1. CSR Club-The Thai Bankers’ AssociationChairman: Mr. Suwit Indrachalerm (Bangkok Bank Public Company Limited) Coordinator: Mr. Suphawat Maseng Show Objectives: This club is established with the approval of its members to carry out corporate social responsibility (CSR) activities consistent with the operations of the Thai Bankers’ Association as follows
This will close in 500 seconds เคเบิ้ลไทร์สแตนเลส (Stainless Steel Cable Ties) เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 และ 316 มีขนาดความยาวและความกว้างต่างๆ ให้เลือกใช้งาน มีจุดเด่นคือทนทานต่อทุกสภาวะแวดล้อม ความร้อน ความชื้น สารเคมี กรด ด่าง สามารถทนอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 530 องศาเซลเซียสนิยมใช้ในโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตร.เร่งยึดคืนทรัพย์สินแก๊งลักเงิน สจล. - ยังอุบชื่อ “บอส” แต่ยันชักใยเบื้องหลังเผยแพร่: 14 ม.ค. 2558 13:15 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรมตร.เร่งติดตามทรัพย์สินแก๊งลักเงิน สจล. ป้องกันยักย้ายถ่ายโอน นำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น ส่วน “บอส” ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่น่าจะอยู่เบื้องหลัง วันนี้ (14 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่นเอส 400 สีขาว ทะเบียน ฐ 8649 กรุงเทพมหานคร ราคา 11 ล้านบาท และรถโตโยต้า อัลพาร์ท ทะเบียน ก 5983 กรุงเทพมหานคร สีดำ ราคา 4 ล้านบาท ที่ถูกตำรวจกองปราบปรามยึดมาจากบ้านเลขที่ 89/21 ซอย 2 หมู่บ้านคาซ่า วิว ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. บ้านของนายฐิติ วรเพียรกุล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ซอยวิภาวดีรังสิต 34 เขตจตุจักร กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2552 ของ สน.ลุมพินี มายืนยันว่าเป็นทรัพย์สินล่าสุดที่ตำรวจยึดได้จากคดีการยักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้จะเน้นไปที่การติดตามทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการยักย้ายถ่ายโอน เมื่อติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้เชื่อว่าจะนำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้เพิ่มมากขึ้น ส่วนการที่นายภาดา บัวขาว ให้การอ้างว่า นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีในคดีนี้มักกล่าวถึงบุคคลที่อ้างว่าเป็น “บอส” จากการสืบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่พฤติการณ์ของบอสน่าจะมีส่วนรู้เห็นและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามเบาะแสเพื่อนำตัวมาสอบสวนขยายผลในคดีนี้ นอกจากนี้ ขอให้ผู้ที่ครอบครองทรัพย์หรือซื้อทรัพย์สินมาจากนายกิตติศักดิ์ ติดต่อตำรวจกองปราบปรามเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย เผยแพร่: 13 มี.ค. 2556 19:12 โดย: MGR Onlineศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ชี้บางมาตราใน พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง แต่มีมติ 5 ต่อ 4 เห็นว่ามาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศขัดรัฐธรรมนูญ เหตุจำกัดสิทธิ “สมคิด” ต่อสู้คดีอัลรูไวลี เพราะไม่ได้กำหนดวิธีการสืบพยานให้จำเลย สามารถตามประเด็นไปสืบได้ วันนี้ (13 มี.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่า มาตรา 36 37 38 และ 39 ของ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการขอความช่วยเหลือในเรื่องข่าวสาร หรือพยานหลักฐานทางคดีกับต่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีอยู่ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 29 และมาตรา 40(2) (3) (4) และ (7) แต่มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เห็นว่า มาตรา 41 ของ พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน ที่บัญญัติให้บรรดาพยานหลักฐานและเอกสารที่ได้มาตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นพยานหลักฐานและเอกสารที่รับฟังได้ตามกฎหมายนั้น ขัดต่อหลักนิติธรรมและเป็นบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิของจำเลยในคดีอาญา เพราะเป็นพยานหลักฐานที่จำเลยไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบหรือรับทราบ และไม่มีโอกาสต่อสู้คดีได้อย่างเป็นธรรม ตลอดจนไม่มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือทางคดีจากทนาย อันเป็นการกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 29 และมาตรา 40 (2) (3) (4) และ (7) สำหรับการมีคำวินิจฉัยดังกล่าวมาจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของศาลอาญา ที่ส่งคำโต้แย้งของจำเลยคือ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ จำเลยในคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย ที่ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 มาตรา 36 37 38 39 และ 41 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 29 และมาตรา 40 (2) (3) (4) และ (7) หรือไม่ เนื่องจาก พล.ต.ท.สมคิด เห็นว่า บทบัญญัติตามมาตราดังกล่าวของ พ.ร.บ.นี้ไม่ได้กำหนดวิธีการสืบพยานให้จำเลย สามารถตามประเด็นไปสืบได้ ถือเป็นการขัดหรือแย้งต่อการสืบพยานต่อหน้าจำเลย และตามที่บัญญัติให้พยานหลักฐานที่ได้มา ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว สามารถรับฟังได้ มีผลให้จำเลยเสียเปรียบและไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สมคิด กับพวกรวม 5 คน ตกเป็นจำเลยในคดีร่วมกันฆ่า นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประกอบธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเจตนาและปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญา โดยปัจจุบันศาลอาญาได้อนุญาตให้พนักงานอัยการส่งประเด็นไปสืบพยานปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก หรือ นายเกียรติกรณ์ แก้วเพชรศรี ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ซึ่ง พล.ต.ท.สมคิด ได้ยื่นร้องคัดค้านโดยอ้างว่าทำให้ฝ่ายจำเลยไม่มีโอกาสที่จะซักค้านพยานปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย ได้ และขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย เป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในฐานะจำเลยคดีพยายามฆ่าของศาลจังหวัดมีนบุรี รวมถึงได้ขอให้ศาลอาญาส่งคำโต้แย้งของตนที่เห็นว่าบทบัญญัติมาตรา 36 37 38 39 และ 41 ของ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 มาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย |