Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

  • All
  • Anime

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

45:00

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

24:36

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

24:48

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:30:07

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

10:00

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:51:28

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

24:12

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:29:58

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:41:01

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

28:44

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:37:44

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

23:11

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:46:37

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

23:11

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

4:29:56

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

22:53

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

24:08

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

25:04

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

1:53:26

Anohana ดอกไม ม ตรภาพ และความทรงจำ ep6 พากย ไทย

23:11

Home>Ano Hana ดอกไม้ มิตรภาพ และความทรงจำ EP11 (พากย์ไทย)\>

Je verzoek kon niet worden verwerkt Er is een probleem opgetreden bij dit verzoek. We werken eraan om dit zo snel mogelijk op te lossen.

Word lid van Facebook of meld je aan om door te gaan.

Lid worden

of

Aanmelden

กลุ่มเพื่อนเล่นสมัยเด็กทั้งหกซึ่งมี ยาโดมิ จินตะ หรือจินตันเป็นหัวหน้า ต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางหลังจาก ฮมมะ เมโกะ หรือเม็มมะ สมาชิกคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย

เมื่อเวลาผ่านไปสิบปี ในวันหนึ่งของฤดูร้อนจินตันซึ่งกลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่ไปโรงเรียนก็ได้พบวิญญาณของเม็มมะ หล่อนขอร้องให้เขาช่วยทำความปรารถนาของเธอให้เป็นจริง เพื่อตนจะได้ไปเกิดใหม่ จินตันจึงต้องกลับไปพบสมาชิกในกลุ่ม “ซุปเปอร์บัสเตอร์สันติสุข” อีกครั้ง เพราะเม็มมะจำไม่ได้ว่า “ความปรารถนา” ของเธอคืออะไร รู้เพียงแค่ว่าเป็นสิ่งที่ “ซุปเปอร์บัสเตอร์สันติสุข” ต้องร่วมมือกันเท่านั้นจึงจะสำเร็จ

วันเวลาของเหล่าเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่หยุดชะงักลงตั้งแต่วันที่เม็มมะจากไปกลับมาเดินใหม่อีกครั้ง โดยที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกอันซับซ้อน ความคับข้องใจ รวมถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจพวกตนมาถึงสิบปี…

ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ปีนั้น ต่อมา มิสึ อิซุมิ (Mitsu Izumi) จึงดัดแปลงเป็นมังงะลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร จัมป์สแควร์ (Jump Square) ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ (Shūeisha) ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 และบริษัทกายซ์แวร์ (Guyzware) ดัดแปลงเป็นเกมแนววิชวลโนเวลจำหน่ายในกลางปี 2555

เนื้อเรื่อง[แก้]

เด็ก 6 คนซึ่งเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เล็ก และมีจินตะ ยะโดะมิ หรือจินตัง เป็นหัวหน้านั้น แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางหลังจากเมโกะ ฮมมะ หรือเม็มมะ สมาชิกคนหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย 10 ปีให้หลัง จินตังอาศัยอยู่ตามลำพังไม่เข้าสังคม วันหนึ่งในฤดูร้อน ผีเม็มมะซึ่งมีรูปโฉมเจริญเติบโตขึ้นตามวัยได้ปรากฏกายจำเพาะหน้าเขา และร้องขอให้เขาช่วยเธอให้สมความปรารถนาประการหนึ่ง เพราะเธอไม่อาจไปผุดไปเกิดได้จนกว่าจะบรรลุความปรารถนานั้น แต่ปัญหาคือเธอไม่สามารถจดจำได้ว่าปรารถนาอะไร ดังนั้นจินตังจึงประชุมสมาชิกกลุ่มอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าพวกเขาเป็นกุญแจไขปริศนาของเม็มมะ อย่างไรก็ดีเด็กเหล่านี้ต้องเผชิญอารมณ์ความรู้สึกมากหลาย ความขัดแย้งภายในกลุ่ม ตลอดจนความแค้นเคืองที่ยังคุกรุ่นอยู่ในจิตใจของบิดามารดาเม็มมะ และจำต้องฟันฝ่าสิ่งดังกล่าวไปให้จงได้

สื่อ[แก้]

อนิเมะ[แก้]

เพลง[แก้]

อนิเมะนี้ใช้เพลงประกอบหลักสองเพลง เป็นเพลงเปิดหนึ่ง เพลงปิดหนึ่ง เพลงเปิดนั้นชื่อ "อะโอะอิชิโอะริ" (青い栞; "ที่คั่นหนังสือสีฟ้า") กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei) ขับร้อง และขายเป็นซิงเกิลเรียก "ซิงเกิลเปิดอะโนะฮิมิตะฮะนะโนะนะมะเอะโอะโบะกุตะชิวะมะดะชิระไน" (Ano Hi Mita Hana no Namae o Bokutachi wa Mada Shiranai OP Single) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2554

ส่วนเพลงปิดนามว่า "ซีเคร็ตเบส~คิมิกะคุเระตะโมะโนะ~" (Secret Base ~君がくれたもの~; "ฐานทัพลับ~สิ่งนั้นเธอให้ฉันไว้~") เป็นเพลงของวงโซน (Zone) ซึ่งเผยแพร่ในปี 2544 และไอ คะยะโนะ (Ai Kayano), ฮะรุกะ โทะมะสึ (Haruka Tomatsu) กับซะโอะริ ฮะยะมิ (Saori Hayami) นำมาขับร้องใหม่ในครั้งนี้ แล้ววันที่ 27 เมษายน 2554 จึงเริ่มวางขายเป็นซิงเกิลชื่อ "ซิงเกิลปิดอะโนะฮิมิตะฮะนะโนะนะมะเอะโอะโบะกุตะชิวะมะดะชิระไน" (Ano Hi Mita Hana no Namae o Bokutachi wa Mada Shiranai ED Single) ประกอบด้วยเพลงนี้สี่ฉบับต่างกัน ฉบับที่ใช้ในอนิเมะเรียก "ฉบับสิบปีให้หลัง" (10 years after Ver.)

อนึ่ง วงดุริยางค์ซิมโฟนีเมโลดิกเทสต์ (Melodic Taste) ยังได้นำเพลงปิดดังกล่าวมาเรียบเรียงเป็นแนวดนตรีประสาน (symphony) และบรรเลงด้วยดุริยางค์ขนาดใหญ่ มีทั้งฉบับบรรเลงเท่านั้น และฉบับซึ่งฮิกะริ เซะกิยะ (Hikari Sekiya) กับชิซุกะ ยุกิมุระ (Shizuka Yukimura) สองคนขับร้อง แล้ววางจำหน่ายพร้อมกับเพลงอื่น ๆ เป็นอัลบัมชื่อ "อนิเมะซองออเคสตรา 2" (Anime Song Orchestra II) ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553

ตอน[แก้]

ตอนที่ ชื่อตอน วันออกอากาศ (ในประเทศญี่ปุ่น) 1

  • โชเฮวะบัสเตอส์ (สุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติ)
  • 超平和バスターズ
  • Super Peace Busters

15 เมษายน 2554

วันหนึ่งในฤดูร้อน จินตังวุ่นวายใจเพราะถูกวิญญาณของเม็มมะ เพื่อนในวัยเด็ก รบกวน ปรากฏว่า มีเพียงเขาที่มองเห็นและพูดคุยกับผีเม็มมะได้ เม็มมะว่า เธอต้องการให้เขาช่วยเหลือให้สมปรารถนาประการหนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่าปรารถนาอะไร ระหว่างนั้น อะนะรุ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของทั้งสอง แวะเวียนมาที่บ้านของจินตังเพื่อนำมาการบ้านมาส่งให้ เพราะจินตังไม่ยอมไปร่ำไปเรียน แล้วอะนะรุก็จากไป เม็มมะร้องขอให้จินตังติดตามอะนะรุไปเพื่อจะได้ให้เธอช่วยขบคิดปัญหา เม็มมะและจินตังจึงออกบ้าน แต่แทนที่จะไปหาอะนะรุ ก็พากันทอดน่องท่องเที่ยวไปในเมือง จนได้พบเพื่อนเก่าอีกสองคน คือ สึรุโกะ และยุกิอัตสึ โดยบังเอิญ เมื่อจินตังเอ่ยถึงเม็มมะขึ้นลอย ๆ ยุกิอะสึก็กล่าววาจาเหน็บแนมจินตังให้ได้เจ็บช้ำน้ำใจจนจินตังวิ่งหนีไป เม็มมะจึงวิ่งติดตามไปด้วย จินตังว่าเขาถูกดูหมิ่นดูแคลนทั้งนี้ก็เพราะเธอ จึงละเธอไว้ที่นั้นแล้วเดินกลับบ้านโดยลำพัง

เวลานั้น จินตังเริ่มจดจำเรื่องราวครั้งเยาว์วัยที่เขา เม็มมะ และมิตรสหายคนอื่น ๆ เคยรวมกันเป็นกลุ่มเรียก "สุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติ" (Super Peace Busters) และไปไหนมาไหนด้วยกันมิได้ห่าง วันหนึ่ง เมื่อเพื่อน ๆ ถามเขาว่า ชอบเม็มมะใช่หรือไม่ เขาไม่กล้าบอกความจริงจึงบอกปัดไปด้วยถ้อยคำรุนแรงแล้ววิ่งหนีกลับบ้าน กระนั้น เด็กชายจินตังรู้สึกผิดอยู่ในใจอยู่ไม่วาย และครุ่นคิดจะขอโทษเม็มมะในวันรุ่งขึ้นให้จงได้ ทว่า ในบ่ายวันนั้นเอง เม็มมะจมน้ำถึงแก่ความตายเสียก่อน

ระหว่างนั้น ฝ่ายผีเมินมะซึ่งถูกทิ้งไว้ตัดสินใจกลับไปเยี่ยมบิดามารดาที่บ้าน พบว่า มารดากำลังไหว้เถ้ากระดูกเธออยู่โดยอุทิศอาหารเย็นมาให้ จึงแจ้งใจว่า ตนได้สิ้นอายุขัยไปแล้ว และตั้งคำถามแก่ตนเองว่า ควรไปที่ใดดี จินตังเมื่อเห็นว่า เม็มมะมิได้กลับมาหาเขาแต่ประการใด ก็เสียใจที่ทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำสอง และออกตามหาเธอโดยไม่ชักช้า เขาออกวิ่งไปตามท้องถนนอย่างบ้าคลั่งจนถึง "ฐานทัพลับ" (secret base) หรือตูบกลางป่าซึ่งกลุ่มสุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติเคยใช้เป็นที่ประชุม ด้วยเข้าใจว่า เม็มมะคงไปที่แห่งนั้น เขาได้พบว่า ปปโปะ สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่ม อาศัยอยู่ ณ ตูบหลังนี้ตลอดมา

2

  • ยูชะเม็มมะ (เม็มมะผู้กล้า)
  • ゆうしゃめんま
  • Menma the Hero

22 เมษายน 2554

จินตังแจ้งแก่ปปโปะว่า ได้พบผีเม็มมะ และปปโปะเชื่อถือเขาโดยปราศจากความสงสัย ขณะเดียวกัน อะนะรุออกจากบ้านและมาพบสึรุโกะโดยบังเอิญ สึรุโกะต่อว่าเธอว่า ประพฤติตัวเหลวไหลไปตามเพื่อน ทั้งที่เมื่อก่อนอยู่ในร่องในรอยเพราะใฝ่ฝันจะเป็นดังเม็มมะแท้ ๆ เมื่อพูดถึงเม็มมะ คลองน้ำตาของอะนะรุก็ร่วงรินเป็นสาย ด้วยเธอตำหนิตัวเองเรื่อยมาว่า เป็นเหตุให้เม็มมะต้องจบชีวิต

เวลานั้น จินตังตรึกตรองกับปปโปะว่า ความปรารถนาของเม็มมะคืออะไร ปปโปะว่า เธออาจอยากได้สัตว์ประหลาดตัวหายากจากเกมวีดิทัศน์โนะเกะมง (หรือโนเกมอน ล้อเลียนโพะเกะมง หรือโปเกมอน) จินตังจึงไปซื้อเกมดังกล่าวที่ร้านค้าซึ่งอะนะรุทำงานนอกเวลาอยู่ แล้วเล่นเกมนั้นทั้งคืนโดยใช้ชื่อผู้เล่นว่า "เม็มมะผู้กล้า" เพื่อให้ชนะแล้วจะได้มาซึ่งสัตว์ประหลาดตัวเช่นว่า ประจวบกับที่เม็มมะซึ่งหาที่ไปมิได้กลับคืนมาหาเขาพอดี เธอเห็นเขาผล็อยหลับไปด้วยความง่วงทั้งที่มีเกมโปรดของเธอคาอยู่ในมือ จึงยิ้มและบอกขอบคุณ ก่อนจะซบไหล่เขาหลับใหลไปด้วยกัน

วันรุ่งขึ้น จินตัง เม็มมะ และปปโปะไปหาอะนะรุที่บ้าน เล่าเรื่องราวทั้งมวลให้ฟัง และขอให้ช่วยเล่นเกม อะนะรุตกลงโดยมีเงื่อนไขว่า จินตังต้องกลับไปเรียนหนังสือตามปรกติ ระหว่างอยู่ที่บ้านของอะนะรุนี้ เม็มมะร่าเริงขึ้นเป็นอันมากเมื่อทราบว่า อะนะรุยังคงเก็บสะสมเกมและมังงะไว้มากมายดังที่เธอและอะนะรุทำครั้งเป็นเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะนะรุยังรักษาสติกเกอร์ที่เม็มมะติดให้บนฝาเครื่องเพลย์สเตชันแบบพกพาไว้เป็นอย่างดี หลังจากร่วมเล่นเกมโนะเกะมงทั้งคืนจนชนะและได้สัตว์ประหลาดตัวหายากมาแล้ว กลับปรากฏว่าไม่ตรงกับความปรารถนาที่แท้จริงของเม็มมะ ทว่า กำลังใจของคนทั้งสามก็หาได้ถดถอยลงไม่ ด้วยพวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ช้าก็เร็ว เม็มมะจะได้สมหวังเป็นมั่นคง

3

  • เม็มมะโอะซะงะโซโนะไค (งานเลี้ยงสืบหาเม็มมะ)
  • めんまを探そうの会
  • Menma Search Party

29 เมษายน 2554

จินตังเกียจคร้านเกินกว่าจะไปโรงเรียน แต่เมื่อเม็มมะร้องขอ เขาก็ลุกขึ้นแต่งตัวไปโรงเรียนเดี๋ยวนั้น ทว่า ครั้นถึงหน้าโรงเรียนแล้วกลับถูกเพื่อนฝูงของอะนะรุหยามเหยียด จึงเปลี่ยนใจหันหลังกลับมิทันได้เข้าโรงเรียน กระนั้น ก็มิได้กลับบ้าน แต่มุ่งหน้าไปยังตูบฐานทัพลับแทน เพราะไม่ต้องการให้เม็มมะเสียใจที่เขามิได้ไปโรงเรียนจริงตามคำร้องขอของเธอ ปปโปะบอกเขาว่า ตนได้เห็นผีเม็มมะเมื่อคืนก่อน จินตังได้ฟังแล้วก็ตกใจ เพราะเขาเข้าใจว่า ที่เขามองเห็นพูดคุยกับผีเม็มมะได้เพียงผู้เดียว เพราะเม็มมะเป็นเพียงจินตภาพอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลของเขา จึงลากลับบ้านโดยไม่ชักช้า

เมื่อถึงบ้าน จินตังพบว่า เม็มมะกำลังทำขนมโมะชิปัง (もちパン) อย่างเดียวกับที่มารดาผู้วายชนม์ของเขาเคยทำให้เธอและเขารับประทานครั้งยังเด็ก แม้ว่าผลงานของเม็มมะเหลวไม่เป็นท่า แต่ก็ทำให้เขาระลึกถึงมารดาจนน้ำตาคลอ ระหว่างนั้น ทั้งสองได้พูดคุยกัน และเม็มมะยืนยันว่ามิได้ออกไปในป่ายามวิกาลแต่อย่างใด จินตัง เม็มมะ และปปโปะจึงสงสัยว่า เม็มมะที่เห็นคือใคร

เพื่อไขปัญหานั้น เย็นวันรุ่งขึ้น ปปโปะจึงจัดงานเลี้ยงบาร์บีคิวที่ตูบ เรียก "งานเลี้ยงสืบหาเม็มมะ" โดยเชิญสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มมา ฝ่ายยุกิอะสึซึ่งมาเป็นคนสุดท้ายนั้นกล่าวอ้างว่า เขาก็ได้เห็นผีเม็มมะดุจกัน

4

  • ชิโระโนะ, ริบบอนโนะวันพีซ (กระโปรงขาวผูกโบ)
  • 白の、リボンのワンピース
  • The White Dress with a Ribbon

6 พฤษภาคม 2554

หัวค่ำนั้น กลุ่มสุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติเดินสืบหาร่องรอยผีเม็มมะตามป่าเขารอบตูบ ฝ่ายจินตังไปได้ครึ่งทางก็กลับโดยกล่าวว่า สำหรับเขา เม็มมะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ต้องการตามหาเม็มมะที่ไหนอีก ได้ฟังว่าเขายังรักเม็มมะอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้วอะนะรุก็ขุ่นเคือง และวิ่งไล่ตามเขาไปสะดุดเนินจุดเดียวกับที่เม็มมะพลัดตกน้ำถึงแก่ความตาย ดีที่จินตังคว้าเธอไว้ได้ อะนะรุจึงเข้าใจว่า ที่จินตังเห็นเม็มมะได้แต่เพียงผู้เดียวนั้นก็เพราะเขาเท่านั้นที่รักเม็มมะอย่างหมดหัวใจ และขอให้เขาทำดีต่อเม็มมะสืบไป สมควรแก่เวลาทุกคนก็กลับไปบริโภคอาหาร

ขณะนั้น ยุกิอะสึกล่าวย้ำขึ้นอีกว่า เขาได้เห็นและสนทนากับผีเม็มมะ โดยเม็มมะบอกเขาว่า อย่าได้ยุ่งวุ่นวายกับความปรารถนาของเธอเลย ต่างฝ่ายต่างเดินไปตามทางของตนเองนั้นดีแล้ว ซึ่งผิดแผกไปจากความต้องการของเม็มมะตัวจริง จินตังจึงนำขนมโมะชิปังที่เม็มมะทำไว้ก่อนหน้านี้ออกมาแบ่งปันทุกคนกิน ด้วยหมายใจจะให้ขนมนั้นสื่อความรู้สึกอันแท้จริงของเม็มมะ ยุกิอะสึเห็นเป็นเรื่องขำขันจึงผละจากไป

วันต่อมา สึรุโกะมาหาจินตังที่บ้านและชวนเขาไปพิสูจน์ว่า เม็มมะในป่านั้นจริงหรือปลอมประการใด คืนนั้น สมาชิกทุกคนของกลุ่ม ยกเสียแต่ยุกิอะสึ ได้รวมตัวกันเพื่อการดังกล่าว ทันใดก็ได้เห็นเม็มมะวิ่งไปรอบป่า แต่ที่สุดก็จับได้ว่า ยุกิอะสึสวมรอยเป็นผีเม็มมะโดยใส่ผมปลอมและชุดกระโปรงสีขาวผูกโบที่คออันเป็นชุดที่เม็มมะใส่ในวันสุดท้ายของชีวิต

5

  • ทันเนล (อุโมงค์)
  • トンネル
  • Tunnel

13 พฤษภาคม 2554

ยุกิอะสึยอมรับว่า ที่ทำลงไปนั้น เพราะคิดถึงเม็มมะมากจนมิอาจหักห้ามใจได้ และโทษตนเองว่าเป็นต้นเหตุให้เม็มมะถึงแก่ความตาย จินตังจึงบอกเขาว่า เม็มมะไม่เคยถือสาและอยากขอโทษเขาที่เธอมิทันได้รับกิ๊บติดผมเมื่อครั้งก่อนนั้น ยุกิอะสึซึ่งเห็นว่าจินตังล้อเล่นเรื่องผีเม็มมะมาตลอด ครั้นได้ฟังเรื่องกิ๊บดังกล่าวอันรับรู้กันอยู่แต่ระหว่างเขากับเม็มมะ ก็ตกใจเล็กน้อยและยอมเชื่อถือจินตัง ก่อนจะกลับหอพักไปหวนรำลึกเม็มมะและซบหน้าร้องไห้อยู่ตามลำพัง

เย็นวันต่อมา อะนะรุไปเที่ยวร้านคาราโอเกะกับเพื่อน และถูกเพื่อนชายคนหนึ่งล่อลวงไปยังโรงแรมม่านรูดหวังเปิดบริสุทธิ์เธอ แต่ยุกิอะสึช่วยเหลือไว้ได้ทันท่วงที และพาเธอนั่งรถไฟกลับบ้านด้วยกัน ขณะรถไฟแล่นผ่านอุโมงค์นั้น ทั้งคู่พูดคุยกันเรื่องความรู้สึกซึ่งมีให้แก่คนที่แอบรัก เวลาเดียวกัน ปปโปะไปหาจินตังที่บ้านและบอกเขาว่า ที่เม็มมะยังวนเวียนอยู่กับเขา อาจเป็นเพราะเธอไม่สามารถไปสู่สุคติก็เป็นได้ เม็มมะเผอิญได้ฟังเข้าก็ร้องไห้น้อยใจ

6

  • วะซุเระเตะวะซุเระไนเดะ (อย่าลืมว่าต้องลืม)
  • わすれてわすれないで
  • Forget It, Don't Forget

20 พฤษภาคม 2554

จินตังพยายามขบคิดว่า ความปรารถนาที่แท้ของเม็มมะคืออะไร และนึกถึงคำขอของเม็มมะที่ต้องการให้เขาไปโรงเรียนดังเดิม จึงตกลงใจกลับไปร่ำเรียนหลังจากหายหน้าค่าตาไปนาน เม็มมะเข้ามากอดเขาแล้วว่า เธอไม่ต้องการฝืนใจเขาแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากไปก็ไม่จำต้องไป จินตังยิ้มและบอกเธอให้คลายกังวลเกี่ยวกับตัวเขา แล้วก็ไปโรงเรียน

เวลานั้น ผู้คนที่โรงเรียนโจษจันว่า อะนะรุเสียตัวที่โรงแรมแล้ว ทำให้อะนะรุเดือดเนื้อร้อนใจเป็นอันมาก จินตังจึงออกหน้าปกป้องเธอ และพากันวิ่งอ้าวออกจากห้องเรียนไปในบัดดล แม้เสียงลือเสียงเล่าอ้างนั้นไม่เป็นความจริง แต่อะนะรุก็ไม่กล้าสู้หน้ามารดา จึงหลบไปอาศัยอยู่ที่ฐานทัพลับสักพัก

เพื่อให้ได้ร่องรอยเกี่ยวกับความปรารถนาของเม็มมะเพิ่มขึ้น จินตัง อะนะรุ และปปโปะจึงไปบ้านเม็มมะและได้พบมารดาของเม็มมะผู้มอบอนุทินของบุตรสาวให้แก่พวกเขา คนทั้งสามตกลงกันว่า จะอ่านอนุทินเล่มนั้นในวันรุ่งขึ้น จินตังกลับไปเล่าให้เม็มมะฟังว่า ได้ไปเยี่ยมบ้านเธอมา เม็มมะทราบแล้วก็ไม่สบอารมณ์ เพราะเธอต้องการให้มารดาลืมเลือนเธอเสีย มารดาจะได้พ้นจากความทุกข์ตรมสักที เขาฟังแล้วเหลืออด ต่อว่าเม็มมะว่า เป็นกังวลเรื่องคนอื่นมากเกินไปจนไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของตัวเธอเอง และผลุนผลันออกบ้านไป

7

  • ฮนโตะโนะโอะเนะไง (ความปรารถนาที่แท้จริง)
  • ほんとのお願い
  • The Real Wish

27 พฤษภาคม 2554

ครั้นแล้ว จินตัง อะนะรุ และปปโปะก็เปิดอนุทินของเม็มมะออกอ่าน พบข้อความตอนหนึ่งว่า อยากให้เพื่อน ๆ ช่วยกันทำดอกไม้เพลิงจุดส่งขึ้นไปหาเทวาบนท้องฟ้าพร้อมแนบจดหมายวิงวอนให้ช่วยมารดาของจินตังที่กำลังป่วยหนักอยู่ในครั้งนั้น

เมื่อเห็นว่าเป็นความปรารถนาอย่างหนึ่งของเม็มมะ แม้มิอาจช่วยเหลือมารดาจินตังได้แล้ว พวกเขาก็เห็นพ้องกันว่าควรทำให้สำเร็จอยู่ดี กระนั้น ก็จนใจอยู่ เพราะกฎหมายห้ามราษฎรทำหรือมีวัตถุระเบิดโดยมิได้รับอนุญาต ความทราบถึงบิดาของจินตัง บิดาจินตังจึงนำพาพวกเขาไปหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งผลิตดอกไม้เพลิงเป็นและได้ แต่ดอกไม้เพลิงขนาดใหญ่อย่างบ้องไฟนั้น ดอกหนึ่งมีค่าใช้จ่ายถึงสองแสนเยน จินตังจึงทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไว้เป็นทุนรอน โดยตอนเช้าทำงานกับอะนะรุที่ร้านขายเกม ตกค่ำทำงานก่อสร้างกับปปโปะ แต่มิได้บอกกล่าวให้เม็มมะทราบแต่ประการใด เกลือกว่าเธอจะเป็นกังวล

เม็มมะเริ่มสงสัยในตัวจินตัง เพราะเขามีพฤติกรรมผิดแปลกไป ต่อมา เธอได้ยินเพื่อนบ้านสนทนากับบิดาเขาเรื่องเขาทำงานพิเศษ จึงติดตามไปที่ตูบและได้ยินอะนะรุว่า กำลังทำงานพิเศษกันเพื่อรวบรวมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าทำดอกไม้เพลิงให้แก่เธอ เธอก็น้ำตาคลออนุสรถึงความปรารถนาข้างต้นของตน และเข้าใจว่า จินตังทำเพื่อเธอมากเพียงไร จึงแอบไปเฝ้าดูเขาทำงานอยู่ห่าง ๆ

ไม่นานนายช่างผลิตดอกไม้เพลิงแจ้งจินตังว่า มิอาจทำดอกไม้เพลิงให้แก่เขาได้อีกต่อไป ทั้งนี้ เพราะมารดาของเม็มมะซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งห้าม

8

  • ไอวันเดอร์ (น่าคิดนะ)
  • I Wonder

3 มิถุนายน 2554

จินตังและพวกไปถามความจากมารดาของเม็มมะ นางไม่ตอบ และต่อว่าพวกเขาด้วยความเคียดแค้นว่า พวกเขามีชีวิตเติบโตมาได้จนทุกวันนี้ แต่บุตรสาวของนางกลับไม่มีโอกาสเช่นนั้น ภายหลัง ยุกิอะสึตำหนิจินตังว่า แทนที่จะเก็บความเจ็บปวดไว้กับตัวลำพัง กลับนำพาคนอื่นมาร่วมทุกข์ระทมไปด้วย จินตังจึงตัดสินใจช่วยเหลือเม็มมะแต่ผู้เดียว

จินตังยังทำงานพิเศษต่อไป แต่เพราะหักโหม สุขภาพจึงย่ำแย่ อะนะรุร้องขอให้เขาหยุด และสารภาพรักต่อเขา เธอว่า เหตุผลประการหนึ่งที่เขาควรเลิกล้มการนี้เสีย คือ ถ้าเม็มมะได้สำเร็จความปรารถนาแล้วก็ย่อมเลือนหายไป เขากับเม็มมะก็จะพรากจากกันอีกครั้ง มิใช่เป็นความเจ็บปวดกระนั้นหรือ จินตังเห็นว่า การรั้งเม็มมะไว้ย่อมเป็นความเห็นแก่ตัวแก่ได้ฝ่ายเดียว ไหนเลยเรียกว่าความสุขได้ จึงมิฟังและทำงานต่อไป วันต่อมา จินตังและบิดาไปไหว้สุสานมารดา และซะโตะชิ น้องชายของเม็มมะ มาหาจินตังเพื่อเล่าความหลังเกี่ยวกับเม็มมะให้ฟัง

เม็มมะสงสารจินตังที่ต้องระกำลำบาก และต้องการให้เพื่อน ๆ คืนดีกันดังเดิม จึงใช้โทรศัพท์บ้านจินตังติดต่อคนอื่น ๆ แต่มิอาจสนทนาด้วยได้ คนทั้งหลายจึงมาประชุมกันที่ตูบแล้วสอบถามจินตังเรื่องธุระที่โทรศัพท์หานั้น เวลานั้น เม็มมะแสดงตัวต่อพวกเขาโดยเขียนข้อความลงอนุทินแล้วโยนอนุทินลงพื้น

9

  • มินนะโทะเม็มมะ (เม็มมะและสหาย)
  • みんなとめんま
  • Menma and Company

10 มิถุนายน 2554

ปรากฏว่า เม็มมะไม่สามารถเขียนหนังสือที่อื่นได้นอกจากภายในตูบนั้นเอง คนอื่น ๆ เมื่อมั่นใจว่าผีเม็มมะมีอยู่จริงดังคำจินตังแล้ว ก็มีมานะจะช่วยกันทำให้เม็มมะได้สมมาดปรารถนาจนถึงที่สุด ฝ่ายยุกิอะสึนั้นชวนสึรุโกะไปหาบิดาของเม็มมะในวันถัดมา และกราบกรานขอให้อนุญาตนายช่าง ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ทำดอกไม้เพลิงให้แก่พวกตน บิดาของเม็มมะรับทราบถึงความตั้งใจของเด็ก ๆ แล้วก็ยกให้

ระหว่างที่งานทำดอกไม้เพลิงดำเนินไปอยู่นั้นเอง ยุกิอะสึให้รู้สึกคับอกคับใจที่มีแต่จินตังที่มองเห็นพูดคุยกับเม็มมะได้ ฝ่ายอะนะรุก็เคืองใจที่ตนไม่มีดีจะให้เทียบเปรียบกับเม็มมะเอาเสียเลย ทั้งคู่จึงปรับทุกข์กันและชวนคบหาดูใจกัน สึรุโกะได้ยินเข้าก็น้อยใจ

ค่ำลงวันนั้น เม็มมะเห็นปลาตะเพียนในแม่น้ำใต้สะพานชิชิบุ จึงกระโดดลงน้ำไปชมดู จินตังเห็นแล้วก็ตกใจ วิ่งเข้ากอดเธอไว้พลางว่า ลึก ๆ แล้วเขาเกรงเธอจะจากเขาไปอีกครั้ง และเขาต้องการให้เธออยู่เคียงข้างเขาชั่วนิรันดร์ แต่เมื่อนึกขึ้นว่าเป็นความเห็นแก่ตัวแล้ว เขาก็คลายอ้อมแขนออก

10

  • ฮะนะบิ (ดอกไม้เพลิง)
  • 花火
  • Fireworks

17 มิถุนายน 2554

ดอกไม้เพลิงแล้วเสร็จ กลุ่มสุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติจัดเลี้ยงแด่เม็มมะ และเตรียมยิงดอกไม้เพลิงในวันรุ่งขึ้น

เย็นวันเลี้ยงนั้น ยุกิอะสึให้อะนะรุและปปโปะกดดันให้จินตังเผยความรู้สึกอันแท้จริงที่จินตังมีต่อเม็มมะ จินตังยอมรับว่ารักเม็มมะหาที่สุดมิได้ แม้รู้ดีว่า คำตอบต้องเป็นเช่นนั้น แต่อะนะรุก็มิอาจหักห้ามใจได้ร้องไห้อยู่กับสึรุโกะและบอกสึรุโกะว่า เธอหลงรักจินตัง สึรุโกะตอบเธอว่า ตนก็หลงรักยุกิอะสึอยู่ ฝ่ายจินตังนั้นสารภาพรักแก่เม็มมะแล้วก็ร้องขอให้เธออยู่กับเขาตลอดไป เม็มมะว่า เธอก็ชอบพอจินตังมากและอยากครองรักกันสืบไป แต่ได้ปลงใจแล้วว่าจะไปเกิดใหม่ อย่างน้อยอาจจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันกับทุกคนอีกก็เป็นได้

ในวันยิงดอกไม้เพลิง ซะโตะชิมาร่วมชมดู จินตังยังคิดไม่ตกว่า ควรให้เม็มมะไปสู่สุคติหรือเก็บเธอไว้กับเขาเช่นนี้ตลอดไป เขาทำใจลาจากเธอมิได้จึงร้องให้ทุกคนรั้งรอก่อน แต่หาทันไม่ เมื่อดอกไม้เพลิงขึ้นสู่เวิ้งฟ้า จินตังได้ยินเสียงเม็มมะจึงหันหลังกลับไปมอง พบว่า เธอยืนชมความสวยงามของท้องฟ้าอันแล้วไปด้วยสีสันของดอกไม้เพลิงอย่างอิ่มใจ ส่วนมารดาของเม็มมะนั้น จำเดิมไม่ยอมมาร่วมงานเพราะยังแค้นเคืองเด็ก ๆ อยู่ แต่สามีได้พูดให้เข้าใจจนปล่อยวางได้ และขับรถยนต์มาทันเวลาชมดอกไม้เพลิงขึ้นสู่อากาศ

11

  • อะโนะนะสึนิซะกุฮะนะ (ดอกไม้ซึ่งเบ่งบานในหน้าร้อนครานั้น)
  • あの夏に咲く花
  • The Flower Which Blooms in That Summer

24 มิถุนายน 2554

แม้ได้ยิงดอกไม้เพลิงแล้ว แต่เม็มมะก็ยังคงอยู่มิได้ไปผุดไปเกิดแต่ประการใด ชาวสุดยอดบัสเตอร์แห่งสันติจึงประชุมปรึกษากันหาสาเหตุ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การยิงดอกไม้เพลิงอาจมิใช่ความปรารถนาที่แท้จริงของเม็มมะ บ้างก็ว่า เพราะทุกคนเห็นแก่ตัวมิได้ตั้งใจทำเพื่อเม็มมะจริง ๆ ความพยายามจึงสูญเปล่า ที่สุดก็บานปลายเป็นการทะเลาะวิวาทใหญ่หลวง อะนะรุรับว่า ตนต้องการให้เม็มมะจากไปโดยเร็ว จินตังจะได้มองมาที่ตนบ้าง ยุกิอะสึว่า เขาก็เช่นกัน เพราะไม่ต้องการให้จินตังได้เม็มมะไว้แต่ผู้เดียว ฝ่ายสึรุโกะเผยว่า ตนริษยาอะนะรุที่ได้ไปไหนมาไหนกับยุกิอะสึเสมอ และเป็นตนเองที่ชวนเม็มมะให้นัดทุกคนมาพร้อมหน้ากันในวันที่เม็มมะถึงแก่ความตายนั้น เพียงเพราะเธอหวังจะได้พบได้ใกล้ชิดยุกิอะสึ ส่วนปปโปะเผยว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ที่เม็มมะถึงแก่ความตายแต่ช่วยเหลือเธอมิได้ จึงรู้สึกผิดมหันต์ฝังใจนับแต่นั้นสืบมา ขณะที่จินตังว่า ใจจริงเขาอยากให้เม็มมะอยู่กับเขาตลอดไป แต่เม็มมะนั้นรักเพื่อนทุกคน ความรู้สึกของเขาจึงเป็นความเห็นแก่ตัวแก่ได้ฝ่ายเดียว ต่างคนต่างร่ำไห้หนัก แต่เมื่อเห็นเครื่องสำอางบนใบหน้าอะนะรุผิดแผกไปเพราะน้ำตา คนทั้งหลายก็หัวเราะให้กัน สงบสติอารมณ์ได้ กลายเป็นความเข้าอกเข้าใจและเห็นใจกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ได้ฟังว่า เม็มมะต้องการอยู่ร่วมกับทุกคน คนอื่น ๆ จึงเสนอให้จินตังนำพาเธอไปที่ตูบ จะได้พร้อมหน้าค่าตาและสนทนาปราศรัยกัน เมื่อจินตังกลับบ้าน เขาพบว่า เม็มมะเริ่มเลือนหายไป ทั้งนี้ ครั้งหนึ่ง เม็มมะเคยรับปากกับมารดาของจินตังว่า จะช่วยสอนให้จินตังร้องไห้ หัวเราะ เรียนรู้ และเพลิดเพลินไปอย่างเต็มที่ เพราะสมัยนั้น จินตังเกรงมารดาซึ่งป่วยอยู่จะเสียกำลังใจจึงฝืนทำตัวเข้มแข็ง และนั่นคือความปรารถนาที่แท้จริงของเม็มมะที่เธอนึกไม่ออกในตอนต้น บัดนี้ เมื่อจินตังได้ผ่านรอยยิ้มและน้ำตามาแล้ว ก็เป็นอันว่า เม็มมะได้ทำหน้าที่ดังกล่าวบริบูรณ์ ยังให้เธอสำเร็จความปรารถนาโดยแท้

จินตังแบกเม็มมะไปยังตูบ ครั้นถึงแล้ว ปรากฏว่า เขาไม่อาจมองเห็นเธอได้อีกต่อไป ทุกคนจึงวิ่งพล่านไปรอบป่าเขาเพื่อช่วยกันหาเธอ เม็มมะใช้กำลังเฮือกสุดท้ายเขียนข้อความอำลาเพื่อน ๆ จินตังร้องว่า ต้องหาเธอให้ได้ มิฉะนั้น จะเป็นการเล่นซ่อนหากันไปไม่สิ้นสุด เขาและเพื่อนกู่ร้องหาเธอ และเธอร้องตอบ เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า บัดนี้ พวกเขาเหล่านั้นได้ยินและได้เห็นเธอด้วยกันทุกคน พวกเขาจึงกล่าวความในใจและร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย เม็มมะได้ฟังแล้ว คลองน้ำตาก็ถั่งเท เมื่อคนทั้งหลายร้องว่า "เจอตัวแล้ว" (we found you) เธอก็อันตรธานลับไป

วันรุ่งขึ้น จินตังเดินไปโรงเรียนกับอะนะรุ ส่วนยุกิอะสึและสึรุโกะนั้นสนิทสนมกันมากขึ้น ฝ่ายปปโปะยังคงทำงานนอกเวลาหาเลี้ยงชีพต่อไป และว่า จะพยายามกลับมาร่ำเรียนอีกครั้ง ครั้นแล้ว คนทั้งสี่ก็มาสโมสรกันที่ฐานทัพลับเหมือนเคย ครั้งนั้น พวกเขาพูดคุยกันว่า ดอกไม้ที่เบ่งบานในหน้าร้อนดอกนั้นเขาเรียกกันว่าอะไร

การเผยแพร่[แก้]

ในทวีปอเมริกาเหนือ บริษัทเอ็นไอเอสอเมริกา (NIS America) ในเครือบริษัทนิปปงอิชิซอฟต์แวร์ (Nippon Ichi Software) ได้รับอนุญาตในเดือนมีนาคม 2555 ให้นำอนิเมะนี้ออกจำหน่ายเป็นบลูเรย์กับดีวีดีตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2555 โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า อะโนะฮะนะ: เดอะเฟลาเวอร์วีซอว์แดตเดย์ (Anohana: The Flower We Saw That Day)

ส่วนในประเทศไทย บริษัทดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) ได้รับอนุญาตเมื่อเดือนเมษายน 2555 ให้นำอนิเมะออกจำหน่าย และกำหนดเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 แต่เลื่อนเป็นตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2555

มังงะ[แก้]

จิตรกรมิสึ อิซุมิ ดัดแปลงอนิเมะนี้เป็นมังงะใช้ชื่อเดียวกันนั้น ลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร จัมป์สแควร์ ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555

วิชวลโนเวล[แก้]

บริษัทกายซ์แวร์ดัดแปลงอนิเมะนี้เป็นเกมแนววิชวลโนเวลสำหรับเล่นกับเครื่องเพลย์สเตชันแบบพกพา และบริษัทไฟว์พีบี. (5pb.) จำหน่ายเป็นครั้งแรกในกลางปี 2555