ตัวอย่าง การ พิมพ์ ประวัติ ส่วนตัว

บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้

บทความนี้ถูกเข้าชม 10,880 ครั้ง

เป็นไปได้ว่า ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต คุณจะต้องเขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อ อาจจะเป็นการสมัครเรียน หรือการพรีเซนต์ที่เกี่ยวข้องกับงาน หรือคุณอาจจะต้องเขียนคำโปรยเกี่ยวกับตัวเองลงในจดหมายข่าวของชมรมรักการอ่านของคุณ แต่ไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอะไร แค่ทำตามขั้นตอนในบทความนี้ คุณก็จะได้ประวัติส่วนตัวที่สละสลวย (และกระชับ) แล้ว

  1. เป็นไปได้ว่าคุณคงไม่เขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อแค่เพราะคุณอยากจะเขียนหรอกใช่ไหม เพื่อให้เขียนออกมาได้อย่างสุดความสามารถมากที่สุด คุณจะต้องนึกไว้ในใจว่าคนอ่านเป็นใคร คนอ่านอาจเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงาน คณะกรรมการวิชาการ หรือสมาชิกในชุมชมท้องถิ่นของคุณ
  2. เวลาที่คุณเขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อในฐานะส่วนหนึ่งของวิชาเรียนหรือการสมัคร คุณจะมีไกด์ไลน์ที่บอกขอบข่ายให้คุณรู้ว่า ข้อมูลอะไรบ้างที่คุณต้องเขียนลงไป
    • ถ้าคุณเขียนเพื่อสมัครขอทุน คณะกรรมการที่เป็นผู้ตัดสินอาจจะมีโครงร่างชนิดของข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้จากคุณ
    • ในสถานการณ์อื่นๆ เช่น การเขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อสำหรับบรรยากาศการทำงาน คุณอาจจะปรึกษาผู้จัดการหรือเพื่อนร่วมว่า มีเนื้อหาอะไรที่ต้องเขียนลงไปในประวัติส่วนตัวบ้าง
  3. เขียนรายการความสำเร็จทางวิชาการและการทำงาน. เขียนความสำเร็จทางวิชาการของคุณลงไป คุณอาจจะเอาชนะอุปสรรคด้านการเรียนมาอย่างโชกโชน เก่งวิชาไหนมากเป็นพิเศษ หรือเรียนจบด้วยเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทบทวนความสำเร็จด้านการทำงาน นึกถึงประสบการณ์การทำงานเด่นๆ และเขียนรายการรางวัลการขายดีเด่น การเลื่อนตำแหน่ง รางวัลพนักงานดีเด่น และความสำเร็จที่โดดเด่นอื่นๆ
    • ตัวอย่างความสำเร็จ: ฉันเป็นคนแรกของครอบครัวที่ได้เรียนมหาวิทยาลัย ตลอด 4 ปีในมหาวิทยาลัยฉันได้รางวัลผลการเรียนยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ฉันเรียนควบ 3 วิชาเอก 2 วิชาโท เป็นต้น
    • ตัวอย่างความสำเร็จ: ขายไม้เกาหลังได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทไม้เกาหลังแห่งประเทศไทย เป็นพนักงานดีเด่นประจำเดือน 10 เดือนติดต่อกัน เริ่มจากเป็นเด็กล้างจานจนตอนนี้ได้เป็นหัวหน้าเชฟที่ร้านจันทร์เจ้าขา
  4. พิจารณาบุคลิกลักษณะส่วนบุคคลของคุณ การลองนึกถึงคำคุณศัพท์ทั่วไปที่คนเคยใช้พูดถึงคุณก็ช่วยได้ เลือกคำที่คุณคิดว่าสามารถบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างเหมาะสมกับสถาบันที่คุณเขียนประวัติส่วนตัวถึงมากที่สุด และเช่นเดียวกับบุคลิกลักษณะ คุณต้องเขียนความสนใจที่สอดคล้องกับสิ่งที่คุณสมัครด้วย คนในชุมชนอาจจะรู้จักคุณในฐานะคนที่ทำงานอาสาสมัครหรือจัดงานต่างๆ ในชุมชน กีฬาและศิลปะก็อาจเป็นความสนใจได้เช่นเดียวกัน
    • ตัวอย่างบุคลิกลักษณะ:: ถ้าคุณสมัครงานในองค์กรอาสาสมัคร เช่น มูลนิธิกระจกเงา คุณอาจจะลองใช้คำอย่าง มีเมตตาต่อผู้อื่น ทุ่มเท และเป็นระเบียบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นลักษณะนิสัยที่องค์กรอาสาสมัครมองหาในตัวอาสาสมัครที่มีศักยภาพ คนที่มีเมตตาต่อคนที่องค์กรช่วยเหลือ คนที่ทุ่มเทให้กับความยากลำบาก และคนที่มีระเบียบเมื่อต้องจัดการกับงานเอกสารเยอะๆ
    • ตัวอย่างความสนใจ:: ถ้าคุณสมัครตำแหน่งอย่างเช่นทีมนักวิทยาศาสตร์ที่จะเดินทางไปทวีปอาร์กติก คุณก็อาจจะต้องเขียนรายการความสนใจที่แสดงให้เห็นว่า คุณเป็นนักเล่นในทีมที่พร้อมจะเสี่ยงอย่างเป็นนักกีฬาฟุตบอล นักปีนผา นักปีนเขา เป็นต้น ก็ใช้ได้เหมือนกัน โฆษณา
  • ดูรายการอีกครั้งเพื่อเลือกส่วนที่คุณจะนำมาใช้ในประวัติส่วนตัว. อ่านรายการ เลือกและเรียบเรียงส่วนที่เป็นความสำเร็จ การบรรลุเป้าหมาย บุคลิกลักษณะ และความสนใจที่ให้ภาพตัวตนของคุณได้ชัดเจนที่สุด โดยที่เนื้อหายังสอดคล้องกับความต้องการของสถาบันที่คุณเขียนประวัติส่วนตัวถึงด้วย
  • ตัวอย่าง ประวัติส่วนตัวต่อไปนี้คือ การเรียบเรียงตัวอย่างความสำเร็จที่ให้ภาพของคนที่ทุ่มเทให้กับการทำงานเป็นทีมที่เผชิญอุปสรรคมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ และตอนนี้เธอก็อยู่จุดสูงสุดของสิ่งที่เธอทำด้วย : 1. ฉันเล่นเทนนิสคู่ทุกสัปดาห์ 2. ฉันเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงสัตว์ที่เดิมมาตั้งแต่ฉันอายุ 9 ขวบ 3. ฉันเป็นผู้หญิงคนแรกในบ้านที่ได้เรียนมหาวิทยาลัย 4. ฉันเป็นพนักงานดีเด่นที่สำนักงานกฎหมาย 4 เดือนติดต่อกัน
  • รู้ว่าต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3. เวลาที่เขียนสมัครเรียนหรือเขียนให้คณะกรรมการทุนการศึกษาอ่าน คุณต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 แต่ถ้าประวัติย่อของคุณเป็นส่วนเกริ่นนำก่อนที่คุณจะพรีเซนต์งาน ก็ให้ใช้สรรพนามบุรุษที่ 3
  • ตัวอย่างประโยคที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1: ฉันเป็นพนักงานดีเด่นประจำเดือนมาแล้ว 11 ครั้งตั้งแต่มาทำงานที่ Thailand Bestbuys
  • ตัวอย่างประโยคที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 3: จีราวัจน์ เด่นชัยเป็นพนักงานดีเด่นประจำเดือนมาแล้ว 11 ครั้งตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานที่ Thailand Bestbuys
  • ตัดข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป. คำสำคัญของการเขียนในครั้งนี้คือคำว่า ‘ย่อ’ แม้ว่าคุณอาจจะมีโอกาสได้เขียนประวัติส่วนตัวที่ยาวกว่านี้ในวันข้างหน้า แต่คุณต้องเขียนประวัติย่อให้ตรงประเด็น หมายความว่าคุณจะต้องไม่เขียนรายการข้อมูลอะไรก็ตามแต่ที่คนอ่านไม่จำเป็นต้องรู้
  • แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมนอกหลักสูตรอาจจะทำให้คณะกรรมการรับนักเรียนเข้าเรียนสนใจ แต่คุณก็ไม่ควรใส่ข้อมูลนี้ลงไปในประวัติการทำงาน
  • เขียนตามไกด์ไลน์ตามที่คนที่ขอให้คุณเขียนบอกมา ถ้าคุณไม่มีไกด์ไลน์ ก็ให้เขียนให้กระชับ คำว่า ‘น้อยแต่มาก’ นั้นนำมาใช้กับสถานการณ์นี้ได้ พยายามเขียนให้เขาเห็นภาพคุณอย่างสมบูรณ์ที่สุดโดยใช้คำน้อยที่สุด โดยทั่วประวัติส่วนตัวไม่ควรเกิน 100 – 200 คำ
  • เขียนประวัติส่วนตัวด้วยน้ำเสียงกันเอง ก็คือตรงประเด็นแต่ไม่ฟังดูขี้โอ่ คุณอยากทำให้ตัวเองดูดีโดยที่ไม่ดูเป็นคนขี้อวด เพราะฉะนั้นแทนที่จะเขียนว่า “พ่อของฉันมีรถแข่งโบราณ 12 คัน กลับจากสมาคมเรือยอร์ชตอนเช้าทีไรฉันเป็นต้องลองซ่อมมันทุกที” ก็ให้เขียนว่า “ฉันมักจะใช้เวลาไปกับการช่วยพ่อซ่อมรถเก่า และเรียนรู้ว่าทำอย่างไรเครื่องยนต์จึงจะวิ่งได้ไม่ติดขัดมากที่สุด”
  • ทิ้งไว้สัก 2 – 3 ชั่วโมงหรือ 2 – 3 วันค่อยกลับมาอ่านใหม่เพื่อแก้ไขตัวสะกดที่พิมพ์ผิดและประโยคแปลกๆ การทิ้งไว้ก่อนจะช่วยให้ใจคุณปลอดโปร่ง แล้วพอคุณกลับไปอ่านอีกครั้ง คุณก็จะอ่านได้อย่างไม่มีอคติ (เหมือนมันเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของคุณเอง)
  • อ่านออกเสียง บ่อยครั้งที่การอ่านออกเสียงช่วยให้คุณรู้ว่า ตรงไหนที่คุณเขียนแล้วฟังดูแปลกๆ หรือห้วนๆ ไปหน่อย
  • ตรวจทานการสะกดชื่อเฉพาะอีกครั้ง (ได้แก่ ชื่อบริษัท โรงเรียน องค์กร โปรแกรม คนที่คุณเคยทำงานด้วย เป็นต้น) โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณต้องสะกดชื่อองค์กรที่คุณส่งประวัติส่วนตัวไปถึงให้ถูกต้อง

ขอคำแนะนำเรื่องน้ำเสียงและความถูกต้องของประวัติส่วนตัว เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ถ่อมตัวเกินไปหรือพูดเกินจริง ถามพวกเขาว่าประวัติส่วนตัวของคุณชัดเจนไหม มันให้ภาพคุณชัดเจนหรือเปล่า ถ้าพวกเขาไม่รู้จักคุณ หลังจากอ่านประวัติส่วนตัวแล้วจะทำให้เข้าใจตัวคุณมากขึ้นไหม มีอะไรในประวัติส่วนตัวที่ควรเพิ่มเข้าไปหรือตัดออกไหม