Artichoke ส เข ยวก บส ม วงต างอย างไร

เมื่อพูดถึงอาร์ติโชค (Artichoke) แรกๆเวลาไปซุปเปอร์มาร์เก๊ต จะเข้าไปดูใกล้ๆและไม่ซื้อ..คงแปลกและทำไม่เป็น..ถึงได้เดินเลยไปอย่างไม่สนใจจะซื้อมาลองดูเท่าไหร่ แต่ได้เคยลองบ้างเล็กน้อย นานมาแล้ว ที่พี่เขยเค๊ากินอยู่แล้วบอกว่าอร่อยดี ก็ลองไปนิดหน่อย เพราะเกรงใจ เลยไม่ค่อยได้รสชาดอะไรเท่าไหร่ แล้วก็ลืมไป..

เมื่อไม่นานมานี้ได้ลองซื้อมาด้วยตัวเอง 4 ดอก ประมาณ 6 เหรียญ ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องลองทำดู เพราะเคยอ่านบทความเรื่องการเริ่มปลูกอาร์ติโชคที่โครงการหลวงฯ ภาคเหนือ ซึ่งทราบมาว่ามีประโยชน์หลายอย่างแต่จำไม่ค่อยได้ ก็เลยอยากลองอย่างจริงจัง

ประวัติ

อาร์ติโชค ลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร ใบเขียว ดอกสีเขียวแกมม่วง มีกลีบแข็งซ้อนๆกันหลายชั้น ปลายกลีบมีหนามแหลมคม เหมือนกับจะอยู่ในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน แต่เรานำมากินเป็นผัก botanical name= Cynara scolymus คนค้นพบและนำมากินเป็นอาหารกว่า 3,000 ปีแล้ว จากโรม ไปอิตาลี หลังจากนั้น Catherin deMediciจากอิตาลี ซึ่งแต่งงานกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ของฝรั่งเศส เป็นผู้ริเริ่มนำมาปลูกในฝรั่งเศส ต่อไปยัง อังกฤษ และเข้ามาอเมริกาโดยนักบุกเบิกจากฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งที่แคลิฟอเนียเป็นแหล่งเพาะปลูกเพื่อการค้าแหล่งเดียวของอาร์ติโชคทั้งหมดในอเมริกา

จากวิกิพิเดีย บอกไว้สั้นๆว่า อาร์ติโชคเป็นพืชเมืองหนาว ถิ่นกำเนิดในยุโรป เขตเมดิเตอเรเนียน มีสรรพคุณทางยา เรียกภาษาอังกฤษว่า Globe artichoke ส่วนบราซิล เรียก "alca chofra"

วิธีทำและรับประทาน

บางคนก็ชอบแบบย่างอย่างภาพที่เห็นข้างบน artichoke recipes ดองในน้ำส้มสายชูและน้ำมัน (pickled)แบบดองจะเปรี้ยวจี๊ด ลองแล้วไม่ค่อยจะถูกปากเท่าไหร่ แต่ดิฉันเองชอบแบบต้ม (อาจใช้วิธีนึ่ง ไมโครเวฟ จากในวิดีโอที่ลิงก์ไว้) ดูง่ายๆ เลยถามวิธีจัดการเจ้าดอกอาร์ติโชคจากเพื่อนๆที่นี่ เธอบอกว่าให้ตัดกลีบที่ปลายมีหนามออกประมาณหนึ่งนิ้ว และนำไปต้มน้ำ ใส่เกลือก็ได้ไม่ใส่ก็แล้วแต่ จนใกล้ก้านนิ่มเวลาเอาส้อมจิ้มดู น่าจะประมาณ 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดดอก ก็เลยลองทำดู ก็ได้ออกมาสมใจคือนิ่ม แต่สีไม่ค่อยสวยงามออกเหลืองคล้ำ เพราะมีกรดระเหยออกมาตอนต้ม อาจไม่ปิดฝาก็ได้ ก็ไม่เป็นไรไม่สนใจสีสัน ลองกินดูดีกว่า..

จริงๆแล้วควรตัดตรงหัวออกไปเลยประมาณ 1-2 นิ้วเหมือนในภาพข้างบนที่ผ่าครึ่ง ดอกนี้ทำครั้งแรกยังไม่ค่อยเก่ง...แฮ่ะๆ..

กัดตรงกลีบส่วนที่ติดกับฐาน ตรงกลางจะมีเนื้ออยู่ระหว่างกลางไปทีละกลีบ รสชาดก็อร่อย เค็มเล็กน้อยโดยไม่ได้เติมเกลือ มันๆ เนื้อมีส่วนคล้ายๆมันฝรั่ง แกะกินทีละกลีบจนถึงตรงกลาง หน้าตาเป็นอย่างนี้

ก็ต้องขูดเอาเกสรตรงกลางออก ใช้มือหยิบก็ได้ เพราะเค๊าบอกว่ากินไม่ได้ บางคนกินแล้วจะคัน คงไม่อร่อยด้วย ก็จะเจอฐานดอก นี่แหล่ะที่เค๊าเรียกว่า "Artichoke heart" เป็นหัวใจของดอกที่รอกินอย่างเต็มที่ก็ตรงนี้ ส่วนใหญ่จะจิ้มกับมายองเนส หรือ บัลซามิควินิก้า โดยส่วนตัวชอบไม่จิ้มอะไรเลย รสก็อร่อยแบบเรียบๆ เค็มเล็กน้อย มันๆคล้ายมันที่ไม่สุกมาก แต่ที่ประทับใจสุดๆคือ เมื่อกินจบ ดื่มน้ำตาม จะให้รสหวานเคลือบอยู่ที่ลิ้นด้านข้างไปทั่วให้ความรู้สึกเดียวกับเวลากินมะกอกสด แต่มะกอกสดเวลากินจะเปรี้ยวและขมทรมานกว่าเจ้านี่มากนัก แต่พอดื่มน้ำตามจะหวานไปทั้งลิ้นคล้ายๆกัน..แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไม เพื่อนๆที่กินกันประจำไม่เคยรู้สึกตรงนี้ หรือเค๊าไม่สังเกตกัน..(อาจเป็นไปได้ว่าเค๊าจิ้มมายองเนสกันทำให้ไม่รู้รสชาดที่แท้จริงของมัน)

Artichoke heart

มาดูประโยชน์ของอาร์ติโชคกันดีกว่า

  • แคลอรี่ต่ำ 60 calories สำหรับขนาดกลางหลังต้มแล้ว
  • ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร ลดท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • แหล่งอาหารให้กับแบคทีเรียดีที่อาศัยในลำไส้เล็ก
  • ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดในคนที่เป็นเบาหวานและลดระดับคอเลสเตอรอล-อาร์ติโชคสด
  • natural diuretic - ขับน้ำที่ร่างกายไม่ต้องการ
  • มีสารไซนาริน (Synarin) สกัดมาเพื่อใช้บำรุงสุขภาพ ในยุโรปโบราณเป็นอาหารและยารักษาโรค
  • สรรพคุณทางยา ช่วยบำรุง กระตุ้นการทำงานของตับ
  • กระตุ้นการสร้างน้ำดีของตับ ลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดี ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานได้ดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
  • เสริมสร้างการทำงานของถุงน้ำดี ปัองกันถุงน้ำดีอักเสบ
  • ป้องกันตับอักเสบ สาเหตุโรคดีซ่าน (Jaundice) และโรคตับแข็ง (Cirrhosis)
  • ในประเทศบราซิล ใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน รักษาอาการเจ็บป่วยของตับ โลหิตจาง เบาหวาน รักษาบาดแผลและเก๊าส์ เป็นต้น

ประโยชน์นั้นมีมากมาย ใช้ได้ตั้งแต่ดอก ลำต้นหน่อ ราก สามารถทำชาได้เป็นที่นิยมในเวียดนามนำมาทำชา ซึ่งเมืองที่ปลูกในเวียดนามนั้นคือ ดาลัท จังหวัดลามดอง ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร บริเวณเดียวกับจังหวัดตราดของไทย ซึ่งมีอากาศเย็นเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส

อาร์ติโชค เป็นพืชที่ตลาดโลกมีความต้องการสูงและมีราคาดี เนื่องจากกระแสโลกในปัจจุบันเน้นและตระหนักถึงคุณภาพชีวิตและอาหารดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

อยากเห็นเกษตรกรไทยในแหล่งที่มีทำเลเหมาะสม สามารถปลูกได้สำเร็จ ผลผลิตดี ส่งไปขายต่างประเทศด้วย และไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ..ตัวอย่างจากโครงการหลวง??

-------

ข้อมูลจาก อาร์ติโชค พืชอาหารและเภสัช ศักดา ศรีนิเวศน์ สำนักพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร