที่จะร่วมมือกันพัฒนาสื่อการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านทักษะการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น และด้านวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้แรงงานไทยที่ประสงค์จะไปเข้าสู่ตลาดแรงงานในประเทศญี่ปุ่นสามารถฝึกฝนและศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสการไปสู่การทำงานในประเทศญี่ปุ่น นำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ต่อไป 09.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช.เข้าร่วมการประชุมเรื่อง “National e-Transaction Plan : Building Digital Competitiveness and Driving Digital GDP” ภายใต้โครงการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยสำนักนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมเรื่อง “National e-Transaction Plan : Building Digital Competitiveness and Driving Digital GDP” ภายใต้โครงการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ณ โรงแรมอิสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพ ในการประชุมดังกล่าว มีการนำเสนอกรอบการประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานโครงการสำคัญ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2566-2570 โดยโครงการสำคัญของ สคช. ที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนดังกล่าว คือ โครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน และการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย (E- Workforce Ecosystem : EWE) และมีการเสวนา ในหัวข้อ “Holding Together and Empowering Future e-Transaction” โดยนายจรณวรรฒ ทองหลอม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ได้ร่วมเวทีเสวนาดังกล่าว โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนา ได้แก่ กรมการปกครอง สดช. DEPA กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และสมาคมธนาคารไทย (คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) ซึ่งได้มีการนำเสนอภารกิจของ สคช. ในการจัดทำมาตรฐานอาชีพ การประเมิน และการรับรองสมรรถนะของบุคคล ซึ่งได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการให้บริการ อีกทั้งได้มีการแนะนำแพลตฟอร์ม EWE และเชิญชวนผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใช้งานผ่าน www.ewe.go.th 08.08.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สกมช. จับมือหัวเว่ย จัดแข่ง Thailand Cyber Top Talent 2023 เปิดสมัครแล้ววันนี้-8ก.ย.66 สกมช. จับมือหัวเว่ย จัดแข่ง Thailand Cyber Top Talent 2023 เปิดสมัครแล้ววันนี้-8ก.ย.66 03.08.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ วันศุกร์ ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะองคมนตรี ประธานองค์กรอิสระ คณะรัฐมนตรี และส่วนราชการในพระองค์ สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารเข้าร่วมพิธี 28.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นำโดย นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ณ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ชั้น ๑๔ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ 27.07.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. ร่วมเชิดชูเกียรติ อพม. ทั่วประเทศ พร้อมส่งเสริมให้ได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ สคช. ร่วมเชิดชูเกียรติ อพม. ทั่วประเทศ พร้อมส่งเสริมให้ได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) หรือ สคช. เข้าร่วมพิธีเชิดชูเกียรติอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประจำปี 2565-2566 จัดโดยกองกิจการอาสาสมัครและภาคประชาสังคม ตามโครงการเสริมสร้างแนวทางการพัฒนางานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเสริมสร้างแนวทางการพัฒนางานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับกลุ่ม อพม. โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองคนในอาชีพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ผ่านมาได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ดำเนินการยกระดับมาตรฐานอาชีพของผู้ด้อยโอกาสในอาชีพต่างๆ เช่น ช่างทำผม ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพ และพัฒนา อพม. โดยสถาบันสามารถร่วมเติมเต็มทักษะ Up-Skill Re-Skill ด้วยการนำมาตรฐานอาชีพที่สถาบัน มีอยู่แล้ว ในสาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ อาทิ ผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อนผู้สูงวัย (Care BeFriend) รวมถึงผู้ส่งเสริมโภชนาการชุมชน มาพัฒนาศักยภาพของ อพม. ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนเหมาะสมกับบริบทของชุมชน ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมให้การรับรองความสามารถด้วยคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย นายจุติ กล่าวว่า พม. มีเป้าหมายในการพัฒนากลุ่ม อพม. ที่มีอยู่กว่า 300,000 คน ทั่วทุกหมู่บ้าน ซึ่งต้องพัฒนาให้มีศักยภาพในการทำงานอาสาสมัครให้ความช่วยเหลือทางสังคม และบริการประชาชนในท้องถิ่นให้มีคุณภาพ การมอบรางวัลเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับกลุ่ม อพม. ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งเท่านั้น แต่ยังผลักดันให้เกิดการพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม พร้อมด้วยการต่อยอดให้ได้รับการรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะช่วยส่งเสริมให้ อพม.ได้พัฒนาตนเอง จนมีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ ให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ มีการรับรองมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้อย่างเต็มที่ 26.07.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร สคช. – ICDL ประกาศความร่วมมือยกระดับทักษะดิจิทัลให้กำลังคนของไทย ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพระดับสากล สคช. – ICDL ประกาศความร่วมมือยกระดับทักษะดิจิทัลให้กำลังคนของไทย ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพระดับสากล นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย Mr.Damien O’Sullivan ประธานกรรมการบริหาร ICDL Foundation ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการร่วมส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กับ มาตรฐานสากล ICDL เพื่อให้ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ภาครัฐ และเอกชน ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านดิจิทัลตามมาตรฐานสากล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมี ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวกฤษฏิ์กัญญา กานต์จิรธันย์ กรรมการบริหาร ICDL Thailand ดร.วิฑูร สิมะโชคดี ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาดิจิทัล และตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการร่วมกันพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลให้ก้าวสู่ระดับสากล ด้วยการนำสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัลของ ICDL มาปรับใช้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลของประเทศ ด้วยชุดฝึกอบรมในการเพิ่มทักษะและยกระดับทักษะกำลังแรงงาน และมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องด้าน ICT ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงการผลักดันให้เกิดการพัฒนาการใช้งานระบบ E-Portfolio บนแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem (EWE) อันจะนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับบุคลากรในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพเทียบเท่ากับระดับอาเซียนและก้าวสู่ระดับสากลต่อไป สำหรับบทบาทของ สคช. ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ คือดำเนินการรับรองมาตรฐานสากล และหลักสูตรอบรมของ ICDL พร้อมร่วมกันพัฒนามาตรฐานอาชีพ การประเมินสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัลและมาตรฐานอาชีพในสาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัลของ สคช. ให้กับ นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรของประเทศ การเชื่อมโยงการใช้งานกับแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem (EWE) และการส่งเสริมค่านิยมในมาตรฐานอาชีพสู่ความเป็นมืออาชีพ โดยการสร้างช่องทางในการประเมินสมรรถนะด้านดิจิทัล และสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพด้านสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัลตามมาตรฐานสากล ของ ICDL นอกจากนี้นางสาวจุลลดา ได้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน ICDL Thailand Digital Challenge 2023 สุดยอดฝีมือดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไป 25.07.2566
  • ข้อมูลข่าวสาร ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หารือแนวทางการเชื่อมโยงการพัฒนากำลังคน ในสาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ ร่วมกับ สคช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นำโดย ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ รองผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พร้อมด้วยดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เพื่อหารือแนวทางการเชื่อมโยงการพัฒนากำลังคน ในสาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้ดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงแนวทางความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลด้านกำลังคน ผ่านแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) และการรับรองหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ 21.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ปั้นนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล สคช. ปั้นนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ กับมหาวิทยาลัยมหิดล องค์กรที่มีหน้าที่รับรองรับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล อาชีพนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ระดับ 3 ที่ผ่านการประเมินฯ เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการร่วมมือทางวิชาการและวิจัยระหว่าง คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม กับสาขาเทคโนโลยีการจัดการระบบสารสนเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการร่วมกัน การจัดกิจกรรมด้านการจัดการความรู้รวมถึงพัฒนาหลักสูตร Work Integrated Learning (WIL) โดยมี รศ.ดร.จันทนา วัฒนกาญจนะ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เป็นประธาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การที่สถาบันการศึกษาระดับประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล ด้วยการประเมินสมรรถนะฯ ตามมาตรฐานอาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ถือเป็นการเตรียมความให้พร้อมนักศึกษา ในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ในการรับมือกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เป็นการส่งเสริมเกิดการพัฒนา ด้วยทักษะและสมรรถนะที่ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และสถานประกอบการต่างๆ ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะ ในอาชีพนักวิเคราะห์ข้อมูล ระดับ 3 จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับแบบจำลองข้อมูล (Data Model) ทั้งการจัดทำข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์เบื้องต้น การอธิบายข้อมูล และการสำรวจข้อมูล โดยมีทักษะในการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากรายงานของอุตสาหกรรมหรือธุรกิจในอดีตได้ เพื่อนำไปวิเคราะห์และสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจได้ โดยใช้เครื่องมือการพัฒนาเพื่อจัดทำรายงาน กระดานสรุปข้อมูล หรือแดชบอร์ด (Dashboard) ในการสรุปข้อมูล สามารถใช้สารสนเทศ เพื่อควบคุมคุณภาพงานได้ รวมถึงมีจริยธรรมในการประกอบอาชีพอีกด้วย 20.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. - กรมพัฒฯ ขึ้นเหนือ แจงแนวทางการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ กับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ยกระดับกำลังแรงงานให้มีคุณวุฒิที่สูงขึ้น สคช. - กรมพัฒฯ ขึ้นเหนือ แจงแนวทางการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ กับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ยกระดับกำลังแรงงานให้มีคุณวุฒิที่สูงขึ้น 18 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมทรีธารา จังหวัดลำปาง นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำทีม สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ชี้แจงแนวทางการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ ให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ทั้ง 17 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีนายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า การให้คุณวุฒิวิชาชีพ กับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน ที่มีเป้าหมายสำคัญในการนำไปสู่การบริการที่ดีที่สุดให้กับคนในอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพกำลังแรงงานของประเทศ โดยคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถเชื่อมโยงโลกของอาชีพ และโลกของการศึกษาเข้าไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นปริญญาทางอาชีพ ซึ่งกลไกของคุณวุฒิวิชาชีพ จะช่วยให้คนทำงานที่มีประสบการณ์ สามารถกลับเข้าสู่การศึกษาได้ สำหรับผู้ที่มีงานอยู่แล้วก็มีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และยังมองเห็นเส้นทางการพัฒนาตัวเอง และความก้าวหน้าในอาชีพได้อีกด้วย นายสมชาติ กล่าวว่า การสร้างการรับรู้ และความเข้าใจ แนวทางการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ จะทำให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ ได้มีการสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของกำลังแรงงาน ให้มีคุณวุฒิที่สูงขึ้น สร้างโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ สร้างความเชื่อมั่น ยกระดับกําลังแรงงานไทยสู่ ระดับสากล รองรับกับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีต่อไป สำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ อาทิ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก สาขาช่างบำรุงรักษารถยนต์ สาขาผู้ประกอบอาหารไทย เป็นต้น ทั้งนี้สามารถยื่นขอคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ โดยดาวโหลดน์แบบฟอร์ม ปคร.007 ที่ www.tpqi.go.th กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนส่งมาที่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือส่งมาที่ E-mail : [email protected] ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 063-3733922 19.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ล่องใต้ ถกแนวทางการให้คุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สคช. ล่องใต้ ถกแนวทางการให้คุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 14 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ สงขลา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. โดย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงใต้เปิดเวที ชี้แจงแนวทางการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ ให้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวกับผู้บริหารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั้ง 14 จังหวัด ทางภาคใต้ว่า การให้การรับรองกำลังคน ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 2 หน่วยงานในการเชื่อมโยงมาตรฐานอาชีพและมาตรฐานฝีมือแรงงานไว้ด้วยกัน โดยคุณวุฒิวิชาชีพ ถือเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิของประเทศไทยที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษาในระดับต่างๆ ตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สามารถเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้มีงานทำ มีโอกาสได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง รับค่าตอบแทนพิเศษ รวมถึงมีช่องทางในการฝึกอบรม พัฒนาตัวเอง ศักยภาพในการทำงาน สร้างโอกาสการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพ ก็สามารถนำคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพได้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ และเป็นการยกระดับให้กำลังแรงงานของประเทศมีศักยภาพได้รับการยอมรับ รวมถึงมีคุณวุฒิที่สูงขึ้นต่อไป นายสมชาติ กล่าวว่า แนวทางการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพแก่ผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติดังกล่าว เป็นการขยายผลและสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ชัดเจนมากขึ้น โดยการสนับสนุน ประชาสัมพันธ์ และร่วมกันส่งเสริมให้กำลังแรงงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างความก้าวหน้า เพิ่มโอกาสในการเลื่อนระดับตำแหน่งงาน และอัตราค่าจ้างที่สูงขึ้นด้วย ถือเป็นการพัฒนาแรงงานของประเทศอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีการรับฟังความคิดเห็น จากผู้บริหารและตัวแทนกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จากภาคกลางและภาคตะวันออกที่กรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่นมาแล้วทั้งนี้ในพื้นที่ภาคเหนือ จะมีการจัดประชุมสัมมนาที่ จังหวัดลำปาง วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ เพื่อผลักดันให้มีผู้ขอรับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะของผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ว่ามีแนวทางที่จะผลักดันและขยายผลไปทั่วประเทศต่อไป สำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน 20 อาชีพ 3 สมรรถนะ สามารถเข้าสู่กระบวนการยื่นขอคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ด้วยตัวเอง โดยการติดต่อรับแบบฟอร์ม ปคร.007 โดยสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ www.tpqi.go.th พร้อมกรอกข้อมูลลงแบบฟอร์ม ยื่นพร้อมหลักฐานการผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ส่งมาที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือส่งเป็นไฟล์เอกสารผ่านทาง E-mail : [email protected] สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 063-3733922 14.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. ทัวร์อีสาน ปักหมุดจังหวัดมหาสารคาม ชวนนักเรียน นักศึกษาใช้งานระบบ E-Portfolio สคช. ทัวร์อีสาน ปักหมุดจังหวัดมหาสารคาม ชวนนักเรียน นักศึกษาใช้งานระบบ E-Portfolio 14.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร สคช. นำทีมเยือน สปป.ลาว แลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานทดแทน สร้างความมั่นคงทางพลังงานของทั้ง 2 ประเทศ สคช. นำทีมเยือน สปป.ลาว แลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานทดแทน สร้างความมั่นคงทางพลังงานของทั้ง 2 ประเทศ 14.07.2566
  • กรมพ ฒนาฝ ม อแรงงาน สถาบ นพ ฒนาฝ ม อดรงงาน
    ข้อมูลข่าวสาร การสรรหา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ปี 2567 การสรรหา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ปี 2567 13.07.2566

ข้อมูลข่าวสาร

สคช. รวมพลภาคธุรกิจ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ ยกระดับคุณภาพชีวิตกำลังคนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ 12 กรกฎาคม 2566 ณ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก กรุงเทพมหานคร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จัดงาน “รวมพลหนุนคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อคนทำมาหากิน” พร้อมประกาศเจตนารมณ์ สร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการและภาคีเครือข่ายพันธมิตรภาคธุรกิจ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ ประกอบไปด้วย บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) สาขาวิชาชีพโลจิสติกส์ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด และสมาคมโรงแรมไทย ในสาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร เพื่อสร้างการยอมรับในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรและนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการบริหารงานบุคคลในสถานประกอบการ โดยมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบัน ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้บริหารสถานประกอบการ อาทิ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ธนาคารออมสิน SME D Bank บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด บริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด Global Healthcare Accreditation ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท สามมิตรมอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แพนดอร่า โพรดักชั่น จำกัด ร่วมในงาน นายนคร กล่าวว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้น เป็นการรวมพลต้นแบบภาคธุรกิจครอบคลุม 4 อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ที่ให้การยอมรับและใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิของประเทศไทย ที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา สร้างโอกาสให้กำลังแรงงานได้มีคุณวุฒิที่สูงขึ้น และยกระดับเป็นกำลังแรงงานคุณภาพ อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางสังคมและเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศให้สูงขึ้นด้วย ดร.ฉัตรชัย ยาจันทร์ทา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานประสบการณ์ผู้ป่วย โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรสนับสนุนทางการแพทย์ในสถานประกอบการให้มีคุณภาพจนได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งมีทั้งล่าม นักแปลภาษาทางการแพทย์ และนักเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ซึ่งเป็นบุคลากรที่จะทำหน้าที่เชื่อมโยงการรักษาระหว่างแพทย์และผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการถึงความปลอดภัย และการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ รองรับทิศทางการพัฒนาประเทศไทย ในมุ่งสู่การเป็น Medical & Wellness Destination ของภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะการมีความพร้อมด้านบุคลากรที่ให้บริการอย่างมีคุณภาพ นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาศักยภาพกำลังคนผู้ประกอบอาชีพในโรงแรม ในสังกัดสมาคมโรงแรมไทย ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อการยกระดับกำลังคนในสถานประกอบการให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการ รองรับการกลับมาฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเดินหน้า ผลักดันให้เกิดการรับรองหลักสูตรพนักงานแม่บ้านโรงแรม ส่งผลให้พนักงานในกลุ่มพนักงานต้อนรับ กลุ่มแม่บ้านโรงแรมได้รับโอกาสพัฒนาบริการอย่างมีคุณภาพ และยังแก้ไขปัญหาขาดแคลนแม่บ้านที่ให้บริการในโรงแรมอีกด้วย นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ เห็นความสำคัญของคุณภาพของพนักงานเป็นปัจจัยแรก ที่ทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ การรับรองมาตรฐานอาชีพผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของพนักงาน ที่ทำให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ และยังนำไปสู่การได้รับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวนาทีรัตน์ บุญรัตน์ ประธานบริหารสายงานทรัพยากรบุคคลและหน่วยธุรกิจพีเพิลคอนเน็ค บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ใช้มาตรฐานอาชีพสร้างหลักสูตรฝึกอบรม ครอบคลุม ทุกตำแหน่งตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่พนักงานบริการในร้าน พนักงานครัว ผู้จัดการร้าน ต่อยอดไปถึงในครัวกลาง ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการยกระดับพนักงานของฟู้ดแพชชั่น ให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างการยอมรับ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ว่าการให้บริการของพนักงานร้านอาหาร ได้คำนึงถึงความสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ตามแบบฉบับของมืออาชีพ