Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

หากมีข้อมูลที่ทราบในสเปรดชีต คุณสามารถใช้ VLOOKUP เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามแถวได้ เช่น หากต้องการซื้อส้ม คุณสามารถใช้ VLOOKUP เพื่อค้นหาราคา

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

VLOOKUP สําหรับ BigQuery

การค้นหาแนวตั้ง แสดงผลค่าในคอลัมน์ข้อมูลในตำแหน่งที่พบรายการที่ตรงกันในคอลัมน์การค้นหา

ตัวอย่างการใช้งาน

VLOOKUP("Apple",table_name!fruit,table_name!price)

รูปแบบคำสั่ง

VLOOKUP(search_key, range,index, is_sorted)

  • search_key: ค่าที่จะค้นหาในคอลัมน์ค้นหา
  • search_column: คอลัมน์ข้อมูลที่จะพิจารณาสําหรับการค้นหา
  • result_column: คอลัมน์ข้อมูลที่จะพิจารณาสำหรับผลการค้นหา
  • is_sorted: [ไม่บังคับ] ลักษณะในการค้นหารายการที่ตรงกันสําหรับ search_key
    • FALSE: แนะนําให้ใช้รูปแบบคำสั่งนี้สําหรับการจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด
    • VLOOKUP`0: สําหรับการจับคู่แบบใกล้เคียง ระบบจะใช้รูปแบบคำสั่งนี้เป็นค่าเริ่มต้นนี้หากไม่ได้ระบุ `is_sorted
      เคล็ดลับ: ก่อนใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง ให้จัดเรียงคำค้นหาตามลําดับจากน้อยไปมาก ไม่เช่นนั้น คุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ดูสาเหตุที่อาจทําให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง

เคล็ดลับ:

รูปแบบคำสั่ง

\=VLOOKUP(VLOOKUP`2 `VLOOKUP`3 [`is_sorted])

อินพุต

  1. search_key: ค่าที่จะค้นหาในคอลัมน์แรกของช่วง
  2. `VLOOKUP`6: ค่าระดับบนและล่างที่พิจารณาสําหรับการค้นหา
  3. `VLOOKUP`7: ดัชนีของคอลัมน์ที่มีค่าที่แสดงของช่วง ดัชนีต้องเป็นจำนวนเต็มบวก
  4. is_sorted: อินพุตที่ไม่บังคับ เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • FALSE \= การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลือกที่แนะนําอย่างยิ่ง
    • VLOOKUP`0 = การจับคู่แบบใกล้เคียง โดยระบบจะใช้รูปแบบคำสั่งนี้เป็นค่าเริ่มต้นนี้หากไม่ได้ระบุ `is_sorted
      สําคัญ: ก่อนใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง ให้จัดเรียงคำค้นหาตามลําดับจากน้อยไปมาก ไม่เช่นนั้น คุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง

ผลลัพธ์

ค่าที่ตรงกันค่าแรกจาก`VLOOKUP("Apple",table_name!fruit,table_name!price)`2ที่เลือก

รายละเอียดทางเทคนิค

ตัวอย่าง

\=VLOOKUP(G9, B4:D8, 3, FALSE)

\=VLOOKUP("Apple", B4:D8, 3, TRUE)

อินพุต คำอธิบาย search_key

ค่านี้คือค่าที่คุณค้นหาในคอลัมน์แรกของ `VLOOKUP`6 หากไม่ต้องการค่าที่ผิดพลาด คำค้นหาต้องอยู่ในคอลัมน์แรกของ `VLOOKUP`6 นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการอ้างอิงเซลล์ด้วย

วิธีการตรวจสอบแบบง่าย: เมื่อ search_key อยู่ที่ B3 `VLOOKUP`6 ก็ควรเริ่มต้นด้วยคอลัมน์ B

`VLOOKUP`6

อินพุตนี้คือ `VLOOKUP`6 ซึ่งทำงานดังนี้

  • ฟังก์ชันจะค้นหาคคำค้นหาที่ระบุในคอลัมน์แรก
  • VLOOKUP จะแสดงค่าจากคอลัมน์ที่ระบุโดย `VLOOKUP`7 นอกจากนี้คุณยังใช้ช่วงที่ตั้งชื่อแล้วได้เช่นกัน

หากไม่ต้องค่าที่ผิดพลาด คำการค้นหาต้องอยู่ในคอลัมน์แรกของ `VLOOKUP`6

วิธีการตรวจสอบแบบง่าย: เมื่อ search_key อยู่ที่ B3 `VLOOKUP`6 ก็ควรเริ่มต้นด้วยคอลัมน์ B

`VLOOKUP`7

เรียกอีกอย่างว่า "หมายเลขคอลัมน์" โดยข้อมูลนี้คือดัชนีของคอลัมน์ใน `VLOOKUP`6 ที่มีค่าผลลัพธ์

  • ดัชนีที่น้อยที่สุดที่เป็นไปได้คือ 1
  • ดัชนีที่มากที่สุดที่เป็นไปได้คือจํานวนคอลัมน์สูงสุดใน `VLOOKUP`6 นั้น

หลังจากตั้งค่าช่วงแล้ว VLOOKUP จะดูเฉพาะคอลัมน์คำค้นหาเมื่อดัชนี = 1 หรือคอลัมน์ที่อยู่ทางขวา

เคล็ดลับ: เมื่อใช้ VLOOKUP ให้สมมติว่าคอลัมน์ของ `VLOOKUP`6 มีลำดับตัวเลขจากซ้ายไปขวาและเริ่มต้นด้วย 1

is_sorted

อินพุตนี้ไม่บังคับ โดยมีตัวเลือกคือ VLOOKUP`0 และ `FALSE

  • หาก is_sorted เป็น VLOOKUP`0 นั้น `VLOOKUP จะใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง สําคัญ: ก่อนใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง ให้จัดเรียงคำค้นหาตามลําดับจากน้อยไปมาก ไม่เช่นนั้น คุณอาจได้ค่าผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
  • หากsearch_key`7 เป็น `FALSE นั้น VLOOKUP จะใช้การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด
  • หากไม่ได้ระบุ is_sorted ไว้ ระบบจะกำหนดให้ `VLOOKUP`0 เป็นค่าเริ่มต้น

เราขอแนะนำให้คุณทำดังนี้

  • ใช้ FALSE สําหรับ is_sorted ตามลักษณะการทํางานแบบสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะจัดเรียงคอลัมน์คำค้นหาหรือไม่
  • ระบุ is_sorted เสมอเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น แม้อินพุตจะเป็นแบบไม่บังคับก็ตาม เอาต์พุต คำอธิบาย ผลลัพธ์

เอาต์พุตนี้คือค่าที่ VLOOKUP แสดงตามข้อมูลที่คุณป้อน ฟังก์ชัน `search_column`6แต่ละรายการจะแสดงผลลัพธ์เพียงค่าเดียว

  • หากมีค่าคำค้นหาหลายรายการที่ตรงกัน ระบบจะแสดงผลค่าในคอลัมน์ผลลัพธ์ซึ่งมีคำค้นหาที่เชื่อมโยงที่ระบบจับคู่เป็นคู่แรกในคอลัมน์คำค้นหา
  • หากผลลัพธ์เป็น

    N/A แสดงว่าระบบไม่พบค่า

ตัวอย่าง VLOOKUP พื้นฐาน

VLOOKUP ในคำค้นหาต่างๆ

ใช้ VLOOKUP เพื่อค้นหาราคาของส้ม (Orange) และแอปเปิล (Apple)

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

คำอธิบาย

เมื่อใช้ VLOOKUP คุณจะใช้คำค้นหาต่างๆ ได้ เช่น "Apple" และ "Orange"

หากไม่ต้องค่าที่ผิดพลาด คำค้นหาเหล่านี้ต้องอยู่ในคอลัมน์แรกของ `VLOOKUP`6 และหากไม่ต้องการป้อนค่าสําหรับคำค้นหา คุณก็ใช้การอ้างอิงเซลล์ เช่น "G9" ได้เช่นกัน

search_key คือ "Orange"

\=VLOOKUP("Orange", B4:D8, 3, FALSE)

ผลลัพธ์ = $1.01

search_key คือ "Apple"

\=VLOOKUP("Apple", B4:D8, 3, FALSE)

ผลลัพธ์ = $1.50

search_key ที่ใช้การอ้างอิงเซลล์ของ "Apple" ใน G9

\=VLOOKUP(G9, B4:D8, 3, FALSE)

ผลลัพธ์ = $1.50

VLOOKUP ในดัชนีคอลัมน์ต่างๆ

ใช้ VLOOKUP เพื่อค้นหาจํานวนส้ม (Orange) ในคอลัมน์ดัชนีที่ 2

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

คำอธิบาย

เมื่อใช้ VLOOKUP ให้สมมติว่าคอลัมน์ของ `VLOOKUP`6 มีตัวเลขจากซ้ายไปขวาและเริ่มต้นจาก 1 หากต้องการดูข้อมูลเป้าหมาย คุณต้องระบุดัชนีคอลัมน์ เช่น คอลัมน์ที่ 2 สําหรับจํานวน

`result_column`6 = 2

ค้นหาจํานวนของส้ม (Orange) ซึ่งเป็นคอลัมน์ที่ 2 ของ `VLOOKUP`6

\=VLOOKUP(G3, B4:D8, 2, FALSE)

ผลลัพธ์ = 5

การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมดหรือการจับคู่แบบใกล้เคียงของ VLOOKUP

  • ใช้การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมดของ VLOOKUP เพื่อค้นหารหัสที่ตรงกัน
  • ใช้การจับคู่แบบใกล้เคียงของ VLOOKUP เพื่อค้นหารหัสที่ใกล้เคียงกัน

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

คำอธิบาย

ใช้การจับคู่แบบใกล้เคียงหรือ is_sorted \= `VLOOKUP`0 เมื่อค้นหารายการที่ตรงกันมากที่สุด แต่ไม่ใช่รายการที่ตรงกันทั้งหมด

หากต้องการค้นหารหัส = 102 ซึ่งไม่มีอยู่ในตาราง การจับคู่แบบใกล้เคียงจะแสดงผลลัพธ์น้อยกว่าที่ต้องการ 1 ระดับโดยแสดงเป็นรหัส = 101 เนื่องจาก 101 คือค่าที่ใกล้เคียงที่สุดและเป็นค่าที่น้อยกว่า 102 ในคอลัมน์คำค้นหา

การจับคู่แบบใกล้เคียงจะค้นหาในคอลัมน์คำค้นหาจนกว่าจะเจอค่าที่มากกว่าคำที่ค้นหา จากนั้นจะหยุดอยู่ที่แถวก่อนหน้าค่าที่มากกว่าดังกล่าว และแสดงค่าจากคอลัมน์ผลลัพธ์ในแถวนั้น ซึ่งหมายความว่าหากคอลัมน์คำค้นหาไม่ได้จัดเรียงจากน้อยไปมาก คุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง

สําคัญ: ก่อนใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง ให้จัดเรียงคำค้นหาตามลําดับจากน้อยไปมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้น คุณอาจได้ค่าผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

เมื่อค้นหาผลลัพธ์ที่ตรงกันทั้งหมด เช่น is_sorted \= FALSE ระบบจะแสดงผลลัพธ์ที่ตรงกันทั้งหมด เช่น ชื่อผลไม้สําหรับรหัส = 103 คือ กล้วย (Banana) หากไม่มีรายการที่ตรงกันทั้งหมด คุณจะได้รับข้อผิดพลาด

N/A เราจึงขอแนะนำให้คุณใช้การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด เนื่องจากคาดเดาลักษณะการทำงานได้ดีกว่า

การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด

\=VLOOKUP(G6, A4:D8, 2, FALSE)

ผลลัพธ์ = "Apple"

การจับคู่แบบใกล้เคียง

\=VLOOKUP(G3, A4:D8, 2, TRUE)

หรือ

\=VLOOKUP(G3, A4:D8, 2)

ผลลัพธ์ = "Banana"

การใช้งาน VLOOKUP ทั่วไป

แทนที่ค่าที่ผิดพลาดจาก VLOOKUP

คุณอาจต้องการแทนที่ค่าที่ผิดพลาดซึ่ง VLOOKUP แสดงผลเมื่อไม่มีคำค้นหาอยู่ ในกรณีนี้หากไม่ต้องการให้ระบบแสดง

N/A ให้ใช้ฟังก์ชัน `is_sorted`5 เพื่อแทนที่

N/A

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

เริ่มแรก VLOOKUP แสดงผล

N/A เนื่องจากไม่มีคำค้นหา "Pencil" อยู่ในคอลัมน์ "Fruit"

`is_sorted`5 จะแทนที่ค่าที่ผิดพลาด

N/A ด้วยอินพุตที่ 2 ที่ระบุในฟังก์ชัน ซึ่งในกรณีของเราคือ "NOT FOUND"

\=IFNA(VLOOKUP(G3, B4:D8, 3, FALSE),"NOT FOUND")

ผลลัพธ์ = “NOT FOUND”

เคล็ดลับ: หากคุณต้องการแทนที่ค่าที่ผิดพลาดอื่นๆ เช่น

REF! โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IFERROR()

VLOOKUP ที่มีหลายเกณฑ์

คุณไม่สามารถใช้ VLOOKUP โดยตรงกับหลายเกณฑ์ได้ ดังนั้นให้สร้างคอลัมน์ Helper ใหม่เพื่อใช้ VLOOKUP โดยตรงกับหลายเกณฑ์เพื่อรวมคอลัมน์ที่มีอยู่หลายรายการเข้าด้วยกัน

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

1. คุณสามารถสร้างคอลัมน์ Helper ได้หากใช้ "&" เพื่อรวม First Name และ Last Name ไว้ด้วยกัน =C4&D4 แล้วลากจาก B4 ลงไปยัง B8 เพื่อสร้างคอลัมน์ Helper 2. ใช้การอ้างอิงเซลล์ B7 "JohnLee" เป็นคำค้นหา

\=VLOOKUP(B7, B4:E8, 4, FALSE)

ผลลัพธ์ = "Support"

VLOOKUP ที่มีไวลด์การ์ดหรือการจับคู่ที่ตรงกันบางส่วน

ใน VLOOKUP คุณยังใช้ไวลด์การ์ดหรือการจับคู่ที่ตรงกันบางส่วนได้ด้วย โดยคุณสามารถใช้อักขระไวลด์การ์ดเหล่านี้ได้

  • เครื่องหมายคําถาม "?" จะจับคู่กับอักขระเดี่ยวตัวใดก็ได้
  • เครื่องหมายดอกจัน "*" จะจับคู่กับลําดับอักขระใดก็ได้

หากต้องการใช้ไวลด์การ์ดใน VLOOKUP คุณต้องใช้การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมด: "is_sorted \= FALSE"

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม

"St*" ใช้เพื่อจับคู่กับทุกรายการที่ขึ้นต้นด้วย "St" โดยไม่คํานึงถึงจํานวนอักขระ เช่น "Steve", "St1", "Stock" หรือ "Steeeeeeve"

\=VLOOKUP("St*", B4:D8, 3, FALSE)

ผลลัพธ์ = "Marketing"

แก้ปัญหาข้อผิดพลาดและแนวทางปฏิบัติแนะนํา

ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง

  • แสดงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด: หากคุณตั้งค่า is_sorted เป็น VLOOKUP`0 แต่คอลัมน์แรกในช่วงไม่ได้จัดเรียงตามลําดับตัวเลขหรือมลําดับตัวอักษรจากน้อยไปมาก ให้เปลี่ยน is_sorted เป็น `FALSE
  • VLOOKUP ให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันรายการแรก: VLOOKUP จะแสดงผลลัพธ์ที่ตรงกันรายการแรกเท่านั้น หากมีคำค้นหาที่ตรงกันหลายรายการ ระบบจะแสดงผลลพธ์ให้ แต่อาจไม่ใช่ค่าที่คาดไว้
  • ข้อมูลไม่เป็นระเบียบ: ในบางครั้ง ค่าที่มีเว้นวรรคอยู่หน้าและหลังอาจดูเหมือนกัน แต่ VLOOKUP จะดำเนินการกับ 2 กรณีนี้แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ค่าต่อไปนี้แตกต่างกันใน VLOOKUP
    • " Apple"
    • "Apple "
    • "Apple"

หากต้องการผลลัพธ์ตามที่คาดไว้ ให้นําเว้นวรรคออกก่อนใช้ VLOOKUP

N/A

  • หากใช้การจับคู่แบบใกล้เคียงหรือ is_sorted \= VLOOKUP`0 และหากคำค้นหาใน `VLOOKUP มีค่าน้อยกว่าค่าที่น้อยที่สุดในคอลัมน์แรก ในกรณีนี้ VLOOKUP จะแสดงผลลัพธ์เป็น

    N/A

  • หากใช้การจับคู่ที่ตรงกันทั้งหมดหรือ is_sorted \= FALSE ระบบจะไม่พบรายการที่ตรงกันทั้งหมดของคำค้นหาใน VLOOKUP ในคอลัมน์แรก หากไม่ต้องการให้ผลลัพธ์เป็น

    N/A เมื่อระบบไม่พบคำค้นหาในคอลัมน์แรก คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน IFNA() ได้

REF!

คุณอาจระบุ `VLOOKUP`6 ด้วยตัวเลขที่มากกว่าจํานวนสูงสุดของคอลัมน์ `VLOOKUP`6 โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ โปรดตรวจสอบว่าคุณทําสิ่งต่อไปนี้

  • นับคอลัมน์จาก `VLOOKUP`6 ที่เลือก ไม่ใช่ทั้งตาราง
  • เริ่มนับจาก 1 แทน 0

VALUE!

หากได้รับข้อผิดพลาด

VALUE! อาจมีสาเหตุดังนี้

  • ป้อนข้อความหรือชื่อคอลัมน์ `VLOOKUP`7 ไม่ถูกต้อง
  • ป้อนตัวเลขที่น้อยกว่า 1 ในส่วน VLOOKUP`7 `VLOOKUP`7 ต้องมีค่าอย่างน้อยเท่ากับ 1 และน้อยกว่าจํานวนคอลัมน์สูงสุดของ `VLOOKUP`6 `VLOOKUP จะสามารถค้นหาเฉพาะในคอลัมน์คำค้นหาเท่านั้น ในกรณีที่ `VLOOKUP`7 = 1 หรือคอลัมน์ที่อยู่ทางขวา

สําคัญ: `VLOOKUP`7 ยอมรับเฉพาะตัวเลขเท่านั้น

NAME?

  • คุณอาจไม่ได้ยกข้อความมาครบถ้วนในคำค้นหา ในกรณีที่ search_key เป็นข้อความ

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

สิ่งต้องทำ เหตุผล ใช้การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์สําหรับ `VLOOKUP`6

คุณควรใช้สิ่งต่อไปนี้

  • การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์สําหรับ VLOOKUP `VLOOKUP`6
  • VLOOKUP(G3, $B$3:$D$7, 3, FALSE)

คุณไม่ควรใช้ชุดคำสั่งต่อไปนี้

  • VLOOKUP(G3, B3:D7, 3, FALSE)

เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ในส่วน `VLOOKUP`6 เมื่อมีการคัดลอกหรือลากลง

จัดเรียงคอลัมน์แรกตามลําดับจากน้อยไปมากเมื่อใช้การจับคู่แบบใกล้เคียง เช่น is_sorted \= VLOOKUP`0 หากใช้การจับคู่แบบใกล้เคียงหรือ `is_sorted \= VLOOKUP`0 คุณต้องจัดเรียงคอลัมน์แรกตามลําดับจากน้อยไปมาก ไม่เช่นนั้น คุณอาจมีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดเรียง จัดระเบียบข้อมูลก่อนใช้ `VLOOKUP

ก่อนใช้ VLOOKUP อย่าลืมจัดระเบียบข้อมูลของคุณ เนื่องจากข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบอาจทําให้ VLOOKUP แสดงผลค่าที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบมีดังนี้

  • เว้นวรรคนําหน้า: " apple"
  • เว้นวรรคตามหลัง: "apple "
  • ช่องว่างหรือเว้นวรรค: "" และ " " ไม่เท่ากัน

หากต้องการตัดช่องว่างที่นำหน้าหรือตามหลังข้อความ คุณสามารถใช้ข้อมูล

Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม
การจัดระเบียบข้อมูล
Google sheet ใช คำส งquiry แบบไม เร ยงตามคอล มเด ม
ตัดช่องว่างได้

ไม่จัดเก็บค่าตัวเลขหรือวันที่เป็นข้อความ

ตรวจสอบว่าระบบไม่ได้เก็บค่าวันที่หรือตัวเลขในคอลัมน์แรกของช่วง VLOOKUP เป็นค่าข้อความ เช่น คอลัมน์คำค้นหา เนื่องจากคุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

\=Query() ใน Google Sheets ใช้ทําอะไร

Query เป็นคำสั่งที่จะช่วยให้เราสามารถดึงข้อมูลใน Column ที่ต้องการมาใช้งานได้ ในขั้นตอนแรกต้องตั้งค่าชุดของข้อมูลที่จะนำมาใช้ก่อน โดยการไปกำหนดชื่อของตารางข้อมูล โดยคลิกที่ด้านบนเลข 1 ดังภาพ

Conditional Formatting Google Sheets ทำยังไง

ใช้การจัดรูปแบบตามเงื่อนไขขั้นสูง.

เปิดสเปรดชีตใน Google ชีตจากคอมพิวเตอร์.

เลือกเซลล์ที่ต้องการจัดรูปแบบ.

คลิกรูปแบบ การจัดรูปแบบตามเงื่อนไข.

ในเมนูแบบเลื่อนลง "จัดรูปแบบเซลล์หาก" ให้คลิกสูตรที่กำหนดเองคือ หากมีกฎอยู่แล้ว ให้คลิกเพิ่ม สูตรที่กำหนดเอง.

คลิกค่าหรือสูตร แล้วเพิ่มสูตรและกฎ.

คลิกเสร็จ.

สูตร Iferror ใช้สำหรับอะไรใน Google Sheets?

IFERROR: แสดงผลอาร์กิวเมนต์แรกหากไม่ใช่ค่าที่ผิดพลาด หรือมิฉะนั้นแสดงผลอาร์กิวเมนต์ที่สองหากมี หรือเว้นว่างไว้หากไม่มีอาร์กิวเมนต์ที่สอง IFS: ประเมินเงื่อนไขจำนวนมากและแสดงผลค่าที่สอดคล้องกับเงื่อนไขแรกที่เป็นจริง

การเรียงลำดับข้อมูลใน Google Sheets ต้องใช้ function ใด

จัดเรียงข้อมูลตามลำดับตัวอักษรหรือตัวเลข.

เปิดสเปรดชีตใน Google ชีตจากคอมพิวเตอร์.

ไฮไลต์กลุ่มเซลล์ที่ต้องการจัดเรียง.

หากแผ่นงานมีแถวส่วนหัว ให้ตรึงแถวแรก.

คลิกข้อมูล จัดเรียงช่วง ... .

หากคอลัมน์มีชื่อ ให้คลิกข้อมูลมีแถวส่วนหัว.

เลือกคอลัมน์ที่คุณต้องการจัดเรียงก่อน จากนั้นก็เลือกลำดับการจัดเรียง ... .

คลิกจัดเรียง.