เฉลย access student book ม 3 unit 3

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 Lifestyles เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง

รายวิชา ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัดชน้ั ปี

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น ตัวช้ีวัด อยา่ งมีเหตผุ ล 2. อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น 3. ระบแุ ละเขียนสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ ัมพันธ์กับประโยคและข้อความ

ทฟ่ี ังหรืออ่าน 4. เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็น

เก่ยี วกบั เร่อื งทีฟ่ ังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่าง ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก ตัวชีว้ ดั และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ 1. สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว

เรื่องที่อย่ใู นความสนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม 4. พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็น

เกย่ี วกบั เรอ่ื งทีฟ่ ังหรอื อ่านอย่างเหมาะสม 5. พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองต่างๆ

กจิ กรรม และประสบการณ์ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด ตวั ชวี้ ดั และการเขยี น 1. พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์ เร่ือง/ประเดน็

ตา่ งๆ ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ ตัวชว้ี ดั อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ 1. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาท

สังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

2. อธิบายเก่ยี วกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจ้าของภาษา 3. เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเปน็ พ้ืนฐาน ตวั ชี้วดั ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน 1. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่ีเก่ยี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่นื

จากแหลง่ เรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขยี น

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม ตัวชว้ี ดั 1. ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม

2. ความคดิ รวบยอด

รู้และเข้าใจคาศัพท์และวลีทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั วิถีชีวิตของคนในเมอื งและคนในชนบท คาศัพท์ชอ่ื อาชีพ วิธีการเดนิ ทาง คาคุณศัพทบ์ รรยายลักษณะบคุ คล วิถชี วี ิตของเจา้ ของภาษา ความรู้เกย่ี วกบั อาชีพ Yeoman Warders ในประเทศองั กฤษ ความรดู้ า้ นภูมิศาสตรเ์ ก่ียวกับ Mexico City การอ่านออกเสียงถูกต้องตาม หลักการอ่าน การใช้ present continuous, present simple ช่วยให้ใชภ้ าษาในการพดู เขยี น แสดง ความรู้สึกความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเรอ่ื งใกล้ตวั ได้อย่างเหมาะสม และเกดิ ความเข้าใจความเปน็ มา ภมู ิหลงั บรบิ ท ทางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การออกเสียงตามระดับเสยี งสงู -ต่าในประโยค การออกเสียงสระเสยี งสั้น สระเสียงยาว - การตีความ/ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพันธก์ ับสอื่ ที่ไม่ใชค่ วามเรยี ง - การจับใจความสาคญั เช่น ใจความสาคัญ รายละเอียดสนบั สนุน - ภาษาทีใ่ ชใ้ นการส่ือสารระหว่างบคุ คล - ประโยคทใี่ ช้ในการขอและให้ข้อมูล แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเรอื่ งที่ฟังหรืออ่าน - ภาษาทใี่ ช้ในการแสดงความคิดเหน็ เชน่ I think…because… - การบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง เรื่องท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม

- การเลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนาตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา เช่น การแสดงท่าทางประกอบ

- ชวี ติ ความเปน็ อย่ขู องเจา้ ของภาษา

- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม บทบาทสมมติ - การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอขอ้ มูลท่ีเก่ียวข้องกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื

(ภมู ศิ าสตร)์ - การใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดขึน้ ในห้องเรยี น 3.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถิ่น -

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด

- การคิดวิเคราะห์ 4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน

6.1 การเขียน email ถึงเพื่อน 6.2 การแสดงบทบาทสมมติในการสมั ภาษณ์บุคคลทป่ี ระกอบอาชีพต่างๆ 6.3 การเขยี นบทความเกยี่ วกบั วิถีชวี ิตของตนเอง 6.4 การเขียนบทความเกย่ี วกับสถานที่ทอ่ งเทีย่ วท่ีมีชื่อเสียงในประเทศไทย 6.5 การออกเสยี งสานวนในการซ้ือตว๋ั โดยสารรถไฟใตด้ ินและคาศัพท์ที่มีเสียง /I/, /i:/ 6.6 การแสดงบทบาทสมมติในการซ้อื ตวั๋ โดยสารรถไฟใต้ดิน 6.7 การเขยี นบทความเก่ยี วกบั เมืองนิวเดลี (New Delhi) ในประเทศอินเดีย

7. การวดั และการประเมนิ ผล

7.1 ประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น 7.2 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด 7.3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรใู้ นช่วงการทากิจกรรม 7.4 ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.5 ประเมินช้ินงาน/ภาระงาน

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 หนงั สือเรียน Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3 8.3 แบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3 8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3) 8.5 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3) 8.6 CD หนงั สือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3 8.7 พจนานุกรมภาษาอังกฤษ 8.8 อินเทอร์เน็ต สารานกุ รม แผน่ พับโฆษณาการทอ่ งเท่ียว

แผนการจัดการเรยี นรู้ Unit 1a City life - country life

ชว่ั โมงท่ี 1-2

1. ความคดิ รวบยอด ร้แู ละเขา้ ใจคาศัพท์และวลที ี่เกี่ยวข้องกับวถิ ีชวี ิตของคนในเมืองและคนในชนบท การใช้ present

continuous, present simple ช่วยให้ใช้ภาษาส่ือสารในการอ่าน พูด เขยี น และแสดงความรสู้ กึ ได้อยา่ ง เหมาะสม

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 เรียนรูค้ าศัพทแ์ ละวลที ี่เกย่ี วข้องกับวิถีชวี ติ ของคนในเมืองและคนในชนบทได้ 2.2 เขยี นบรรยายภาพได้ 2.3 อา่ นเพ่ือจับใจความสาคญั ได้ 2.4 สนทนาเก่ียวกบั ไดอาร่ีทอี่ ่านได้ 2.5 เขียน email ถงึ เพื่อนได้ 2.6 ใช้ present continuous และ present simple ไดถ้ ูกต้อง

3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - การตีความ/ถา่ ยโอนข้อมูลให้สัมพันธก์ บั ส่ือทไี่ ม่ใช่ความเรียง - การจบั ใจความสาคญั เชน่ ใจความสาคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน - ประโยคทีใ่ ชใ้ นการขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั เร่อื งท่ีอา่ น - การบรรยายเกีย่ วกับตนเอง 3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ -

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร

4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบความรกู้ ่อนเรียนโดยใช้ Self Check ในหนงั สอื เรียน หนา้ 18 2. ครใู หน้ กั เรียนดูช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1: Lifestyles ในหนังสอื เรยี น หนา้ 9 แล้วบอกวา่ หมายความ วา่ อยา่ งไร จากนัน้ ให้นักเรียนคิดว่าหนว่ ยการเรยี นร้นู ้นี ่าจะเกย่ี วข้องกบั อะไร โดยครใู หน้ ักเรยี นเปดิ ดู เนือ้ หาในหนังสือเรียน หนา้ 10-17 อย่างคร่าวๆ

Suggested Answer Key The title refers to the living conditions, behaviour and habits of a person or a group of people. We will learn about how different people around the world live.

3. ครชู แ้ี จงใหน้ กั เรยี นทราบว่า ในหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 น้ี นักเรียนจะได้เรียนรูเ้ กยี่ วกับ  city life/country life  people & jobs  people’s lifestyles  free time activities  present continuous  present simple vs present continuous  relative clauses  forming adjectives from nouns

4. ครใู ช้ภาพที่ 1 และ 2 ในหนังสอื เรียน หน้า 9 เพ่ือดงึ ความสนใจของนักเรียน กระตนุ้ การอภิปราย และเตรยี มความพร้อมเข้าสู่หน่วยการเรียนรู้ โดยการถามคาถามเกย่ี วกบั หัวขอ้ ทจี่ ะเรยี นในหนว่ ย การเรียนรนู้ ้ี

Suggested Answer Key Focus Students’ attention on picture 1. T: What page is picture 1 from? (p. 10) S1: It’s from p. 10. T: What can you see in picture 1? S2: A busy street in London. T: How do you think the picture is related to the title of the unit? S3: I think it shows something of what life is like in a busy city. etc T: What page is picture 2 from? (p. 10) What can you see in picture 2?

How do you think the picture is related to the title of the unit? etc

5. นักเรยี นทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 9 หวั ขอ้ Find the page numbers for โดยหาวา่ an email, risky jobs, two men in uniform และ a map of the London underground อยู่ใน หนงั สอื เรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแล้วครูถามคาถามเกย่ี วกบั หัวขอ้ เหล่าน้ี เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจ ของนักเรยี น

an email (p. 11) What is an email? Do you write emails? Who do you send them to? etc

risky jobs (p. 12) What does risky mean? Why are these jobs risky? Would you like to do one of these jobs? Why (not)? etc

two men in uniform (p. 15) Who do you think these men are? What country are they from? Where do you think they work? Would you like to visit this place? etc

a map of the London underground (p. 16) Have you been on the London underground? What is the underground rail network in your country called? etc

6. ครูเปดิ CD 1/Track 8 ให้นกั เรยี นฟงั การออกเสยี งวลใี นหนงั สอื เรียน หน้า 9 หัวขอ้ Vocabulary แล้วออกเสียงตามพร้อมกนั และทลี ะคน จากนนั้ ใหน้ ักเรียนแปลวลเี หล่าน้เี ป็นภาษาไทย โดยครู อนญุ าตให้นักเรียนใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษได้

7. ครูใหน้ ักเรยี น 1 คน อ่านประโยคตัวอย่างในหวั ข้อ Think! ใหเ้ พือ่ นฟัง จากน้นั ใหน้ ักเรยี นเตรียม คาตอบวา่ ชอบสถานทใ่ี ดในภาพมากกวา่ พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบโดยใช้วลีในหัวข้อ Vocabulary แล้วครูส่มุ เรยี กนักเรียนพดู คาตอบของตนเอง

8. นักเรียนอ่านชือ่ Unit 1a และดูภาพในหนังสอื เรียน หนา้ 10 แลว้ ครูกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนบอกว่า เนือ้ หาใน Unit 1a จะเก่ยี วกับอะไร (life in the city versus life in the country)

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. ครใู หน้ กั เรียนบรรยายภาพทงั้ 2 ภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 1 (to describe pictures using the senses) โดยให้นักเรียนปิดตาและจนิ ตนาการว่านักเรยี นอยู่ทส่ี ถานท่ีในภาพ นกั เรียนจะ ไดย้ นิ ได้เหน็ ไดก้ ล่ิน และร้สู ึกอย่างไร

Suggested Answer Key The picture on the left shows a village in the countryside next to a lake or a river and some hills. I can hear the sound of water gently moving and birds singing. I can see the green grass on the hillside and I can smell the fresh country air. I feel relaxed and peaceful. The picture on the right shows a busy road in the city of London. I can hear the sound of traffic on the road and horns beeping. I can see the city and the tall buildings, and I can smell the fumes of the cars. I feel stressed and anxious.

2. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 2 (to read and listen for specific information) โดยอ่านไดอารี่ในหน้า 10 แล้วครเู ปดิ CD 1/Track 9 ให้นกั เรยี นฟังและอ่านไดอาร่ี ตามไปดว้ ย จากน้ันครอู า่ นคาถามใน Ex. 2 แลว้ ให้นักเรยี นตอบคาถาม เสรจ็ แล้วครูตรวจคาตอบ และใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธบิ ายความหมายของคาที่พมิ พ์ตัวหนาในไดอารี่

1. Sarah feels excited because she’s going shopping in Oxford Street and then to the cinema this afternoon.

2. Annabel can’t stand the smell of the animals. 3. Sarah’s school is very small. 4. Annabel misses the hustle and bustle of London. 5. Sarah misses the beautiful countryside and her friends from her hometown. 6. Sarah is getting homesick.

3. นกั เรียนอา่ นออกเสยี งคาและวลที ีก่ าหนดใหใ้ นหนงั สือเรียน หน้า 11 Ex. 3 (to present new vocabulary) แลว้ หาความหมายในพจนานุกรมภาษาองั กฤษ จากน้นั ให้นักเรียนแต่งประโยคโดยใช้ คาและวลีเหลา่ น้ี เสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นหลายๆ คน นาเสนอประโยคท่ีตนเองแตง่

Suggested Answer Key In London people travel by tube. My school has great facilities. There is a lot of traffic in the city. I get homesick when I’m away from home. I miss my family when I am away from home. Farmers get up early every day to milk the cows. Animals on a farm live in a barn. Farmers feed the chickens corn or other grains. Annabel can’t stand the smell of the animals. When I visit my grandma she always meets the bus. I feel isolated in the countryside. In the city everything is close at hand. I like the hustle and bustle of the city.

4. นักเรยี นทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 4 (to personalise learning and consolidate vocabulary) โดยเติมประโยคใหส้ มบูรณ์ตามความรู้สึกของนักเรยี น เสรจ็ แล้วครตู รวจคาตอบ และ สมุ่ เรยี กนกั เรียนบางคนอ่านประโยคของตนเอง

Suggested Answer Key 1. I like my city because everything is close at hand. 2. I love my school because it has brilliant facilities. 3. I enjoy being in the countryside because I love the fresh air and the peace and quiet.

5. นกั เรยี นอา่ นหลักการใช้ present continuous ในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 5 (to present the present continuous tense) แลว้ ครกู ระตนุ้ ให้นักเรียนช่วยกันบอกวา่ เราสรา้ ง present continuous อยา่ งไร ครทู บทวนการเติม -ing หลงั คากรยิ าบนกระดาน (Verbs ending in -e drop the -e and add - ing. Verbs ending in one stressed vowel between two consonants double the last consonant and add -ing. Verbs ending in -l double the -l and add -ing. Verbs ending in -ie drop the -ie and take -y and -ing.) จากนนั้ ครูกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนบอกประโยค present continuous จากไดอาร่ี หนา้ 10

Suggested Answer Key We form the present continuous with the verb ‘to be’ and the main verb with the -ing ending. Examples: Annabel’s mum is making breakfast. Today we are milking the cows in the barn and feeding the chickens.

6. นกั เรียนเติมประโยคในหนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 6 (to practise the present continuous tense) ใหส้ มบูรณ์ดว้ ยคากริยาท่ีกาหนดให้ในรูป present continuous เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ

1. is making 3. is leaving 5. is milking 2. are going 4. is visiting

7. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นประโยคที่ 1 ในหนังสอื เรียน หน้า 11 Ex. 7 (to compare the present simple tense with the present continuous tense) แลว้ ครูถามคาถาม ดังนี้ - Does the sentence describe what Ann is doing now? (No) - Does it describe what she will do in the future? (No)

- Does it describe something she does regularly i.e. a habit or routine? (Yes) - What tense is used? (the present simple) ครูถามคาถามเช่นเดยี วกันนีก้ บั ประโยคที่ 2 และ 3 จากนน้ั ให้นกั เรยี นหาตวั อย่างประโยคแตล่ ะ tense จากไดอารี่ หนา้ 10

1. present simple, a habit/routine 2. present continuous, an action happening now 3. present continuous, a future arrangement Examples: - Everyone stays in bed late here. (habit/routine) - It’s 8 am and Annabel’s mum is making breakfast. (an action happening now) - This afternoon, we’re going shopping in Oxford Street and then we’re going to the cinema! (future arrangements) etc

8. ครใู ห้นักเรียนอา่ น email ในหนงั สอื เรยี น หน้า 11 Ex. 8 (to practise the present simple with the present continuous tenses) แล้วเปล่ยี นคากรยิ าในวงเลบ็ ใหอ้ ยใู่ น tense ทถี่ ูกตอ้ งระหว่าง present simple หรอื present continuous พร้อมทง้ั ให้เหตผุ ลที่ใช้ tense นน้ั เสรจ็ แลว้ ครตู รวจ คาตอบ

1. am studying (an action happening now) 2. am sitting (a future arrangement) 3. start (a routine) 4. am working (action happening now) 5. am meeting (a future arrangement)

9. นักเรยี นอ่านตัวอยา่ งการถามและตอบในหนงั สอื เรียน หนา้ 11 Ex. 9 (to ask and answer comprehension questions on a text) แล้วครูให้นักเรียนจับคถู่ ามและตอบเก่ียวกับไดอาร่ีใน หนา้ 10 ครเู ดินสงั เกตขณะนักเรยี นทากิจกรรม และกระตุ้นให้นักเรยี นใช้ present simple และ present continuous ท้ังคาถามและคาตอบ

Suggested Answer Key A: Where does Sarah live? B: On a farm in the north of Scotland. A: What time do they get up at Annabel’s house? B: They get up late. A: What time does Sarah usually get up? B: She usually gets up at 5 am. A: What is happening at Annabel’s house when Sarah’s writing her diary entry Day 2? B: Annabel’s mum is making breakfast. A: What is happening at Sarah’s house on Day 2? B: They are milking the cows in the barn and feeding the chickens. etc

กิจกรรมรวบยอด

1. นักเรียนดโู ครงรา่ ง email ในหนังสอื เรียน หนา้ 11 Ex. 10 (to write an email) แล้วครูให้นักเรยี น บอกกิจวตั รประจาวนั ของนกั เรยี นและแผนการทจ่ี ะทาสาหรบั คนื นี้ จากน้ันครใู ห้นักเรยี นเขยี น email ตามโครงร่างทีก่ าหนดใหโ้ ดยใช้ email ใน Ex. 8 เป็นตน้ แบบ ครใู หน้ กั เรียนทางานในชั้นเรียนหรืออาจมอบหมายใหเ้ ป็นการบ้าน เมือ่ นักเรยี นทางานเสรจ็ แลว้ ครู สุม่ เรียกนักเรียนบางคนอ่าน email ใหเ้ พ่ือนในช้นั ฟัง

Suggested Answer Key Hi Janet, Thanks very much for your email. At the moment I’m waiting for my exam results. I don’t have school so I wake up late everyday. I sometimes meet my friends and go shopping. Tonight I’m going to the cinema with my friend, Ann. Well, that’s all for now. Write again soon. Jane

2. นกั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 1a หนา้ 8 Exs. 1-4

7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 ประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียน 7.2 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด 7.3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทากจิ กรรม 7.4 ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.5 ประเมนิ ผลการเขยี น email ถึงเพื่อน

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝกึ หดั Access 3 ม. 3 8.3 แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3 8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3) 8.5 พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปญั หาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ …………………………………….ผู้สอน (……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดือน……….………พ.ศ. …..… ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื …………………………………….ผู้ตรวจ (……………………….……………)

วนั ที่……..เดือน……….………พ.ศ.……….

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 1b Risky jobs

ชว่ั โมงท่ี 3-4

1. ความคิดรวบยอด

รแู้ ละเขา้ ใจคาศัพท์ช่ืออาชีพและคาคุณศัพทบ์ รรยายลักษณะบคุ คล ช่วยใหใ้ ช้ภาษาในการพดู เขยี น และแสดงความคิดเห็นได้อย่างเหมาะสม

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 เรยี นรคู้ าศพั ทช์ อ่ื อาชพี และคาคณุ ศัพทบ์ รรยายลักษณะบุคคลได้ 2.2 พดู หรอื เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับการเลือกประกอบอาชพี ได้ 2.3 แสดงบทบาทสมมตใิ นการสัมภาษณ์บคุ คลทปี่ ระกอบอาชีพตา่ งๆ ได้ 2.4 สร้างคาคณุ ศพั ทจ์ ากคานาม และใช้ relative clauses ได้ถกู ต้อง

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - ภาษาท่ใี ชใ้ นการแสดงความคิดเหน็ เช่น I think…because… - การเลือกใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาทสงั คมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม บทบาทสมมติ - การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดขึน้ ในห้องเรียน

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน -

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ

- การคดิ วเิ คราะห์ 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

5.1 ใฝ่เรยี นรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนาส่กู ารเรียน

นกั เรียนดูชอื่ Unit 1b และภาพในหนงั สือเรยี น หนา้ 12 แลว้ ครูกระตุ้นใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอก ความหมายของคาว่า risky (dangerous) จากนน้ั ครถู ามนักเรียนว่า คดิ ว่า Unit 1b จะเกี่ยวกับเรอ่ื ง

อะไร (dangerous jobs)

กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1 . ครูให้นกั เรยี นคัดลอกแผนภูมิ spidergram ในหนงั สือเรียน หนา้ 12 Ex. 1 (to present new vocabulary and brainstorm for jobs) ลงในสมดุ แล้วครูอธิบายคาศพั ทท์ น่ี ักเรยี นไม่รู้ เชน่ media - TV, newspapers and magazines; the Arts - music, painting, literature, cinema, dance จากนัน้ ครใู หน้ ักเรียนเขียนคาศพั ทช์ ่ืออาชีพตามหวั ข้อให้ได้มากท่สี ดุ ภายในเวลา 4 นาที เสรจ็ แล้ว เปรียบเทยี บกับเพอื่ น แล้วครตู รวจคาตอบบนกระดาน และใหน้ กั เรียนคดั ลอกคาศัพทเ์ กี่ยวกับอาชีพ ทั้งหมดบนกระดานลงในแผนภมู ิ spidergram ของตนเอง

Suggested Answer Key

Money: bank manager, stock broker, cashier

Medicine: doctor, nurse, surgeon, vet

Transport: train/bus/lorry driver, flight attendant

The Arts: musician, dancer, artist, director, sculptor, painter

Law & Order: lawyer, judge, MP

Restaurants/Hotels:manager, waiter, chef, maid

Other: fire fighter

Sports: athlete, referee, footballer

Media: TV presenter, DJ, newspaper/magazine editor

Education: headmaster, private tutor

2 . นักเรยี นเล่นเกมเปน็ กล่มุ โดยครหู รอื นักเรยี น 1 คน คิดคาศัพท์เกย่ี วกบั อาชีพ แลว้ ทาท่าทางบอกใบ้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มผลัดกันทายว่าเปน็ อาชพี ใด กลุ่มที่ทายได้ถกู ต้องจะได้ 1 คะแนน และกลุ่มที่ได้คะแนน มากทส่ี ุดจะเป็นผู้ชนะ e.g. Leader (dentist) - mimes pulling out tooth Team A S1: Are you a sculptor? etc

3 . นักเรียนทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 2 (to match sounds to pictures and jobs to people) โดยครดู ึงความสนใจของนักเรียนมาทภี่ าพ A-C แล้วเปดิ CD 1/Track 10 ใหน้ ักเรียนฟงั เสยี ง และจบั คเู่ สยี งท่ไี ดย้ ินกับภาพ จากน้นั ครอู ่านช่ืออาชีพ 1-3 แล้วใหน้ ักเรยี นจับคูช่ ื่ออาชพี กับบุคคลใน ภาพ A-C และกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนบอกวา่ แตล่ ะอาชีพต้องทาอะไร

The first sound matches picture C. The second sound matches picture A. The third sound matches picture B. C1 A2 B3

Suggested Answer Key A storm chaser photographs lightning storms and tornadoes. A war photographer photographs battles during times of war. A wildlife photographer photographs animals and plants in their natural habitats.

4 . ครูให้นักเรยี นหาความหมายของคาทก่ี าหนดใหใ้ นหนงั สอื เรียน หน้า 12 Ex. 3 (to present new vocabulary) จากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ แล้วครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นบอกความหมายของแตล่ ะคา ครใู หน้ ักเรยี นทาเป็นกิจกรรมเพ่มิ เติม ดว้ ยการแตง่ ประโยคโดยใช้คาเหล่านี้

5 . นักเรียนทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 12 Ex. 4a (to read for structure, cohesion and coherence, to listen for confirmation) โดยจับค่กู ับเพื่อนอา่ นบทอ่านและช่วยกนั เติมคาลงใน ช่องว่างดว้ ยคา ทกี่ าหนดใหใ้ น Ex. 3 ครแู นะนาว่าถา้ ข้อใดท่ีนักเรยี นไมแ่ น่ใจ ใหน้ ักเรียนลองเตมิ คาในช่องวา่ ง ทลี ะคา แลว้ อ่านประโยคว่าได้ใจความหรือไม่ เมื่อนักเรยี นทาเสร็จแลว้ ครเู ปิด CD 1/Track 11 ให้ นกั เรยี นฟังเพื่อตรวจคาตอบของตนเอง

1. excitement 5. travel 8. talented 2. look for 6. bombs and rockets 9. patient 3. hurricanes 7. dangerous 10. proud 4. brave

6 . นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 12 Ex. 4b (to present new vocabulary) โดยหา ความหมายของคาท่ีพมิ พ์ตวั หนาในบทอ่านจากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ แล้วครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นบอก ความหมายของแต่ละคา จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นปิดหนังสอื เรยี น แล้วคิดถึง 2 สงิ่ ท่ีนักเรยี นจาได้เกี่ยวกบั แต่ละคนจากบทอ่าน แล้วครูสุ่มเรยี กนักเรียนพดู สิ่งทีน่ ักเรยี นจาได้

7 . ครูใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมในหนังสือเรียน หนา้ 12 Ex. 5 (to develop critical thinking skills) โดยครอู ธบิ ายหรือใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาว่า personal satisfaction (the pleasure that you feel when you do something you want to do or get something you want to get) ครูกระต้นุ ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ว่า อะไรสาคญั มากกวา่ ในการเลือกประกอบอาชพี ระหวา่ ง การไดเ้ งนิ มาก (making a lot of money) หรือความพอใจของตนเอง (personal satisfaction) พรอ้ มให้เหตผุ ลประกอบ หรือครูอาจให้เวลานักเรยี น 3 นาที เขียนแสดงความคิดเห็นในหัวข้อน้ี 2-3 ประโยค เสร็จแลว้ พูดให้ เพือ่ นข้างๆ ฟัง จากนนั้ ครสู ่มุ เรียกนักเรียนอ่านประโยคของตนเองให้เพ่อื นในชนั้ ฟัง

Suggested Answer Key I think personal satisfaction is more important because if you don’t like what you do, even if you make a lot of money, you still won’t be happy.

8 . นักเรยี นศึกษาหัวข้อ Learning to learn ในหนังสือเรยี น หน้า 13 เก่ียวกบั การเรียนรคู้ าตรงข้าม เพ่อื ชว่ ยในการจดจาคาศพั ท์ แล้วครูยกตวั อยา่ งโดยเลือกคาคณุ ศัพทจ์ าก Ex. 3 ในหน้า 12 มาเขียน

บนกระดาน เชน่ talented, proud, patient, brave จากน้นั กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นบอกคาตรงขา้ ม (untalented, modest, impatient, cowardly)

9 . นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาคุณศพั ท์ขอ้ 1-11 ในหนงั สือเรียน หนา้ 13 Ex. 6a (to present personality adjectives and their opposites) แล้วครูอธิบายความหมายของคาทนี่ ักเรียนไม่รู้ และชี้ใหน้ ักเรียนเหน็ ว่าคาตรงข้ามบางคามาจากการเตมิ prefix ข้างหนา้ คาคุณศัพท์ จากน้นั ให้ นักเรียนจับคูค่ าคณุ ศัพท์ (1-11) กับคาตรงขา้ ม (a-k) เสรจ็ แล้วครูใหน้ กั เรียนฟัง CD 1/Track 12 เพ่ือตรวจคาตอบ

1. d 3. a 5. b 7. i 9. f 11. e 2. c 4. j 6. h 8. k 10. g

1 0 . ครูอา่ นคาศัพทช์ อ่ื อาชพี และประโยคตวั อยา่ งในหนงั สอื เรียน หน้า 13 Ex. 6b (to match adjectives to jobs) ให้นักเรียนฟงั แล้วใหน้ ักเรียนจบั คู่กับเพื่อน เลือกคาคณุ ศัพทท์ ่ีเหมาะสมจาก Ex. 6a มาบรรยายอาชีพท่ีกาหนดให้ เมอื่ นักเรยี นทาเสร็จแลว้ ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนหลายๆ คู่ พดู บรรยายอาชพี

Suggested Answer Key A nursery teacher needs to be imaginative and patient. A fire fighter needs to be brave and skilful. A storm chaser needs to be patient and careful. A lawyer needs to be hardworking and smart. A waiter needs to be friendly and polite. A doctor needs to be smart and skilful.

1 1 . นกั เรยี นอา่ นหลักการสรา้ งคาคุณศัพทจ์ ากคานามในหนงั สือเรียน หน้า 13 Ex. 7 (to form adjectives from nouns) แล้วครบู อกนักเรยี นวา่ การสรา้ งคาคุณศัพท์จากคานามอาจเกีย่ วขอ้ งกบั การสะกดคา (ไม่มีในตัวอย่าง) โดยครยู กตวั อยา่ ง เชน่ sun – sunny จากนัน้ ครใู ห้นักเรยี นทา Ex. 7 โดยเปลย่ี นคานามในวงเลบ็ ให้เปน็ คาคุณศัพท์ เสร็จแลว้ ครูตรวจ คาตอบและการสะกดคาของนักเรยี น

1. funny 2. famous 3. beautiful

1 2 . นักเรยี นอ่านตวั อย่างประโยค relative clauses ในหนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 8 (to present relative clauses with who, which, where, whose) แล้วเติมหลกั การใช้ relative clauses ด้วย who, which, whose หรือ where

1. who 2. where 3. which 4. whose

ครูใหน้ ักเรียนหาตัวอยา่ งการใช้ relative clauses จากบทอา่ นในหนา้ 12

Warren Faidley is a real-life storm chaser whose job is to photograph … … adventure and excitement are the things which he likes most about this job. … he wakes up in the middle of a war zone where bombs and rockets are going off … It’s a job which requires a lot of courage. … wildlife photographer who works with …

1 3 . นักเรยี นเติมประโยคในหนังสือเรยี น หนา้ 13 Ex. 9 (to practise using the relative pronouns) ใหส้ มบูรณ์ด้วย relative pronouns: who, which, where, whose ที่ถกู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วครูตรวจ คาตอบ

1. who 2. where 3. who 4. whose 5. which

1 4 . นกั เรียนเติมประโยคในหนงั สือเรยี น หน้า 13 Ex. 10 (to practise using the relative pronouns who/which) ให้สมบรู ณด์ ้วยข้อมูลจรงิ ของนักเรยี นโดยใช้ who หรอื which เสรจ็ แล้วครูตรวจ คาตอบของนักเรยี น

Suggested Answer Key 4. which, travel 2. which, relax 5. which, a swimming pool 3. who, lazy, unhelpful

กิจกรรมรวบยอด

1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ทากจิ กรรมในหนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 11 (to act out an interview) โดยแสดงบทบาทสมมติ ครูให้แตล่ ะกลมุ่ แบ่งบทบาทกนั เป็นผ้สู ัมภาษณ์ 1 คน และ ผถู้ กู สมั ภาษณ์ 3 คน จาก Ex. 5 (Jonathan, Joel, Warren) แล้วครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คิดคาถามทเี่ ปน็ ไปได้ทจี่ ะใช้ในการสมั ภาษณ์ โดยครูเขียนคาถามบนกระดาน เช่น What do you like best about your job? What skills do you need to do your job? จากนน้ั ให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ แสดงบทบาทสมมตใิ นการสมั ภาษณ์บุคคล โดยผลดั กันตอบคาถาม ครูสังเกตการทากจิ กรรมรอบๆ ช้ันเรียน และสมุ่ เรียกนักเรียนบางกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติที่ หนา้ ชนั้ เรียน

Suggested Answer Key A: What do you do for a living, Joel? B: I am a wildlife photographer for the National Geographic Society. A: Do you like your job? B: Yes. I like it very much. Photography is the key to the whole world. A: What skills do you need to do your job? B: You need to be patient and careful. A: And, what do you do for a living, Warren? C: I’m a storm chaser. etc

2. นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 1b หน้า 9 Exs. 1-5 7. การวัดและการประเมินผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด 7.2 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในชว่ งการทากิจกรรม 7.3 ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมติในการสัมภาษณ์บุคคลทป่ี ระกอบอาชพี ต่างๆ

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3 8.3 แบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3 8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สือเรียน Access 3 ม. 3) 8.5 CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3 8.6 พจนานุกรมภาษาอังกฤษ

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………………….ผู้สอน (……………………….……………)

วันท่ี……..เดือน……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผูต้ รวจ (……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดือน……….………พ.ศ.……….

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 1c Modern living

ช่วั โมงท่ี 5

1. ความคิดรวบยอด รูแ้ ละเขา้ ใจวิถีชีวิตของเจ้าของภาษา ชว่ ยใหเ้ กิดความเขา้ ใจบริบททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 เรียนรู้ phrases with ‘feel’ ได้ 2.2 พดู สนทนาเก่ยี วกับวถิ ชี วี ิตของเจา้ ของภาษาจากเรอื่ งท่อี า่ นได้ 2.3 เขยี นบทความเกยี่ วกับวถิ ีชีวิตของตนเองได้ 2.4 ใชค้ าเชอื่ ม and, but, or ได้ถกู ต้อง

3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ประโยคที่ใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับเร่อื งท่ีอา่ น - การบรรยายเก่ียวกับตนเอง - ชวี ิตความเปน็ อยูข่ องเจ้าของภาษา 3.2 สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ -

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรมนาสู่การเรยี น

ครูให้นกั เรียนดชู อื่ Unit 1c ช่ือบทอา่ น และภาพในหนังสือเรยี น หน้า 14 แล้วช่วยกนั บอกว่า Unit 1c นา่ จะเก่ยี วกบั อะไร (an average teenager’s lifestyle)

กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้

1. นักเรยี นทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 14 Ex. 1 (to predict the content of a text) โดยครูดึง ความสนใจของนกั เรียนมาท่ีภาพ แล้วให้นกั เรียนช่วยกนั บอกว่าเห็นอะไรในภาพ (a teenager, John, and a view of a UK city) จากนน้ั ครกู ระตุน้ ใหน้ ักเรียนคิดว่าวถิ ชี วี ติ (lifestyle) ของ John เปน็ อย่างไร (is a student, has part-time job, etc) แลว้ ครเู ปิด CD 1/Track 13 ใหน้ ักเรียนฟงั และอ่านบทอ่านตามไปด้วยเพื่อหา คาตอบ

Suggested Answer Key Students’ own answers

2. นักเรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 14 Ex. 2 (to ask and answer comprehension) โดย ช่วยกันอธิบายความหมายของคาท่ีพิมพ์ตวั หนาในบทอ่าน จากนนั้ จบั คูก่ ับเพ่ือน ถามและตอบเกีย่ วกบั บทอ่าน ครเู ดนิ รอบๆ ช้นั เรียนสงั เกตการทากิจกรรม แล้วสุ่มเรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ ออกมาถามและ ตอบคาถามเพื่อสรุปบทอา่ นส้ันๆ

Suggested Answer Key A: How old is John? B: 15. Where does he come from? A: He comes from Swansea in Wales. What does he say about Swansea? B: It is very big, lovely and full of friendly people. He likes living there

but he thinks it gets a bit noisy when the tourists arrive in the summer. What is his house like? A: It is a small house close to the beach. What is his room like? B: It is on the second floor and has a great view of the sea. etc

3. ครูอ่านวลีท่ใี ช้ feel ในหนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 3 (to learn phrase with ‘feel’) และ ยกตวั อยา่ งเพิ่มเติมเพื่อใหน้ ักเรียนเขา้ ใจมากขนึ้ เช่น How do you feel today? I feel happy. My clothes feel comfortable. I feel like eating an ice cream. ครูใหน้ ักเรียนหาวลีที่ใช้ feel ในบทอ่าน จากนัน้ แต่งประโยคดว้ ยวลีทีใ่ ช้ feel ใน Ex. 3 เสร็จแลว้ ครู ตรวจคาตอบของนักเรยี น

It makes me feel calm.

Suggested Answer Key I feel happy. My skin feels soft. I feel like staying in tonight. How do you feel about watching a DVD later?

4. นกั เรยี นศกึ ษาหัวข้อ Learning to learn ในหนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 4 (to learn about and use connectors) เก่ียวกบั การใชค้ าเชอ่ื มประโยค (connectors) จากนัน้ ครกู ระตุน้ ให้นักเรียนหา ประโยคทม่ี ีคาเชือ่ มในบทอ่าน แล้วครเู ขยี นบนกระดาน ครูให้นักเรยี นทา Ex. 4 โดยเชือ่ มประโยคท่กี าหนดใหเ้ ข้าด้วยกันโดยใชค้ าเชื่อม เม่ือทาเสร็จแลว้ ครู ตรวจคาตอบ

I’m 15 years old and I come from Wales. It is very big but it’s lovely and full of friendly people. I really enjoy living here but it gets noisy when … … we talk about music or we make plans. etc 1. It’s a nice place but it is very expensive. 2. We often go to Pierre’s and we have lunch there. 3. We can go by bus or we can walk. 4. We swim there and we play beach volleyball.

กิจกรรมรวบยอด

1. นักเรียนทากจิ กรรมในหนังสือเรียน หนา้ 14 Ex. 5 (to write an article) โดยเขียนคาตอบของ คาถามแต่ละย่อหน้าที่อยูใ่ นโครงรา่ งลงในสมุด จากนน้ั นาคาตอบมาเขยี นบทความเกย่ี วกับวิถชี ีวิต ของตนเอง ครูอาจใหเ้ วลานกั เรียนทางานในชั้นเรยี นหรอื มอบหมายเปน็ การบา้ น ครแู นะนาวา่ นักเรียนสามารถใชบ้ ทอ่านใน Ex. 1 เป็นต้นแบบได้ เม่ือนกั เรยี นเขียนเสรจ็ แลว้ ครสู ่มุ เรียกนกั เรียนบางคนอ่านบทความของตนเองให้เพื่อนฟัง

Suggested Answer Key Being 14

I’m Maria Ceres. I’m 14 years old and I come from Spain. I live in Malaga. It is a very big city. My house I live in a small house close to the beach. My room is on the top floor. I love my room. My family There are six people in my family: my mum, my dad, me and my three brothers, José, Mario and Carlos. My dad is a doctor and my mum stays at home. My friends I have lots of friends. I go to the cinema with them. My best friend, Rosa, lives in the same neighbourhood as me. We play music together.

2. นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 1c หน้า 10-11 Exs. 1-7 3. นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 1c หนา้ 12 Ex. 8 เปน็ การบา้ น

7. การวัดและการประเมินผล

7.1 ประเมินการทาแบบฝึกหัด 7.2 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในชว่ งการทากจิ กรรม 7.3 ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.4 ประเมินผลการเขียนบทความเกย่ี วกบั วถิ ชี วี ิตของตนเอง

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 หนงั สือเรยี น Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝึกหัด Access 3 ม. 3 8.3 แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3 8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3) 8.5 CD หนงั สือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปญั หาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผู้สอน (……………………….……………)

วันท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ. …..… ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ท่ีได้รับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื …………………………………….ผู้ตรวจ (……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดือน……….………พ.ศ.……….

แผนการจดั การเรยี นรู้ Unit 1d Culture corner

ชวั่ โมงท่ี 6

1. ความคดิ รวบยอด

ความรูเ้ กยี่ วกบั อาชพี Yeoman Warders ในประเทศองั กฤษ ช่วยใหเ้ กิดความเขา้ ใจความเป็นมา ภมู ิ หลงั บริบททางสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 เรยี นรคู้ าศัพทต์ ่อไปน้ี complete, wonders, introduced, prisoners, guarded, take care of, ravens, uniform, formal, occasions, protected ได้

2.2 อ่านและฟงั เพือ่ หาข้อมลู จาเพาะได้ 2.3 เขยี นแนะนาสถานท่ีทอ่ งเท่ียวในประเทศไทยได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การจับใจความสาคัญ เช่น ใจความสาคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ - การบรรยายเก่ยี วกับเร่ืองที่อยู่ในความสนใจของสังคม - ชีวิตความเปน็ อย่ขู องเจ้าของภาษา - การค้นควา้ การรวบรวม และการนาเสนอข้อมลู ท่เี ก่ยี วข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อน่ื

3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่ิน -

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด

- การคดิ วิเคราะห์ 4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

5.1 ใฝเ่ รียนรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนาสู่การเรียน

1. ครูอธบิ ายให้นักเรยี นฟังวา่ Culture corner เป็นการแนะนาหวั ขอ้ ท่ีน่าสนใจเกี่ยวกบั วัฒนธรรม ของสหราชอาณาจักรหรือประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ

2. ครูดงึ ความสนใจของนักเรียนมาท่ชี ่ือของบทอ่านและภาพในหนงั สอื เรียน หนา้ 15 แลว้ กระตุน้ ให้ นกั เรียนคิดวา่ กาลังจะไดอ้ า่ นเกย่ี วกับเรอ่ื งอะไร (a castle in England and the men that guard it)

กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 15 Ex. 1a (to make predictions about a text) โดยดู ชือ่ ของบทอ่านและภาพ แลว้ ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรยี นตอบคาถามวา่ ผูช้ ายในภาพเป็นใคร (Yeoman Warders) และใหน้ ักเรยี นเดาวา่ พวกเขาทางานที่ไหน จากนน้ั ครูถามวา่ นักเรยี นรหู้ รือไม่ว่านกใน ภาพเรยี กว่าอะไร แล้วครูเปิด CD 1/Track 14 ให้นกั เรยี นฟงั และอ่านบทอ่านตามไปดว้ ยเพ่อื หา คาตอบ

The men in the picture are Yeoman Warders. They work at the Tower of London. The bird is a raven.

2. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 15 Ex. 1b (to present new vocabulary) โดยหา ความหมายของคาที่ขีดเสน้ ใต้ในบทอ่านจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ จากน้นั ครสู ุม่ เรียกนกั เรยี นบอก ความหมาย

3. นักเรียนทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 15 Ex. 2 (to read for specific information) โดยอา่ น บทอา่ นอีกครั้ง แลว้ ตอบคาถามวา่ ประโยคถูก (T) หรือผิด (F) หรือไม่ได้บอกขอ้ มลู ไวใ้ นบทอา่ น (DS) เสรจ็ แล้วครตู รวจคาตอบ

1. T 2. DS 3. F 4. DS

4. นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 15 Ex. 3 (to recall information from a text) โดยครู ให้นกั เรียนปดิ หนงั สอื เรียน แล้วจับคูท่ ากิจกรรมกบั เพอ่ื นด้วยการสมมตใิ ห้ตนเองเปน็ Beefeater

แลว้ พูดนาเสนอข้อมลู วา่ ตนเองเปน็ ใคร ทางานทีไ่ หน งานที่ทาคืออะไร และสวมใสอ่ ะไรขณะทางาน ครูสงั เกตการทากจิ กรรม และสุ่มเรียกนกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมารายงานที่หนา้ ชนั้ เรยี น

Suggested Answer Key Students’ own answers

5. ครูให้นกั เรยี นอ่านข้อความในหนงั สือเรียน หนา้ 15 Ex. 4 (to listen for specific information) แลว้ บอกว่าข้อมลู ชนดิ ใดท่ีขาดหายไปในแตล่ ะช่อง (1 a person’s name, 2 a name of a part of the Tower or a noun, 3 something you can buy, 4 a time, 5 a price) จากนน้ั ครเู ปิด CD 1/Track 15 ใหน้ กั เรยี นฟังและเตมิ ขอ้ มลู ทีข่ าดหายไปในช่องวา่ งให้สมบรู ณ์ เสรจ็ แล้วครูตรวจ คาตอบ

1. William 2. history 3. toys 4. 6 pm 5. £16.00

กิจกรรมรวบยอด 1. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 5 (to write a short article about a popular tourist attraction in your country) โดยเขียนแนะนาสถานทีท่ ่องเท่ียวที่มีชือ่ เสียงในประเทศไทย ท่ีนกั เรียนสามารถพบเห็นเจ้าหน้าท่ที ี่สวมใส่เครื่องแบบพเิ ศษ ครใู ห้นักเรียนบอกสถานที่ทีส่ ามารถ นามาเขยี นได้ และแนะนาใหน้ ักเรยี นใช้อินเทอรเ์ น็ต หรอื สารานกุ รม หรือแผน่ พับโฆษณาการ ทอ่ งเที่ยวในการคน้ คว้า รวบรวมขอ้ มลู พร้อมหาภาพประกอบ ครูมอบหมายให้นักเรียนเปน็ การบา้ น โดยใหน้ กั เรียนเขยี นรายละเอียดเกี่ยวกับ where is it/its history, who you can see there/their job/their uniform เมื่อทาเสร็จแล้วครูให้นกั เรียนหลายๆ คน นาเสนอผลงานทห่ี น้า ชน้ั เรียน

Suggested Answer Key A trip to Italy is never complete without a visit to the Vatican City and the Papal Palace which is guarded by the Papal Swiss Guard. The Papal Palace, also called the Apostolic Palace, is the official home of the Pope in Vatican City. Some of its over 1,000 rooms are open to the public including Raphael’s Rooms. It also includes

particular, the Sistine Chapel with its beautiful ceiling frescoes painted by Michaelangelo.

The Swiss Guard is responsible for guarding the entrances to the Apostolic Palace. The guards must be Swiss, catholic young men between 19 and 30 who are of good character and at least 1.74 metres tall. They are a Guard of Honour and also keep order every time the Pope appears in public.

The official dress is a distinct blue, red, orange and yellow uniform with a metal helmet and they carry a spear. ในกจิ กรรมน้ี เน่ืองจากในประเทศไทยไมม่ สี ถานทีท่ ่องเที่ยวท่ีเจา้ หนา้ ทสี่ วมใสเ่ ครื่องแบบพเิ ศษในการ ทางาน ครูอาจใหน้ ักเรียนคน้ คว้าข้อมูลเกย่ี วกบั สถานทีท่ ่องเทย่ี วในประเทศไทยเพยี งอย่างเดยี ว 2. นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 1d หนา้ 13 Exs. 1-3

7. การวดั และการประเมนิ ผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด 7.2 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากจิ กรรม 7.3 ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 ประเมนิ ผลการเขียนบทความเก่ียวกบั สถานท่ีท่องเท่ียวท่ีมีชื่อเสียงในประเทศไทย 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

8.1 หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝกึ หดั (Workbook) Access 3 ม. 3 8.3 แบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3 8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสือเรยี น Access 3 ม. 3) 8.5 CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3 8.6 พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ 8.7 อินเทอร์เน็ต สารานุกรม แผน่ พบั โฆษณาการท่องเที่ยว

บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปญั หาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผู้สอน (……………………….……………)

วันท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ. …..… ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………………….ผู้ตรวจ (……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

แผนการจัดการเรยี นรู้ Unit 1e Single, please

ช่วั โมงที่ 7-8

1. ความคิดรวบยอด รแู้ ละเข้าใจคาศัพท์เก่ียวกบั วิธกี ารเดินทาง การอ่านออกเสียงสานวนภาษาและคาศพั ท์ถูกต้องตาม

หลกั การอา่ น ชว่ ยใหใ้ ชภ้ าษาในการส่ือสารเกี่ยวกบั เรือ่ งใกล้ตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 เรียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วิธีการเดินทางได้ 2.2 อ่านออกเสยี งสานวนในการซ้ือตั๋วโดยสารรถไฟใต้ดนิ และคาศพั ท์ทีอ่ อกเสียง /I/, /i:/ ได้ 2.3 แสดงบทบาทสมมตใิ นการซื้อต๋ัวโดยสารรถไฟใต้ดินได้

3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ตา่ ในประโยค การออกเสียงสระเสียงสนั้ สระเสยี งยาว - ภาษาทใ่ี ช้ในการสื่อสารระหว่างบคุ คล - การเลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนาตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษา เชน่ การแสดงท่าทางประกอบ - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ บทบาทสมมติ - การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรียน 3.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถ่ิน -

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรมนาสู่การเรยี น

ครใู หน้ กั เรยี นอ่านช่อื Unit 1e และดูแผนทใ่ี นหนงั สือเรยี น หนา้ 16 แลว้ เดาวา่ เนอ้ื หาใน Unit 1e จะ เกย่ี วกบั อะไร (buying a ticket for the London underground)

กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้

1. นักเรียนดวู ธิ ีการเดนิ ทางในหนงั สอื เรียน หนา้ 16 Ex. 1 (to revise vocabulary for means of transport) แล้วครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้นักเรยี นอธิบาย ยกตัวอยา่ ง หรอื แปลเป็นภาษาไทย จากน้ันครูสุม่ ถามนักเรียนหลายๆ คน วา่ เดนิ ทางมาโรงเรยี นอยา่ งไร

Suggested Answer Key Students’ own answers

2. ครูเปดิ CD 1/Track 16 ให้นกั เรยี นฟังสานวนภาษาในหนังสือเรยี น หนา้ 16 Ex. 2a (to understand situational language and consolidate vocabulary through translation) โดย ครหู ยดุ CD เมือ่ จบ แต่ละประโยคเพื่อใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม จากนั้นครูอธบิ ายความหมายของคาที่นักเรียนไม่รู้ เช่น Barbican - a place in London แล้วครูให้นกั เรยี นแปลสานวนภาษาเหลา่ นี้เป็นภาษาไทย โดยครยู ้าใหน้ ักเรียนแปลเปน็ ถ้อยคาที่ เทยี บเท่ากับในภาษาไทยมากกวา่ การแปลตรงตวั

Suggested Answer Key Students’ own answers

ครอู าจใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมนดี้ ว้ ยการเลน่ เกม Memory game โดยใหเ้ วลานกั เรียน 1 นาที เพ่ือ จดจาประโยค แลว้ ปิดหนงั สือเรยี น จากนัน้ ให้นักเรียนพยายามนกึ ประโยคให้ได้มากท่สี ดุ เท่าที่ นักเรยี นสามารถจาได้ แล้วครูส่มุ เรียกนักเรยี นพดู ประโยค 3. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นบทสนทนาในหนงั สอื เรียน หนา้ 16 Ex. 2b (to listen for specific information) แลว้ บอกว่าใครเปน็ ผู้พูดแต่ละประโยคใน Ex. 2a ระหวา่ งพนักงานขายต๋ัวหรอื ผ้โู ดยสาร จากนัน้ ครูเปิด CD 1/Track 17 ให้นักเรียนฟังและอ่านบทสนทนาตามไปดว้ ยเพื่อตรวจ คาตอบของตนเอง

A ticket seller would say: Next, please. Where to? Single or return? That’s £6.00. You’re welcome. A passenger would say: Return to Barbican, please. Which line do I take, please?

ครใู หน้ กั เรียนตอบคาถามว่าในแต่ละบทสนทนาผโู้ ดยสารตอ้ งการไปท่ีไหน

A St James’s Park B Barbican

4. นกั เรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 3 (to understand the meaning of everyday English expressions) โดยอา่ นบทสนทนาใน Ex. 2b อีกครงั้ และหาประโยคในบทสนทนาที่มี ความหมายเหมือนกับประโยค 1-5 เสร็จแลว้ ครตู รวจคาตอบโดยสุ่มเรียกนักเรยี นอา่ นคาตอบของ ตนเอง

1. Next, please. 3. That’s £6.00. 5. You’re welcome.

2. Where to? 4. Thanks a lot.

5. ครูให้นักเรียนคัดลอกตารางในหนงั สอื เรยี น หนา้ 16 Ex. 5 (to practise pronouncing /I/, /i:/) ลง ในสมดุ แลว้ ครูเปิด CD 1/Track 18 ใหน้ กั เรยี นฟงั การออกเสยี งคาศัพท์ที่ออกเสียง /I/ และ /i:/ และทาเครอื่ งหมาย  ในชอ่ งตามเสียงที่ได้ยนิ ครเู ปดิ CD อีกครง้ั โดยหยดุ ทีละคา เพื่อให้นักเรียนออกเสียงตาม จากน้ันครตู รวจคาตอบ และให้ นกั เรยี นยกตวั อย่างคาศพั ทท์ ่ีออกเสียง /I/ และ /i:/ เพิ่มเติม

/I/ /i:/ /I/ /i:/

Pete  beat 

pit  bit 

peal  slip 

pill  sleep 

กจิ กรรมรวบยอด 1. นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 16 Ex. 4 (to act out a dialogue using visual prompts) โดยการแสดงบทบาทสมมตใิ นการซ้ือต๋ัวรถไฟใต้ดิน ครูช่วยเหลอื นักเรียนในการหาขอ้ มลู ที่เก่ยี วข้องในแผนท่ีการเดินรถไฟใต้ดิน เชน่ Liverpool Street, Westminster, name of line, cost of tickets และเขียนโครงสรา้ งบทสนทนาให้นักเรียนดูบน กระดาน

ครูให้นกั เรยี นสมมตวิ า่ ตนเองอยใู่ น London และต้องการเดินทางจาก Liverpool Street ไป Westminster จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นจบั คแู่ สดงบทบาทสมมตเิ ปน็ พนักงานขายตว๋ั และผู้โดยสารโดยใช้ บทสนทนา B ใน Ex. 2b เปน็ ตน้ แบบ ครูเดินสังเกตการทากิจกรรมรอบๆ ช้นั เรียน แลว้ สุ่มเรยี กนักเรียนบางคู่ออกมาแสดงบทบาทสมมติท่ี หน้าชั้นเรียน

Suggested Answer Key A: Yes, please? B: Two return tickets to Westminster, please. A: That’s £6.00. B: Here you are. Which line do I take, please? A: Take the Circle Line. B: Thanks a lot. A: You’re welcome.

2. นกั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 1e หน้า 14 Exs. 1-4 โดยใน Ex. 3 ให้ นกั เรียนฟงั Access Workbook Audio CD 3 ม. 3/Track 2 ประกอบการทากิจกรรม

7. การวดั และการประเมินผล

7.1 ประเมินการทาแบบฝึกหดั 7.2 สังเกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทากจิ กรรม 7.3 ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 สังเกตการออกเสียงสานวนในการซ้ือตว๋ั โดยสารรถไฟใต้ดินและคาศพั ท์ทม่ี ีเสียง /I/, /i:/ 7.5 ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมตใิ นการซื้อต๋วั โดยสารรถไฟใต้ดนิ

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 หนังสือเรียน Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3 8.3 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสือเรียน Access 3 ม. 3) 8.4 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3)

บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผสู้ อน (……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดือน……….………พ.ศ. …..…

ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื …………………………………….ผู้ตรวจ (……………………….……………)

วนั ที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

แผนการจัดการเรยี นรู้ Unit 1f Curricular Cut

ชวั่ โมงท่ี 9-10

1. ความคดิ รวบยอด ความรู้ด้านภูมศิ าสตรเ์ ก่ยี วกบั Mexico City ช่วยให้เกิดความเขา้ ใจความเป็นมา ภมู หิ ลงั และบริบททาง

สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เรียนรู้คาศพั ทต์ ่อไปนี้ capital city, continent, population, language, currency, transport, food, tourism, leisure ได้ 2.2 เรยี นรู้เก่ยี วกับเมืองเม็กซิโก ซิตี้ (Mexico City) ได้ 2.2 เขียนบรรยายเกี่ยวกบั เมอื งนิวเดลี (New Delhi) ประเทศอินเดยี ได้

3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ประโยคทใ่ี ช้ในการแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เร่ืองทีฟ่ ังหรอื อา่ น - ชวี ิตความเปน็ อยูข่ องเจ้าของภาษา - การคน้ คว้า การรวบรวม และการนาเสนอขอ้ มลู ทีเ่ กี่ยวข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน (ภูมศิ าสตร)์ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ -

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ 4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่เรียนรู้

68

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนาส่กู ารเรียน

1. ครูใหน้ ักเรียนเปดิ หนังสือเรยี น หน้า 17 แล้วอธิบายวา่ Curricular Cut เปน็ การแนะนาวชิ าทส่ี อนใน โรงเรียนในสหราชอาณาจักร ซง่ึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของหลักสูตรแหง่ ชาติ เชน่ ภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์

2. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพและชื่อบทอ่านในหนงั สือเรยี น หนา้ 17 แล้วให้นักเรียนคดิ วา่ Unit 1f น่าจะ เก่ยี วกับอะไร (information about the people, transport and food in Mexico City)

กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 17 Ex. 1 (to use visual and audio stimuli to speculate about a place) โดยครเู ปดิ CD 1/Track 19 ให้นักเรยี นฟังเสยี งและดูภาพในหนงั สอื เรยี น ขณะที่ฟงั ให้นกั เรียนจินตนาการว่าตนเองอยู่ทสี่ ถานท่ีในภาพ จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ พดู ความรู้สึกของตนเองท่ีมตี อ่ Mexico City จากเสียงท่ีไดฟ้ งั และภาพทเี่ ห็น

Suggested Answer Key Students’ own answers

2. นักเรียนทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 17 Ex. 2a (to read for specific information) โดย ระดมความคดิ คดิ คาถาม 3 คาถามที่ตอ้ งการรู้เกยี่ วกบั Mexico City เชน่ How many people live there? What has it got? How many people visit it every year? จากนนั้ ครูใหเ้ วลา นักเรียนอ่านบทอ่านเพ่ือหาวา่ มีคาตอบของคาถามที่นกั เรยี นคิดไวห้ รือไม่

Suggested Answer Key Students’ own answers

3. นกั เรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 2b (to match headings to paragraphs in a text) โดยอา่ นบทอ่านอีกครงั้ แลว้ จบั ค่หู ัวขอ้ A-D กบั ย่อหนา้ 1-4 ในบทอ่าน เสร็จแลว้ ครเู ปดิ CD 1/ Track 20 ให้นกั เรียนฟังเพ่อื ตรวจคาตอบของตนเอง จากนนั้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันอธบิ าย ความหมายของคาที่พิมพ์ตัวหนาในบทอ่าน

1 C (Tourism) 3 D (Leisure) 2 A (Transport) 4 B (Food)

69

4. นักเรียนเลน่ เกมเปน็ กลมุ่ โดยครเู ขยี นคาเหล่านีบ้ นกระดาน city, buildings, park, museum, nightlife, heavy traffic, metro, network, busy street, markets, sports, friendly people, local food, serve แล้วใหแ้ ต่ละกลุม่ ผลัดกันสง่ ตวั แทนคร้ังละ 1 คน แตง่ ประโยคจากคาเหล่าน้ี ถ้า แต่งประโยคถกู ต้องจะได้ 1 คะแนน กล่มุ ทีไ่ ด้คะแนนมากที่สุดเปน็ ผชู้ นะ e.g. Team A S1: Milan is a city in Italy. Team B S1: I live in a beautiful building in my city.

กิจกรรมรวบยอด 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 17 Ex. 3 (to work in groups, research using the Internet and write a text on New Delhi) โดยคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับปจั จยั แวดล้อมในการดารงชีวติ ในเมอื งนวิ เดลี (New Delhi) ประเทศอนิ เดยี จาก อินเทอร์เน็ต ครใู ห้นักเรยี นคน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู รวมถงึ ภาพประกอบไดจ้ ากเว็บไซต์ท่ีกาหนดให้ จากนนั้ ให้ นักเรยี นเขยี นบรรยายเกยี่ วกับเมืองนวิ เดลีโดยใช้บทอ่านเร่ือง Mexico City เปน็ ต้นแบบ ครใู หเ้ วลานกั เรยี นทางานในชนั้ เรียนหรืออาจมอบหมายใหเ้ ป็นการบ้าน เสร็จแล้วครูส่มุ เรียกนักเรยี น หลายๆ กลมุ่ นาเสนอผลงานท่ีหน้าชนั้ เรียน Suggested Answer Key

New Delhi Capital City of India CONTINENT: Asia POPULATION: 322,000 LANGUAGE: Hindi and English CURRENCY: Indian Rupee

70

Tourism New Delhi is the second richest city in the world for birds. It has over 450 species. It has also got beautiful old buildings, lots of temples, museums and big parks. It’s a great place to visit.

Transport New Delhi is quite easy to get around because people can use buses, auto rickshaws and taxis. The city’s fantastic metro network has three lines and 59 stations.

Leisure In their free time, the people in New Delhi shop at colourful street markets. They also enjoy going to the cinema and the theatre. They have lots of fairs and festivals. Cricket and football are the most popular sports.

Food The people of New Delhi are very friendly. The food is excellent, too! The restaurants serve delicious local food like piping hot Punjabi makki ki rotis (flat bread prepared from corn) and sarson ka saag (prepared from fresh, green mustard leaves).

2. นักเรียนทากิกรรมในแบบฝกึ หดั Unit 1f ใน (Workbook) หนา้ 15 Exs. 1-2 โดยใน Ex. 2 ครูเปดิ Access Workbook Audio CD 3 ม. 3/Track 3 ให้นกั เรียนฟังเพ่ือเขยี นตามคาบอก

3. นกั เรียนทาแบบทดสอบความรู้หลงั เรยี นโดยใช้ Test 1: Module 1 จาก CD หนังสือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 3 หนา้ 97-100

4. นักเรยี นประเมินความสามารถในการเรียนรู้ของตนเองตามตารางทก่ี าหนด (Now I Can …) โดยครู ถ่ายเอกสารจากภาคผนวก

7. การวัดและการประเมนิ ผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 7.2 ประเมินการทาแบบฝึกหัด 7.3 สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในช่วงการทากจิ กรรม 7.4 ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.5 ประเมินผลการเขยี นบทความเกีย่ วกบั เมืองนวิ เดลี (New Delhi) ในประเทศอินเดีย

71

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

8.1 หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3 8.2 แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3 8.3 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรียน Access 3 ม. 3) 8.4 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3) 8.5 CD หนังสือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3 8.6 อนิ เทอร์เน็ต

ขอ้ มลู เพ่มิ เติมดา้ นภาษาและวฒั นธรรม

Vocabulary

Lifestyles

constant noise and pollution (phr) มเี สียงดงั และมลพิษตลอดเวลา

convenient public transport (phr) ขนส่งมวลชนท่ีมคี วามสะดวกสบาย

cost of living (phr) ค่าครองชีพ

crowded streets (n) ถนนท่ีเต็มไปด้วยผคู้ น

feeling isolated (phr) รูส้ ึกโดดเดี่ยว

heavy traffic (n) การจราจรติดขัดมาก

Lifestyles (n) วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ิต, รปู แบบการดาเนินชีวติ

peaceful and quiet (phr) สงบและเงียบ

1a City life - country life

barn (n) โรงนา

by tube (phr) เดินทางโดยรถไฟใต้ดนิ

can’t stand the smell (phr) ไมส่ ามารถทนกลน่ิ ได้

close at hand (phr) ใกล้มือ, ใกลม้ าก (very near)

exactly (adv) อย่างถูกต้อง, อยา่ งแน่นอน

facilities (n) สง่ิ อานวยความสะดวก

farmyard (n) ลานนา, บริเวณโรงนา

get homesick (phr) คดิ ถึงบา้ น

helpful (adj) ให้ความช่วยเหลือ

72

hometown (n) บา้ นเกิด huge (adj) ใหญม่ าก hustle and bustle (phr) ความเรง่ รบี และวนุ่ วาย mile (n) หนว่ ยวัดระยะทาง (1 ไมล์ = 1.6 กิโลเมตร) sit an exam (phr) สอบ (= to take an examination) swap (v) แลกเปลีย่ น

1b Risky jobs

adventure (n) การผจญภัย

coach (n) ครฝู ึกกีฬา

courage (n) ความกล้าหาญ

cowardly (adj) ข้ีขลาด

desk jobs (n) งานท่นี ่ังทากบั โตะ๊

determined (adj) ซ่ึงมุ่งม่นั

excitement (n) ความตืน่ เต้น

fire fighter (n) พนักงานดบั เพลิง

honest (adj) ซ่ือสัตย์

horrors (n) ความเลวร้าย, ความนา่ กลวั

hurricane (n) พายเุ ฮอริเคน (เปน็ พายุหมนุ เขตร้อนทร่ี ุนแรงท่สี ุด)

lightning strike (n) ฟ้าแลบขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง

media (n) ส่ือมวลชน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพมิ พ์

medicine (n) การบาบัดโรค, การรกั ษาโรค

National Geographic Society (n) สมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติ เป็นองค์กรด้านวิทยาศาสตรแ์ ละการศกึ ษา

แห่งหนง่ึ ของโลกท่ีไมแ่ สวงหาผลกาไร องคก์ รน้เี ป็นผูผ้ ลติ นิตยสาร

เนช่นั แนล จีโอกราฟฟกิ

patient (adj) อดทน

proud (of) (adj) ภมู ใิ จ

require (v) ต้องการ

skilful (adj) ซ่งึ มที ักษะ

sociable (adj) เขา้ กับคนง่าย, เป็นมติ ร

storm chaser (n) คนซงึ่ ไลต่ ามพายุเพ่ือถ่ายรูป

73

talented (adj) ซง่ึ มพี รสวรรค์ tornado (n) พายุทอร์นาโด war photographer (n) ชา่ งภาพที่ถา่ ยภาพสงคราม wildlife photographer (n) ช่างภาพที่ถ่ายภาพสตั ว์ปา่ What do you do for a living? คณุ ทาอาชีพอะไร

1c Modern living

children with special needs (phr)เด็กที่มปี ัญหาทางด้านรา่ งกายหรอื จิตใจ

local (adj/n) ของทอ้ งถนิ่ /คนทอ้ งถิ่น

seagull (n) นกนางนวล

1d Culture corner ผู้คมุ้ กนั เคร่อื งราชกกธุ ภณั ฑ์ (แหง่ สหราชอาณาจกั ร) bodyguard (n) โอกาสทเ่ี ป็นทางการ Crown Jewels (n) นกั โทษ formal occasion (n) แทน prisoner (n) ริเร่ิม in stead of (phr) นกขนาดใหญจ่ าพวกกา มขี นสดี าเป็นมนั introduce (v) วัสดทุ ่นี ามาตกแตง่ ขอบของเสื้อผา้ raven (n) ผคู้ ุมนักโทษ, ผู้เฝ้า, ผูป้ อ้ งกัน trimmings (n) warder (n) สาย (ของรถไฟใต้ดิน), เสน้ ทางการเดินรถไฟใต้ดนิ ต๋ัวไปกลบั 1e Single, please ตวั๋ สาหรบั เดนิ ทางไปเท่าน้ัน รถไฟใต้ดนิ (= the tube) line (n) return ticket (n) ทวีป single ticket (n) สกุลเงิน underground (n) บรกิ ารหนึ่งบนอินเทอรเ์ น็ต สาหรบั การแสดงความคิดเห็นหรอื อภปิ ราย ทาใหเ้ กิดชุมชนเสมือนจริง (virtual community) ซ่งึ จะ 1f Curricular Cut 74 continent (n) currency (n) forum (n)

geography (n) แยกหัวขอ้ การอภปิ รายตามหัวข้อความสนใจเฉพาะกลุ่ม metro (n) ภูมศิ าสตร์ network (n) รถไฟใตด้ ิน nightlife (n) เครือข่าย, ระบบเครือขา่ ย สถานบันเทิงยามค่าคืน, กจิ กรรมทางสังคมและความบันเทิงซึ่งเกิดขนึ้ population (n) ในตอนกลางคืนในบาร์และไนต์คลบั จานวนประชากร Grammar

Unit 1a

 Present continuous

รปู ประโยค ประธาน + verb to be (is/am/are) + คากรยิ าหลักเติม -ing

การเติม -ing

- คากรยิ าส่วนใหญจ่ ะเติม -ing ไดเ้ ลย เช่น

eat – eating watch – watching

- คากรยิ าทีล่ งท้ายดว้ ย -e ให้ตัด -e ออก แล้วจึงเตมิ -ing เช่น

race – racing bake – baking

- คากรยิ าท่ีลงทา้ ยดว้ ยสระ + พยัญชนะ ซ่ึงออกเสยี งเน้นหนกั ทีพ่ ยางคส์ ุดท้าย ให้เพิ่มพยัญชนะ

ตัวสุดท้ายอีก 1 ตวั แล้วจึงเติม -ing เชน่

sit – sitting stop – stopping

ยกเวน้ develop – developing

การใช้ - เราใช้ present continuous กบั การกระทาทกี่ าลงั เกิดขนึ้ ในปจั จุบัน ขณะทกี่ าลงั พดู เช่น He’s doing his homework now. - เราใช้ present continuous กับการเตรยี มการที่แน่นอนในอนาคตอนั ใกล้ เช่น They’re having a party tonight. - คาบอกเวลาทใ่ี ชก้ บั present continuous ได้แก่ now, at the moment, at present, these

days, tomorrow, next month, etc

หมายเหตุ: คากรยิ าเหล่านปี้ กตจิ ะไม่มีรปู continuous ไดแ้ ก่ have (= possess), like, love, hate, want,

know, remember, forget, understand, think, believe, cost, need, etc เชน่

75

I love chocolate. (NOT: I’m loving chocolate.)

 Present simple รปู ประโยค ประธาน + คากริยาช่องที่ 1 การใช้ - เราใช้ present simple กบั สภาพท่ีมน่ั คงถาวร เชน่ Peter has blue eyes. - เราใช้ present simple กบั การกระทาท่เี กิดซ้าๆ เช่น I go to the gym every day.

Unit 1b

 Relative clauses การใช้ - เราใช้ relative clausesrเพe lอ่ื aระt iบv/ุ บeรcรlยaายuบsคุ eคล สงิ่ ของ สถานทีใ่ นประโยคหลัก (main clause)

The man who lives next door is a doctor. - เราใช้ relative pronouns (who/whose/which/that) และ relative adverbs (where/when/that/why)

เพอ่ื นาหนา้ relative clauses โดยมีหลักการใชด้ ังนี้  who/that ใชเ้ พ่ืออา้ งถึงบุคคล เชน่ The man who/that stole the car is in prison now.  which/that ใชเ้ พอื่ อ้างถึงส่งิ ของหรือสตั ว์ เชน่ The table which/that is in the kitchen is very old.  where ใช้เพ่อื อ้างถงึ สถานท่ี เชน่ This is the hotel where we spent our holidays.  whose ใช้กับบคุ คล สัตว์ และสง่ิ ของเพื่อแสดงความเปน็ เจ้าของ เช่น This is the boy whose sister is a singer.  why ใช้เพื่อให้เหตผุ ล เชน่ This is why she was crying.

76

Culture Oxford Street เป็นทางสัญจรหลกั ในเมืองเวสท์มนิ สเตอร์ Unit 1a (Westminster) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีรา้ นค้า 548 รา้ น Oxford Street เปน็ ถนนชอ้ ปป้งิ ท่ีคึกคักและหนาแน่นท่สี ดุ ในยโุ รป ถนนน้เี ดิมทเี ปน็ สว่ นหนึง่ ของถนน London - Oxford ซึง่ เรมิ่ ต้นท่ี Newgate Unit 1c ถกู เรียกวา่ Oxford Road Wales เรยี บเรยี งจาก: http://en.wikipedia.org/wiki/Oxford_Street Unit 1d Tower of London เวลส์ (Wales) (ภาษาเวลส์: Cymru) เป็น 1 ใน 4 แคว้นของ สหราชอาณาจกั ร (อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนอื ) เวลส์ อย่ทู างทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ของเกาะบรเิ ตนใหญ่ โดยทศิ ตะวันออกตดิ กบั แคว้นอังกฤษ ทิศใต้ติดกับช่องแคบบริสตอล (Bristol Channel) ทิศ ตะวนั ตกตดิ กบั ชอ่ งแคบจอรเ์ จส (George’s Channel) และทางเหนือ ติดกบั ทะเลไอรชิ มีภาษาทางการคือภาษาเวลส์และภาษาอังกฤษ เมอื งหลวงคือคาร์ดิฟฟ์ ซงึ่ เป็นเมืองทใ่ี หญ่ทีส่ ดุ

ท่ีมา: th.wikipedia.org/wiki/เวลส์

Tower of London White Tower Bloody Tower

ทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอน หรอื หอคอยแห่งลอนดอน เป็นโบราณสถานที่มปี ระวตั ิเก่ียวข้องกับการขึน้

ครองราชย์ การแย่งชงิ ราชบัลลังก์ และการสรา้ งชาตขิ องอังกฤษ ทีน่ เ่ี คยเปน็ ท้ังพระราชวัง ป้อมปราการ

77